ต่อไปนี้คือข้อมูลของไม้ที่โอลิแวนเดอร์นำมาทำไม้กายสิทธิ์ในวรรณกรรมชุด Harry Potter
บทความต่อไปนี้ผมรวบรวมมาจาก หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ + เว็บไซต์ harrypotter.wikia.com และ pottermore
ไม้กายสิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกผู้วิเศษ พ่อมดแม่มดทุกคนต้องมีไม้กายสิทธิ์ประจำตัว ไม่ใช่เพราะว่าคาถาส่วนใหญ่ต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ในการร่าย แต่มันยังถูกใช้ในการปรุงยาและการต่อสู้ป้องกันตัวอีกด้วย แม้แต่การร่ายคาถาไร้เสียงในพ่อมดที่มีทักษะสูงก็ยังต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ในการร่ายคาถา อาจกล่าวได้ว่าไม้กายสิทธิ์ก็เป็นของประจำตัวที่พ่อมดแม่มดขาดไม่ได้
ไม้กายสิทธิ์แต่ละอันมีคุณสมบัติเฉพาะตัวและไม้จะเป็นตัวเลือกพ่อมดแม่มดที่จะเป็นเจ้าของมัน ไม้แต่ละอันทำขึ้นนั้น มีความแตกต่างกันในทุกไม้ ทั้งชนิดของไม้ แกนกลาง ความสามารถในการงอและความยาวของไม้
ดังที่กล่าวแล้วในข้างต้นว่า พ่อมดแต่ละคนจะมีไม้กายสิทธิ์ประจำตัวซึ่งไม้กายสิทธิ์จะเลือกพ่อมดที่จะมาเป็นนายของมัน ดังนั้นหากพ่อมดนำไม้กายสิทธิ์ของคนอื่นมาใช้แน่นอนว่าการใช้งานย่อมมีประสิทธิภาพที่ด้อยว่าไม้ของตนเอง เว้นแต่พ่อมดคนนั้นได้ไม้กายสิทธิ์มาจากการต่อสู้หรือแย่งมันมาจากมือของเจ้าของเดิม ความสวามิภักดิ์ของไม้ก็จะเปลี่ยนจากเจ้าของเดิมไปหาเจ้าของใหม่ แต่ไม้กายสิทธิ์บางไม้ก็ไม่ยอมเปลี่ยนความสวามิภักดิ์ แม้ว่าเจ้าของคนใหม่จะแย่งชิงมันมาจากเจ้าของเดิมก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้นไม้กายสิทธิ์สามารถซึมซับลักษณะนิสัยและความสามารถในการใช้เวทมนตร์ของผู้ใช้ไว้กับตัวมัน ดังนั้นพ่อมดที่มีไม้กายสิทธิ์ซึ่งเป็นไม้ที่ได้รับการสืบทอดมา (อาจได้รับมาจากพ่อ,แม่หรือบรรพบุรุษ) จะใช้ไม้กายสิทธิ์นั้นได้ไม่มีประสิทธิภาพเช่นกัน เนื่องจากไม้ยังคงจำลักษณะและความสามารถในการใช้จากเจ้าของเดิมอยู่ ดังนั้นจึงเกิดเป็นธรรมเนียมการฝังไม้กายสิทธิ์ลงไปในโลงเมื่อพ่อมดแม่มดคนนั้นได้เสียชีวิตลง เพื่อไม่ให้ไม้กายสิทธิ์ต้องเรียนรู้และรับใช้เจ้านายหลายคนจนเกินไป
ชนิดของไม้ที่ใช้ทำไม้กายสิทธิ์
“รายละเอียดต่อไปนี้กล่าวถึงพลังและคุณสมบัติของไม้ที่จะนำมาทำไม้กายสิทธิ์
ซึ่งได้มาจากบันทึกของ การ์ลิก โอลิแวนเดอร์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ
ด้วยประสบการณ์การทำไม้กายสิทธิ์มานานหลายสิบปี”
ไม้กายสิทธิ์ทุกอันมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์วิเศษที่นำมาใช้เป็นแกนกลางของไม้กายสิทธิ์ ไม้แต่ละอันเมื่อเจอเจ้าของที่คู่ควรและเหมาะสมกับมันแล้ว ไม้จะเริ่มเรียนรู้อุปนิสัยของเจ้านายพร้อมกับสอนเจ้านายของมันถึงพลังอำนาจที่มันสามารถทำได้ บันทึกต่อไปนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดของไม้ชนิดต่างๆ ที่ผมมักจะเลือกนำมาใช้ในการสร้างไม้กายสิทธิ์
มีไม้ไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมาทำไม้กายสิทธิ์อันทรงพลังได้ (เช่นเดียวกันกับที่มีมนุษย์ส่วนน้อยที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้) ผมต้องใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีกว่าจะบอกได้ว่าไม้ชนิดไหนเหมาะแก่การทำไม้กายสิทธิ์ และต่อไปนี้คือไม้ชนิดต่างๆที่ผมเห็นว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการศึกษาทางไม้กายสิทธิ์วิทยาและถึงแม้ผมจะทำไม้กายสิทธิ์มาเกือบตลอดชีวิตแต่ผมก็ยังคงจะเรียนรู้ในการทำไม้กายสิทธิ์ต่อไปเรื่อยๆ
1. อาเคเซีย (Acacia)
เป็นไม้ที่แปลกมากทีเดียว ผมคิดว่านี่เป็นไม้ที่ยากต่อการเสกคาถา เว้นแต่ว่ามันจะเจอเจ้าของที่แท้จริง และเป็นไม้ที่จะไม่ยอมให้ใครมาใช้มันได้ง่ายๆ เว้นแต่คนๆนั้นต้องมีพรสวรรค์จริงๆ ไม้ที่อ่อนไหวแบบนี้ยากที่จะรับมือ และผมเก็บไม้ชนิดนี้ไว้บางส่วนสำหรับพ่อมดแม่มดที่มีความละเอียดอ่อนและต้องมีความเข้าอกเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม้อาเคเซียไม่เหมาะสำหรับการเสกคาถาที่ธรรมดาสามัญ แต่ถ้าอยู่ในมือของคนที่เหมาะสมกับมันแล้ว มันจะสามารถเสกคาถาที่ทรงพลังได้ทุกรูปแบบ แม้ว่ามันมักจะถูกมองว่าเป็นไม้ที่แปลกประหลาดเนื่องมาจากความเจ้าอารมณ์ของมันเองก็ตาม
2. ออลดอร์ (Alder)
ออลเดอร์เป็นไม้ที่ค่อนข้างดื้อรั้น แต่กระนั้นผมก็พบว่าคนที่ถือครองไม้ประเภทนี้ไม่ได้หัวแข็งหรือว่ายากแต่อย่างใด พวกเขาล้วนมีนิสัยเกื้อกูล มีน้ำใจและเป็นที่รักของคนทั่วไปมากที่สุด และนี่คือจุดที่แปลกจุดหนึ่งของไม้ชนิดนี้ ไม้ชนิดอื่นมักจะมองหาเจ้าของที่มีบุคลิกลักษณะที่คล้ายกับมัน แต่ไม้ออลเดอร์กลับเลือกเจ้าของที่มีบุคลิกแตกต่างจากตัวของมัน ถ้าไม้ออลเดอร์มีความสุขกับเจ้าของแล้วล่ะก็มันจะเป็นไม้ที่ซื่อสัตย์และทรงพลังมากกว่าไม้ชนิดอื่นๆ ไม้ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเสกคาถาไร้เสียง เพราะเหตุนี้เองจึงเป็นไม้ที่เหมาะกับพ่อมดแม่มดที่มีพลังและทักษะทางเวทมนตร์สูง
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ : ควิรินัส ควีเรลล์ (ยาว 9 นิ้ว แกนขนยูนิคอร์น บิดงอได้)
3. แอบเปิ้ล (Apple)
ไม้แอบเปิ้ลไม่ค่อยถูกนำมาทำเป็นไม้กายสิทธิ์บ่อยนัก ทั้งในความจริงมันเป็นไม้ที่มีพลังอำนาจมากและเหมาะสำหรับพ่อมดแม่มดที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นสูงและไม้ชนิดนี้ยังผสมไปด้วยอำนาจของศาสตร์มืดเล็กน้อย กล่าวกันว่าผู้ที่ครอบครองไม้แอบเปิ้ลมักจะเป็นผู้ที่จงรักภักดีและมีชีวิตที่ยืนยาว ผมสังเกตบ่อยๆว่าลูกค้าที่มีเสน่ห์ส่วนตัวมักจะเป็นนายของไม้แอบเปิ้ลอยู่เสมอ หรือพ่อมดที่มีความสามารถไม่ธรรมดาในการสนทนากับสิ่งมีชีวิตวิเศษอื่นๆ ด้วยภาษาประจำถิ่นของสิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นก็มักจะเป็นเจ้าของไม้แอบเปิ้ลด้วย รวมไปถึงพ่อมด ไดแลนด์ มาร์กวู้ก ผู้เขียนหนังสือ ชาวเงือก:คู่มือสรุปภาษาและขนบธรรมเนียม
4. แอช (Ash) -- ต้นมะกอก
ไม้แอชขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ต่อนายที่แท้จริงของมันและเจ้านายก็ไม่ควรที่จะส่งต่อไม้นี้ให้กับพ่อมดแม่มดคนอื่นใช้งาน เพราะไม้จะสูญเสียพลังอำนาจและทักษะไปจนหมด ไม้นี้สามารถโอนอ่อนได้ง่ายหากแกนกลางของมันเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งที่มาจากยูนิคอร์น แต่ความเชื่อเก่าแก่พวกนี้ก็ไม่ค่อยเป็นที่ประจักษ์ชัดเท่าใดนัก ซึ่งเป็นความเชื่อที่มักกล่าวเป็นวลีซึ่งผมมักจะได้ยินจนติดหูเกี่ยวกับไม้โรวัน,เกาลัด,แอชและฮาเซิลที่ว่า
“โรวันชอบซุบซิบ เกาลัดชอบคุย แอชดื้อด้าน ฮาเซลครวญคราง”
จากประสบการณ์ ผมพบว่าความเชื่อดังกล่าวนี้มีความเป็นจริงปะปนอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง พ่อมดแม่มดที่เหมาะกับไม้แอชจะต้องมีความมั่นคงต่อสิ่งที่เขายึดมั่นเชื่อถือ แต่อย่างไรก็ตามพ่อมดแม่มดที่หุนหันพลันแล่นหรือมั่นใจในตัวเองมากเกินไปมักจะเรียกร้องให้ไม้กายสิทธิ์นั้นรับใช้พวกเขาอย่างถึงที่สุด แต่พวกเขาก็มักจะต้องพบกับความผิดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาอยู่เสมอ เจ้าของในอุดมคติของไม้แอชอาจเป็นคนที่หัวรั้นเล็กน้อยและแน่นอนว่าต้องเป็นคนกล้าหาญ แต่ต้องไม่แสดงอารมณ์ที่หยาบคายหรือหยิ่งยโสออกมา
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ : รอน วีสลีย์ (ยาว 12 นิ้ว แกนขนยูนิคอร์น)
เซดริก ดิกกอรี่ (ยาว 12 เศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว แกนขนยูนิคอร์น)
5. แอสเพน (Aspen)
ไม้แอสเพนคือไม้ที่มีคุณภาพ ลักษณะเด่นคือเป็นไม้สีขาวที่จะถูกนำมาทำไม้กายสิทธิ์อย่างประณีต ดังนั้นราคาของไม้ชนิดนี้จึงค่อนข้างสูงเนื่องจากสีที่เหมือนกับงาช้างของมัน ส่วนใหญ่แล้วช่างทำไม้กายสิทธิ์พบว่านี่เป็นงานที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลมาก เจ้าของที่เหมาะสมสำหรับไม้แอสเพนมักจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านการประลองหรือคนที่ถูกโชคชะตาลิขิตว่าต้องพบเจอกับการต่อสู้ในอนาคต ฉะนั้นแอสเพนจึงเป็นไม้ที่เหมาะแก่การต่อสู้เป็นอย่างยิ่ง ชมรมการประลองเวทซึ่งเป็นชมรมลับแห่งหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 18 ประกาศว่าพวกเขาจะยอมรับพ่อมดแม่มดที่ใช้ไม้กายสิทธิ์ซึ่งทำจากไม้แอสเพนเท่านั้น จากประสบการณ์ของผม ไม้แอสเพนมักจะเป็นพวกที่มีจิตใจมั่นคงและแน่วแน่มากและจะไม่ถูกชักจูงหรือเบี่ยงเบนความสนใจออกไปได้ง่ายๆ อาจเรียกได้ว่าไม้แอสเพนนี้คือไม้แห่งการปฏิวัติ
6. บีช (Beech)
คนที่เหมาะสมกับไม้บีชนั้น หากเป็นพ่อมดเด็ก เด็กคนนั้นก็จะฉลาดกว่าคนในวัยเดียวกันและหากเป็นผู้ใหญ่ก็จะเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเชาวน์ปัญญาและประสบการณ์ ไม้บีชนั้นจะใช้งานได้แย่มากกับคนที่มีจิตใจคับแคบและเต็มไปด้วยทิฐิ เช่นพ่อมดแม่มดที่ดันทุรังใช้ไม้บีชเป็นไม้กายสิทธิ์ทั้งๆที่ไม่มีความเหมาะสมกับมันเลยแม้แต่น้อย ไม้บีชเหมาะแก่ผู้ที่จะศึกษาทางด้านไม้กายสิทธิ์วิทยา ยกตัวอย่างเช่นตัวผมเอง ไม้บีชจะแสดงถึงความละเอียดอ่อนและความสามารถในเชิงศิลปะ ซึ่งคุณสมบัติเฉพาะตัวนี้จะพบได้ยากมากในไม้ชนิดอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองมันจึงมีชื่อเสียงอย่างรุ่งโรจน์ในสายงานทางด้านนี้
7. แบล็กทอร์น (Blackthorn)
แบล็กทอร์นเป็นไม้ที่ประหลาดมากและมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่พอสมควร ในมุมมองของผมมันเหมาะกับพวกนักรบมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่เหมาะสมกับไม้แบล็กทอร์นต้องเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดเสมอไป (แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดส่วนใหญ่นั้นใช้ไม้แบล็กทอร์นในการร่ายคาถาอันน่ากลัว) คุณสามารถพบเห็นคนถือไม้แบล็กทอร์นได้ในกลุ่มมือปราบมารรวมไปถึงพวกที่อยู่ในคุกอัซคาบันด้วย มีบางสิ่งที่น่าพิศวงเกี่ยวกับไม้พุ่มแบล็กทอร์นนี้นอกจากหนามแหลมของมัน เมื่อฤดูหนาวอันหนาวเย็นซึ่งทำให้ต้นแบล็กทอร์นกลายเป็นน้ำแข็งได้ผ่านพ้นไป แบล็กทอร์นจะให้ผลเบอรี่ที่มีรสหวานมากๆ ออกมา ไม้แบล็กทอร์นก็เช่นกัน มันจะต้องผ่านการผจญภัยและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับเจ้านายของมัน เพื่อการเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างแท้จริง และหลังจากนั้นแล้วแบล็กทอร์นจะกลายเป็นไม้ที่จงรักภักดีต่อเจ้าของโดยเปรียบเสมือนทาสรับใช้ของเขาหรือเธอผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป
มีตำนานเล่ากันว่าไม้กายสิทธิ์ของ เซอร์ คาโดแกน ก็เป็นไม้แบล็กทอร์น แต่ค่อนข้างพิศดารเพราะแกนกลางไม้กายสิทธิ์ของเขาเป็นหนวดโทรลล์
8. วอลนัตสีดำ (Black Walnut)
เป็นไม้ที่ไม่ธรรมดาที่สุดในบรรดากลุ่มไม้วอลนัตด้วยกัน ไม้วอลนัตสีดำจะเลือกอยู่กับเจ้านายที่ทรงพลังและมีสัญชาตญาณดีเยี่ยม มันเป็นไม้ที่งดงามมากเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ง่ายดายนักถ้าคุณพยายามจะควบคุมมัน ไม้ชนิดนี้จะสูญเสียพลังอำนาจไปอย่างง่ายดายหากเจ้าของที่ถือมัน มีการฝืนใช้คาถาในรูปแบบที่ขัดแย้งกับตัวเจ้าของเอง ถ้าพ่อมดแม่มดคนใดไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองหรือกับคนอื่น ไม้วอลนัตสีดำจะไม่แสดงพลังอำนาจอะไรอีกแม้เพียงเล็กน้อยก็ตามและมันจะแสวงหาเจ้านายคนใหม่ทันทีเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม การจับคู่ระหว่างพ่อมดแม่มดกับไม้ชนิดนี้ต้องอาศัยความจริงใจและความเข้าใจในตัวของคนถือไม้อย่างชัดเจน ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วไม้วอลนัตสีดำก็จะเป็นไม้ที่ภักดีและมีพรสวรรค์ที่น่าประทับใจแสดงออกมาจากตัวตนของมัน
9. ซีดาร์ (Cedar)
ทุกครั้งที่ผมเจอพ่อมดที่ถือไม้ซีดาร์ พวกเขามักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความจงรักภักดีที่ไม่ธรรมดา คุณพ่อของผม เกอร์เวียส โอลิแวนเดอร์ มักจะพูดอยู่เสมอว่า “ลูกจะไม่มีวันหลอกลวงผู้ที่ถือไม้ซีดาร์ได้” ซึ่งตัวผมเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนี้ ไม้ซีดาร์จะรับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบที่มันจะได้รับ ซึ่งต้องเต็มไปด้วยความหลักแหลมและการหยั่งรู้ ผมสามารถบอกได้เต็มปากว่าไม่เคยมีเจ้าของไม้ซีดาร์คนใดเลยที่ผมกล้ามีเรื่องด้วย โดยเฉพาะการหาเรื่องหรือทำร้ายคนที่พวกเขารัก พ่อมดแม่มดที่ถือไม้ซีดาร์ล้วนแต่มีศักยภาพและเป็นศัตรูที่น่ากลัวและมักจะทำให้คนที่ไปท้าดวลกับพวกเขาต้องเกิดความหวาดกลัวอยู่เสมอ
10. เชอรี่ (Cherry)
ไม้เชอรี่เป็นไม้กายสิทธิ์หายาก เป็นไม้ที่ให้พลังแปลกประหลาดและเป็นไม้ชั้นยอดของนักเรียนพ่อมดแม่มดประจำโรงเรียนมาโฮโทโคโระที่ประเทศญี่ปุ่น ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของไม้เชอรี่จะเป็นคนที่น่าเคารพนับถือเป็นพิเศษ ผู้ซื้อไม้กายสิทธิ์ทางฝั่งตะวันตกควรจะล้มเลิกความคิดโง่ๆที่ว่าดอกสีชมพูบนต้นไม้ชนิดนี้มันไม่น่าสนใจและคิดว่าไม้เชอรี่มีไว้สำหรับงานตกแต่งเพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้วไม้เชอรี่มีพลังอำนาจร้ายแรงอย่างแท้จริง ไม่ว่าแกนกลางของมันจะเป็นอะไรก็ตาม แต่มันจะทำงานได้ดีเยี่ยมหากแกนกลางคือเอ็นหัวใจมังกร ไม้เชอรี่ไม่เหมาะกับพ่อมดแม่มดที่ไม่สามารถควบคุมตนเองและขาดความหนักแน่น
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ : กิลเดอรอยด์ ล็อกฮาร์ต (ยาว 9 นิ้ว แกนเอ็นหัวใจมังกร งอได้เล็กน้อย)
เนวิลล์ ลองบัตท่อม (ยาว 13 นิ้ว แกนขนยูนิคอร์น) : ไม้นี้เป็นไม้สุดท้ายที่โอลิแวนเดอร์ขายออกไป ก่อนที่เขาจะหายตัวไปในปีค.ศ. 1996
11. เกาลัด (Chestnut)
นี่เป็นไม้ที่แปลกมาก มันมีพลังอำนาจหลายรูปแบบซึ่งขึ้นอยู่กับแกนกลางที่ใช้รวมทั้งบุคลิกของคนที่ถือครองมัน ไม้เกาลัดจะดึงดูดพ่อมดแม่มดที่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนสัตว์วิเศษให้เชื่อง รวมทั้งพ่อมดแม่มดที่เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรศาสตร์ แต่เมื่อมันจับคู่กับเอ็นหัวใจมังกรกลับพบว่ามันเหมาะกับคนที่นิยมในความหรูหราและวัตถุนิยม ซึ่งพวกเขาไม่สนใจว่าจะได้มันมาด้วยวิธีการไหน ในขณะที่หัวหน้าศาลสูงวิเซนต์กาม็อตสามคนเรียงตามลำดับที่ถือครองไม้เกาลัดและแกนกลางเป็นขนหางยูนิคอร์น กลับแสดงออกถือความรักในวิถีแห่งความยุติธรรม
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ :
ซิลเวนัส แคทเทิลเบิร์น (ยาว 11 เศษหนึ่งส่วนสองนิ้ว แกนขนนกฟีนิกซ์ บิดงอได้เหมือนแส้) อาจารย์สอนวิชาการดูแลสัตว์วิเศษ เขาขอเกษียณตัวเองไปในปี ค.ศ.1993
ปีเตอร์ เพ็ตตริกรูว์ (ยาว 9 เศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว แกนเอ็นหัวใจมังกร บิดงอได้ยาก) -- ไม้นี้โอลิแวนเดอร์ทำให้เพ็ตตริกรูว์หลังจากที่เขาหายตัวไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 และมันถูกแย่งไปโดยรอน วีสลีย์ จากการต่อสู้ที่คฤหาสน์มัลฟอย
12. ไซเปรส (Cypress) -- ต้นสนฮิโนกิ
ไม้ไซเปรสโดยมากเชื่อมโยงกับคนในสังคมชั้นสูง ช่างทำไม้กายสิทธิ์ในยุคกลาง เกอเรียนต์ โอลิแวนเดอร์ ได้เขียนเอาไว้ว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอยู่เสมอเมื่อได้ขายไม้ไซเปรสออกไป เพราะเขากำลังจะได้พบกับพ่อมดแม่มดที่พร้อมยอมตายอย่างห้าวหาญเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ โชคดีที่ยุคนี้เป็นยุคที่การนองเลือดน้อยลง ผู้ถือไม้ไซเปรสจึงแทบไม่ต้องเสี่ยงเพื่อสละชีวิตของตนเอง ถึงกระนั้นก็อาจยังมีคนที่พร้อมจะยอมทำอยู่ดีและไม้ชนิดนี้ก็ยินดีที่พร้อมจะรับใช้ ไม้ไซเปรสเหมาะกับพ่อมดแม่มดที่กล้าหาญ บ้าบิ่นและเสียสละ พวกเขาไม่กลัวแม้กระทั่งจะต้องกับเผชิญด้านมืดทั้งของตนเองและผู้อื่น
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ :
รีมัส ลูปิน (ยาว 10 เศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว แกนขนยูนิคอร์น ยืดหยุ่นง่าย)
13. ด็อกวู้ด (Dogwood) -- หมาไม้
ด็อกวู้ดเป็นไม้โปรดของผมเลย ผมพบว่าเจ้าของไม้ด็อกวู้ดเป็นคนที่เฮฮาและมีอารมณ์ขันมากเพราะไม้ด็อกวู้ดก็เป็นไม้ขี้เล่น สำบัดสำนวนและซุกซน เป็นอุปนิสัยของมันโดยธรรมชาติ และมันยืนยันที่จะเลือกเจ้านายที่ยอมให้พวกมันได้สัมผัสกับความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ฟังดูแปลกพิลึกใช่ไหม? แต่เมื่อหาบทสรุปเกี่ยวกับไม้ชนิดนี้ผมพบว่ามันไม่สามารถแสดงอำนาจต่อเวทมนตร์ที่ทรงพลังได้เลยหากถูกบีบบังคับให้ต้องเสกออกมาภายใต้สภาวะที่กดดัน แต่เมื่อไม้นี้จับคู่กับพ่อมดที่ฉลาดหลักแหลมและเจ้าความคิด มันกลับสามารถร่ายคาถาที่น่าพิศวงออกมาได้มากมาย ข้อบกพร่องเล็กน้อยอีกอย่างคือไม้ด็อกวู้ดนี้ไม่สามารถเสกคาถาไร้เสียงได้ มันชอบที่จะให้มีการร่ายคาถาออกมาดังๆมากกว่า
14. มะเกลือ (Ebony)
ไม้สีดำสนิทชนิดนี้มีลักษณะที่น่าประทับใจ มันมีชื่อเสียงมากในการร่ายคาถาเพื่อการต่อสู้ทั้งมวลและรวมถึงการแปลงร่างด้วย ไม้มะเกลือจะมีความสุขอย่างที่สุดเมื่อมันอยู่ในมือของผู้ที่กล้าจะเป็นตัวของตัวเอง มันมักจะไม่คล้อยตามคนถืออื่นๆที่ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง เรียกได้ว่ามันมีความเป็นส่วนตัวสูง เจ้าของไม้มะเกลือนี้มักจะพบเห็นได้ในกลุ่มภาคีนกฟีนิกซ์และผู้เสพความตาย จากประสบการณ์ของผมไม้มะเกลือเหมาะกับผู้ที่ยึดมั่นในความเชื่อของตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะโดนกดดันมากเพียงใดก็ตามแต่เจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่ยึดถือไว้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
15. เอลเดอร์ (Elder)
ไม้ที่หายากที่สุดในบรรดาไม้ทั้งหมด ชื่อเสียงโดยรวมของมันมาจากความโชคร้าย ไม้เอลเดอร์เป็นไม้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมต่อเจ้านายของมันเองมากกว่าไม้อื่นๆ มันบรรจุพลังที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ภายในแต่รังเกียจที่จะอยู่กับเจ้าของที่ปราศจากความพิเศษหรือเลิศเลอ การจะถือครองไม้เอลเดอร์ได้เป็นเวลานานได้ คนๆนั้นจะต้องเป็นพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว
ความเชื่อเก่าๆที่ว่า “ไม้เอลเดอร์ไม่มีวันเลิศเลอ” คือสิ่งที่ทำให้ไม้เอลเดอร์เป็นไม้ที่น่ากลัว แต่ในความเป็นจริงความเชื่อนี้ผิดมหันต์และบรรดาช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่โง่เขลาจำนวนมากมักปฏิเสธที่จะทำงานกับไม้เอลเดอร์ เพียงเพราะพวกเขาแค่ต้องการจะขายไม้กายสิทธิ์ของตนเองต่อไปมากกว่าจะมาคลุกคลีอยู่กับไม้เอลเดอร์ที่เล่าต่อกันมาว่าน่ากลัว
ความจริงก็คือ คนที่มีความแปลกและไม่ธรรมดากว่าคนอื่นเท่านั้นที่จะได้จับคู่กับไม้เอลเดอร์ นั่นก็คือมีโอกาสน้อยมากที่ไม้นี้จะได้จับคู่กับพ่อมดแม่มดคนใดคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าหากใครได้เป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์แสดงว่าคนๆนั้นได้ถูกกำหนดโชคชะตามาแล้วว่าให้มีอะไรที่พิเศษแตกต่างไปจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ :
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ (ยาว 15 นิ้ว แกนขนหางเธสตรอล) : นี่คือไม้เอลเดอร์ในตำนานจากนิทานของบีเดิลยอดกวี เรื่อง นิทานสามพี่น้อง
หมายเหตุ : สิ่งของทั้งสามชิ้นในนิทานสามพี่น้อง หนึ่งในนั้นคือ ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ที่พี่ชายคนโต แอนติโอก เพฟเวอเรลล์ เป็นผู้ครอบครองคนแรก และมันถูกเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆจากการต่อสู้ของพ่อมดในแต่ละช่วงเวลา นี่จึงเป็นไม้กายสิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกเนื่องจากทุกครั้งที่มันเปลี่ยนมือไปยังเจ้าของคนใหม่ มันได้ซึมซับพลังและประสบการณ์เอาไว้อย่างมากมาย
16. เอล์ม (Elm)
มีความเชื่อที่ไร้สาระว่า “พ่อมดแม่มดสายเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะได้ถือครองไม้เอลม์” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ปล่อยข่าวลือนี้คือพ่อมดที่ครอบครองไม้เอลม์ซึ่งกำลังพยายามหาข้อพิสูจน์ถึงสายเลือดของตนเอง เท่าที่ผมรู้ไม้เอลม์นั้นเหมาะกับพ่อมดแม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ลเป็นที่สุด ความเป็นจริงคือไม้เอลม์ชอบเจ้าของที่ดูมีความเชี่ยวชาญสูงในด้านของเวทมนตร์และเคารพชาติกำเนิดของตนเอง จากประสบการณ์ของผม ในบรรดาไม้ทั้งหมด ไม้เอลม์เป็นไม้ที่เกิดอุบัติเหตุและความผิดพลาดน้อยที่สุด อีกทั้งยังร่ายคาถาได้งดงามที่สุดด้วย ไม้เอลม์มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้โดยมือขวา (จากคุณสมบัติดังกล่าวนี้ทำให้ไม้เอลม์เป็นที่ต้องการในกลุ่มพ่อมดสายเลือดบริสุทธิ์)
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้
ลูเซียส มัลฟอย (ยาว 18 นิ้ว แกนเอ็นหัวใจมังกร ไม่ยอมงอ)
17. โอ๊ก (English Oak)
ไม่ว่าจะช่วงเวลาที่ดีหรือเลวร้ายขนาดไหน สำหรับพ่อมดแม่มดแล้วไม้กายสิทธิ์ก็คือเพื่อนที่จงรักภักดี ไม้โอ๊กอังกฤษเรียกร้องหาเจ้าของที่เต็มไปด้วยพลัง กล้าหาญ และซื่อสัตย์ เป็นที่รู้จักกันน้อยนักว่าเจ้าของไม้โอ๊กอังกฤษนี้มักจะมีสัญชาตญาณที่แม่นยำ และบ่อยครั้งมักจะเป็นพ่อมดที่อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติทั้งพืชและสัตว์ ไม้โอ๊กถูกขนานนามว่าราชันย์แห่งป่า การนำต้นโอ๊กมาทำไม้กายสิทธิ์จะต้องเก็บไม้โอ๊กมาในช่วงแรกเริ่มของเหมายันหรือครีษมายันเท่านั้น (ในขณะที่ไม้ฮอลลี่จะกลายเป็นราชันย์แห่งป่าเมื่อวันเวลาเริ่มสั้นลงอีกครั้งและจะต้องเก็บในช่วงข้างแรมเท่านั้น) จากความเชื่อทั้งสองส่วนนี้จึงเป็นที่มาของตำนานอีกบทหนึ่งที่ว่า “ถ้าเขาเป็นไม้โอ๊กและเธอเป็นไม้ฮอลลี่ ถ้าได้แต่งงานกันก็บ้าสิ้นดี” ความเชื่อนี้เป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่ผมพบว่าไม่เป็นความจริง
คนที่ถือไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้
มีคำร่ำลือกันว่าไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดเมอร์ลินทำมาจากไม้โอ๊กอังกฤษ (แต่ว่าไม่เคยมีใครพบหลุมศพของเขาจึงไม่มีข้อยืนยันในข้อมูลดังกล่าวนี้)
รูเบอัส แฮกริด (ยาว 16 นิ้ว งอเล็กน้อย) : ไม้นี้ถูกหักครึ่งเมื่อแฮกริดถูกไล่ออกจากฮอกวอตส์ คาดว่าแฮกริดซ่อมแซมมันและซ่อนไว้ในร่มสีชมพูที่เขาพกติดตัว
เครดิต
http://pantip.com/topic/32689065