ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
หน้าแรกบอร์ด >> สัมภาษณ์
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 May 2011
ตอบ: 6600
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 03, 2017 11:21
สัมภาษณ์
นักข่าว : ตั้งแต่เด็กๆพี่เล่นกีฬาชนิดใดชนิดแรก
พิษณุ : โอ้ตอบยาก เพราะว่ามันเป็นกีฬาแบบพื้นบ้าน เรียกว่าศึกชิงเมือง ศึกชิงเมืองเนี้ยผมเล่นตั้งแต่สักป.1-ป.2
เพราะเด็กบ้านนอกเกิดที่เพชรบุรีเป็นเพชรบุรีในส่วนที่ไม่ใช่ในตัวเมือง เป็นตำบลเล็กๆ ริมแม่น้ำเพชรบุรีที่บ้านผมมันเป็นเนินสูงไปทั้งสองฝั่ง
แล้วน้ำอยู่ตรงกลาง แบ่งข้างกันเป็นข้างล่ะ 70 คน 20 คนก็แล้วแต่ แล้วสู้กัน ใครตกลงไปในน้ำถ้าหมดแล้วก็ถือว่าแพ้ เหมือนกาบัดดี้
ลักษณะการที่จะไปยึดกัน ปล้ำกัน แต่นี้ผลักกันให้ตกน้ำ คือทีมที่หล่นลงไปหมดแล้วก็คือทีมแพ้ สำหรับผมก็เป็นกีฬาเพราะเด็กบ้านนอกฟุตบอลก็ไม่รู้จัก
อย่างมากก็แค่วิ่ง วิ่งเราก็รุ่นมันเด็กเกินไปที่จะแข่งขัน ส่วนใหญ่แข่งขันรุ่นเล็กรุ่นกลางรุ่นใหญ่ เราก็เล็กกว่ารุ่นเล็กอีก ป.1ป.2 ก็ต้องเล่นแบบนี้
แล้วก็มีขี้ช้างชนกันคือชนช้าง เล่นในแม่น้ำตกลงมาจะได้ไม่เจ็บ คนตัวใหญ่ก็เป็นฐานเป็นช้างอยู่ข้างล่าง เราก็เป็นควาญช้างนั่งอยู่ข้างบน
สู้กันผลักกัน ต่างคนต่างขี่คอรุ่นพี่ แล้วก็ดักกันผลักกัน ใครตกลงมาก็แพ้ นั้นล่ะคือกีฬาของผมนั้นล่ะเป็นกีฬาแรกๆ
พอเข้ามาเรียนป.5ป.6ในอำเภอเมือง โรงเรียนอรุณประดิษฐ

เริ่มได้เล่นกีฬาเป็นมาตรฐานสากล ก็คือ ฟุตบอล,บาสเก็ตบอล แต่ว่าก็ไม่ได้เก่งถึง ขั้นติดทีมโรงเรียน
ทีมห้องก็ยังไม่ได้เป็นตัวจริงซะด้วยซ้ำไป ฟุตบอลจริงๆเล่น ตอนป.5 ป.6 คือบ้านผมเนี่ย พี่พี่ผู้ชาย 2 คน ไม่นับผู้หญิงเพราะผู้หญิงต่างจังหวัดไม่เล่นกีฬา
พี่ผู้ชาย 2 คนก็ชอบเล่นกีฬาโดยเฉพาะมวย ผมเองก็เรียนรู้ชอบมวยมาจากพี่นั้นแหละ ก็รู้จักนักมวย ฟอร์มการชกการต่อสู้จากหู เพราะว่าทีวีเราไม่ได้ดู
หนังสือพิมพ์เราก็ยังอ่านไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อาศัยฟังจากวิทยุ ทุกวันพฤหัส จะมีนักมวยรายการใหญ่มาก ของเวทีราชดำเนิน แล้วคุณมานิตย์ รักษ์สุวรรณ
เป็นคนพากย์ เรารู้จัก เดชฤทธิ์, แสนชัย, บุกเดี่ยว, วีระเดช, สมพงษ์และ ราวี เหล่าเนี่ยเรารู้จากคุณมานิตย์ รักษ์สุวรรณ ที่พากษ์คืนวันพฤหัสบดี
ทางวิทยุพากย์เพลินเพลง บ้านเราทำไร่ แล้วก็มีคนงาน คนงาน มาจากอีสานเยอะแล้วก็ชอบมวย คนงาน เขาก็ฟังทุกคืนวันพฤหัส เราก็ฟังด้วย
ก็เลยติดแล้วก็รู้จักมวย วันหนึ่งก็ได้อ่านหนังสือมวย เพราะว่าเขารับหนังสือมวย ขอฟังมวยก็อ่านหนังสือมวย
ที่จำได้มี บ็อกซิ่ง, เสือสนามและเดอะ ริง หนังสือมวยบ้านเราเยอะๆนะ เล่มบางๆเป็นรายสัปดาห์พออ่านแล้วก็ติดคอลัมน์คนนู้นคอลัมน์คนนี้
วันหนึ่งเข้ากรุงเทพแล้ว ตอนอายุมากแล้วจะ 40 แล้ว ก็ได้พบกับคนที่เราเป็นแฟนสมัยที่เราเด็กๆดีใจมากๆ

ที่ได้รู้จักคุณเดชา ปะการะนัน ซึ่งตอนหลังก็มาทำงานกับบริษัทผม เรารู้สึกตื่นเต้น คนที่เราเคยอ่าน ลายมือของเขา
ข้อเขียนของเค้า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว วันหนึ่งก็มาทำงานอยู่ในบริษัทของเราซึ่งเราเป็นเจ้าของ ก็ทั้งดีใจภูมิใจแล้วก็ มีความสุข

ตอนอยู่โรงเรียน วัดพระศรีมหาธาตุ ที่บางเขน ตอนนี้เป็นสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร เล่นวอลเลย์บอล เพราะที่นี่ในยุคนั้นเป็นแหล่งผลิต
นักวอลเลย์บอล ทีมชาติชาย เกือบครึ่งทีม ที่มาจากโรงเรียน วัดพระศรีมหาธาตุ คุณชาญวิทย์ วงศ์ประเสริฐ ก็เป็นศิษย์เก่า วัดพระศรี
ดูเหมือนจะเป็นรุ่นแรกด้วยซ้ำ มันมีไอดอล คนนั้นก็เป็นทีมชาติ รุ่นพี่โรงเรียนเราเท่านั้นเลย แล้วเราก็ได้เล่น แล้วผมเป็นคนที่ เป็นเด็กใหม่ม.ศ.1
ตอนนั้นยังเป็นม.ศ.1 ที่เล่นแล้วไม่ตื่นเต้น ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ที่ผมไม่ตื่นเต้นไม่ตกใจ อาจารย์ที่สอนยังบอกว่า
เฮ้ยเด็กคนนี้เป็นเด็กที่ เรียนชั้นม.ศ.1 คนเดียว คนอื่น ม.ศ.2 ม.ศ.3 ม.ศ.4ก็มี แต่ผมเป็นม.ศ.1 คนเดียว แต่ก็ได้เล่นเป็นตัวจริง แล้วไม่เคยตกใจ
พอเล่นแล้วเรารู้สึกว่า เป็นตัวรับที่เหนียวแน่น เป็นตัวเซตที่ดี มันก็มีความสุข ได้เป็น ตัวจริงด้วย มันก็เลยทำให้รักขึ้นมา
เมื่อก่อนมันยังไม่แบ่งว่าเป็นริเบโร่ ผมเป็นตัวที่เหนียว ตัวเซต แข่งระดับกรมพละ เราเข้าชิงชนะเลิศ ผมจำได้ตอนรุ่นเล็กเนี่ย
เข้าชิงชนะเลิศกับโยธินบูรณะ แต่เราได้เหรียญเงินโดยที่ไม่ได้แข่ง เพราะว่าเพื่อนผมไปแข่งกระโดดสูงแล้วแขนหัก เหลือ 5 คน เราก็เพิ่งทราบว่า 5 คน
เขาไม่ให้แข่ง วันชิงก็เลยต้องขึ้นไปรับเหรียญโดยที่ไม่ได้แข่ง เราร้องไห้กัน เราบอกเราขอแข่ง 5 คน แต่กรรมการบอกว่า 5 คนเขาไม่ให้แข่ง
ตอนนั้นทั้งทีมเหลือ 5 คน

เริ่มรู้จักหลายกีฬาได้อย่างไร
คือความที่เราเล่นกีฬามาก แล้วบ้านอยู่ใกล้ศูนย์เยาวชนบางเขน เย็นมาก็เล่นเย็นมาก็เล่น
ผมไม่ทราบว่าสมัยนี้ นักเรียนเข้าแบ่งกันเป็นห้อง แล้วแต่ละห้อง มีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองหรือเปล่า ยุคผมเนี่ยบอลห้องมันมี
บอลห้องมีทั้ง ยกทีม ห้องต่อห้อง สู้กันมีเดิมพัน เก็บคนละบาทบาทบาท แพ้ชนะกันก็ 20 บาท เมื่อก่อน เล่นสู้กัน
ผู้หญิงก็ลงขันด้วย บางคน มันก็เลยเกิดการฝึกซ้อมการพัฒนาฝีมือ เพื่ออยากเอาชนะคู่ต่อสู้ ยุคนั้นก็มีความสุขนะ
ตั้งแต่ม.ศ.1, 2, 3 พอ 4, 5 มันเป็นเรื่องของการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย การเล่นก็เข้มข้นน้อยลงจะเป็นการเล่นส่วนตัวซะมากกว่า

ชอบอะไรมากกว่าระหว่างฟุตบอล วอลเลย์บอล ช่วงนั้น นักข่าวถาม
ตอบ ผมเล่นเป็นตัวโรงเรียนทั้งสองอย่าง ทั้งวอลเลย์บอลแล้วก็ฟุตบอล
ถามว่าชอบอะไร ฟุตบอลก็ชอบมากกว่า เพราะว่าทีมมันใหญ่กว่าเพื่อนเยอะกว่า แล้วก็รู้สึกว่า มันเข้มข้นกว่าวอลเลย์บอล
ชอบฟุตบอลมากกว่า แต่ก็เล่นทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ยังไงก็ต้องเป็นตัวของโรงเรียน มีอยู่วันหนึ่งแข่ง 2 รายการ พร้อมกัน
แข่งยิม 2 วอลเลย์บอลพอวอลเลย์บอลจบ ปีนรั้วสนามฮอกกี้ ตอนนี้คือสนามเทพหัสดิน ต้องปีนรั้วข้ามไปเพราะถ้าวิ่งอ้อมไปด้านข้างเข้าประตูมันช้าไป
บอลกำลังเตะอยู่ปีนรั้วไป แข่งฟุตบอลรุ่นกลาง เวลามันคาบเกี่ยวกันเลยฟุตบอลเริ่มแข่งแล้ว เราไปเปลี่ยนตัวทีหลัง แข่งของชิงแชมป์กรมพละ

ตำแหน่งอะไรครับฟุตบอลนักข่าวถาม ตอบ
ผมเล่นเป็นกองหน้า เล่นได้ทั้ง 2 อย่างปีกขวากับกองหน้า เมื่อก่อนเขาเรียกศูนย์หน้าม่ใช่กองหน้า
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนี่คือตัวสุดท้าย กองหลังมี 3 ตัวแบ็กซ้าย, แบ็คขวา, เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคือตัวห้อย
กองกลางก็มี ฮาล์ฟซ้าย, ฮาล์ฟขวา, ในซ้าย, ในขวา, ปีกซ้าย, ปีกขวา, ศูนย์หน้า ไม่ได้เรียกเป็นกองหลังกองกลางตัวรุกตัวรับ

เข้าสู่มหาลัยเรียนอะไรครับ นักข่าวถาม
ตอบ ผม เลือกเรียนรัฐศาสตร์ เพราะว่าพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน หวังว่าให้พี่ชายคนก่อนหน้า
ผมคนหนึ่ง ผมคนหนึ่งให้เป็น ปลัดอำเภอนายอำเภอ แต่พี่ชายไปอ่านหนังสือเรื่องร้อยป่า พระเอกเป็นป่าไม้ เวลาสอบ ก็ไม่ได้เลือกรัฐศาสตร์
เลือกวนศาสตร์ แล้วได้ด้วยพี่ชายก็เลยทำงานป่าไม้ มรดก กทอดมาอยู่ที่บ่าของผม
ผมก็เลยต้องเลือกรัฐศาสตร์หมดเลย 1, 2, 3 เพราะว่าพ่ออยากให้เป็น นายอำเภอ นายอำเภอ ปลัดอำเภอก็เลยได้เข้ารัฐศาสตร์จุฬา
ผมก็ได้เล่นกีฬากรีฑา 4X4,1500 ก็ได้เหรียญทองแดงทั้ง 2 อย่าง วิ่งเร็วเราสู้เขาไม่ได้
รูปร่างเราไม่ใหญ่พอเราก็อาศัยความอึด 400,1500รายการน้องใหม่จุฬา มีโอกาสได้เล่นบอลคณะ คณะไม่เคยได้แชมป์มา 10-20 ปีละ
เราโชคดีที่มาจังหวะที่ดีตอนอยู่ปี 3 ทำให้คณะได้แชมป์ได้ก็รู้สึกดีใจครับ แล้วหลังจากนั้นผมไม่แน่ใจว่า อีกกี่ปีถึงเราจะได้แชมป์
เพราะว่าคณะที่เก่งคือวิศวะที่ผู้ชายเยอะ กลับครุศาสตร์ซึ่งมีพละ ครุศาสตร์เอกจะได้แชมป์ผูกขาด นานๆจะมีวิศวะแทรกมาสักทีนึง
ตอนนั้นรัฐศาสตร์ได้แชมป์ ก็เลยปราบปลื้ม ผมก็เลยมีโอกาสติดตัวมหาวิทยาลัย

ปี 2514 นั่นเป็นแชมป์เดียวของคณะ แทำให้ติดตัวมหาลัย วอลเลย์บอลก็เล่น วันที่เข้าชิงผมไม่ได้เป็นตัวจริงเพราะว่าผมไม่ค่อยได้ซ้อมวอลเลย์บอล
เนื่องจากว่า มันสนุกกับฟุตบอลมากกว่า แต่ว่าพี่เขาก็เคยเห็นฝีมือว่า นี่เล่นดีแม้จะไม่ได้ซ้อมก็ให้ติดตัวจริงไว้ก่อนเผื่อจะมาซ้อมบ้าง
ของเราเข้าชิงชนะเลิศของจุฬาได้แชมป์ แต่ผมไม่ได้ล นั่งอยู่ข้างสนาม

กีฬาอื่นได้ติดตามอะไรนะ นักข่าวถามตอบ
ตามทุกข่าวเหมือนกับคนที่ชอบกีฬามากๆ คือตื่นเช้ามาต้องอ่านหนังสือพิมพ์เมื่อก่อน
นั้นสื่อ มันไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีไอแพด ไม่มีอะไรที่สามารถตามข่าวเองได้ อย่างเดียวที่เราตามได้คือจากหนังสือจากหนังสือพิมพ์รายวัน
กับวิทยุ หนังสือพิมพ์เมื่อไหร่อ่านก็ได้สายบ่ายค่ำได้ วิทยุเขามีเวลาออกอากาศ ข่าวกีฬาต้อง 7 โมงครึ่ง 8 โมงครึ่ง
ซึ่งบางทีมันไม่ใช่เวลาของเรา

ชื่นชอบนักฟุตบอลคนไหนเป็นพิเศษช่วงนั้นนักข่าวถามตอบ
ฟุตบอล ยุคผม เป็นยุคของนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ซึ่งก็ค่อนข้างโรยแล้ว ที่ชอบนิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์
ส่วนหนึ่งเราเล่นกองหน้าเหมือนกัน แล้วก็เขาเป็นคนตัวเล็กที่ติดทีมชาติแบบอมตะ เก่งด้วย
ถ้าหากว่าเทียบเขากับวันนี้คนยุคหลังแม่คือคุณปิยะพงษ์ นั่นแหละเป็นกองหน้าที่ 1 อย่างแท้จริง
ยุคของเขานิวัฒน์ศรีสวัสดิ์ก็เหมือนกันเป็นหมายเลขหนึ่งอย่างแท้จริงในยุคของเขาแล้วคนรูปร่างขนาดนั้น ซึ่งถือว่าเป็น
รูปร่างที่เสียเปรียบมาก เป็นทีมชาติเบอร์หนึ่งได้ เขาต้องฟิตซ้อม ต้องมีความอุตสาหะวิริยะ แล้วตำแหน่งเดียวกับเราด้วย เรารู้สึกว่าเราชอบเขา
จริงๆแล้วกีฬาที่รู้จักมาก จะเป็นักมวยมากกว่า ติดตามมวยมากโดยเฉพาะมวยสากล รวมทั้งติดตามมวยสมัครเล่นทีมชาติไทยด้วย
ยุคนั้นคนเก่งเยอะมาก บรรเทา ศรีสุข, นิยม ประเสริฐสม, เชิดชัย อุดมไพจิตรกุล ยุคนั้นนักมวยทุกรุ่นของเรา ตั้งแต่รุ่นเล็ก
จนถึงรุ่นเวลเตอร์เวท, รุ่นมิดเดิลเวท ทีมชาติไทยเก่งๆทั้งนั้น นักมวยสากลไทยก็ชกสวยงาม
เหมือนกับครูมวยสมัยโบราณครูมวยที่มาจากตำรามากกว่าคู่มวยที่มาจากประสบการณ์ เราดูมวยเม็กซิกันชก อเมริกันชก
หรือมวยยุโรปชาติเก่งๆ จะเห็นว่า ยืนก็สวย ออกหมัดได้ทุกทิศทาง ในขณะที่มวยยุคปัจจุบันของบ้านเรา ต้องยืนชิดกัน
ต้องไปเท้าชนปลายเท้า ถึงจะออกหมัดได้ แต่ยืนห่างชกไม่ได้ เพราะว่าเบสิคเราไม่ดี เราต้องใช้แรง อันนี้ผมพอดูมวยรุ่นหลัง
ผมรู้สึกว่ามันเพลิดเพลินใจและอึดอัดใจ ไม่เหมือนกับดูสมัยโบราณมวยโบราณก็ชกสวยงาม เหมือนเราดูเขาทราย เขาทรายถึงแม้จะช้าแต่ว่าสวยงาม
สด จิตรลดา นั้นก็สวยงาม โผน กิ่งเพชร นี่ไม่ต้องพูดถึงนั้นจากตำรา คนสุดท้ายผมว่าน่าจะเป็น แสน ส.เพลินจิต ที่ชกแล้วาเราไม่อึดอัด
มวยเก่งๆอย่าง โผน, ชาติชาย, เขาทราย ไปชกที่ไหน เราไม่กังวลว่าจะถูกโกง เพราะมันโกงไม่ง่ายเพราะเขาชกได้ชนะอย่างชัดเจน
ยกเว้นไปญี่ปุ่นสมัยโบราณ ช่วยไม่ได้ถ้าไม่สลบไม่น็อค ส่วนใหญ่ก็จะแพ้แต่ปัจจุบันจิตใจคนมันสูงขึ้น
ดังนั้นคุณไปปล้นเขามันน่าอาย ไม่เหมือนสมัยผมเป็นเด็ก ถ้าหากว่าต่อยเขาไม่น็อ ชนะอย่างชัดๆกรรมการก็ตัดสินให้แพ้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
หนังสือมวยเนี่ยผม ไม่ตัดผมก็ต้องเข้าร้านตัดผม ร้านตัดผมเป็นที่ชุมนุมของหนังสือมวย สมัยโบราณนั้นร้านตัดผมมีหนังสือ
อย่างเดียวหลักๆก็คือหนังสือมวย เพราะงั้นผมไปตัดผมที่ไรก็ต้องอ่านหนังสือมวยเล่มเก่าเท่าไหร่ก็อ่านได้ อ่านแล้วมีความสุข เราก็เลยติดตามมวยมาตลอด
นอกจากสมัยเด็กติดตามมวย ไทยอาชีพแล้ว ตอนหลังพอเข้ากรุงเทพได้ดูทีวีถ่ายทอดส มันก็เลยติดมวยต่างประเทศเข้าไปด้วย ชอบ
มูฮัมหมัด อาลี, โจ ฟราเซียร์, โรเบอร์โต ดูรัน, ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด มันก็ชอบมาเรื่อยๆ แล้วพอมาทำอาชีพเป็นนักข่าวกีฬาแล้วต้องพากย์ด้วย
มันต้องยิ่งรู้มากขึ้นต้องติดตาม มากขึ้น

เส้นทางที่จะเข้ารัฐศาสตร์กำลังจะเปลี่ยนไปกีฬานักข่าวถามตอบ
ก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าผมจบมาแล้ว ตอน มหาวิทยาลัยปี 2 ผมอ่าหนังมือมาลัย 100 ชีวิต ของอรวรรณ (เลียว ศรีเสวก) เล่าเรื่องชีวิตของนักข่าว
มันมีอิสระอยากทำไรทำได้ เขียนอะไรเขียนได้ คิดอะไรก็ทำได้ คิดจะเขียนอะไร
แสดงทรรศนะได้เต็มที่ โดยนายทุนเจ้าของ จะไม่มาสั่ง เฮ้ยต้องทำอย่างนี้ทำแบบนี้ อาชีพอะไรไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัททำไมมันดีแบบนี้
มหาลัยปี 2 ผมเป็น เปลี่ยนใจเลย พ่อยังไม่ตายเลย ผมตัดสินใจแล้วผมเป็นนักข่าว แน่นอน ยังไงก็อยากทำหนังสือพิมพ์
พอเรียนจบเพื่อนก็ไปสอบปลัดเราก็ไป ประกาศผลทุกคนมันก็ได้หมด แต่วันสัมภาษณ์ผมก็ไปสัมภาษณ์ตามปกติ
แต่ไปบอกเขาว่าผมขอสละสิทธิ์ เขาก็ตกใจถามว่าทำไมล่ะ ผมบอกว่าผมทำงานหนังสือพิมพ์แล้ว ทำได้ 4 เดือน 6 เดือนจบแล้วทำงานได้เลย
ของอาจารย์สาทิส อินทรกำแหงที่ตอนหลังมาเป็นสุดยอดคนดังในเรื่องของ ชีวจิต อาจารย์สาทิส
เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วก็ทำงานที่องค์การสหประชาชาติ ก็เลยอยากจะทำหนังสือพิมพ์
ยุคนั้นมันมีหนังสือพิมพ์ หัวขาวดำอยู่ 2 ฉบับเมืองไทย ประชาชาติ กับประชาธิปไตย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
Manchester United
A.C. Milan


ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกบอร์ด >> สัมภาษณ์
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel