1.จบได้หลากหลายครับ เอาตรงๆก็คณะที่ relate กับ IT ทั้งหลายก็ได้เกือบทั้งหมด (วิศวะคอม,วิทคอม,ไอที,ไอซีที,คอมธุรกิจ)

2.เหมือนข้อ 1


สายนี้ใบจบปริญญาไม่สำคัญเท่าสกิลครับ ส่วนมากมักจะมีการทดสอบก่อนเข้าทำงานเสมอแหละทำงานสายนี้ ถ้าแ่สัมภาษณ์อย่างเดียวก็อยู่ที่ผลงานล้วนๆอ่ะครับ

ถามว่าอายุ 31 แล้วเป็นได้ไหม

ถ้าเป็นแล้วต้องเริ่มตั้งแต่ 1 เหมือนเด็กจบใหม่ผมว่ายากครับ เพราะตลาดโปรแกรมเมอร์บ้านเราแม้จะดูขาดแคลน แต่ก็ไม่ขาดซะทีเดียวเพราะบุคลากรก็ออกมาใหม่ได้ทุกปี เด็กรุ่นหลังๆก็มีผลงานกันตั้งแต่อายุยังน้อยก็เยอะ เรียกได้ว่า ก็พอมีทางเลือก

ยกเว้นคุณจะรับได้กับการเริ่มใหม่เฉกเช่นเด็กจบใหม่อ่ะครับ

เพราะส่วนมากที่เขารับก็รับกัน 20-35 แหละ



 

1. โปรแกรมเมอร์ จบอะไรมาก็ได้ครับ จบบัญชีมาเป็นโปรแกรมเมอร์ยังมีให้เห็นเยอะแยะ โปรแกรมเมอร์เทพๆดังๆของไทยนี้ดูจะจบบัญชีมาเยอะกว่าจบด้านคอมอีกนะ

2. ก็เหมือนข้อ 1 แต่ถ้าจะสื่อว่าสายไหนที่สอนเขียนโปรแกรมพวกนี้ก็ต้องสายวิทคอมทั้งหลายแหล่ วิทยาการคอม วิศวะคอม หรือคอมอื่นๆทั้งหลายแหล่ก็มีสอนเขียนโปรแกรมทั้งหมด

ส่วนไปเรียนยังไงก็ไหวครับ ที่สอนเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะมีเยอะแยะและพวกนี้ดีกว่าเรียนมหาลัยอีกเพราะเจาะลึกตรงๆกันไปเลย

 

อายุไม่เกี่ยวกับความสามารถครับ
ผมเองเป็นได้ทั้ง network และ programmer
เพราะที่ผ่านมาเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่อยู่ ม. 4
logic ทางด้านโปรแกรมเมอร์จะเร็วกว่าทาง network

ฉะนั้นอยากเป็นโปรแกรมเมอร์

- อย่างแรกเลย คุณต้องแม่นเรื่อง logic
คิด วิเคราะห์และแยกแยะผลลัพท์ให้เป็น
โปรแกรมเมอร์บางคน โปรแกรมตัวเอง error แท้ๆ ยังมีหน้าหันมาถาม network ว่า switch เป็นอะไรหรือเปล่าพี่ หุๆๆ

- อย่างที่สอง โปรแกรมเมอร์มีหลายสาย พอๆ กับสาย IT ด้านอื่น คุรต้องเจาะจงลงไป อย่าเขียนเอามันหรืออย่าเขียนแบบกว้างๆ เพราะคุณจะไม่เก่งอะไรเลย เช่น อยากเขียน mobile ก็ต้องเลือกว่าจะไป IOS หรือ Android หรือ windows
อยากเขียนเป็น WebApp หรือเป็น Application ซึ่งมันก็จะแยกย่อยไปอีกเยอะมาก
WebApp ก็จะแยกเป็น PHP หรือ ASP
Application ก็จะแยกเป็น OS หรือ Software ที่ใช้เขียน

- อย่างที่สาม คุณต้องมีใจรัก ถ้าคุณมีใจรัก เวลาเจอปัญหามันจะสนุกกับการแก้

- อย่างที่สี่ พยายามหาเพื่อนเยอะๆ โดยเฉพาะคนเก่งๆ เข้ากลุ่มตาม face ต่างๆ ก็ได้ครับ มีปัญหา post ถามเลย


ยังไงอยากเดินสายนี้มันสนุกอยู่นะครับ แต่ผมเลิกมาเกือบยี่สิบปีละ เขียนโปรแกรมมาจนเบื่ออ่ะ

#ตอนนี้เบื่อเมียที่สุด


 

ขอบคุณมากครับ แนะนำ ที่เรียนหน่อยได้ไหมครับ

ลงคอสเรียนเขียน JAVA C# .Net
ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง  

อายุไม่เกี่ยวกับความสามารถครับ
ผมเองเป็นได้ทั้ง network และ programmer
เพราะที่ผ่านมาเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่อยู่ ม. 4
logic ทางด้านโปรแกรมเมอร์จะเร็วกว่าทาง network

ฉะนั้นอยากเป็นโปรแกรมเมอร์

- อย่างแรกเลย คุณต้องแม่นเรื่อง logic
คิด วิเคราะห์และแยกแยะผลลัพท์ให้เป็น
โปรแกรมเมอร์บางคน โปรแกรมตัวเอง error แท้ๆ ยังมีหน้าหันมาถาม network ว่า switch เป็นอะไรหรือเปล่าพี่ หุๆๆ

- อย่างที่สอง โปรแกรมเมอร์มีหลายสาย พอๆ กับสาย IT ด้านอื่น คุรต้องเจาะจงลงไป อย่าเขียนเอามันหรืออย่าเขียนแบบกว้างๆ เพราะคุณจะไม่เก่งอะไรเลย เช่น อยากเขียน mobile ก็ต้องเลือกว่าจะไป IOS หรือ Android หรือ windows
อยากเขียนเป็น WebApp หรือเป็น Application ซึ่งมันก็จะแยกย่อยไปอีกเยอะมาก
WebApp ก็จะแยกเป็น PHP หรือ ASP
Application ก็จะแยกเป็น OS หรือ Software ที่ใช้เขียน

- อย่างที่สาม คุณต้องมีใจรัก ถ้าคุณมีใจรัก เวลาเจอปัญหามันจะสนุกกับการแก้

- อย่างที่สี่ พยายามหาเพื่อนเยอะๆ โดยเฉพาะคนเก่งๆ เข้ากลุ่มตาม face ต่างๆ ก็ได้ครับ มีปัญหา post ถามเลย


ยังไงอยากเดินสายนี้มันสนุกอยู่นะครับ แต่ผมเลิกมาเกือบยี่สิบปีละ เขียนโปรแกรมมาจนเบื่ออ่ะ

#ตอนนี้เบื่อเมียที่สุด


 

ออกแบบระบบหรือสร้าง flow chart ให้เป็นก่อนครับ ไม่งั้นจะมึนและตัน
หรืออย่างน้อยควรจะเข้าใจว่า if then else มันคืออะไร
พอไปเรียนมันจะไปได้เร็ว

ลองดุตัวอย่างจากการสั่ง Burger ก่อนนะครับ




จากตัวอย่างเวลาสั่ง Butger
ข้อมูลจะไหลไปตามลำดับชั้น เจอแบบนี้ให้ทำอะไรต่อ

เขียนโปรแกรมก็เหมือนกันครับ

เริ่มสร้างสร้างตัวแปร
user กด enter ให้ทำอะไรต่อ แสดงข้อมูลหรือให้ส่งเสียงร้อง เป็นต้น


พยายามค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

ผมจะเล่าอะไรให้ฟังครับ

มีน้องคนนึงเคยอยู่แผนก IT
จู่ๆ วันนึงเบื่องาน Helpdesk อยากเป็นโปรแกรมเมอร์
เลยใช้ความสนิทกับพี่ที่เป็นโปรแกรมเมอร์ขอย้ายสายงาน
แต่ก่อนจะย้ายพี่แกให้เขียนโปรแกรมง่ายๆ มาส่งเพื่อทดสอบ logic

น้องเค้าก็เขียนมาส่ง (แต่คนอื่นเล่าให้ฟังว่า เค้าให้เพื่อสนิทอีกคนช่วยเรียนให้)
นึกผลลัพท์ออกใช่ไหมครับ
สุดท้ายน้องคนนั้นก็ทำได้แค่ 7 เดือนก็ต้องย้ายมาอยู่อีกที่นึง
โดยหัวหน้าให้เค้าเขียนโปรแกรมบน mobile แทน

สิ่งที่จะเกิดก็คงจะไม่ต่างกันครับ เพราะขนาดอธิบายให้หัวหน้าฟังเมื่อเช้าว่าทำไมต้องใช้ตัวแปรนี้ยังทำไม่ได้ สุดท้ายคงอยู่ได้อีกไม่นานถ้าน้องเค้ายังไม่เข้าใจ logic ในการเขียนโปรแกรม

ผมเองเป็นห่วงน้องเค้านะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงเหมือนกัน

ส่วนเรื่องไปเรียนเพิ่มเนี่ย
ผมเห็นมานักต่อนักละ ไปเรียนโดยเริ่มต้น 0 เนี่ย จบคอสออกมาได้ไม่เกิน 70% นอกนั้นคืองงว่าบางหัวข้อจะเข้าใจดีหรือไม่เข้าใจ

ผมเองเวลาไปเรียน network จะพยายามศึกษาเบื้องต้นก่อน ไม่ต้องลึก ถ้าลึกจะไปเรียนทำไมใช่ไหมครับ เอาแค่ให้รู้พื้นๆ พอที่จะตามคนอื่นได้ทัน เพราะเราไม่รู้ว่า คนที่เรียนกับเราเค้ามีพื้นมาขนาดไหน

ถ้าเราช้า เราจะเสียเวลาเพราะคนอื่นเค้าจะไปข้างหน้าอย่างเดียว

ผมอาจจะพูดได้ไม่หมดนะครับ
มันเยอะจัด

ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้
ยังไงผมเอาใจช่วยนะครับ
 

ขอปรึกษากันตรงๆ ตอนนี้เลยครับ ผมไม่มีพื้นฐานด้านเขียนโปรแกรม ผมต้องการเขียนโปรแกรม สั่งงานด้วยเสียงในคอม เป็นของตัวเอง วิธีลัดทางไหน ทำให้ผมทำได้และรวดเร็วสุดครับ  

ขอบคุณครับ ผมเขียน ภาษา เบสิก คิวเบสิก ปาสคาล มาก่อนครับ ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

แต่ภาษาซี ไม่ค่อยเก่งครับ ทั้ง ๆที่มันก็คล้าย ๆ ภาษาปาสคาล งงเหมือนกัน

ส่วนภาษาจาวา ไม่เอาอ่าวเลยครับ ส่วน flowchart นี้ ผมแน่นมาก if then else ก็ แน่นครับ
ผมต้องเรียนอะไรเพิ่มเติมครับ

ปล.ผมอยากต่อ ป โท คอมด้วยครับ

 

จะไปแนวไหนล่ะครับ
เรียนเพิ่มผมว่ามันต้องได้แนวทางก่อนอ่ะว่าจะไปทางไหน ไม่งั้นสะเปะสะปะ

ขนาดผมเป็น system admin เมื่อก่อนผมยังต้องเลือกเลยว่าจะเป็น database admin หรือ mail admin

ของพวกนี้มันหากินได้นะ ถ้าเราเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ อ่ะ

อยากต่อโทคอมพิวเตอร์นี่ ผมว่ามันไปได้สองทางนะ บริหารกับ Data communication

ผมเองไม่อาจให้คำแนะนำตรงส่วนนี้ได้ เพราะยังไม่มีประสบการณ์นะครับ ต้องขอโทษด้วย
 

ตาม คห. บน ๆ ครับ
และ Java กะ C# ไปได้ทั้งคู่ และถ้าได้ภาษานึง จะต่อยอดอีกตัวนึงได้ เพราะ syntax Java กะ C# คล้าย ๆ กัน

แต่ถ้าท่านมีพื้น เบสิก ปาสคาล จะไป VB.NET หรือ Delphi ก็ได้ แต่แนะนำ ไป VB.NET ดีกว่า หาคอร์ส หรือคนตอบคำถามง่ายกว่าเวลาติดปัญหา และ VB.NET ก็บน framework .NET เดียวกะ C# ไปได้สะดวก
 

เคยเรียนเหมือนกันครับ VB.net ไม่ยาก แต่ C# เหมือนเคย เรียน แต่จำไม่ค่อยได้ครับ

 

3 ภาษา ตัวใหนไปได้เลยครับ เพราะเป็นภาษาหลัก ๆ ตลาดรองรับ ของผมนี่ทำ บ. เก่า ต้องไปแกะโปรแกรม (แบบไม่มี Source code) และ Data จากที่เขียนด้วยภาษาเก่า ๆ ต้องเรียนภาษานั้นด้วย ลากยาวเลย.. ตอนนี้ออกมาทำเอง ต้องย้อนกลับไป Update ภาษาหลัก ที่เค้าใช้กันครับ เพราะไม่งั้นรับงานลำบาก เป็นเคสประสบการณ์นะครับ