ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: エフ SUMOMO
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2013
ตอบ: 4562
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat May 07, 2016 13:25
I've got a name. ตัวตนของคุณคืออะไร? ภูมิใจกับมันหรือเปล่า?


เพลงนี้ได้ถูกปล่อยออกมาในปี 1973 โดยผู้แต่งเพลงคือ Norman Gimbel เพลงๆนี้ได้แสดงถึงความภาคภูมิใจในฐานะมนุษย์ ในมุมของแต่ละปัจเจกชน(ความภาคภูมิใจต่อสิ่งที่ตัวเองเป็น) และการเคารพตัวตนของตัวเอง (Self-Respect)

เพลงนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท


พาร์ทแรก
Spoil
"Like the pine trees lining the winding road
I got a name, I got a name
Like the singing bird and the croaking toad
I got a name, I got a name
And I carry it with me like my daddy did
But I'm living the dream that he kept hid"
 


เพลงได้เริ่มด้วยการส่งข้อความที่ทรงพลังอย่างมากโดยการอ้างไปถึงสรรพสิ่งรอบตัวเขาที่ซึ่งต่างก็มีชื่อที่กำหนดคุณลักษณะและตัวตนของมัน ตัวอย่างเช่น เมื่อผมพูดถึงต้นสน ทุกคนจะเข้าใจได้ว่ามันมีลักษณะอย่างไร (สูงยาว ไหวไปตามลม) หรือรู้ว่า เสียงร้องจิ๊บๆ เราก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือนก (สัตว์ปีกบินได้) แล้วประกาศว่าตัวเขาเองก็มีชื่อเช่นกัน

"I got a name, I got a name"

ชื่อที่ในอนาคตจะเป็นตัวกำหนดคุณลักษณะและตัวตนของเขา เป็นชื่อที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อ เหมือนที่พ่อก็ได้รับมาจากบรรพบุรุษด้วยเหมือนกัน (ผมเข้าใจว่าชื่อนี้หมายถึงชื่อสกุล เช่น ครอบครัว Beckham) เป็นชื่อที่เขาจะแบกมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ

พาร์ท 2
Spoil
"Like the north wind whistlin' down the sky
I got a song, I got a song
Like the whippoorwill and the baby's cry
I got a song, I got a song
And I carry it with me and I sing it loud
If it gets me nowhere, I'll go there "proud
 


เรื่องที่สองที่เพลงนี้บอกออกมาอย่างภาคภูมิใจนั้นก็คือ "I got a song, I got a song" "ข้าก็มีเพลง(ของตัวเอง)" เพลงของตัวเองในที่นี้ผมตีความได้ว่า เพลง = เรื่องราวความเป็นตัวเอง เรื่องที่บอกว่าอะไรคือตัวเขาในตอนนี้ เช่น ความชอบ สิ่งที่สนใจ งานที่ทำ บุคคลิกภาพ นิสัย ทุกอย่างที่ตัวเองเป็นจริงๆ

"And I carry it with me and I sing it loud
If it gets me nowhere, I'll go there proud"

เขาจะเอาบทเพลงนี้ (เรื่องราวของตัวเอง) ไปด้วยทุกที่ และจะร้องมันออกมาให้ดังที่สุด ไม่ว่าเพลงนี้พาเขาไปสู่ ณ จุดหมายใดก็ตาม เขาก็จะยังคงร้องเพลงนี้อย่างภาคภูมิใจ จะเห็นได้ว่าเขามีความภาคภูมิใจในเรื่องราวของตัวเองอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าใครจะมองเขาว่าเป็นคนอย่างไร เรื่องราวของเขาจะถูกคนอื่นพูดถึงอย่างไร เขาก็จะยังคงทำมันต่อไปด้วยความภาคภูมิใจ

พาร์ท 3
Spoil
"Like the fool I am and I'll always be
I got a dream, I got a dream
They can change their minds but they can't change me
I got a dream, I got a dream
Oh, I know I could share it if you'd want me to
If you're goin' my way, I'll go with you"
 


พาร์ทที่ 3 พูดถึงเรื่องราวของความฝัน หรือตัวตนที่เขาอยากจะเป็นในอนาคต ท่อนนี้ผมอาจจะแปลออกมาตรงๆเลยนะครับ เนื่องจากความหมายท่อนนี้มันตรงตัวมากๆ

"อาจจะเหมือนคนโง่ที่ข้าเป็นมาโดยตลอด แต่นั้นก็เป็นฝันของข้า
พวกเขาจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขาต่อตัวข้ายังไงก็ได้ แต่พวกเขาไม่มีวันเปลี่ยนตัวข้าได้ เพราะนั้นเป็นฝันของข้า
ข้าสามารถแชร์เรื่องราวความฝันของข้าให้พวกท่านได้รับรู้ได้นะ ถ้าท่านต้องการอยากจะรู้
และถ้าสุดท้ายปลายทางเรามีจุดหมายเดียวกัน พวกเราก็ไปด้วยกันได้นะ"


ถ้าสังเกตุดีๆ 3 พาร์แรก 1.ชื่อที่ได้รับมาจากพ่อ(อดีต) 2.บทเพลงที่ขับร้องเรื่องราวของตนเอง(ปัจจุบัน) 3.ความฝัน(อนาคต) รวมทั้ง 3 สิ่งนี้เป็น 3 สิ่งที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจต่อการเดินทางของตัวเขาเอง จากอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต

ท่อน Chorus ที่แทรกอยู่ในแต่ละพาร์ท เป็นอีกพาร์ทที่มีความสำคัญ โดยพาร์ทนี้ได้ประกาศถึง ความเชื่อ ความตั้งใจอันแรงกล้า และ ความภาคภูมิใจ ในตัวตนของตัวเอง เขาประกาศออกมาว่า

"Movin' me down the highway, rollin' me down the highway
Movin' ahead so life won't pass me by"


เค้าจะแบกเอา ทั้ง 3 สิ่งข้างต้น(ชื่อ บทเพลง และ ความฝัน) เดินออกมาอย่างมั่นคง แม้ว่าอาจจะต้องมีการล้มลุกคลุกคลาน(rollin')บ้างก็ตาม เค้าก็จะยังคงเดินหน้าด้วยตัวตนของตัวเองจริงๆ เพื่อที่จะให้ชีวิตในแต่ละวันได้รับการเติมเต็มชีวิตอย่างสมบูรณ์
แก้ไขล่าสุดโดย PeterPANN เมื่อ Sat May 07, 2016 13:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
10
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel