เห็นว่า BSI จะหมดหลัง5ปี แล้วคนรวยมักจะขายรถ ตอนหมด BSI

เพราะค่าซ่อมหลังจากนั้นจะแพงมาก ผมว่าเป็นคำที่ชวนให้สับสน ทำให้คนไม่กล้าซื้อนะ

อย่างอ่านกระทู้ตามพันทิป บางคนบอกซื้อรถมาบอกเปลี่ยนทุกๆ5ปี ซื้อมา3ล้านกว่า ขายได้ล้านกว่า

แปลว่าเงินคุณหายไปละ 2 ล้าน ในเวลา5ปี คิดง่ายๆก็ประมาณ4แสนต่อปี

ผมเลยสงสัย เอ้ยยย มันใช่เหรอวะ ไม่ม้างงงงงง ที่คนรวยเขาเปลี่ยน หลังBSI หมด

ส่วนหลักๆเพราะเบื่อรถ อยากได้รถคันใหม่มากกว่า BSI เป็นเรื่องรองๆหรือเปล่า

เพราะคิดจากค่าซ่อมหลังรถใช้5ปี มันจะถึงหลักแสนเลยเหรอ

ผมตามอ่าน เพราะสนใจรถยุโรป (ไม่แพงมากนะ สนใจคัน2.5-3M)

อ่านแล้วก็เจออะไรแบบนี้เหมือนเป็นโรคกลัวไปเลย

ถ้าปีนึงค่าซ่อมหลังใช้ รถ5-10ปี ค่าซ่อมไม่เกิน5หมื่นต่อปีนี่พอรับได้นะ

เลยอยากถามคนที่มีประสบการณ์หน่อยครับ

ปล.ผมไม่มีความรู้เรื่องรถเลยครับ

เพื่อนผมขับ Benz รุ่นอะไรจำไม่ได้แต่ก็ใช้มาหลายปีแล้ว เข้าอู่ทีบางก็หลักหมื่นอ่ะครับ ฉะนั้นค่าซ่อมถ้าเจอเสียหนักๆแค่ปีเดียวมีสิทธิ์ถึงหลักแสนนะครับ

หมด BSI แนะนำให้หาอู่นอกไว้ใจได้ครับ
สามแฉกเจอค่าสมองเกียร์ทีน้ำตาไหลแน่นอนครับ
ปล.แบตเสริมราคาเหยียบหมื่นอะครับของศูนย์ อู่นอกนี่ไม่ถึง4000

ถ้าเป็นรายได้บุ้งน่าจะเอาอยู่นะ

เก็บที่ค่าซ่อม 50000 ต่อปีได้ก็ถือว่าโอเคนะ ถ้าไม่เจอชุดใหญ่ไปมันพอ

ถ้าเอาชัวร์ๆก็เก็บไว้ 50k-100k ต่อปีเผื่อเจอชิ้นที่จัดหนักเสียมันมีหลักแสนขึ้น

แล้วรถยุโรปสมัยใหม่ระบบมันเยอะ ก็เลยเพิ่มโอกาสเสียง่ายกว่ารถญี่ปุ่นที่ซับซ้อนน้อยกว่า

แต่ก็ได้มากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่า

พวกค่าบำรุงค่าอะไหล่ถ้าเอามาเทียบกับรถญี่ปุ่นห่างกันหลายเท่าเลยแหละ

ถ้าอยากเท่ อยากขับรถยุโรปต้องอย่าไปกลัวพวกนี้อย่าเอาไปเทียบกับราคาอะไหล่รถญี่ปุ่น

เพราะถ้าเอาไปเทียบจะรู้สึกว่าทำไมแพงจังวะ

ถ้านึกจะขับแล้วเวลามีซ่อมไรต้องซ่อมให้ถึง อย่าไปเสียดาย

หาอู่นอกที่ซ่อมเก่งๆที่เค้าปากต่อปากว่าซ่อมจบได้ก็โอเค

ใจไม่รักหลังจาก 5-6 ปี มันซ่อมใหญ่เหมือนกันหมด ทั้งยุโรปและรถญี่ปุ่น
เคยแอร์เสียของญี่ปุ่น ยกใหม่ 3 หมื่น ยุโรปก็ตามราคาค่าตัว

ถ้าใจรักอยากลองเล่น ผมว่า BMW320D Iconic แหล่มสุด ไม่ต้องกลัว น่าจะพังยากสุดหล่ะ แต่คนที่รู้จักแกหลอน ซื้อมาขับ 2 ปี ขายเลย กลัวค่าซ่อมโช๊ค

อยากรู้อยากลอง ก็ต้องลองให้รู้


ปล. จริงๆ BSI มันแค่พวกถ่ายของเหลว ขนาดน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ เหมือนจะยังไม่ร่วม ตั้งศุนย์ไม่รวม จริงๆ ที่สำคัญคือ Warranty ต่างหากว่าให้กี่ปี

ปล.2 อยากแนวๆ ก็ซื้อและต้องมีรถสำรองด้วยนะ

ชี้แจงก่อนครับว่า BSI คือของ BMW เท่านั้น Mercedes Benz ไม่มีตัวนี้
ฺBSI เมื่อก่อนคนชอบเข้าใจผิดว่ามันคือครอบคลุมทุกอย่างแต่จริงๆไม่ใช่
BSI ย่อมาจาก Bmw Service Inclusive หรือครอบคลุมการเช็คระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ่ายของเหลว ค่าแรง
แต่เรื่องรถมีปัญหา ซ่อมอะไหล่ หรือ เปลี่ยนอะไหล่ไม่คิดเงิน อันนั้นคือ Warantee
ซึ่ง Warantee เนี่ย Benz Audi Volvo ก็มีเหมือนกัน

เพิ่มเติมเรื่องการเปลี่ยนรถทุก 5 ปี
BSI หมดขี้เกียจนั่งซ่อมเองเป็นปัจจัยนึง
แต่อีกปัจจัยคือ ตั้งแต่แรกเค้าซื้อด้วยการผ่อนแบบ Bolloon หรือ ว่าง่ายๆคือ
"ดาวน์น้อย ผ่อนเบา" แต่...หมด 5 ปีปุ๊ปถ้าเราไม่เโป๊ะก้อนใหญ่ (ประมาณ 30%ของราคารถ) ก็คืนกลับไปไฟแนนซ์ไปเลย เราก็หาเงินดาวน์ไปซื้อคันใหม่ต่อ

เรื่องจะซื้อยุโรปแล้วกลัวหลัง 5 ปีซ่อมแพงบอกเลยครับอู่นอกฝีมือดีเยอะแยะ ยิ่งถ้าเอารุ่นมหาชน X1 หรือ series3 ช่างนอกสบายอยู่แล้ว

มาเลยครับผมจะเล่าให้ฟัง ผมใช้มาครบแล้วทั้ง เบนซ์ ออดี้ บีเอม ผ่านมาแล้วยี่ห้อล่ะไม่ต่ำกว่า 2 คัน

Benz W124 W211

Audi A4B5 A6C5

Bmw E34 E39 E60 E90

ผมขับรถปีล่ะ 4-5หมื่นโล ทุกปีจะมีให้ซ่อมมาเรื่อยๆ เมื่อเฉลี่ยหลังจาก 5 ปี จากป้ายแดง แล้วใช้ต่ออีก 5 ปี แต่ล่ะปีซ่อมอย่างน้อยปีล่ะไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทครับ

รถมันจุกจิกตามประสารถยุโรประบบเยอะ ซ่อมเดือนเว้นเดือนเลยครับ เจอหนักๆ ก็ตอนยกช่วงล่างทุกชิ้น น้ำมันเกียร์ เซ็นเซอร์ต่างๆนานาตัวล่ะไม่ต่ำกว่า 2,000 ยกระบบแอร์ทีล่ะ 5 หมื่นแบบเปลี่ยนทุกอย่าง โอเวอร์ฮอลล์เกียร์ แรคพวงมาลัย และสุดท้ายก็พลาสติกภายในแตกหักซึ่งราคาภายในยุโรปโคตรแพงแต่ลอกง่ายมาก

เงินน่ะมีซ่อมนะครับ แต่ไอ้สามยี่ห้อนี้มันจะมีอู่ชื่อดังของมันเอง พอมันขื่อดังไปซ่อมทีก็แทบจะกราบเท้าช่างช่วยซ่อมให้หน่อย ผมเลยเบื่อที่จะไล่ซ่อมแล้ว

ถ้าอยากได้ฟิลลิ่งรถดีๆ ไม่จุกจิกผมมาเจอ ซูบารุ ครับ ช่วงล่างกับฟีลลิ่งการขับดีกว่าญี่ปุ่นทั่วไปพอสมควร และดีกว่ายุโรปในบางรุ่นด้วยซ้ำ ลองดูครับ

เคยอยากได้เหมือนกัน มอง BMW E60 ไว้แต่งแล้วสวยยังดูทันสมัย ถ้ามีอู่ที่รู้จักไว้ใจได้ อะไหล่จะถูกครับ และรถที่ออกมาเกิน 10 ปี ถ้าอู่ไทยทำเป็นแล้วรุ่นนั้นจะค่าซ่อมถูกลงทันทีและอะไหล่จากญี่ปุ่นก็ถูกด้วย ส่วน BM กับ BENZ รุ่นใหม่ๆที่อู่ไทยยังไม่เคยผ่าเครื่องผ่าเกียร์ก็ต้องซ่อมแพงเป็นธรรมดา

เปลี่ยนก่อนหมด bsi ครับ เพราะถ้าหลัง bsi เข้าศูนย์ต้องเสียตังค์เอง ก่อน bsi จะขายได้ราคาดีกว่า เพราะคนซื้อต่อจะจับเข้าศูนย์เช็คเปลี่ยนทุกอย่างก็จะสบายใจไปนิดนึง แล้วก็จะเอาเงินที่ขายได้ไปดาวน์คันใหม่มาผ่อนต่อ เอามาใช้เป็นรายจ่ายบริษัทอีกต่อนึง

เกินครับ แต่ต้องดูเป็นรุ่นๆไป
อย่างคนรู้จักผม ใช้ E60 (บีเอ็ม ตาเหยี่ยว) มา 2-3 ปี มันก็บ่นว่า ค่าซ่อมออกอีโค่คาร์ ป้ายแดงได้คันนึงละ เท่าที่ผมเห็นกับตา ปีนึงเกินแสนแน่ๆครับ เข้าทีก็ 2-3หมื่นละ

ส่วนประเด็นเรื่องเปลี่ยนรถเพราะ BSI หมด เป็นเหตุผล เฉพาะบุคคลครับ ส่วนใหญ่เปลี่ยนเพราะบอลลูนผ่อนหมดพอดี ก็ขายรถคืนศูนย์ หรือตีเทิร์นคันใหม่ไปขับหล่อๆเลย

คนรู้จัก(อีกละ) ส่วนใหญ่ ออกรถยุโรป ในนามบริษัทครับ เห็นมันบอกใช้หักค่าเสื่อมได้ (ผมไม่รู้เรื่องกฏหมายเชิงลึกนะ ไม่ต้องถามหรอก)

ญาติผม (ญาติรวย) แม่มันก็มาบ่นกับบ้านผมว่า ลูกเค้าวันๆไม่ทำไร ซื้อรถเข้าบริษัททุกวัน

ขอเก็บข้อมูลหน่อยคับ อู่นอกเบนซ์ดีฯ แถวราชพฤกษ์ นนท์ พอจะมีบ้างไหม
พี่ผมเค้าขับ c coupe 180 ปี2012-13 ประมาณนี่แหละ

inbox มาได้ครับอู่ผมอยู่บางกรวย