หล่อเหลาจ่าย 2!โปรเตะแฮตทริก 'สิงห์' รัวคาร์ดิฟฟ์ 4-1 แซงหงส์นำฝูง
อัลบาโร่ โมราต้าทำท่าต้องนั่งยาวเมื่อโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์โชว์จ่าย 2 เม็ดให้เอด็อง อาซาร์ทำแฮตทริกก่อนวิลเลี่ยนมาส่องไกลปิดกล่องชนะคาร์ดิฟฟ์ 4-1 กำชัยรวด 5 นัดแต้มเท่าลิเวอร์พูลแต่ลูกได้เสียเหนือกว่าผงาดขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
เชลซี
Starting Formation: 4-3-3
17.
มาเตโอ โควาซิช
50'
6.5
10.
เอด็อง อาซาร์
84'
9
11.
เปโดร
65'
7
ตัวสำรอง
21.
ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า
84'
6
8.
รอสส์ บาร์คลี่ย์
50'
6
22.
วิลเลี่ยน
65'
7
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
เสาร์ที่ 15 กันยายน 2561
กรรมการ โจนาธาน มอสส์
เชลซี
4
1
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
1-1 เอด็อง อาซาร์ 39'
2-1 เอด็อง อาซาร์ 44'
3-1 เอด็อง อาซาร์ 80' (Pen.)
4-1 วิลเลี่ยน 83'
เชลซีหากชนะและยิงส่วนต่างได้มากกว่า 2 ประตูจะแซงลิเวอร์พูลขึ้นเป็นจ่าฝูงทันทีนัดนี้มีการเปลี่ยนแปลงเอาโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ลงมาแทนอัลบาโร่ โมราต้าที่หลุดสำรองส่วนเอด็อง อาซาร์ได้สตาร์ตเป็นตัวจริงขณะที่มาร์กอส อลอนโซ่ที่กำลังร้อนได้ปักหลักแบ็คซ้ายต่อเนื่อง ด้านคาร์ดิฟฟ์ยังไม่ชนะเลยแต่ก็ไม่ได้แพ้ใครหลุดลุ่ยเหมือนกันนัดนี้จัดเอาแดนนี่ วอร์ดค้ำหน้าโดยมีดาวิด จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์และบิคตอร์ คามาราซ่าเป็นทีเด็ดในแนวรุก
หล่อเหลาขยันยิงต้นเกม
ช่วงแรกของเกมเชลซีครองบอลเหนือกว่าชัดเจนแล้วมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำสองหนเมื่อชิรุด์ได้โอกาสสับไกทั้งซ้ายและขวาแต่สุดท้ายก็ยิงออกไปเองไม่ได้ลุ้นอะไรในช่วงแรกของเกมการแข่งขัน
สิงห์ช็อค!แบมบ้าชาร์จจ่อ 1-0
แฟนเจ้าถิ่นช็อคเมื่อคาร์ดิฟฟ์ได้ประตูนำขึ้นก่อนเมื่อได้ฟรีคิกระยะไกลแล้วเปิดไปทางเสาไกลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายมอร์ริสันโขกย้อนกลับมาให้แบมบ้าเบียดโควาซิชพุ่งเข้าชาร์จเข้าประตูไปเลย 1-0
เอเธอริดจ์โชว์เซฟสองดอก
เชลซีกะเอาประตูคืนทันควันแต่ก็ยังไม่ได้เป็นสองครั้งสองคราที่เอเธอริดจ์เซฟเอาไว้ครั้งแรกเป็นทางเปโดรได้ยิงติดเซฟแล้วครั้งต่อมาโควาซิชหลุดซัดแต่นายด่านเลือดผสมฟิลิปปินส์ก็ปรี่มาบล็อคเอาไว้ทันอีก
เปโดรปั่นเสาไกล
สิงห์ไฮโซพยายามเดินเกมรุกเพื่อทวงประตูคืนคราวนี้เปโดรจับบอลลงได้ดีในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนเห็นไม่มีใครเข้าเลยลองปั่นด้วยซ้ายกะให้โค้งเข้าเสาไกลแต่บอลเลยออกหลังไปเอเธอริดจ์พุ่งสุดตัวไม่ถึงแล้ว
เปโดรจะเหนือแรงไปหน่อย
เปโดรอีกแล้วที่จะโชว์เหนือเมื่อรับบอลมาก่อนล็อคกลับหลังหนีอาร์เทอร์แล้วเห็นเอเธอริดจ์ออกมาไกลเลยพยายามชิพบอลให้โด่งข้ามนายด่านไปแล้วแต่ไปตกบนตาข่ายไม่ได้ประตูในจังหวะนี้
อีกแล้ว!เปโดรโล่งๆยิงนกตาย
วันนี้เหมือนเปโดรยังไม่เข้าฟอร์มคราวนี้อัซปิลิกวยต้าจ่ายบอลจากริมเส้นด้านขวามาให้ดาวเตะสแปนิชที่อยู่คนเดียวพยายามตวัดยิงจังหวะแรกทันทีแต่ช้อนใต้บอลลอยโด่งออกไปไกลโข
ต้องกู!อาซาร์ลากยิงเสียบเสา 1-1
เกมกลับมาเสมอกันแล้วหลังจากเปโดรพลาดโอกาสไปหลายคนแต่คราวนี้เป็นอาซาร์ซุปตาร์ประจำทีมรับบอลต่อจากชิรูด์ก่อนลากหนีเบนเน็ตต์ที่เข้าพรวดแล้วลากไปยิงลอดขามอร์ริสันผ่านมือเอเธอริดจ์เสียบเสาซ้ายมือเข้าไป 1-1
หล่อเหล่าส่งอีก!อาซาร์ซัดแฉลบแซง 2-1
ต้องชมลูกนี้ของเชลซีที่ได้ประตูแซงขึ้นนำจากการต่อบอลทำชิ่งขึ้นมาทางซ้ายเป็นอลอนโซ่จ่ายให้เปโดรไหลเข้ากลางชิรูด์ถลำไปแล้วแต่ยังเกี่ยวมาให้อาซาร์บอลแฉลบบล็อคเปลี่ยนทางเข้าไป 2-0!!!
โควาซิชเดี้ยงบาร์คลี่ย์มาแทน
เริ่มครึ่งหลังไม่นานโควาซิชมีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอาทางรอสส์ บาร์คลี่ย์ลงสนามมาแทนในช่วง 40 นาทีที่เหลือ
เปโดรยังหาเรดาร์ไม่เจอ
รูดิเกอร์เห็นเกมอึดอัดเลยลากบอลขึ้นมาจากแดนหลังก่อนไหลมาให้เปโดรโยกหนีมอร์ริสันอย่างสวยแล้วแต่จังหวะตวัดยิงด้วยขวาหักข้อมากไปหน่อยบอลเฉี่ยวเสาซ้ายมือออกไปไม่มาก
รีดหลอกยิงเกือบได้เฮ
คาร์ดิฟฟ์เกือบตีเสมอได้เลยเมื่อรีดมาคนเดียวโยกหลอกลุยซ์ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายจนหลงแล้วยิงด้วยขวาลอดขาอัซปิลิกวยต้าผ่านมือเกปาไปแล้วด้วยแต่บอลเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น
เกมเนือยสิงห์ปิดล็อค
เกมเนือยมากในช่วงครึ่งหลังเชลซีพยายามคอนโทรลเกมให้อยู่หมัดแต่ก็ไม่ได้โอกาสยิงเพิ่มอะไรเท่าไหร่ส่วนคาร์ดิฟฟ์ยังไม่เห็นมีจังหวะทีเด็ดที่จะเล่นงานกองหลังเจ้าถิ่นเลยในช่วงนี้
แฮตทริก!โปรเตะจุดโทษ 3-1
เกมอยู่ดีๆเชลซีก็มาได้จุดโทษเมื่อแบมบ้าไปเสียบใส่วิลเลี่ยนหน้าตาเฉยในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วเป็นอาซาร์ก้าวมายิงนิ่งๆไม่เหลือเป็นแฮตทริกของเขาในเกมนี้ทำให้สิงห์ไฮโซหนีห่าง 3-1
งามหยด!วิลเลี่ยนปั่น 4-1
ไม่เพียงแค่นั้นเชลซีมาได้ประตูเพิ่มอีกจากวิลเลี่ยนที่เพิ่งลงสนามมาเรียกจุดโทษแล้วคราวนี้จับบอลได้หน้าปากเขตโทษก่อนปั่นระยะ 22 หลาบอลโค้งเสียบใต้คานเข้าไปไม่พลาดทำให้ตอนนี้พวกเขาแซงลิเวอร์พูลเป็นจ่าฝูงแล้วด้วย
ซัปปาลากมายิง
ซัปปาคอสต้าที่เพิ่งลงมาอยากโชว์ผลงานกระชากบอลมาแต่ไกลก่อนล็อคเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงยัดด้วยซ้ายแต่เอเธอริดจ์ดักทางเอาไว้แล้วรับเข้าซองไม่มีปัญหา
ซาร์รี่ทำได้!สิงห์ชนะรวดนำฝูง
หมดเวลาการแข่งขันเมาริซิโอ ซาร์รี่ทำสถิติพาทีมออกสตาร์ตชนะ 5 เกมรวดอย่างสวยงามพร้อมขยับแซงลิเวอร์พูลเป็นจ่าฝูงด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าโดยมี 15 คะแนนเท่ากัน
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
Starting Formation: 4-4-1-1
5.
บรูโน่ เอคูเอเล่ มานก้า
5
7.
แฮร์รี่ อาร์เทอร์
46'
5
14.
บ็อบบี้ รีด
71'
6
9.
แดนนี่ วอร์ด
76'
6
13.
ดาวิด จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์
6
ตัวสำรอง
6.
แจซซ์ ริชาร์ดส์
46'
6
13.
คัลลั่ม แพเตอร์สัน
71'
6
24.
แกรี่ มาดีน
76'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Sep 16, 2018 00:06, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
