พอดีเพื่อนจะให้แม่ฝากให้ ได้ไม่ได้ ไม่รู้ แต่แค่อยากถามเบื้องต้น

งานรัฐวิสาหกิจ สวัสดิการเทียบกับราชการ หรือ บ.เอกชน เป็นยังไง
และแน่นอน คงไม่ได้บรรจุแน่นอน คงต้องเข้าไปเป็นลูกจ้างก่อน แล้วแบบนี้การจะได้บรรจุต้องมีขั้นตอนไหนบ้างครับ

ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่ได้บรรจุก็ไม่ได้เท่าไร

ขอบคุณครับ

ผมฝึกงานกับรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันเป็นข้าราชการ และเคยทำงานเอกชนมาจะเปรียบให้ตามประเด็นดังนี้ (กรณีเป็นข้าราชการกับพนักงานรัฐวิสาหกิจครับ) (เปรียบเทียบตามภาพรวมครับ)

1.เงินเดือน ราชการขึ้น 6% 2 รอบต่อปี รัฐวิสาหกิจ 12% 2 รอบต่อปี เอกชนแล้วแต่ดวง

2.เริ่มเงินเดือน เรียงตากน้อยไปมาก ราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

3.เกษียน ข้าราชการ เลือกได้ 2 ทาง บำเหน็จ บำนาญ รัฐวิสาหกิจมีแต่บำเหน็จ เอกชน ไม่มี

4.การรักษา ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน แต่เอกชนมีประกันจัดเต็ม (เอาจริงนะ ที่บอกว่าเบิกได้นี่ก็มีข้อจำกัดเพียบอ่ะ สุดท้ายก็ควักอยู่ดี)

5.การทำงาน ราชการสบายแต่รับผิดชอบหนัก(ถ้าไม่ห่วงเรื่องโตในหน้าที่การงานกินเงินประชาชนไปวันๆ เป็นคนทำงานจริงก็หนักมากเหมือนกัน) รัฐวิสาหกิจ ทำเรื่อยๆ มีงานตลอดแต่ไม่รับผิดชอบมาก เอกชนหนักสุดล่ะ

6.ความมั่นคง ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน เอกชนก็ตามคุณภาพงาน

7.อำนาจ ข้าราชการนี่จัดเต็ม รัฐวิสาหกิจกับเอกชนไม่ต่างกัน


8.การพัฒนาตนเอง ข้าราชการเรียนเยอะปรับเงินเดือนปรับขั้นได้ เรียนมันไปเรื่อยๆ รัฐวิสาหกิจปรับขั้นได้แต่อาจต้องย้ายแต่ปวส.ก็อยู่ตัวได้ เอกชนย้ายอย่างเดียว ต้องป.ตรี

9.เวลาว่างเรียงจากมากไปน้อย ข้าราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

10.การกู้ ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจผ่านฉลุยทุกกรณี แต่รัฐวิสาหกิจตอนเกษียณจะยากนิด เอกชนเงินเดือนสามหมื่นขอบัตรเครดิตยังยากถ้าเครดิตบูโรไม่ดี

11.สวัสดิการอื่นๆ เรียงจากน้อยไปมาก ข้าราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ บางหน่วยงานอาจไม่เหมือนแต่ภาพรวมเท่านั้นอยู่ที่เราชอบแบบไหน

ทำงานข้าราชการถ้าไม่หยุดพัฒนาตนเองก็ต้องหางานเสริม เพราะไม่โตไม่มีตังสุดท้ายโกงชาติ

ทำงานเอกชน ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ซื้อประกันให้ตัวเองก็มีสวัสดิการที่ดีได้ อาจจะดีกว่าราชการด้วย

ทำงานรัฐวิสาหกิจนี่ผมว่ากลางๆ สุดล่ะแค่รู้จักใช้ ก็สบายแล้ว ประเมินต่ำสุดเกือบเท่าประเมินดีสุดของราช

ดีมาก ดีกว่าราชการอีก

คงเป็นลูกจ้างใช่มั้ยครับ
ซึ่งจะมีแบ่งอีกคือ ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างเหมา
แล้วก็ลูกจ้างประจำ ส่วนสวัสดิการก็จะได้ไม่เทียบเท่ากันพนักงาน

ขึ้นอยู่กับ องค์กร นั้นๆด้วยนะครับ ^^

ถ้าจะอธิบายง่ายๆก็ประมาณนี้ครับ

เงินเดือนแบบเอกชน สวัสดิการแบบข้าราชการ ต่างตรงไม่มีบำนาญ แต่ได้เงินก้อนใหญ่มาแทน

ส่วนกรณีเป็นลูกจ้างไม่แน่ใจเหมือนกันว่าได้มากน้อยแค่ไหน แต่การได้เริ่มต้นเข้าไปเป็นลูกจ้างก่อนเป็นการเพิ่มโอกาสในการบรรจุเป็นพนักงานได้ในอนาคต พอหน่วยงานนั้นเปิดสอบรับบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงาน แล้วคุณสอบผ่านข้อเขียนเข้ามาได้ก็แทบจะลอยลำในการสอบสัมภาษณ์เลยครับ

แล้วแต่หน่วยงานจริงๆ ว่าจะดีแบบไหน

บางหน่วยเป็นลูกจ้าง งานหนัก เงินน้อย สอบเป็นพนักงานยาก คนนอกสอบได้ตลอด

บางหน่วยงานสบาย เงินดี เปิดสอบภายใน เมื่อเป็นลูกจ้างครบกี่ปีก็ว่าไป ไม่ค่อยเปิดสอบให้กับคนภายนอก

รัฐวิสาหกิจ วันหยุดราชการ เงินเดือนเอกชน มีโบนัส แต่ไม่มีบำนาญ เกษียณได้เงินก้อนก็จบแค่นั้น

ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้ตอนเฉพาะช่วงเป็นพนักงาน เกษียณแล้วเบิกไม่ได้

มันเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไรให้รัฐ จึงแล้วแต่หน่วยงานจะกำหนดแบบไหน

ดีมากๆเเน่นอนครับครับ

รัฐวิสาหกิจมีหลายเเขนง งานบางเเขนงผมไม่เคยไปสัมผัส ผมตอบไม่ได้

เเต่ถ้าเป็นกลุ่มธุรกิจ ไฟฟ้า โทรคมนาคม เรียกว่าเสือนอนกินได้เลย

ดีครับ

คำเดียวอดทนครับ

ผมสามปี จากจ้างเหมา เป็นลูกจ้าง อีก สองปีปรับสภาพลูกจ้างประจำ และต่อด้วยพนักงาน ไม่สร้างหนี้เกษียณไปไม่อดตาย

ส่วนสวัสดิการเหมือน ขรชก. ทุกอย่าง ยกเว้น สำรองจ่าย - -

ผมฝึกงานกับรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันเป็นข้าราชการ และเคยทำงานเอกชนมาจะเปรียบให้ตามประเด็นดังนี้ (กรณีเป็นข้าราชการกับพนักงานรัฐวิสาหกิจครับ) (เปรียบเทียบตามภาพรวมครับ)

1.เงินเดือน ราชการขึ้น 6% 2 รอบต่อปี รัฐวิสาหกิจ 12% 2 รอบต่อปี เอกชนแล้วแต่ดวง

2.เริ่มเงินเดือน เรียงตากน้อยไปมาก ราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

3.เกษียน ข้าราชการ เลือกได้ 2 ทาง บำเหน็จ บำนาญ รัฐวิสาหกิจมีแต่บำเหน็จ เอกชน ไม่มี

4.การรักษา ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน แต่เอกชนมีประกันจัดเต็ม (เอาจริงนะ ที่บอกว่าเบิกได้นี่ก็มีข้อจำกัดเพียบอ่ะ สุดท้ายก็ควักอยู่ดี)

5.การทำงาน ราชการสบายแต่รับผิดชอบหนัก(ถ้าไม่ห่วงเรื่องโตในหน้าที่การงานกินเงินประชาชนไปวันๆ เป็นคนทำงานจริงก็หนักมากเหมือนกัน) รัฐวิสาหกิจ ทำเรื่อยๆ มีงานตลอดแต่ไม่รับผิดชอบมาก เอกชนหนักสุดล่ะ

6.ความมั่นคง ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน เอกชนก็ตามคุณภาพงาน

7.อำนาจ ข้าราชการนี่จัดเต็ม รัฐวิสาหกิจกับเอกชนไม่ต่างกัน


8.การพัฒนาตนเอง ข้าราชการเรียนเยอะปรับเงินเดือนปรับขั้นได้ เรียนมันไปเรื่อยๆ รัฐวิสาหกิจปรับขั้นได้แต่อาจต้องย้ายแต่ปวส.ก็อยู่ตัวได้ เอกชนย้ายอย่างเดียว ต้องป.ตรี

9.เวลาว่างเรียงจากมากไปน้อย ข้าราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

10.การกู้ ข้าราชการกับรัฐวิสาหกิจผ่านฉลุยทุกกรณี แต่รัฐวิสาหกิจตอนเกษียณจะยากนิด เอกชนเงินเดือนสามหมื่นขอบัตรเครดิตยังยากถ้าเครดิตบูโรไม่ดี

11.สวัสดิการอื่นๆ เรียงจากน้อยไปมาก ข้าราชการ - รัฐวิสาหกิจ - เอกชน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ บางหน่วยงานอาจไม่เหมือนแต่ภาพรวมเท่านั้นอยู่ที่เราชอบแบบไหน

ทำงานข้าราชการถ้าไม่หยุดพัฒนาตนเองก็ต้องหางานเสริม เพราะไม่โตไม่มีตังสุดท้ายโกงชาติ

ทำงานเอกชน ตั้งใจทำงานเก็บเงิน ซื้อประกันให้ตัวเองก็มีสวัสดิการที่ดีได้ อาจจะดีกว่าราชการด้วย

ทำงานรัฐวิสาหกิจนี่ผมว่ากลางๆ สุดล่ะแค่รู้จักใช้ ก็สบายแล้ว ประเมินต่ำสุดเกือบเท่าประเมินดีสุดของราช

ดีกว่าทั้งสองในแง่ของ พนง นะ แต่ถ้าอยากทำต้องรอเปิดรับบรรจุ ถ้าฝากเข้าแล้วทำแบบท่านเป็นลูกจ้าง แบ่งเป็นของที่นั่นโดยตรง หรือ บ.จ้างเหมา สวัสดิการก็แล้วแต่ ของบ.จ้างเหมาเลย การทำงานกดดันน้อยกว่าเอกชนกับขรก แน่นอน

ในชีวิตจริงผม
ผม ข้าราชการ
พี่สาว รัฐวิสาหกิจ

บอกได้คำเดียว ว่า รัฐวิสหากิจดีกว่า มากครับ แต่ต้องวางแผนการเก็บเงินดีดี เพราะ เมื่อ เกษียณ ออกไปแล้ว จะมีแต่เงินก้อน

ส่วนผมประคับประคองจนแก่เฒ่า กินบำนาญ ถ้ากลับไปเลือกได้นะ ผมอยากกลับไปสอบเขเาหน่วยงานรัฐวิสหากิจ อิสระกว่าเยอะ

ถ้าเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจดีครับ แต่ถ้าเป็นลูกจ้าง ลูกจ้างเหมารัฐวิสาหกิจ
ผมว่าเป็นลูกจ้างเอกชนยังดีกว่าอีก

ผมเคยทำงานรัฐวิสาหิจมาก่อนครับ เจอพวกหัวหน้าหิวเงินชอบสั่งให้ทำอะไรที่ผิดระเบียบ เพื่อมันจะได้เงินใต้โต๊ะจากคู่ค้า
ตอนพิมหนังสือขออนุมัติโครงการ ผมมักจะใส่ว่า “ตามที่ ผอ...สั่งการว่า” มันก็จะไม่ยอมเซ็นและให้เอาคำนั้นออก ผมก็ไม่เอาออกเพราะเซฟคัวเองไว้ก่อน ก็คุณสั่งผมก็พิมพ์ตามที่ได้รับคำสั่ง

ทนอยุ่ได้เกือบสองปี เหมือนขาก้าวเข้าคุกไปครึ่งนึง เลยออกมาทำเอกชนเพื่อความสบายใจดีกว่า ทำเยอะได้เยอะ ดีกว่าเสี่ยงทำเพื่อให้คนอื่นได้ ส่วนเราเสี่ยงติดคุกติดประวัติ

ลูกจ้างต่างกับพนักงานพอสมควรครับ ไม่ได้สวัสดิการเท่า ไม่ได้โบนัสด้วยมั้ง อันนี้คือของผมนะ ส่วนการบรรจุผมไม่แน่ใจว่าทำไงถึงจะบรรจุได้ บางคนหลายปีก็ยังลูกจ้าง บางคนไม่นานก็บรรจุ อาจจะสอบ

ถ้าไม่ได้เป็นพนักงานประจำเลย ก็อย่าเอาเลยครับ

มีคนรู้จักโดนหลอก ว่าเป็นลูกจ้างไปก่อน เดวได้บรรจุ

ผ่านมาหลายปี ยังไม่ได้บรรจุเลย เป็นลูกจ้างต่อไปเรื่อยๆ

ซึ่งแบบนี้ไปเป็นลูกจ้างเอกชนดีกว่า