หนอนมรณะมองโกล ( Mongolian Death Worm )
.
หนอนมรณะมองโกล เป็นหนึ่งใน สัตว์ประหลาดในตำนาน
ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ลึกลับ
(Cryptozoology ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ลึกลับ )
ต้องการจะค้นหาและ พิสูจน์หาความจริง
ให้ได้มากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก
โดยมีข้อมูลของ สัตว์ประหลาดตัวนี้ดังนี้
.
ตามตำนานเล่าว่า มันมีถิ่นอาศัยอยู่ใน
ทะเลทรายโกบี ( Gobi Desert )
หนอนมรณะมีลำตัวสีแดงจัดคล้ำ เหมือนบรรจุด้วยเลือด
มีจุดคล้ำกว่าอยู่บนผิว ดูยาก ว่าอันไหนคือหาง
อันๆไหนคือหัว เพราะมันไม่มีตาจมูกและปากให้เห็น
ลำตัวยาว 0.6 - 1.5 เมตร
.
ชาวมองโกเลียบางคนบอกว่า มันมีปีกเหมือนไส้กรอกบินได้
เคลื่อนที่โดยกลิ้งไปกลิ้งมา และขยับไปข้างๆ
แทนที่จะกระดิ๊บเหมือนหนอน ปกติมันจะอยู่ในโพรงทราย
มีชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า " อัลกอย(Allghoi) "
หรืออัลเลอร์กอร์ไฮ-ฮอร์ไฮ(Allegorhai-horhai)
ซึ่งมีความหมายว่า หนอนเลือดในลำไส้
เนื่องจากมีรายงานว่าพบมันในลำไส้ของวัว
ตามที่ชาวมองโกลได้เล่าต่อกันมา
.
พวกมันสามารถพ่นกรดกำมะถัน
( Sulfuric Acid ) สีเหลืองใส่เหยื่อ
พิษของมันสามารถฆ่าสัตว์ ที่มันหมายหัวได้
ไม่ว่าจะเป็นหมา อูฐ ไปจนถึงคน ตายทันที ที่สัมผัส
มีรายงานคนที่ตายเพราะมันด้วย ยังมีความเชื่ออีกว่า
พวกมันสามารถ ปล่อยกระแสไฟฟ้า
เพื่อสังหารเหยื่อ ได้อีกด้วย

·
ตามความเชื่อของชาวท้องถิ่น
หนอนมรณะมองโกล คือสิ่งชั่วร้าย และอัปมงคล เป็นที่สุด
กับการที่ได้พบเห็น หรือเพียงแต่เอ่ยชื่อ
ยังเป็นที่หวั่นเกรง หวาดกลัว ไม่มีรูปถ่ายเกี่ยวกับมัน
.
อัลกอย คอคอย เป็นที่รู้จักกัน จากหนังสือ
ของศาสตาจารย์ รอย แชพแอมน แอนดรูส์
(Roy Chapman Andrws) เมื่อปี 1926
ซึ่งเป็นบันทึกเรื่องเล่า ของราชการมองโกเลีย
ข้าราชการพวกนี้ ไม่เคยเห็นตัวจริงของมัน
แต่เชื่อว่า มันมีอยู่จริง แต่นักวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่
ได้ปฏิเสธ ถึงความเป็นไปได้ ทีจะมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่
ถึงเพียงนี้ ที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
ในทะเลทรายโกบี เนื่องจากทั้งสภาพอากาศที่เลวร้าย
แหล่งอาหารที่น้อยนิด หนึ่งในผู้ศึกษา และค้นหา
หนอนมรณะมองโกล อย่างจริงจัง
คือนาย อีวาน แมคเคิล (Ivan Mackerle)
.
ที่ให้สัมภาษณ์ กับนิตยสาร Fate Magazine
เมื่อเดือนมิถุนายน 1991 ว่า " พวกมันเหมือนไส้กรอก
ที่ยาวประมาณ 50 เซ็นติเมตร ลำตัวอ้วนเท่าแขนของผู้ชาย
พวกมันอาศัยอยู่ในลำไส้ ของพวกวัวควาย
พวกมันมีหางสั้น และเป็นการยาก ที่จะบอกว่า
ส่วนไหนเป็นหัว หรือหาง เนื่องจากพวกมันไม่มีตา
หรือรูจมูก และปาก พวกมันมีสีแดงคล้ำ คล้ายเลือด
พวกมันเคลื่อนที่ โดยการคลาน หรือบางครั้ง
ก็บิดไปทางด้านข้าง ก่อนที่จะฝังตัวเข้าไปในเหยื่อ
พวกมันจะอาศัยอยู่ในทราย และจะโผล่ขึ้นมา
ในช่วงที่มีฝนตกเท่านั้น มันจะโผล่ในช่วงร้อนที่สุด
ของเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม
โดยเฉพาะหลังฤดูฝน แสดงว่าโอกาส
พบตัวมันนั้นมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น
.
แมคเคิลลงทุนอย่างมาก ในการตามหาหนอนชนิดนี้
ถึงขั้นมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เขาใช้แรงระเบิด
บีบให้หนอนออกมา โดยสถานที่มีโอกาส
พบเห็นมันที่สุดคือ บายันดาไล, เซฟเร เยอร์วานเตส,
โนยอน, เฮอร์เมน, นอมกอน ทางตอนใต้ของมองโกเลีย
.
1996 เมื่อปี 1996 นักสัตว์วิทยา นามว่า Karl Shuker
นำความเชื่อดังกล่าว มาเปิดเผย และเป็นที่กล่าวขานกัน
เมื่อมีการตีพิมพ์ หนังสือที่มีชื่อว่า The Unexplained
.
2005 และในปี 2005 ได้มีการจัดคณะสำรวจ
ที่เกิดจากความร่วมมือของ Center for Fortean Zoology
และ E-Mongol Investigsted ได้ทำการออกสำรวจ
และศึกษา หนอนมรณะมองโกล แต่ไม่พบหลักฐาน
ของการมีตัวตนของมัน แต่ยังไม่สามารถสรุปว่า
จะไม่มีพวกมันอยู่จริง ในส่วนลึกของทะเลทรายโกบี
.
และเมื่อไม่เร็วๆนี้ ได้มีการทำสารคดี
ออกฉายในรายการ Destination Truth
ออกอากาศในชื่อตอนว่า Haunted Island & Devil Worm
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2008
.
ถ้าหากหนอนมรณะมีอยู่จริง เป็นไปได้สูง
ว่ามันอาจไม่ใช่สัตว์จำพวกหนอน ว่าไปแล้วตอนนี้
ไม่มีใครรู้ว่าหนอนมรณะ หน้าตาเป็นยังไงกันแน่
ภาพที่เห็น มาจากคำบอกเล่า ของพยานหลายๆ คนเท่านั้น
มันไม่มีแขนขา กลิ้งมากกว่ากระดืบ แถมยังมีพิษ
สัตว์ลักษณะแบบนี้ ที่ใกล้เคียงที่สุด
นะจะเป็นหนอนเชือกผูกรองเท้า (Bootlace Worm)
ซึ่งเป็นหนอนพิษ ที่มีหนามแหลมๆ ที่ปลายหาง
และมีพิษ สามารถดีดหนามพิษพิษใส่ศัตรู
.
แต่ถึงอย่างไรหนอนมรณะ ไม่น่าเป็นหนอน
เพราะหนอนและสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
ไม่สามารถรอดชีวิตจากพื้น ที่แห้งแล้งและร้อนเกินไป
อย่างทะเลทรายโกบี ร่างกายของมัน
จะไม่สามารพรักษาความชื้น และแห้งตายอย่างรวดเร็ว
นอกจากมันจะพัฒนาตัวเอง โดยมีเยื่อหนังกำพร้า
เพื่อรักษาความชื้นร่างกาย
.
มีคนกล่าวว่าหนอนมรณะ อาจเป็นสัตว์จำพวก
จิ้งเหลนหรือจิ้งจก เพราะพวกนี้ชอบฝังตัว
อยู่ในทะเลทราย บางทีมันอาจเป็นงูดิน (amphisbaenian)
ซึ่งเป็นจิ้งเหลนไม่มีขา หรือหนอนมรณะ
อาจเป็นสัตว์จำพวกงู เพราะมันพ่นพิษได้อีกทั้งรูปร่าง
ใกล้เคียงกัน หรือมันอาจเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์
เพราะว่าทะเลทรายโกบี เป็นแหล่งพบฟอสซิล
สัตว์พวกนี้มากที่สุด บางทีมันอาจเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิด
ที่รอดจากการสิ้นโลก (ยุคไดโนเสาร์) ก็ว่าได้ !?
....