จากบทความของ Andy Hunter คอลัมนิสต์เว็บไซต์ the guadian กล่าวถึง จอร์แดน ไอบ์ แข้งใหม่หงส์แดงในหัวข้อ “Liverpool’s Jordon Ibe has pace, power and ‘football brain’ to succeed” ประมาณว่า “เจ้าหนูไอบ์ เด็กหงส์ผู้มาพร้อมความเร็ว พละกำลัง และกึ๋นฟุตบอล ที่พร้อมแจ้งเกิด” แค่หัวเรื่องก็ตื่นใจแล้วกะเลยแปลบทความคร่าว ๆ มาลงแชร์แฟนหงส์อ่านกัน ใครแพ้ตัวหนังสือแนะนำให้ผ่านไป และถ้าใครอยากอ่านต้นฉบับตามลิงค์ข้างล่างบทความไปได้เลย

ลิเวอร์พูลซื้อ จอร์แดน ไอบ์ จาก ไวคอม วันเดอเรอร์ มาในราคา 5 แสนปอนด์ ในปี 2011 และปล่อยยืมใหกับ เบอมิงแฮม ซิตี้ และ ดาร์บี้ เค้าตี้ ก่อนจะกลับมาลุ้นเป็นผู้เล่นตัวหลัก 11 คนแรกในถิ่นแอนฟิลส์



สตีฟ แม็คราเรน กำลังสนใจบางสิ่งที่มากกว่าเรื่อง มาริโอ บาโลเตลลี่ เปิดซิงประตูแรกของตัวเองให้กับลิเวอร์พูลในคืนวันอังคาร ขณะที่ทีม ดาร์บี้ เค้าตี้ ของเขากะลังเบียดแย่งแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพอยู่กับ บอร์นมัธ สิ่งที่อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษสนใจคือ การสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำชั้นเยี่ยมของลิเวอร์พูลโดยฝีเท้าของ จอร์แดน ไอบ์

เหตุผลหนึ่งที่ ไอบ์ ถูกส่งให้ทีมดาร์บี้ เค้าตี้ ของ แม็คลาเร็น ใช้งานในช่วงเปิดซีซั่นก็เพื่อเร่งรัดพัฒนาการ ทั้งเรื่องการเล่นเป็นทีมและพัฒนาการเฉพาะตัวในเรื่องความเร็ว พละกำลัง และ การคอนโทรลบอล และเหตุผลหนึ่งที่ดาวโรจน์วัย 19 ปีถูก แบรนดอน รอดเจอร์ เรียกตัวกลับในเดือนมกราคม เพื่อเสริมทีมแทนที่จะหาซื้อผู้เล่นใหม่ในตลาดนักเตะ เพราะ พัฒนาการที่รวดเร็วในเรื่องการตื่นตัวและทักษะการตัดสินใจ ที่พัฒนาขึ้นในช่วง 24 เกมที่ลงเล่นให้กับทีมของ แม็คลาเร็น โดยบทบาทความสำคัญของ ไอบ์ ถูกตอกย้ำชัดเจนในเกมชิงพื้นที่โควต้าแชมเปี้ยนลีกคืนวันอังคารที่ผ่านมาของลิเวอร์พูล

จังหวะการดึงบอล และ การผ่านบอลด้วยน้ำหนักที่พอเหมาะของ ไอบ์ ทำให้ อดัม ลัลลานา ฉีกแนวรับสเปอร์ก่อนจะครอสบอลไปให้บาโลเตลลี่ซัดโล่ง ๆ นั้นเกิดจากกึ๋นและทักษะการเลี้ยงจี้อันชำนาญของเขา ที่ได้มาจากประสบการณ์ที่เล่นให้กับดาร์บี้ เค้าตี้ ดังแสดงออกมาให้เห็นทั้งในแมตช์กับเอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์

ไอบ์ เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่กูดิสันปาร์คกับเอฟเวอร์ตันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเพียงการได้สัมผัสเกมระดับพรีเมียร์ลีกครั้งที่ 2 ในฐานะนักบอลอาชีพเท่านั้น เขาได้รับบทบาทเป็นตัวสร้างสรรค์เกมในแมตช์สำคัญพาทีมเชือดไก่เดือยทองของ ปอเชตติโน่ ไปด้วยสกอร์ 3-2 ซึ่งในเกมนี้เขาได้ปั้นโอกาสงาม ๆ ให้ แดเนียล สเตอริดจ์ ถึง 3 ครั้ง แต่ถูกปฏิเสธโดยซุปเปอร์เซฟของ ฮูโก้ ยอริส และเสาประตู ก่อนที่ สเตอริดจ์ จะถูก แดนนี่ โรส ทำฟาล์วในเขตโทษส่งให้ เจอราร์ด เข้ารับหน้าที่สังหารจุดโทษเป็นผลสำเร็จ



ดาวรุ่งลิเวอร์พูลแสดงผลงานได้อย่างน่าประทับใจต่อหน้าธารกำนัลชาวกรุง(ลอนดอน) ถูกซื้อตัวจาก ไวค่อม วันเดอเรอร์ ด้วยสนนราคา 5 แสนปอนด์ เมื่อปี 2011 โดยที่ทางสโมสรต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อชิงตัวเจ้าหนูสัญชาติอังกฤษที่ดูจะมีอนาคตไกลผู้นี้ โดยอดีตหัวหน้าแมวมองและผู้อำนวยการอคาเดมี่ของลิเวอร์พูลนาม แฟรงค์ แม็คพาร์แลนด์ ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่นำเข้า ราฮีม สเตอริ่ง จากควีนส์ปาร์คแรนเจอร์ ด้วยค่าตัวเดียวกันในปี 2010 แม็คพาร์แลนด์ ออกจากลิเวอร์พูลเมื่อปี 2013 ปัจจุบันรับตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอลเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งก่อนที่จะได้ตัว ไอบ์ มานั้น แม็คพาร์แลนด์ ต้องแย่งชิงกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการตัวเจ้าหนูเช่นเดียวกัน หลังจากที่ ไอบ์ ลงเล่นให้ไวค่อม ไปเพียง 11 นัด

ไอบ์ กำเนิดหลัง สเตอริ่ง ราวหนึ่งปีพอดี ขณะที่ ความเร็ว การดวลตัวต่อตัว การยืนตำแหน่ง และพัฒนาการของทั้งคู่นั้นแตกต่างกัน สเตอริ่งสามารถเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้เมื่ออายุ 17 ปี ไอบ์ น่าจะได้รับโอกาสเมื่ออายุ 17 ปีเช่นกันทว่า รอดเจอร์ ตัดสินใจส่งเขาไปเล่นให้เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในสัญญายืมตัวซีซั่นก่อน และต่อด้วยดาร์บี้ เค้าตี้ ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ กุนซือลิเวอร์พูลเป็นเพียงบุคคลเดียวที่สามารถอธิบายก้าวย่างต่อไปของเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์ทั้งสองได้

“ถ้าคุณดูที่ระบบการเล่นของเราในปัจจุบัน, จอร์แดน สามารถเล่นได้ 5 ตำแหน่งในแนวรุก – นอกกรอบเขตโทษ หรือในกรอบเขตโทษ หรือแม้แต่เป็นหน้าเป้า นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เราเรียกตัวเขากลับมา” รอดเจอร์ กล่าว “เขามีพรสวรรค์สูง มาพร้อมกับกึ๋นฟุตบอล และเขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง(ใน 5 ตำแหน่งนั้น) ผมคิดว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณจะได้เห็นประจำ ก็คือตัวรุกจากด้านกว้างที่ต้องดวลตัวต่อตัวกับแนวรับของคู่แข่งเสมอ แต่เขาก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง เขาจึงสามารถเล่นได้ทั้งในกรอบนอกกรอบเขตโทษอย่างสบาย”



ความยืดหยุ่นในการยืนตำแหน่งเป็นอีกคุณสมบัติของ ไอบ์ ที่คล้ายคลึงกับ สเตอริ่ง และเป็นสิ่งที่การันตีโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอภายใต้การคุมทีมของ รอดเจอร์ “คุณย่อมต้องการผู้เล่นที่มีความชำนิชำนาญและเก่งกาจที่สุดในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอยู่แล้ว” รอดเจอร์ แถลงไข “แต่ผมก็อยากมีผู้เล่นสัก 3-4 คนที่มีความสามารถรอบด้านที่สามารถเข้าใจกลยุทธในเกม ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนระบบการเล่น และอิสระในเกมหรือในช่วงต้นของเกม แข้งประเภทนี้แหละที่ผมอยากมี”

นักเตะ 5 คนใน 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูลนัดเจอสเปอร์ อายุ 22 ปี หรือต่ำกว่าได้แก่ ไอบ์, ฟิลิป คูตินโญ่, อัลแบร์โต โมเรโน, เอมเร่ ชาน และ ลาซาร์ มาร์โควิช นอกจากนี้ สเตอริจ, จอร์แดน เฮนเดอสัน และ มามาดู ซาโก้ ก็ยังหนุ่มฟ้อด้วยวัย 25, 24 และ 24 ปีตามลำดับ ลิเวอร์พูลมีสถิติการดันเด็กขึ้นชุดใหญ่ก่อนวัย 20 ปีที่แข็งแกร่งมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็น กาเรเกอร์, เจอราร์ด, สเตอลิ่ง, ไม่เคิ่ล โอเว่น และ รอบบี้ ฟาลเลอร์ ท่ามกลางยอดนักเตะเหล่านี้ รอดเจอร์เชื่อว่า ไอบ์ จะไม่น้อยหน้าสตาร์รุ่นพี่

Credit: http://www.theguardian.com/football/blog/2015/feb/12/liverpool-jordon-ibe-succeed

จังหวะลากลุยน่ากลัวสุดๆ น่ากลัวกว่าริ่งตอนแรกอีก

จังหวะยิงยังไม่เห็นชัด เห็นแค่ลูกปั่นชนเสา รอดูต่อไป

เอาใจช่วยให้โหดกว่าริ่ง

ตัวนี้ ขอให้เกิดเถอะ

ลงกะดาร์บี้ไป 24 นัด เอิ่มมม หลังๆพักๆบ้างนะ กลัวจะกรอบ

เห็นด้วย ริ่งแม่งชักเยอะ

นี่ยังไม่นับ แฮรี่ วิลสัน เชยี่ โอโจ้ นะ ถ้าขึ้นมาพร้อมๆกันเมื่อไหร่นะ น่ากลัว

ไม่ได้ติดตามฟอร์มชุดเล็กเลย แต่เด็กพวกนี้หวังได้ขนาดนั้นเลยใช่ไหมครับ

wilson ดูจะเด่นเกินรุ่นเดียวกัน นอนรอเสริมกระดูกอยู่ บีอาไม่ปล่อยผ่านแน่

พัฒนาเรื่องการยิงอีกนิด ไปไกลแน่

นักเตะลิเวอร์พูลมีแต่วัยรุ่นเหรอเนี่ย ใครแก่สุด เจอร์ราด ลูคัส สเคอเทล เท่านี้ใช่ไหมที่ดูมีอายุ

จอนสัน เอนริเก้

วิลสัน รอสิเตอร์ ซินแคลร์

ตัวนี้ผมชอบกว่าริ่งนะ

ไอบ์ดูมาสองนัดนี่เลี้ยงๆแล้วจ่ายไม่ก็เลี้ยงตัดเข้ากลาง

ส่วนริ่งเลี้ยงวนให้ตัวเองจนมุมหลายที เบื่อชิบหาย

จริงๆแล้วอยากเห็นเล่นคู่กะสเตอลิ่งนะ แต่ถ้าลิ่งไม่ต่อสัญญาคาดว่าฤดูกาลหน้าถูกขายแน่ ทีนี้ก็จะเหลือแต่ไอบ์แล้วคับ