ใครแปลเก่งๆ รบกวนทีครับ

https://www.sportskeeda.com/football/the-genius-of-laurent-blanc-an-unspoken-truth

แต่สรุปคร่าวๆ จากต้นเรื่อง

- แผนที่บล๊องชอบใช้คือ 4-3-3

ผู้เล่นตัวจริง PSG 2012-13



ผู้เล่นตัวจริง PSG 2014-15



- รูปแบบการเล่นจะคล้ายๆกับเป๊ป+เอ็นริเก้ เพราะสองคนนี้มีอิทธิพลในการเล่นตอนสมัยบาซ่าของบล๊องก์







-เกมส์รุกจะขึ้นกับ Full back เป็นหลัก



-กองกลางแกชอบใช้มอตต้าในการเชื่อมเกมส์ระหว่างหลัง-กลาง-หน้า แบบบุสเกตที่บาซ่า มาตุยดี้ทำหน้าที่บ๊อกทูบ๊อก


-เกมส์รับจะใช้ 4-5-1

-ค่อยๆผ่านบอล แต่ต้องไปแบบรวดเร็ว คือยังไงดีอะ ไม่เน้นเคาะกันแดนหลัง แต่พาบอลเคลื่อนไปข้างหน้า โดยที่ทุกคนต้องเคลื่อนที่


-แต่ก็ให้อิสระในการโจมตีในพื้นที่สุดท้ายเช่นเดียวกันนะเนี่ย ถือว่าการเข้าทำพื้นที่สุดท้ายยังไม่ชัดเจนหรือเปล่า?


ผมอ่านคร่าวๆ แปลงูๆปลาๆกากๆ ใครเก่งๆช่วยทีครับ จริงๆบทความค่อนข้างยาว
https://www.sportskeeda.com/football/the-genius-of-laurent-blanc-an-unspoken-truth

สมมติถ้าได้มาคุมแมนยูฯ 4-3-3 ณ ตอนนี้ จะมีใครได้ลงยังไงมั่งครับ

ปล.ผิดบ้างอย่าว่ากันนะ ผมโง่Eng

เด
วาเลนเซีย ไบยี่ สมอลลิ่ง ชอว์
---------เปไรร่า------------
--ป็อก-------------เอเรร่า---------
---เฟรด---------------เล็ก
-----------ลู-----------------

ผมว่าก็คงประมาณนี้นอกจากจะซื้อใหม่

ดีที่สุดนะ

เด

? ไบญี่ สมอลลิ่ง ชอร

มาติช

ลินการด ป้อก

เลกซี้ด ? มาเที่ยว

ปล. ในเครื่องหมายคำถาม คือ ไม่แน่ใจ ว่า ใครดีกว่าใคร วาเลนเซีย หรือ ดาโลท

กองหน้า อาจจะ แรช หรือ กากู

ถ้ามาคุมจริง ชอว์,ดาลอท,เปเรย์ร่า3หนุ่มนี้เกิดแน่

ผมชอบสไตล์บอลของบล็องก์มาก แกเป็นกองหลังแต่เวลาเป็นโค๊ชแกดันเล่นเกมส์รุก ก็ไม่แปลกใจนะ เพราะสไตล์แกที่เล่นกับฝรั่งเศส บาซ่า รวมถึงกับแมนยู แกเป็นกองหลังที่ดันขึ้นสูงคอยเปิดเกมส์ หรือประคองเกมส์ในแดนกลางตลอด
อักทั้งแผนการเล่นของแกจะเป็นประมาณว่า ตัดบอลได้แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วและใช้จังหวะน้อยมาก
ไม่ใช่สาดบอลมั่วไปข้างหน้านะ แต่เป็นการต่อบอลจากแดนกลาง ผมว่าถ้าได้บล็องก์มาคุม คนที่จะเกิดน่าจะเป็นอีชอว์ อเล็กซิส มาเที่ยว แรชฟอร์ดฟอร์ด เฟร็ด เปเรร่า นี่ละ เพราะพวกนี้เบสิคการพาบอลไปข้างหน้าค่อนข้างดี เลี้ยงกินตัวได้ ทำชิ่งไวได้ เพราะบอลของบล็องก์เน้นเกมส์รุกที่รวดเร็ว จะว่าง่าย ๆ ก็คล้ายป๋าเฟอร์กี้อ่ะแหละครับ

Tactical analysis:

Having played alongside the likes of Luis Enrique and Pep Guardiola, there seems to be an evident influence of the two in the Frenchman. Blanc has deployed the traditional 4-3-3 formation which is very similar to that of Barcelona under Pep as well as Enrique. The football philosophy has also been the same; which is a possession-based game with technically superior players, gradual build-up play from the back, sharp passing combined with quick movements and complete freedom to the attackers in the final third.


---------

possession-based game with technically superior players, gradual build-up play from the back, sharp passing combined with quick movements and complete freedom to the attackers in the final third.

--------

- ทรงเกม เน้นการครองบอลที่ใช้ประโยชน์จากเทคนิคของผู้เล่นเก่งๆ
- ตั้งเกมจากช้าๆใน"แนวหลัง"
(ลองนึกถึงตอนที่ 2 เซนเตอร์ + motta + verratti ค่อยๆเคาะบอล ต๊อกแต๊กๆๆไปเรื่อยๆ ส่งสั้นๆค่อยๆถ่ายบอล แล้วถ้าโดนก่อกวนเมื่อไหร่ แวรรัตติก็พร้อมมาช่วย มุดๆวนๆไถๆ)


----

- ส่งบอลอย่างแม่นยำ ร่วมกันกับการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว + มีอิสระอย่างมากสำหรับตัวรุกในพื้นที่สุดท้าย

แต่ตรงนี้มันเป็นอีกเฟสนึง คือเป็นช่วงหลังจากที่ตั้งบอล ตั้งเกมได้แล้ว
หลังจากนั้น เวลาจะบุก ทีมจะเคลื่อนที่เร็วถึงเร็วมาก (และต้องจ่ายบอลแม่น)

ส่วนอิสระของผู้เล่นในพื้นที่สุดท้าย น่าจะเป็นไปในทำนองที่ว่า ไม่กำหนดตายตัวว่าต้องทำอะไร 1-2-3-4 อาจจะทำชิ่งกันเอง หรือสลับตำแหน่งกันเล่น หรือ วิ่งทำทางทำช่องในพื้นที่แปลกๆเป็นต้น (แต่อิสระตรงนี้ ให้เฉพาะในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น)

ส่วนนี้มั้ง ที่เอามาโยงกับเอนริเก้ (ลองนึกถึง msn)


ถ้านึกถึงตอนที่ดู psg ช่วงนั้นด้วย ก็เลยพอนึกออกเพิ่มเติมคือ
ในจังหวะไหนที่ไม่เล่นสวนกลับ psg จะพยายามค่อยๆตั้งบอล เซทบอลเป็นอย่างมาก
เคาะ ป๊อกแป๊กๆ ดูช้าๆหน่อย แต่ว่าชัวร์นะ
พอเริ่มตั้งตัว ตั้งเกมได้ เวลาบุกเนี่ย จะเร็วขึ้นพอสมควร แต่ยังงั้นก็ดี เกมในพื้นที่ในสุดท้าย บางที มันขึ้นอยู่กับเคมีและความสามารถของตัวรุก อยู่พอสมควร บางจังหวะก็เลยมาแบบแป๊กๆไม่แน่นอนเท่าไหร่

Attacking shape:

Thiago Silva and David Luiz stay back along with Motta tucking in between them to form a back three. The fullbacks push high up the pitch to combine with front three as both wingers tuck into the centre (mentioned above). Providing width while on the attack, totally depends on the fullbacks and they always remain an outlet for crosses from the wings into the danger area to connect with Ibrahimovic and Cavani, being the serious aerial threats they are.


----------


ตอนเริ่มบุกเนี่ย
2 คู่เซนเตอร์ + 1 กองกลาง (silva+luiz +motta) จะถอยมาสร้างการเซทบอลจากแนวหลัง
กึ่งๆยืนหลัง 3
สิ่งที่มอตต้าทำ มันจะคล้ายๆกับบทบาทที่เรียกว่า pivot (หรือในบางกรณีมองเป็นกึ่งๆ Deep lying Playmaker (DLP) ก็ได้)

แบ๊คจะดันขึ้นสูงมากๆๆ ไปประสานงานกับ 3 ตัวรุกแดนหน้า
พวกตัวรุกด้านหน้ามักจะรับผิดชอบพื้นตรงกลาง (อาทิ ตัดเข้าใน) ทำให้ในการเล่นด้านกว้าง เกือบทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของแบ๊ค

และมักจะมีการครอสเข้ามาจากริมเส้น เพราะว่าเป้าที่จะเล่นลูกกลางอากาศนั้นมีผู้เล่นอย่าง คาวานี่ / ซลาตัน อยู่

Midfield:

The midfield trio of Verratti, Motta and Matuidi tend to sit deep and dictate play than creating chances (due to the nature of the central midfielders in the team, system demands making plays from front three who are more diligent in that). They are responsible for ball distribution/switching the play, screening the defence on the counter and playing out from the back along with the center backs while under pressure.

The three combine with the center backs in order to play out from the back and all of the three are exquisite passers. Thiago Silva, David Luiz and the midfield three, all have maintained a pass accuracy of over 90% in all competitions this season (some statistical evidence to how efficient they are at playing out from the back). Motta positions himself in between the centre-backs to form a back three (similar to Busquets in Barcelona). While Verratti stays ahead of the final third, provides occasional long balls to runs made by front three and acts as the ball holder of the team, the role Matuidi is box-to-box. (He enters final third- combination play with Cavani, Kurzawa/Maxwell and also storms back to help the defense; left flank).

----------

3 กองกลาง

อธิบาย+ขยายความ ประมาณนี้

บล็องมักจะให้ความสำคัญอย่างมากกับเซทบอลให้ได้ ตั้งเกมให้ติดให้ได้ก่อน คุมสถานการณ์ให้ได้ก่อน (ตรงนี้แหละ ที่ย่อหน้าบนๆเขาเลยบอกว่า ตั้งเกมไม่เร็ว)

1. มอตต้า + ไปช่วย 2 เซนเตอร์ จะมองว่าเป็นเซนเตอร์แบ๊คอีกคนก็ได้
2. พวก 3 คน ด้านหลัง มีการผ่านบอลที่ดีมาก % สูง (ก็ต๊อกแตีกๆใกล้ๆกัน ช่วยกัน)
3. ถ้า 3 คนด้านหลังโดนเพรสใส่ แวรรัตติ / มาตุยดี้ อาจจะมาช่วย 3(มักจะเป็นแวรรัตติที่เข้าไปช่วย ทำให้ภาพการเล่นแบบมุดๆวนๆ)
ถ้ามอตต้า ทำให้นุึกถึงบุสเกต / แวรรัตติก็คือซาบี้ psg
4. ถ้าจะมีใครซักคนที่วิ่งเติมเข้าไปในแดนหน้าบ่อยๆ ก็มักจะเป็นมาตุยดี้ (เขาถึงนิยามว่าเป็น box to box) มาตุยดี้อาจจะทั้งวิ่งสอดเติมเข้ามาตรงๆ หรือบางทีอาจจะพาบอลขึ้นมาด้วยตัวเอง
5. แวรรัตตติ อาจจะมีหน้าที่กระจายบอลบ่อยกว่าเพื่อน ทั้งบอลสั้นและยาว (คนนี้ค่อนข้างจะจ่ายบอลแม่นเลยแหละ)

แนวรุก จะไม่ก๊อปมา
จะอธิบายและขยายความเหมือนเดิม แบบที่ทำกับกองกลาง

1. ระบบตอนนั้นไม่มีเพลย์เมคเกอร์แท้ๆ (แบบพวกเบอร์ 10)

2. แต่ทีมก็ยังมีการสร้างเกม สร้างจังหวะได้ดี จาก 2 ผู้เล่น (ดิ มาเรีย / ซลาตัน) ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า

3. สไตล์ของซลาตัน อันนี้เคยตอบไว้ จะก๊อปมาที่นี่



พอซลาตันเล่นแบบนี้ ทำให้พื้นที่ตรงกลางเนี่ย จะมีเขาที่คอยมาพักบอล รับบอลอยู่ตลอด แต่จะทำแบบนี้ให้มีประสิทธิภาพ ต้องมี 1.เพื่อนวิ่งทำทางในด้านหน้า (psg มีคาวานี่ + แบ๊ค 2 ข้าง) 2. มีเพื่อนอยู่ใกล้ๆและรอบๆ (psg มี แวรรัตติและมาตุยดี้ + ดิ มาเรีย อีกคนในบางกรณี)

4. ดิมาเรีย เล่นในบทบาท f10 (false10)
คือ อยุ่ปีกก็จริง แต่มักจะหุบเข้ากลางมาช่วยสร้างเกมได้ดีและได้บ่อย และที่ทำแบบนี้ได้เพราะริมเส้นมีแบ๊คที่เติมสูงอยู่แล้ว
จริงๆ ตำแหน่งนี้ พูดกันแบบเข้าใจง่ายๆ อาจจะเรียกว่าเป็น ปีกเพลย์เมคเกอร์ ก็ได้

5. คาวานี่ขยันมากทั้งในเกมและเกมรุก
เป็นตัวพลังงาน แข็งแกร่ง วิ่งไม่มีหมด


***เพิ่มอีกนิด
จะเห็นเลยว่า ซลาตัน ถอยลงมารับบอลในบางจังหวะ และบางจังหวะอาจจะวิ่งเติมเข้าไป
เช่นเดียวกับดิมาเรียที่หุบเข้ากลางมาบ้าง และคาวานี่ที่วิ่งสอด วิ่งหาช่องอยู่บ่อยๆ

เมื่อรวมกับผู้เล่นในตำแหน่งอื่นอีก 2+2 คน นั่นก็คือ (แบ๊ค 2 คน ดันริมเส้น + 2 กองกลางในด้านหลังอย่างแวรรัตติกับมาตุยดี้)
มันทำให้เกิดสถานการณ์ที่ทีมบุกสามารถเลือกเล่นได้หลากหลาย แล้วแต่จังหวะการเข้าทำ

อาจจะเป็นตรงนี้ ที่ว่าทำไมเขาถึงใช้คำว่า "complete freedom"

ระบบป้องกัน

1. จะอยู่ในรูปแบบ 4-5-1

2. ซลาตันยืนค้ำหน้าสุด ไม่ลงต่ำ

3. เวลาโดนเจาะด้านข้าง ปีกจะไม่ถึงกับลงต่ำมากนัก ไม่งั้นจะสวนกลับยาก / เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ยาก
psg จะใช้ กองกลาง ไปช่วยแบ๊ค (แวรรัตติ+มาตุยดี้) ข้อสังเกตุคือ 2 คนนี้ เคลื่อนที่ได้เร็ว มีความคล่องตัว

4. เวลาโดนเจาะจากตรงกลาง กองกลาง 3 คน จะค่อนข้างยืนชิดกันมากๆ + แนวรับอีก 4 คนก็อาจจะยืนชิดกันตรงกลางด้วย + ปีกจะกระจายออกมากกว่าปกติ

พอตั้งรับแบบนี้ ทำให้เจาะตรงกลางๆตรงได้ยาก
ถ้าบอลออกริมเส้น ก็จะเจอการตั้งรับชั้นแรก คือ ปีกที่ไปยืนรอด้านกว้างอยู่แล้ว
ถ้าบอลผ่านโซนแรกมาได้ แนวรับ 4 คนก็จะเทไปฝั่งที่โดนเจาะ + กองกลาง 1 คนที่โดนบุกในด้านนั้นก็จะมาช่วย

ซึ่งนั่นเท่ากับ สถานการณ์ในข้อ 3


** ข้อสังเกตุอย่างนึงคือ ไม่มีการพูดถึง การไปเพรสซิ่งสูง / การเคาท์เตอร์เพรสซิ่ง

และสุดท้ายคือ ถ้าเขามาแมนยูตอนนี้ ภายใต้แนวคิดแบบนี้ จะใช้ผู้เล่นประมาณไหน

มีข้อคำนึง
1. เขาใช้งานซลาตันเป็นหลักตลอด และผู้เล่นคนนี้มีความพิเศษ
2. อาจจะไม่ใช้ตัวรุกตัดเข้าในตลอดเวลา อาจจะเล่นแบบปกติ เท้าขวาอยู่ข้างขวา เท้าซ้ายอยู่ข้างซ้าย (เกมที่ดันแบ๊คขึ้นสูงมากไม่ได้)
3. นึกถึงการเคาท์เตอร์เพรสซิ่ง / การเพรสซิ่งสูง ในยุคของบล็องไม่ออกเท่าไหร่ (แต่ไม่แน่ เรื่องนี้ มันเพิ่มเติมกันได้)

แต่ข้อที่ต้องนึกถึงไว้มากๆ และอาจเป็นเรื่องที่เคร่งครัดมากๆคือ
4. เขาให้ความสำคัญการตั้งเกมเป็นอย่างมากๆๆๆ และพอเป็นแบบนี้ นำมาซึ่งทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
5. จุดแข็งคือ จะครองบอลได้เยอะพอสมควร ไม่เสียบอลไว
6. หลายๆจังหวะ จะเล่นช้าลง เพราะต้องเคาะ ต๊อกๆๆๆๆ ให้ชัวร์ก่อน
7. อาจต้องใช้งานผู้เล่นในการตั้งเกม หลายคนทีเดียว ตั้งแต่ 3 คน ไป ถึง 7 คน

8. การมีผู้เล่นสูงใหญ่อยู่ในพื้นที่สุดท้ายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเวลาที่บอลบุก ถูกบีบให้ออกริมเส้น ก็ครอสเข้ามาแบบทื่อๆตรงๆได้เลย เพราะมีพวกตัวใหญ่ๆรออยู่ในกรอบอยู่แล้ว แต่ก็เพราะไม่ค่อยต๊อกๆๆ พยายามเจาะเข้ามาตรงกลางนี่แหละ ทำให้บอลบุกบางทีมันก็แป๊กๆ บอลตายไวแบบไม่ได้ลุ้นเหมือนกัน
และถ้าไม่ค่อยเคาท์เตอร์ เพรสซิ่ง ยิ่งแย่งบอลคืนช้า


จุดอ่อน
9. ไม่ค่อยมีตัวเลี้ยงเก่งๆในทีมเท่าไหร่ / พวกที่จะเอาชนะ 1-1 ได้ดี คนที่เก่งที่สุดอาจจะเป็นดิ มาเรีย อาจจะถือว่ามีจำนวนน้อยเกินไป การเซทจังหวะเข้าทำ มันจะโดนจับทางง่าย
10. การเล่นเกมบุก ใช้พลังจากกองกลาง 3 คนน้อยไปหน่อย อาจจะมีการใช้มาตุยดี้ หรือราบิโอต์ ทะลวงเข้ามาในพื้นที่สุดท้ายบ้าง


11. ถ้าเป็นแมนยู ตอนนี้ เอาแบบไม่ต้องซื้อใครเลย

แบ๊ค 2 คน ชอว์/ยัง หรือถ้าดาโลท์ดีพอ ก็เอามาเป็นตัวจริงได้เลย
เซนเตอร์ ขอพวกที่มั่นใจๆหน่อยแล้วกัน จิ้มไปที่ไบญี่กับสมอลลิ่ง

ตำแหน่งมอตต้า ตรงนี้ไม่ต้องคิดมากเลย ให้มาติชเล่น
มอตต้า ก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แต่เพราะได้รับการสนับสนุนที่ดี เขาเลยยิ่งมีประโยชน์
โดยเฉพาะแวรรัตติ

ตำแหน่งแวรรัตติ ถ้าเอาตามอุดมคติแบบเป๊ะๆ คนที่เหมาะที่สุดคือ ปอกบา แต่ถ้าจะให้ปอกบาเล่นตำแหน่งอื่น ก็เอาเฟรดมาเล่นแทน

ตำแหน่งมาตุยดี้/ราบิโอ ต้องมีพลังงานและความดุดันอยู่ซักหน่อย ควรต้องเติมได้ดีด้วย ปอกบาก็เหมาะ(อีกแล้ว) แต่ถ้าเอาปอกบาไปเล่นตำแหน่งอื่น อยากให้ลองเอาลินการ์ดมาเล่นตรงนี้ (ถึงแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ)
ชอบที่ค่อนข้างขยันและหาตำแหน่งได้ดี เทคนิคก็โอเค

ตำแหน่งตัวรุกขวา
ถ้าเล่นแบบปีกเพลย์เมคเกอร์ ก็ใช้มาต้าได้เลย แต่จะขาดความเร็วไปพอสมควร
ถ้าใช้งานแบบพวกตัววิ่ง อยากให้ลองแรชฟอร์ด แต่ไม่รู้จะขยันพอไหม

ตำแหน่งตัวรุกซ้าย
เลือกยากแหะ แต่จิ้มลูกากูก็แล้วกัน เน้นเป็นตัววิ่งๆๆๆ ขยันๆไว้ก่อน แล้วยังตัวใหญ่ด้วย

ตำแหน่งซลาตัน
ยากที่สุดที่จะเลือก เพราะหาคุณสมบัติให้ตรงได้ยาก
อเล็กซิส เวลาเล่นเป็นตัวทำเกมแล้วจังหวะแปลกๆ + ตัวเล็ก
ตรงนี้เลยคิดแบบประหลาดๆพิสดาร อยากให้ลองใช้ปอกบาเล่นตรงนี้

กึ่งๆหน้าเป้า กึ่งๆกลางรุก คอยพักบอล เซทบอล จะจ่ายบอลไปให้ตัววิ่งก็ได้ หรือจะเลี้ยงไปเองก็ได้ (ตรงนี้แหละที่จะดีกว่าซลาตัน)
ส่วนในกรอบเขตโทษ คงยังสู้ซลาตันไม่ได้หรอก แต่อาศัยว่าตัวใหญ่ ขายาว เทคนิคดี คงทำอะไรได้เยอะอยู่


แผนแบบเพี้ยนๆ ก็จะออกมาเป็นประมาณนี้

ติดตรงที่ไม่มีการเคาท์เตอร์เพรสเลยจริงๆ ทำให้นึกถึงกัลเลย

คือเคาท์เตอร์เพรสมาเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาคู่กับระบบที่เน้น

การครองบอลได้อย่างเพอร์เฟคมาก อันนี้ไม่รู้ว่าบทความ

ไม่ได้พูดถึงเฉยๆ หรือแกเน้นรับแบบ compact zoning

จริงๆ ผมก็ไม่เคยดูปารีสตอนแกคุมเลย ไม่รู้เป็นยังไง

แต่แทคติกด้านอื่นถือว่าน่าสนใจมาก แต่ก็ติดอีกนิดนึง

อย่างที่ท่านว่า แกใช้อิบรามาตลอด แล้วอิบราเนี่ยเป็น

นักเตะที่พิเศษมีความสามารถรอบด้าน ดูจากแนวทางที่

บทความเขียนไว้ก็เหมือนจะจับไปเป็น false9 ซึ่งถ้ามา

แมนยูตน.อื่นน่าจะแทนได้อยู่ยกเว้น false9 กับ

false10 นี่แหละที่ดูจะไม่มีใครที่มีศักยภาพพอมาเล่น

แบบอิบรากับดิมาเรียได้เลย อาจมีเล็กซิสกับมาต้าที่เคย

เล่นตน.แบบนี้มาแล้ว แต่ประสิทธิภาพผมว่าต่ำกว่ามาก

เลยเพราะฟอร์มและอายุ 2 คนนี้ผมว่าเลยช่วงพีคไปแล้ว

ตอนที่เคยดู psg ก็ไม่มีซะทีเดียว (เฉพาะใน ucl)
แต่อย่างว่า ว่าเขาร้างสนามไปนาน ถ้าได้คุมอีกรอบ อาจจะเริ่มใช้งานเรื่องนี้ก็ได้
หรือถ้าจะไม่ใช้ เอาจากไอเดียเท่าที่เคยทำมา ก็ถือว่า น่าประทับใจพอสมควรแล้ว

จะว่าไป การเจอพวกทีมเล็กๆทีมกลางๆ ไม่ค่อยน่าห่วงมาก ช่วงหลังๆพวกนี้เวลาเน้นป้องกัน ก็จะลงไปลึก ลงไปตั้งรับเยอะมาก ทีมที่บุก การจะเริ่มเค้าเตอร์เพรส มันจะง่ายกว่าปกติ ที่น่าปวดหัวกว่าสำหรับทีมใหญ่ๆเวลาเจอทีมพวกนี้ คือ จะทะลวงแนวป้องกันยังไง
ฉะนั้นเรื่องการครองบอล อาจจะน่าเป็นห่วงมากหน่อย เฉพาะเวลาเจอทีมใหญ่ๆ
แต่การตั้งรับ ในไลน์แบบนี้ สำหรับเกมใหญ่ๆ มันก็ถือว่าได้ลุ้นสนุกอยู่เหมือนกัน คงน่าจะพอไหวอยู่แหละ (ในกรณีที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่่มเติม)

ส่วนเรื่องอิบรา + 3 ตัวรุกด้านหน้า ในอนาคต อาจจะไม่ถึงกับตายตัวไปเลย
พวกโค้ชสายฝรั่งเศส บางคนก็มาสายทรัพยากรเหมือนกัน คือ ปรับแผนตามทรัพยากรทีม ในเรื่องการเซทแผน สำหรับทีมใหม่ อาจจะเป็นสูตรใหม่ไปเลยก็ได้ (แต่เรื่องความพยายามตั้งเกม ตั้งบอลบุก คิดว่าไม่เปลี่ยนแน่ๆ)