ปี 1983
Bill Gates ได้ออกจาก Harvard ขณะที่ยังเรียนอยู่ ปี 2
เพื่อมาบริหารบริษัท Micro Computer and software
หรือเป็นที่รู้จักกันภายหลัง คือ
Microsoft นั่นเอง
ปีนั้นเอง MS-DOS ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจนเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
และเป็นจุดกำเนิดให้เกิดการพัฒนาต่อมาจนเป็น Windows
-------------------------------------------------------------------------
ปี 1985 - Microsoft Windows 1.0
การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบ Windows ที่พัฒนาต่อมาก MS-DOS
แต่ถือเป็นเพียงเปลือกของ DOS เท่านั้น
ซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่ มุ่งไปที่ตารางนัดหมาย สมุดบันทึก และทำงานผ่านระบบ GUI [Graphic User Interface] เป็นครั้งแรก
แรกเริ่มถูกเรียกว่า "Interface Manager"
แต่สุดท้ายทางไมโครซอฟท์ก็เลือกที่จะใช้ชื่อ Windows แทน
เนื่องจากเรียกและจดจำได้ง่ายกว่า
----------------------------------------------------------------------------
ปี 1987 – Microsoft Windows 2.0
ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจากเดิม
ส่วนมากจะเป็นการเพิ่มสีสันให้กับระบบ GUI ให้สวยงามมากขึ้น
และความสามารถในการพิมพ์ได้ตรงกับที่เห็นบนหน้าจอ
----------------------------------------------------------------------------
ปี 1990 – Microsoft Windows 3.0
Microsoft เริ่มมีการใช้ระบบ VxD [Virtual Device Driver]
ซึ่งเป็น driver ของ Windows
ซึ่งช่วยในการติดต่อเสื่อสารกับอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น
โดยอาศัยระบบการบริหารหน่วยความจำเข้ามาช่วย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในตอนนี้คือ kernel นั่นเอง
ด้วยความสามารถของ VxD ก็เริ่มทำให้ระบบ Virtual Memory ของ Windows ดีขึ้นมากเมื่อทำงานแบบ Multi Tasking
และด้วยเหตุนี้ทำให้ Windows 3.0 ทำยอดได้ถึง 10 ล้านชุดในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น
----------------------------------------------------------------------------
ปี 1993 – Windows NT
เป็นรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้ในกลุ่มองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ระบบปฏิบัติการมีสถาปัตยกรรมโครงสร้างแบบ 32 bit
โดยจุดประสงค์แรกที่ออก NT นั้นก็เพื่อรองรับการทำงานในลักษณะที่เป็น
LAN Server ที่สามารถทำงานร่วมกับ Novell’s Netware ในตลาดเครื่อง server ในขณะนั้น ที่กำลังแข่งกับ Unix
และสถาปัตยกรรม NT นี้เองที่ทำให้เราได้มี Windows 2000, XP, 2003 และ VISTA
----------------------------------------------------------------------------
ปี 1995 – Windows 95
ปีนี้ถือเป็นก้าวเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกครั้งของ Microsoft และ Windows
เพราะมันทำให้ Microsoft กลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไปอย่างไร้ เทียมทาน
โดย Windows 95 ที่ออกแบบมานั้นหน้าจอเป็น interface
ที่ถูกปรับโฉมใหม่หมด รองรับสีแบบ 32 บิต
และรองรับ Multitasking อย่างเต็มรูปแบบ
ไม่มีความเป็นหน้าจอ DOS หลงเหลืออยู่เลย
-------------------------------------------------------------------------
ปี 1998 – Windows 98
เป็นรุ่นที่พัฒนามีให้เหมาะกับการใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน
อินเทอร์เฟซคล้ายกับ Windows 95 แต่มีสีสันมากกว่าเดิม
พร้อมกับการมาครั้งแรกของแถบ Quick Launch
สำหรับเปิดโปรแกรมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิด Start Menu
ได้รับการพัฒนาในเรื่องพอร์ต USB ถือเป็นการเริ่มใช้งานครั้งแรกบน Windows 98
ระบบ Fat32 ที่ทำให้ Windows สนับสนุน Hard Disk ที่มีขนาดมากกว่า 2 GB ได้
นอกจากนั้นยังได้มีการรวมเอา hyper link ของ Internet Explorer
มารวมกับ Windows Explorer กลายเป็น Interface ร่วมกันของทั้งสองระบบ
ตรงนี้เองที่ทำให้ Microsoft โดนศาลยุติธรรมของอเมริกาโดยอ้างว่า
การกระทำดังกล่าวไม่ยุติธรรมต่อบริษัทคู่แข่งอื่นๆ อย่าง Netscape
ซึ่งตอนนั้นถือเป็นเจ้าตลาด browser อยู่
----------------------------------------------------------------------------
ปี 2000 – Windows 2000 Professional
Windows 2000 หรือ Windows NT 5.0
แทบจะเรียกได้ว่าเป็น Windows ที่ดีที่สุดของระบบปฏิบัติการ Windows เลยที่เดียวก็ว่าได้
Windows 2000 ถูกใช้อย่างแพร่หลายในฐานะเครื่อง workstation และ Server จนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นของ Windows 2000 คือ มีความเสถียรสูงมาก
การเขียนโปรแกรมเพื่อรองรับ application ต่างๆก็ทำได้ค่อนข้างง่าย
Windows 2000 จึงเป็นที่ชื่นชอบของ Web developers
--------------------------------------------------------------------------------
ปี 2000 (เดือนกันยายน) – Windows Me
ถูกส่งมาทำตลาดในระดับ User ทั่วไป โดยคำว่า ME
ย่อมาจากคำว่า Millennium Edition
หลังออกมาได้ไม่นานสิ่งที่ตามมาคือ บั๊กขนาดใหญ่ที่ทำเอาระบบล่มบ่อยๆ
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Windows ME คือ ระบบ System restore
ซึ่งทำให้สามารถย้อนเวลากลับไปก่อนหน้าที่ต้องการได้
--------------------------------------------------------------------------------------
ปี 2001 – Windows XP
เป็น Windows รุ่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด
เนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด
ปุ่ม Start สีเขียว Taskbar สีฟ้าสดใส
พร้อมทั้งระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย สามารถอัพเดทตัวเองได้
มีโปรแกรมรองรับมาก
---------------------------------------------------------------------------------------
ปี 2007 – Windows Vista
อินเทอร์เฟซที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเน้นไปที่หน้าต่างแบบกึ่งโปร่งใส
มองเห็นทะลุได้ ดูคล้ายกระจก
และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงผลแบบ 3D
ปุ่ม Start ถูกเป็นเปลี่ยนลูกแก้วโลโก้ Windows
สิ่งที่ Microsoft มุ่งเน้นมากคือความปลอดภัย
โดยการประกาศท้าทายเหล่า Hacker
ให้เจาะระบบของ Windows vista กันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีการจ้าง Hacker มาตรวจสอบ source code ทั้งหมด
เพื่อหาช่องโหว่ที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ
-------------------------------------------------------------------------------------
ปี 2009 - Windows 7
รองรับการใช้งานแบบระบบสัมผัสหน้าจอ
พร้อมทั้งการมาของ Taskbar รูปแบบใหม่
ที่แสดงเป็นไอคอนโปรแกรมขนาดใหญ่กว่าเดิม
สามารถปักหมุดโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำไว้บน Taskbar ได้
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
และทำให้ผู้ใช้ Windows XP หลายคนตัดสินใจที่จะอัพเกรดมาใช้ Windows 7
----------------------------------------------------------------------------------------
ปี 2012 - Windows 8
อินเทอร์เฟซถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียบสไตล์ Metro
ปุ่ม Start และ Start Menu หายไป แทนที่ด้วย Start Screen แบบเต็มจอ
การใช้งานถูกแบ่งออกเป็นโหมด Desktop ปกติเหมือน Windows รุ่นก่อน ๆ
กับโหมด Metro สำหรับใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Windows Store แบบเต็มจอ
รองรับการใช้งานระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ
โดยในปี 2013 ไมโครซอฟท์ได้ออก Windows 8.1
ที่นำปุ่ม Start กลับมา พร้อมทั้งปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย
-------------------------------------------------------------------------------
Credit :
http://atcloud.com/stories/47018
http://men.kapook.com/view100198.html
ผิดพลาดประการใดผู้เขียนกระทู้นี้ ขออภัยล่วงหน้าครับ