เห็นมีหลายๆท่านงงๆเรื่องการลดหย่อนภาษีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่พึ่งออกมา เลยขอเขียนกระทู้นี้ไว้หน่อยครับ เผื่อจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้นครับ

การคำนวนภาษีของผู้มีรายได้เนี่ย จะมีวิธีคิดง่ายๆคือ
1. เอารายได้ตลอดทั้งปี ทุกอย่างมารวมกันก่อน
2. จากนั้นหักรายการลดหย่อนทั้งหมดออกไป
3. จากนั้นคำนวนภาษีในแต่ละช่วง

ซึ่งรายการลดหย่อนภาษีมีทั้งหมดดังนี้


Credit Click!

และในส่วนของฐานภาษีที่ใช้คำนวนมีดังนี้


Credit Click!

ผมยกตัวอย่างเช่น นายโซโลมีเงินเดือน 60,000 บาท แต่งงานแล้ว ภรรยาไม่ได้ประกอบอาชีพ มีบุตร 1 คน จ่ายดอกเบี้ยผ่อนบ้านปีนี้ไป 50,000 บาท

ขั้นตอนที่ 1.
รายได้รวมทั้งปีของนายโซโลอยู่ที่ 60000 x 12 = 720,000

ขั้นตอนที่ 2 หักรายการลดหย่อน
- หักค่าใช้จ่าย 40% แต่ไม่เกิน 60,000
- หักลดหย่อนค่าใช้จ่ายส่วนตัว 30,000
- หักลดหย่อนคู่สมรสไม่มีรายได้ 30,000
- มีบุตร 1 คน 15,000
- หักดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 50,000
= หักลดหย่อนได้ทั้งสิ้น 185,000 บาท ทำให้เหลือรายได้ที่นำมาคำนวนภาษี 720,000 - 185,000 = 535,000

ขั้นตอนที่ 3 คำนวนภาษีในแต่ละฐาน
- ช่วงที่ 1 รายได้ 0 - 150,000 แรกไม่เสียภาษี
- ช่วงที่ 2 รายได้ 150,001 - 300,000 เสียภาษี 5% = 7500 บาท
- ช่วงที่ 3 รายได้ 300,001 - 500,000 เสียภาษี 10% = 20,000 บาท
- ช่วงที่ 4 รายได้ 500,001 - 750,000 เสียภาษี 15% ซึ่งนายโซโลจะเสียภาษี = (535,000 - 500,000) * 0.15 = 5,250
- รวมแล้วนายโซโลเสียภาษีทั้งสิ้น 7,500 + 20,000 + 5,250 = 32,750 บาท

ทีนี้ถ้านายโซโลเลือกซื้อของตามมาตรการ 15,000 จะได้ลดภาษีเท่าไร?

คำตอบคือนายโซโลก็จะมีรายการลดหย่อนเพิ่มเติมมาอีก 1 รายการจำนวน 15000 บาท ทำให้เหลือรายได้ที่นำมาคำนวนภาษี 535,000 - 15,000 = 520,000 ซึ่งในส่วนของภาษี 3 ฐานแรกจะยังคงเสียภาษีเท่าเดิม และในส่วนฐานภาษีที่ 4 จะต้องเสียภาษี = (520,000 - 500,000) * 0.15 = 3,000

สรุปแล้วนายโซโลจะเสียภาษีทั้งสิ้น 7,500 + 20,000 + 3,000 = 30500 บาท หรือประหยัดภาษีไป 2250 บาท

เพิ่มเติม คนที่มีรายได้ไม่เกินเท่าไรถึงไม่ต้องเสียภาษี

คำตอบคือคนที่มีรายได้สุทธิหลังหักค่าลดหย่อนแล้วไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้น หรือถ้าคิดในแง่ของคนทำงานทั่วๆไปที่ไม่ได้มีรายการลดหย่อนอย่างอื่นนอกจากหักค่าใช้จ่าย 40% (60,000) และค่าใช้จ่ายส่วนตัว (30,000) ก็คือคนที่มีเงินเดือนไม่เกิน (150,000 + 60,000 + 30,000) / 12 = 20,000 บาท

แต่!!! ถึงจะไม่ต้องเสียภาษีก็ตาม ยังไงคุณก็ต้องยื่นแบบแสดงรายการนะครับ ซึ่งการยื่นแบบออนไลน์เดี๋ยวนี้ทำได้ง่ายมาก รายละเอียดลองอ่านเว็บสรรพากรดูนะครับ www.rd.go.th

ยัง งงๆ วิธีคำนวนภาษีอยู่เลย

ลอง Google คีย์เวิร์ดว่า "คำนวนภาษี" หรือไม่ก็ลองคลิกลิ้งค์นี้ครับ

การคำนวนภาษีเบื้องต้น (ธนาคารกรุงศรี)
---------------------------------------------------------------------------
น้อมรับคำติชมแก้ไขครับ และถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะครับ



ปล. จุดประสงค์คือจะบอกว่าที่รัฐบาลลด 15,000 ไม่ได้แปลว่าได้คืนทันที 15,000 นะฮะ ต้องไปคำนวนกันก่อน

ขอบคุณมากครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังคำนวณไม่ค่อยจะเป็นเลย

ขั้นตอนที่ 1 แก้สูตรให้เป็น 60,000 นิดนึงครับ

เข้าเว็บ itax ช่วยได้เยอะนะ ไม่ต้องปวดหัว

ในสลิปผมเดือนธันวา บอกว่า ภาษีสะสมทั้งปี 14,000 อย่างนี้ ถ้าผมซื้อของ14,000 ผมเอามาลดหย่อนทั้งหมดได้มั้ยครับ หรือต้องคำนวนใหม่อยู่ดี ขอบคุณมากครับ

คือเอาง่ายๆเลย คนจะได้ลดเต็มหมื่นห้าก็ต้องคนรวยอยู่แล้วอ่ะ

ผมว่าจุดประสงค์หลักไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจหรอก

แต่หวังจะได้เรียกเก็บภาษีจากร้านได้ครบตามจริงมากขึ้นมากกว่า เพราะมีคนเอาใบเสร็จมายื่นให้รัฐบาลดู

ปวดหัวจริงๆเรื่องภาษี

ถ้าทำงานอยู่ต่างประเทศเกิน 180วันต้องเสียภาษีไหมคับ

ภาษีที่แสดงในสลิป คือภาษีที่ท่านจ่ายไปล่วงหน้าแล้ว ท่านต้องนำเงินได้ทั้งปีมาคำนวนภาษี ซึ่งอาจจะได้คืน หรือเสียเพิ่มก็แล้วแต่รายได้ของท่าน ว่ามีลดหย่อนมากน้อยแค่ไหน

เสียภาษีก็บ่น เขาลดหย่อนให้ก็บ่น จะเอาไง

ถ้า 14000 ก็น่าจะไปตกฐาน 10% ถ้าไม่ได้มีลดหย่อนอื่นๆ เมื่อซื้อของ 15000 จะลดภาษีได้ 1500 บาทครับ

ขอบคุณมากๆฮะ ตอนแรกผมคิด 35,000 แล้วแก้เป็น 60,000 แต่ลืมแก้ตรงนี้

ต้องคำนวนใหม่ฮะ