รีวิว Inuyashiki : คุณลุงไซบอร์ก
มันคือหนังดราม่า ที่มีเรื่องไซบอร์กเป็นฉากหลัง..
[**No Spoil ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ]
(ไม่ได้ลง ss มานาน จัดซะหน่อยก่อนไปทะเล~)
นี่ไม่ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่สำหรับเด็ก !!!!
อย่าคาดหวัง.. ว่าจะได้มาดูหนังแอคชั่นมันส์ ๆ
เพราะนี่มันคือหนังชีวิต-ดราม่า สะท้อนสังคมชัด ๆ
โดยมีฉากต่อสู้ของ 2 ไซบอร์กเป็นแบคกราวด์
ในส่วนของตัวเนื้อหาจัดว่าหนังและอย่างดาร์ค
#สาบานนะว่าไม่ได้มาจากจักรวาลDC!!
คุณจะทำอย่างไร.. ?
ถ้าคุณได้พลังพิเศษเปรียบดั่งพระเจ้ามาอยู่ในมือ
คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจคุณต้องการ
เป็นผู้ร้ายเพื่อล้างแค้น หรือว่าวีรบุรุษเพื่อคุณธรรม
.
.
เรื่องราวเกี่ยวกับ (สร้างจากการ์ตูนนะจ้ะ)
เมื่อเกิดเหตุการณ์ประหลาด มีแสงสว่างจ้าาาาา
ทำให้คนสองคนต่างวัย ได้รับผลกระทบไปทั้งคู่
ด้วยการมีร่างกายเป็นไซบอร์ก !!
คุณลุงบ้าน ๆ คนหนึ่ง "อิจิโร่ อินุยาชิกิ" วัย 58 ปี
ผู้เป็นพ่อที่ไม่เอาไหน และกำลังเผชิญกับโรคร้าย
สามารถใช้ชีวิตได้อีกเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น :'(
ส่วนอีกคนคือเด็กหนุ่มมัธยมปลาย "ชิชิกามิ ฮิโระ"
ที่มีพื้นหลังปัญหาครอบครัวมาไม่น้อย
ทั้งสองคนได้รับพลังมาชนิดที่ว่าเหมือนกันเป๊ะ ๆ
แต่ทั้งคู่เลือกเส้นทางเดิน เส้นทางที่จะเป็นต่างกัน
คุณลุงเลือกที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับ "คุณธรรม"
แต่เด็กหนุ่มเลือกที่จะล้างแค้นสิ่งที่โลกทำกับตน
จึงเป็นภารกิจที่คุณลุงจะต้องยับยั้งไว้ให้ได้ !!
สิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้..
หนังใช้เวลาให้เราได้รู้จักกับทั้งสองไซบอร์กได้ดี
ซึ่งทั้งสองคนนั้นมีภูมิหลังที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
เป็น Loser เปรียบเสมือนสุนัขขี้แพ้ในสังคม
ทั้งคู่ดูมีพื้นหลังที่มาที่ไปมาสนับสนุนการตัดสินใจ
ด้านคุณลุงเป็นคุณพ่อผู้ไม่เอาไหน ลูก ๆ ก็ไม่รัก
ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็ทำทุกอย่าง ทำงานหนักเพื่อลูก
เพื่อส่งเสียให้ลูก ๆ ได้เรียน ได้มีบ้านอยู่อาศัย
เรื่องงานก็วัยใกล้เกษียณ แต่มิวายจะโดนไล่ออก
เพราะความสามารถที่ไม่เอาไหนของตนเอง
คือดูแล้วโคตรสงสารลุงอะ #น้ำตาจิไหล T T
ในส่วนของคุณลุงหนังเสียดสีสังคมญี่ปุ่นหนักมาก
เนื่องด้วยปัจจุบันญี่ปุ่นกำลังเป็นสังคมผู้สูงอายุ
มีคนแก่เยอะมาก และตลอดชั่วชีวิตคนเหล่านี้
มักทำงานหนักจนลืมชีวิตส่วนตัว ลืมครอบครัว
ไม่ได้เอาใจใส่เท่าที่ควรจะเป็น #จุดนี้ขยี้แรงส์!!
อีกคนหนึ่งก็เป็นเด็กหนุ่มธรรมดา ที่ดูไม่มีพิษมีภัย
แต่ข้างในใจคือเป็นเด็ก #เก็บกด เหลือคณา
จากปัญหาทางบ้านที่เป็นแผลในใจมาเนิ่นนาน
อีกทั้งยังไม่มีที่ปรึกษาที่ดี ทำให้เขายิ่งหลงทาง
#เดี๋ยวนี้เขามีGoogleMapละนะ.. #ไม่ใช่!!
ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับวัยรุ่นสมัยนี้
หลาย ๆ คนมีปัญหาแล้วเลือกที่เก็บเงียบ ไม่พูด
ภายนอกดูเป็นเด็กปกติ แต่ลึก ๆ แล้ว "เก็บกด"
ทำให้เกิดปัญหาเป็นโรค "ฮิคิโคโมริ"
คนที่เป็นโรคนี้อาการคือเก็บตัวไม่สนใจสังคม
และหนักข้อเข้าก็ถึงขั้น "ฆ่าตัวตาย" ได้เลย
แต่หนุ่มในเรื่องยังไม่ถึงขั้นนั้นนะ #ผมอินเฉยๆ
พูดถึงฉากแอคชั่น ถึงจะมาน้อยแต่ผมชอบนะ
แอคชั่นมาจัดเต็มแค่ช่วง 30 นาทีท้ายของหนัง
การออกแบบฉากต่อสู้สมเป็นลุงบ้าน ๆ ธรรมดา
คือลุคฮีโร่ของลุงมันดูไม่มี "ความคูล" อยู่เลย
แต่พอมาดูภาพรวมแล้ว #หัวใจลุงเท่โคตรรร <3
จุดที่หนังยังสามารถทำได้ดีกว่านี้..
ในความเป็นข้อดี ที่ใช้เวลาปูพื้นหลังตัวละคร
ก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะหนังใช้เวลานาน
แต่ขยี้ได้ไม่ลึกพอ ทำให้การดำเนินเรื่องเนิบนาบ
ดูแล้วรู้สึกใช้เวลาไปโดนเปล่าประโยชน์..
อีกจุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือฉาก CG
ถ้าจะเอาไปเทียบกับฮอลลีวูดก็คงไม่ได้แหละ
ในเรื่องนี้นั้นก็ยังคงตามมาตรฐานเอเชียเราอยู่
CG ในส่วนของไซบอร์กทำดีมากนะ ผมชอบเลย
แต่ฉากอื่น ๆ ที่ต้องบินไปทั่วฟ้านั้นทำได้ลอยมาก
อ้าว.. บินบนฟ้าก็ต้องลอยสิ #หมายถึงCGลอย!!
โดยรวมแล้ว.. หนังทำออกมาได้ดีระดับนึงนะ
แต่ว่าไปไม่สุดสักทาง คือมันก็ไม่ได้แย่อะไร
ยังมีส่วนดีให้เห็นอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ #ว้าว พอ
ตัวบทก็ตามสไตล์การ์ตูนฮีโร่ญี่ปุ่นเลย
แต่ตัวร้ายก็ไม่ได้ง่อยมาก มีให้ความรู้สึกสิ้นหวัง
รู้สึกแบบมึงพอเหอะะะ อย่าดาร์คไปกว่านี้เลยยย
คำเตือนโปรดฟังอีกครั้ง
เรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็ก !! ไซบอร์กหัวแบะออกมางี้
ใครพาลูกไปดูมีร้องจ้ากอะ ฮีโร่อะไรน่ากลัวค่อด!!
และฉากต่อสู้อย่างที่บอกคือมันดาร์คจริง ๆ
ไม่เหมาะกับเด็กเล็กอย่างแรงส์ครับ !!!
.
สรุป.. ชอบครับ ดูแล้วเพลิน ๆ แบบหน่วง ๆ ดี
คือบทมันดราม่าชวนให้คิดกลับมามองตัวเอง
ส่วนแอคชั่นถือเป็นของแถมที่ทำให้รู้สึกสนุกขึ้น
.
จะให้ 7 คะแนนก็ได้ แต่ให้ 8 ก็ไม่ขี้เหร่
ถือเป็นคะแนนพิศวาส ในความกล้าที่จะทำ
หนัง CG แนวนี้ของวงการหนังเอเชียครับ
ปล. ลูกสาวลุงน่ารักครับ #คุ้มค่าตั๋วละ #ถุย!!
Ayaka Miyoshi เวอร์ชั้นผมสั้น
"รสนิยมการดูหนังแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าใช่ พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองดีที่สุด
แล้วอย่าลืมกลับมาคุยกันนะครับ ^^"
.
.
.
Facebook : ก็แค่คนชอบดูหนัง
.
.
.
แถม Ayaka Miyoshi 1 รูป