ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 1:16 am
...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!


3 ประตู สู่เมืองลับแล เมืองเจ้าหนี้หนีคนขี้โกง !!!
.
จากเรื่องเล่าปรัมปรา ของชาวเมืองลับแล
เมืองเล็ก ที่ปัจจุบันเป็นอำเภอลับแล
อำเภอหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์
ซึ่งเล่าสืบต่อกันมา จนแพร่หลายในปัจจุบัน
.
เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่เรื่องเล่านี้
ไม่ได้มีเฉพาะที่ อำเภอลับแลเท่านั้น
แต่จริงๆแล้ว เรื่องเล่าเมืองลับแล
กระจายออกไปหลายที่มากมายในประเทศ
มีทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้
และภาคตะวันออก มีเรื่องเล่าของประตูเมืองลับแล
ที่ถูกปิด ส่วนจะมีที่ไหนบ้างมาลองอ่านกัน !!!
.
.

เมืองลับแลเขาวังสะดึง
ในพื้นที่ ต. เขาแร้ง อ. เมือง จ. ราชบุรี
เดิมที่เขาวังสะดึง ด้านทิศตะวันออก
จะมีปากถ้ำ ซึ่งในปัจจุบัน จะมีหินแผ่นใหญ่
ปิดปาก ถ้ำซ้อนกันอยู่ ไม่สามารถ
เข้าไปภายในถ้ำได้ ณ ถ้ำแห่งนี้
มีประวัติเล่ากันต่อ ๆ กันมาว่า
.
เป็นที่พักอาศัยของชาวเมืองลับแล
ซึ่งชาวเมืองลับแล จะมีรูปร่างสันทัด
คล้ายกับคนไทย โดยทั่วไป การแต่งตัว
ก็เหมือนกับคนไทยโดยทั่วไป
แต่มีภาษาพูดที่แตกต่างจากคนไทย
ภายในถ้ำในวันดีคืนดี จะมีเสียงดนตรีไทย
ประเภทวงปี่พาทย์ดังแผ่ว ๆ มาจากในถ้ำ
แต่ไม่สามารถหาแหล่งที่มาของเสียงได้
.


เล่ากันว่า ชาวเมืองลับแล จะเป็นกลุ่มคน
ที่มีความซื่อสัตย์ ขยันทำมาหากิน
ซื่อตรง รักเดียวใจเดียว ไม่ลักเล็กขโมยน้อย
อยู่กันเป็นกลุ่ม จะพบเห็นคนเมืองลับแลได้
ก็ต่อเมื่อเวลาใกล้ค่ำ ชาวลับแล
จะออกมาอาบน้ำในสระน้ำด้านหน้า
ของเขาวังสะดึง เรียกชื่อสระนี้ว่า “สระพัง”
หรือบางครั้ง ชาวลับแล จะลงมาจากเขา
มาจับจ่ายชื้อเสบียงอาหาร
ที่บริเวณตลาดนัดเชิงเขาในฤดูน้ำหลาก
.
ภายในถ้ำของชาวเมืองลับแล
จะมีข้าวของเครื่องใช้ครบทุกอย่าง
โดยเฉพาะพวกถ้วยชาม เครื่องใช้ในครัวเรือน
เมื่อชาวไทย ในเขตพื้นที่ใกล้เคียง
มีงานมงคลต่าง ๆ มักจะมาเอาถ้วยชาม
ภายในถ้ำไปใช้ เมื่อเสร็จงานแล้ว
ก็จะนำกลับมาส่งคืน
.
จากความซื่อสัตย์ของคนเมืองลับแลนี้เอง
มักจะถูกเอาเปรียบจากคนในพื้นที่ใกล้เคียง
จนมีเรื่องเล่ากันว่า ชาวไทยได้เข้าไปยืม
ถ้วยชามจากชาวลับแลมาใช้แล้ว
มักไม่ส่งคืนจนชาวเมืองลับแล
เกิดความเบื่อหน่าย การถูกเอารัดเอาเปรียบ
จึงได้ปิดปากถ้ำ ไม่ออกมาติดต่อ
กับคนภายนอกอีกเลย...!!!
.
.

เมืองลับแลที่เขางู
จากคำบอกเล่า ของคุณณรงค์ คุ้มจิตร์ เล่าว่า
" เขางู มีตำนานเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า
เขางูเป็นเมืองลับแล เล่ากันว่า
ที่ถ้ำแห่งนี้ สามารถทะลุผ่านไปยัง
เมืองลับแลซึ่งมีผู้คน ชาวลับแลอาศัยอยู่
แต่ไม่มีผู้ใด สามารถมองเห็นคนพวกนี้ได้
วันดีคืนดี จะมีเสียงปี่พาทย์ดังออกมา
ในสมัยก่อนเมื่อชาวบ้าน จะทำบุญเลี้ยงพระ
จะไปอธิษฐานขอยืมถ้วยชาม รามไห
จากคนลับแล ก็จะมีถ้วยชามจัดวางไว้ตามที่ขอยืม
.
ต่อมา มีคนขอยืมแล้วไม่นำไปคืน
ทำให้คนลับแล ไม่ให้ยืมอีกต่อไป
ปากถ้ำที่เข้าไปสู่เมืองลับแลจึงปิด
ตอนเด็กๆ ได้เคยไป วิ่งเล่นแถวนั้น
แล้วมีปู่ ย่า ตา ยาย ชี้ให้ดูประตูปากถ้ำ
ซึ่งต่อมา ได้ทำกำแพงกั้นไว้
และเมื่อจังหวัด จะมาบูรณะ มีการใช้รถไถ
ไถดินมากลบบริเวณปากถ้ำ โดยไม่ทราบสาเหตุ
ทำให้ปากถ้ำ ที่เป็นเสมือนกำแพง
สู่ตำนานที่เล่าขานกันมานั้นก็หายไป
และนี่คงเป็นที่มาของชื่อถ้ำฝาโถ
ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณของเทือกหินเขางู"
.
.

เมืองลับแลที่เขากลางตลาดจอมบึง
อาจารย์ สุรินทร์ เหลือลมัย
ที่ปรึกษาสำนักศิลปะและวัฒนธรรม
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ได้เล่าเกี่ยวกับเมืองลับแล
ไว้ใน "ตำนานจอมบึง" ตอนหนึ่งว่า...
.
ผู้สูงอายุต่างเล่าต่อๆ กันมา
ด้วยถ้อยคำธรรมดา ทำนองมุขปาฐะ
คือจากปากต่อปาก ไม่ทราบว่า
ผู้เล่าดั้งเดิมเป็นใคร มักจะอ้างว่าเป็นของเก่า
ฟังจากผู้เล่า ที่เป็นบุคคลสำคัญ
ยิ่งในอดีตอีกต่อหนึ่ง ทุกครั้งมักเล่า
เป็นเรื่องเดียวกัน ดังนี้
.
“วันดีคืนดี ชาวบ้านจะได้ยินเสียง
มโหรีพิณพาทย์ลาดตะโพน
ดังแว่วมาจากเพิงผาหน้าถ้ำ
อันเป็นดินแดนลี้ลับของเขา
กลางตลาด ที่นั่นเป็นเขตแดน ของชาวเมืองลับแล
สมัยก่อนนานมาแล้ว เวลาชาวบ้าน
จะมีงานเลี้ยงในหมู่บ้าน จะไปขอยืม
ถ้วยโถโอชามจากชาวเมืองลับแล
โดยครั้งแรกจะบนบานไว้ก่อนว่า
ต้องการยืมของอะไรบ้าง รุ่งขึ้นก็จะมี
สิ่งของที่ขอยืมวางไว้ให้พร้อม
ชาวบ้านใช้งานเสร็จเมื่อไรก็ทำความสะอาด
แล้วนำส่งคืนที่เดิมภายในถ้ำ ทุกรายจะ
ปฏิบัติเช่นนี้เสมอ
.
แต่แล้วมีรายหนึ่งเล่นไม่ซื่อ
เกิดความละโมบโลภมาก
อยากได้บางสิ่งไว้ใช้ตลอดไป
จึงส่งของคืนไม่ครบจำนวน
ชาวลับแลไม่พอใจ ถือว่าทำผิดกติกาอย่างแรง
ตั้งแต่นั้นมา แม้ชาวบ้านจะบนบานสักเท่าไร
ก็ไม่มีสิ่งของออกมาวางไว้ ให้ยืมอีก
ปากถ้ำก็เลื่อนลงมาปิดสนิท
เหลือเพียงเรื่องเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน”
.
นิทานเรื่องนี้ เคยแพร่หลายอยู่ในหลายอำเภอ
ของเมืองราชบุรี ตลอดจนจังหวัดอื่นๆ ด้วย
เค้าโครงเรื่องหลวมๆ เอื้อให้
สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหารายละเอียด
ที่ต้องการสื่อความหมายได้ง่าย
จึงถ่ายทอดจากที่หนึ่ง ไปสู่อีกที่หนึ่งได้
อ.สุรินทร์ ยังเขียนต่อถึงการเล่าขานเกี่ยวกับ
ตำนานเมืองลับแลในราชบุรี ว่ามีอีกหลายแห่ง
.
ข้างบนเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่ง จากในบล๊อค
เมืองลับแลที่น่าสนใจ ตามเรื่องเล่าครั้งอดีต
จากปากท่านอาจารย์หลายๆคน
แต่ที่น่าสนใจเข้าไปอีกคือ เมื่อจบบทความ
ของอาจารย์คนต่างๆ ก็ได้มีการ
แสดงความคิดเห็นกันมากมาย
โดยจะยกตัวอย่าง มาให้อ่านหนึ่งคน
ที่ผมว่าน่าสนใจ เป็นการแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับการพบเจอเมืองลับแลของคนในครอบครัว
.
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร
น่าสนใจขนาดไหนลองไปอ่านกันดูครับ
.


ข้อมูลของคุณ chirapan
.
ผมเป็นชาวเขาอยู่กับป่า ที่บ้านผม
ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ครับ แต่บ้านผม
เชื่อว่าเป็นผีครับ เขาก็เลยกลัวกัน
เพราะบางทีมันปรากฎตัวให้เราเห็น
จากที่ได้ยินมา ดังนี้ครับ วันหนึ่งแม่ผมเองครับ
ไปที่ไร่ ตอนเที่ยงกลับมาที่กระท่อม
เห็นคนนอนอยู่ครับ ตกใจเรียกเพื่อนบ้าน
ที่มีไร่ใกล้เคียงให้มาดู พอเขามาถึง
มันก็หายไปแล้วครับ ...!!?????
.
- อีกเหตุการณ์หนึ่งปีเดียวกัน
มันแกะข้าวห่อของแม่ผมไปแช่นํ้า แต่มันก็ไม่กินครับ
.
- เหตุการณ์ต่อมาเกิดกับคุณตาผม
เขากำลังเลื่อยไม้ฟืนอยู่ แต่มีคนดึงเลื่อย
ทำให้เลื่อยไม่ได้ จึงพูดกับมันว่า
ถ้าจะช่วยก็ช่วยให้มันเสร็จ มันก็ช่วยจริงๆครับ
จะเสร็จเลย แต่มันไม่เห็นตัวนะครับ
รู้สึกเพียงว่า เลื่อยมันเบาและขาดเร็วกว่าเดิม
.
- อีกเหตุการณ์หนึ่ง มีคนเห็นตอนที่มัน
กำลังเก็บมะม่วงครับ ตอนใกล้มืด
พอมีคนเห็นปุ๊บ มันก็อ้อมหลัง ต้นมะม่วงแล้วหายเลย
.
- อีกเหตุการณ์หนึ่งครับ คนนี้เขาไปตัดไม้รั้ว
เยอะมาก และแบกไม่ทัน ระหว่างที่แบกไปหลายเที่ยว
ก็มีคนแบกให้จะเสร็จเลยครับ
.
- อีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีพยานครับ
คุณตาผมอีกละ เขาไปล่าสัตว์กลางคืน
เขานอนบนต้นไม้ แต่มีคนดึงขากางเกงเขา
ตาผม ก็เลยรีบคว้ามือมันไว้ รู้สึกได้ว่า
เป็นมือของคน มีขนบ้างจนรู้สึกสัมผัสได้
แต่พอเอาไฟส่องแต่กลับมองไม่เห็นใครเลย
.




จากที่เล่ามาทั้งหมด เหตุการณ์เหล่านี้
เกิดขึ้นจริงจากคนในหมู่บ้าน
คนในหมู่บ้านเชื่อและเล่าต่อกันมา
ลืมบอกผมเป็นชาวเขา
ภาษาผมเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "เบือก"
เขาอยู่ในรู ถ้าเราเจอ แล้วเอานํ้าซาวข้าวสาดมัน
มันจะหายตัวไม่ได้อีกเลย แล้วจะเหมือนคนปกติทั่วไป
แต่ก็ไม่มีใครทำกับเขาอย่างนี้หรอกครับ
มันก็สอดคล้องกับเนื้อหา ที่อาจารย์
ได้ไปลงในเมืองใต้ดินนั่นแหละครับ
ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจ แต่หาหลักฐานยาก.
...
Spoil
http://rb-history.blogspot.com และ th.wikipedia.org  
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 24715
ที่อยู่: Persona 5
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 6:49 am
...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!
เมืองบังบด
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3263
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 9:15 am
[RE: ...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!]
เซ็งเรื่องยืมถ้วยชามแล้วไม่คืน 555
0
0
เข้าร่วม: 19 Sep 2008
ตอบ: 10990
ที่อยู่: ภายใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกับเธอ
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 9:28 am
[RE: ...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!]
สรุปงอนเพราะยืมถ้วนชามแล้วไม่คืนปิดตูซะเลย
0
0
เข้าร่วม: 07 May 2010
ตอบ: 4469
ที่อยู่: ชายแดน
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 9:45 am
[RE: ...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!]
เรื่องเล่า ตำนาน นิทาน มันมาจากเรื่องจริงแหละ แต่จะจริงแค่ไหนก็มิรู้ได้
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 5266
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 9:50 am
[RE]...... เมืองลับแล .... !? จากคำบอกเล่า หลายๆที่ ... เปิดตำนานพิศวง !!
บ้านอยู่อำเภอนี้แหละ
0
0