ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2008
ตอบ: 2922
ที่อยู่: พระราชวัง ณ รังสิต
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:39
ถูกแบนแล้ว
10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด
กลับมาอีกครั้งครับ จะมาวันนึง 3-4 รอบเพื่อยศใหม่ อาจไม่เท่าหนูจิตใส เเต่ขอให้ได้แ่บงเบา ชอบขอเเผล่บให้กำลังใจบ้างนะครับ จะพยายามหาที่มันน่าอ่านไม่เบื่อมาให้อ่านกัน อันไหนน่าเบื่อไมเอา
อันดับ 10 ฟรานซิส เบคอน (Francis Bacon) 22 มกราคม 1561 - 9 เมษายน 1626

เขาเป็นรัฐบุรุษ,นักปราชญ์, นักแต่งร้อยแก้วชาวอังกฤษ อีกทั้งเป็น นักคิดแบบวิทยาศาสตร์ที่พยายามค้นหาความลับของจักรวาล แต่ไม่ทันได้คำตอบเขากลับต้องมาตายเสียก่อน ที่จริงตอนที่เกิดเหตุเขาก็อายุมากแล้วนะค่ะ อายุตั้ง 65 ปีแล้ว คือ เมื่อ ปี 1626 วันนั้นเขานั่งรถม้าไปถนนไฮเกทซึ่งเป็นวันที่หิมะตกหนัก ความหนาวและความเงียบเหงาทำให้เขาเกิดสังเกตล้อรถเมื่อบดหิมะกระจาย เผยให้เห็นต้นหญ้าเขียวขจีข้างใต้ และเกิดความสงสัยว่าทำไมต้นหญ้าโดนหิมะปกคลุมตลอดหน้าหนาวแล้วทำไมยังเขียว และสดอยู่ได้ เบคอนจึงสันนิษฐานว่าความเย็นคงเป็นตัวการรักษาความสดนั้นไว้

เบคอนสั่งหยุดรถที่จัตุรัสพอนด์ เขาให้คนขับซื้อไก่จากชาวบ้านแถวนั้นตัวหนึ่ง จัดการเชือดไก่ถอนขนเอาเครื่องในออกหมด จากนั้นท่ามกลางความประหลาดใจของคนมุงดู เบคอนก้นลงเอาหิมะยัดใส่ในท้องไก่ พอเสร็จงานก็เอาไก่ใส่กระสอบและกวาดหิมะใส่กระสอบอีกจนเต็ม

ในขณะที่เขาจัดการไก่อยู่นั้น ทันใดนั้นเองเบคอนก็เกิดอาการสั่งสะท้านเขาล้มลงบนพื้นหิมะ เขาถูกส่งตัวไปรักษาและเสียชีวิตในสองวันต่อมา สรุปคือผลการทดลองล้มเหลว แถมคนต้นคิดก็มาตายอีก

มีเรื่องเล่านิดๆ หน่อยๆ หลังจากที่เบคอนตาย มีการพบวิญญาณไก่ที่เบคอนฆ่าที่ออกมาในรูปไก่ถอนขนในสวนจัตุรัสแห่งนั้น ปรากฏอยู่ในแสงจันทร์ และมันยังคงสิง ณ ที่แห่งนั้นเป็นเวลานานจนถึงปัจจุบัน

อันดับ 9 ฮอเรซ เวลส์ (Horace Wells) 21 มกราคม 1815 – 24 มกราคม 1848

ทันตแพทย์แห่งอเมริกา เกิดที่รัฐเวอร์มอนท์ เขาเป็นผู้บุกเบิกเรื่องยาชา-ยาสลบ(Anesthesia)เพื่อได้นำมาใช้ในการถอนฟัน โดยไม่เจ็บ เลยทีเดียวค่ะ เดิมเค้าเป็นหมอฟัน และหันมาสนใจเรื่องยาชาอะไรพวกนี้ สมัยนั้นก็คือแก๊วหัวเราะนั่นเอง เค้าก็หมกมุ่นอยู่กับการทดลอง จนผลที่ได้มีแต่ล้มเหลว อย่างไรก็ตามก็ทำให้เรารู้จักคำว่า คลอโรฟอร์ม(Chloroform addiction) ซึ่งเป็นยาชาชนิดหนึ่ง ซึ่งเขาได้ไปเห็นนักเคมีชื่อ Colton บริการให้ลูกค้าเสพ Nitrous Oxide หรือก๊าซหัวเราะ(เก็บเงินคนละ ยี่สิบห้าเซ็นต์) แต่แทนที่คนเสพจะเคลิ้ม จะขำ กลับอาละวาด ขาไปเตะโต๊ะเป็นแผลใหญ่โต แต่ไม่เจ็บ เพราะในขณะที่ก๊าซกำลังออกฤทธิ์ ฮอเรซ เวลส์ เห็นเหตุการณ์นี้ โอ้...ปิ๊งไอเดียเขา เริ่มใช้ก๊าซ Nitrous Oxide เพื่อระงับความเจ็บปวดในการถอนฟัน ประกาศโฆษณา การถอนฟันโดยไม่เจ็บปวด และนำไปแสดงต่อมหาวิทยาลัย Harvard และ โรงพยาบาล Massachusetts แต่ก็เกิดเรื่องผิดพลาดจนได้ เมื่อฮอเรซ เวลส์ ไม่สามารถควบคุมปริมาณก๊าซ Nitrous Oxide ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยตื่นขึ้นระหว่างถอนฟัน ร้องโหวกเหวก ฮอเรซ เวลส์อับอายขายหน้าต่อธารกำนัล อย่างมาก จนเป็นคนล้มเหลวในชีวิต

ต่อมาในปี 1848 ฮอเรซ เวลส์ กำลังทดลองเรื่องคลอโรฟอร์ม (Chloroform addiction) เขาทดลองกับตัวเอง จนเป็นคนติดคลอโรฟอร์ม เขาโมโหร้ายสาดกรดใส่หน้าหญิงโสเภณี สาวสองคน ศาลตัดสินว่าป่วยทางจิต เองก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ก็เลยตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการเสพคลอโรฟอร์ม และที่แย่กว่านั้น คือ ผู้ป่วยคนที่ร้องโหวกเหวกในตอนที่เขาสาธิตนั้น สารภาพว่าที่จริงเขาแล้วมิได้เจ็บปวด แต่ตกใจที่ตื่นมาระหว่างการถอนฟัน และจำความเจ็บปวดของครั้งก่อน ๆ มามากกว่า

การถอนฟันในครั้งที่ ฮอเรซทำ ล้มเหลว

อันดับ 8 ทิโค บราห์ (Tycho Brahe) 14 ธันวาคม ค.ศ. 1546 – วันที่ 24 ตุลาคม 1601

เป็นนักดาราศาสตร์เดนมาร์ก ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในสมัยก่อน ตลอดช่วงชีวิตของทิโค เขาได้ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือวัดทางดาราศาสตร์ขึ้นมากมาย เครื่องมือเหล่านั้นมีความแม่นยำในการวัดสูงมาก ถึงแม้ว่าเครื่องมือวัดเหล่านั้นจะมีขนาดใหญ่มากก็ตาม และเขาเป็นเจ้าของทฤษฏีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎการ เคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ในสุริยจักรวาล , แรงดึงดูดของโลกอีกด้วย

ทิโค บราห์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1601 ก่อนหน้านั้นนั้นเขามีปัญหาเรื่องกระเพาะปัสสาวะที่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ วันหนึ่งในงานเลี้ยง เขาเกิดปวดฉี่ในระหว่างรับประทานอาหารขึ้นมา ด้วยความที่เขามีมารยาทและเกรงใจบรรดาแขกในงาน เขาเลยกลั่นฉี่และทนนั่งต่อไป จนเป็นเหตุทำให้เขาเกิดอาการฉี่ไม่ออก เขาทรมานถึง 11 วัน ก่อนที่กระเพาะปัสสาวะจะแตกและตาย แต่กระนั้นการตายของเขาก็ยังคงสัปสนถึงปัจจุบัน เพราะว่ามีหลายทฤษฏีที่มีข้อสันนิษฐานเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะ พิษปรอท หรืออาการ Hyponatremia หรือโรคเส้นโลหิตกันแน่

อันดับ 7 อัตติลา หรือ อัตติลาเดอะฮวน (Attila the Hun) ค.ศ. 406 – ค.ศ. 453

เป็นจักรพรรดิแห่งชนฮั่นผู้ครองจักรวรรดิฮวนระหว่าง ค.ศ. 434 ที่เป็นจักรวรรดิสร้างความหวาดหวั่นมากที่สุดให้แก่ทั้งจักรวรรดิโรมันตะวัน ออก และจักรวรรดิโรมันตะวันตก พระองค์ทรงรุกรานประเทศต่างๆ ด้วยวิธีการโหดร้ายจนเป็นที่สะพรึงไปทั่วยุโรป

การตายของอัตติลานั้น ค่อนข้างสับสน คือเมื่อ ค.ศ. 453 ในการเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองการแต่งงานครั้งล่าสุดของเขากับสตรีสาวสวยอิลดิโค เขาดื่มน้ำจัณฑ์(เหล้า) เป็นจำนานมาก พอมาถึงห้องหออัตติลามีอาการตกเลือดกำเดาออกทางจมูกเป็นอย่างมาก และสำลักจนสิ้นพระชนม์(นอนจมกองเลือดตาย)

มีทฤษฎีหนึ่งที่จะ สันนิษฐานการตายของเขา บ้างก็ว่าพระองค์ทรงประชวรด้วยเลือดออกภายใน ด้วยอาการที่เรียกว่า หลอดเลือดขอดในหลอดอาหาร (esophageal varices) เมื่อหลอดเลือดขยายตัวในบริเวณตอนล่างของหลอดอาหารแตกที่ทำให้เสียชีวิตจาก การเสียเลือด ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งที่บันทึกราว 80 ปีหลังจากการเสด็จสวรรคตโดยนักบันทึกประวัติศาสตร์โรมันกล่าวว่า “อัตติลากษัตริย์ของชนฮวนและผู้ทำลายเมืองต่างๆ ในยุโรป ทรงถูกแทงโดยมีดของพระมเหสี
าพวาด ตอนอัตติลา สิ้นพระชนม์

อันดับ 6 คลาวดิอุส (Claudius) 1 สิงหา 10 BC - วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 54

จักรพรรดิแห่งโรมันซึ่งเป็นพระญาติของเนโร เขาหวาดกลัวเรื่องการวางยาพิษมาก โดยเฉพาะยาพิษที่มากับอาหาร ดังนั้นคลอดิอุส มักมีนักชิมส่วนตัวอยู่ข้างตัวตลอดเวลา คอยทำหน้าที่กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มทุกอย่างทีละนิดทีละน้อยเพื่อมั่นใจ ว่าไม่มียาพิษในอาหาร ซึ่งก่อนชิมอาหารทุกมื้อ เขาจึงคอยดูคนรับใช้ของเขาชิมอาหารเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ จากนั้นก็รอไป ... หนึ่งชั่วโมงเต็ม เพื่อมั่นใจว่าไม่มีพิษในอาหารของเขาจริง ๆ

แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ แม่ของเนโรที่ชื่ออกริบปิน่าต้องกังวล หล่อนต้องการให้เนโรเป็นจักรพรรดิ หล่อนจึงวางแผนลอบสังหารคลาวดิอุส โดยหล่อนวางแผนซื้อตัวคนรับใช้ชิมอาหารของคอลอดิอุสเอาไว้ และวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 54 เป็นวันวางแผนฆ่าคลาวดิอุส อย่างแยบยล ครั้งแรกพวกเขานำเห็ดฉ่ำ ๆ นุ่ม ๆ ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของคลาวดิอุส มาเสริฟ์ โดยวางยาพิษชนิดอ่อนๆ ไม่ถึงกับตายลงในเห็ด ซึ่งก่อนหน้านั้นอกริบปิน่าได้ติดสินบนคนรับใช้ชิมอาหารให้เล่นละครแห่งความ ตาย โดยวางแผนว่าหลังจากที่ฮาโลตัสกินเห็ดนี้แรกๆ ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อพระองค์เสวยอย่างเอร็ดอร่อยจนเกือบหมด ก็ให้คนรับใช้ชิมอาหารดิ้นทุรนทุรายเสมือนกับว่าเหมือนโดนยาพิษเข้าไป ซึ่งมันจะทำให้คลาวดิอุสเชื่อว่าตนเองกินยาพิษแบบคนรับใช้ชิมอาหารเข้าไป ด้วย ด้วยความกลัวเรื่องยาพิษของสมอง ไม่นานนักพระองค์ก็รู้สึกตัวว่าอาการไม่ดี และดิ้นรนทุรายทั้งๆ ที่พิษที่พระองค์โดนเป็นพิษอ่อนๆ ไม่ถึงตาย พระนางเห็นพระสาวมีเป็นเช่นนี้ จึงเรียกแพทย์ซีโนเฟนมาช่วยดูอาการ และแพทย์คนนี้ก็เป็นหนึ่งในส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ด้วย ซีโนโฟนทำเป็นช่วยล้างกระเพาะให้พระองค์ แต่จริงๆ แล้วกลับเอาขนนกอาบยาพิษร้ายแรงกวาดพระศอ ส่งผลให้พระจักรพรรดิชักดิ้นชักงอสิ้นพระชนม์อย่างทุรนทุรายในทันทีและเมื่อ จักรพรรดิคลาวดิอุส ถูกลอบฆ่า จนเสียชีวิต เนโรจึงได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิปกครองจักรวรรดิโรมันในเวลาต่อมา(อย่าง นี้ต้องเรียกว่า อุปทาน)

อันดับ 5 ดอน คาร์โลส ( Carlos, Prince of Asturias ) ปี ค.ศ.1548 - ค.ศ.1568

เป็นพระโอรสของพระเจ้าฟิลิปป์ที่ 2 แห่งสเปน (Philippe II of Spain) ผู้มีสิทธิครองบังลังก์ต่อจากพระบิดา แต่เพราะดอน คาร์โลสมีอาการวิกลจริต พระบิดาเลยสั่งเขาขังในป้อมอัลคาซาร์โดยมีทหารยามควบคุมอย่างแน่นหนา

ในฤดูร้อนของปี ค.ศ.1568 เป็นช่วงที่สุดแสนจะทรมานยิ่งสำหรับเจ้าชายหนุ่มที่กักขังในหอคอยที่แทบไม่ มีหน้าต่าง ท่ามกลางความร้อนที่แผดเผาและอบอ้าวของแสงแดดสเปน ดอน คาร์โลสทรงให้นำน้ำเย็นและก้อนน้ำแข็งเข้ามาราดรดพื้นห้องให้เย็นลง พระองค์โปรดเสวยแต่ผลไม้ไปหลายวันเพราะความร้อนทำให้ทรงเบื่ออาหาร แต่ในที่สุดก็ทรงหิวโหยจนทานทน จึงขอให้ส่งอาหารพวกเนื้อและแป้งมาเสวยบ้าง

ทางห้องเครื่อง จึงได้ทำพายขนาดใหญ่ที่ยัดไส้ด้วยไก่งวง 4 ตัวและปรุงรสด้วยเครื่องเทศรสจัดที่สุด(อยากรู้ว่าดอน คาณ์โลสหรือเป็นคนสั่งหรือว่าพ่อครัวทำอาหารนี้ตามใจชอบหว่า) แน่นอนว่าเจ้าชายเสวยพายยักษก้อนนั้นจนหมดเกลี้ยง เครื่องเทศรสจัดทำให้ทรงกระหายน้ำอย่างยิ่งจึงได้เสวยและดื่มน้ำเย็นจัดหลาย สิบลิตรอย่างไม่บันยะบันยังทำให้ร่างกายของพระองค์ที่อ่อนแออยู่แล้วยิ่งทรง ทรุดหนักลงไปอีก

พระองค์เริ่มประชวรหนักตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ.1568 และสิ้นพระชนม์ลงอย่างทุกข์ทรมานในอีก 5 วันต่อมาโดนมิได้เห็นพระพักตร์พระบิดาครั้งสุดท้ายตามที่ร้องขอ สรุปคือดอน คาร์โลสจบพระชนม์ชีพลงเพราะเสวยจนเกินขนาดนั้นเอง

อันดับ 4 สมเด็จพระราชาธิบดีอดอล์ฟ เฟรดเดอร์ริค (King Adolf Frederick of Sweden) 14 พฤษภาคม 1710 – 12 กุมภาพันธ์ 1771


ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองสวีเดนตั้งแต่ 1751-1771 มีอำนาจทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่สภาสูง ความจริงในเว็บเขียนว่าเขา กินพุดดิ้งเกินขนาดนั้นแต่นั้นก็ไม่ทั้งหมด เพราะพระเจ้าเฟรดเดอร์ริคนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นคนกินจุและหัวแข็งมาก ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง ซึ่ง 12 กุมภาพันธ์ 1771 ในพระยาหารมื้อกลางวัน พระเจ้าเฟรดเดอร์ริคในตอนนั้นมีอายุมากแล้วได้เสวยอาหารหรูต่าง ๆ นา ๆ ไม่ว่าจะเป้นกุ้งก้ามกลาม , ไข่ปลาคาเวียร์ , กะหล่ำปลีดอง (ของเยอรมัน) , , เนื้อปลารมควัน ตามด้วยเหล้าเชมเปญ ต่อด้วยของหวานผลไม้และขนมหวานจานโปรดของเขาคือพุดดิ้งกับขนมปังนุ่มๆ กับนมร้อนหนึ่งชาม ซึ่งพระองค์เสวยของหวานชุดนั้นถึง 14 ชุด และนั้นเป็นสาเหตุให้พระองค์สิ้นพระชนม์ เพราะปัญหาในระบบทางเดินอาหารในวันนั้นเอง

อันดับ 3 อิเซโดล่า ดันแคน (Isadora Duncan) (27 พฤษภาคม 1877 – 14 กันยายน 1927)

รู้จักกันเป็นหนึ่งในผู้ก่อ ตั้งของการเต้นรำสมัยใหม่ ที่พัฒนามาจากฟรีแดนซ์ เธอเกิดในซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่หย่าร้างและเธอก็ต่อสู้ชีวิตเรื่อยมาจนกระทั้งมีชื่อเสียงใน ที่สุด

การตายของเธอค่อนข้างจะแปลกนิดๆ หน่อย คือเธอเสียชีวิตเพราะถูกรัดคอและคอหักตาย เนื่องจากผ้าพันคอที่ยาวเฟื้อยของเธอเกิดไปเกี่ยวกับล้อรถบนถนนในขณะที่เธอ กำลังเดินทางในเมืองนิวยอร์ก คนที่เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ได้บรรยายไว้ว่า

“ในเวลานั้นรถยนต์คนหนึ่งที่กำลังวิ่งบนถนนด้วยความเร็วสูง และไม่รู้เพราะอะไรผ้าพันคอผ้าไหมยาวๆ ของเธอเกิดเกี่ยวม้วนรอบล้อรถคนนั้นพอดี และด้วยพลังมหาศาล มันลากเธอทั้งร่างไปกับรถ ไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยก้อนหินเล็กๆ เธอถุกลากไปหลายหลาก่อนที่รถคนนั้นจะรู้สึกตัวและหยุดลง ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจและตื่น ตะหนก เธอส่งไปแพทย์รักษาตัวในทันที หากแต่มันสายไปเสียแล้ว เธอคอหักและตายทันที”

อันดับ 2 คริสติน (Christine Chubbuck) 24 สิงหาคม 1944- 15 กรกฎาคม 1974

เป็นนักประกาศข่าวและคนรายงาน ข่าวทางทีวี เธอฆ่าตัวตายในขณะถ่ายทอดสดทางทีวี WXLT-TV ในเมือง Sarasota รัฐฟลอริด้า ในช่วงเช้าเมื่อ 15 กรกฎาคม 1974 ในขณะที่ทีวีกำลังถ่ายทอดสด ในขณะที่คริสตันอ่านข่าวเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อวัวและภัตตาคารอะไรสัก อย่างอยู่นั้น(ด้วยสีหน้าที่เป็นปกติ) เธอก็พูดต่อหน้ากล้องว่า “In keeping with Channel 40’s policy of bringing you the latest in blood and guts, and in living color, you are going to see another first: an attempted suicide.” (แปลได้บอกทีครับ) จากนั้นเธอก็ดึงปืนออกจากใต้โต๊ะ และเอาปืนจ่อหัวและลั่นไกปืน เธอล้มลงไปข้างหน้าคริสตินตายทันที ต่อหน้าผู้คนที่ตกตะลึงไม่หายทั้งคนชมและทีมงาน

She had written something like 'TV 40 news personality Christine Chubbuck shot herself in a live broadcast this morning on a Channel 40 talk program. She was rushed to Sarasota Memorial Hospital, where she remains in critical condition.'
คำสัมภาษณ์ ของ Mike Simmons เพื่อนของเธอ (แปลได้บอกด้วยครับ)

อันดับ 1 ชารอน รินะ โลพัทกา (Sharon Rina Lopatka) 20 กันยายน 1961 – 16 ตุลาคม 1996

ชารอน รินะ โลพัทกา มีอาชีพเป็นนายหน้าทางอินเตอร์เน็ตใน Hampstead, แมรี่แลนด์, อเมริกา ถูกฆาตกรรมโดยฆาตกรที่ชื่อโรเบิร์ต เฟรเดอริค กลาส (Robert Frederick Glass)เป็นนักวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ทางรัฐ North Carolina โดยเธอถูกทรมานและรัดคอตายเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1996 ส่วนสาเหตุคือโรเบิร์ตปลื้มปิติเมื่อร่วมเพศกันและกัน

แต่กรณีของ ชารอน รินะ โลพัทกา แปลกอยู่อย่าง เธอไม่เหมือนเหยื่อของฆาตกรรายอื่นๆ ที่ตายโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่หากเธอเป็นอาสาสมัคร หาฆาตกรเพื่อให้ฆาตกรฆ่าเธอเองเลยนะ โอ้...เหลือเชื่อ คือเธอไปตั้งกระทู้หาฆาตกรมาให้ฆ่าข่มขืนเธอเล่นๆ หน่อยเพื่อเป็นการดับกระหายฆาตกร ไม่รู้เธอบ้าหรือใจบุญกันแน่

วันที่ 3 พฤศจิกายน 1996 ชารอนโพสข้อความหนึ่งตามเว็บต่างๆ เช่น fetishfeet.com และ sexbondage.com. ประมาณว่า “เธอมีความหลงใหลเกี่ยวกับการทรมานและความตาย อยากหาใครสักคนมาทำแบบนี้กับฉันบ้างจัง” หลายๆ คนที่เห็นเธอลงโฆษณาฆ่าคนที่สามารถฆ่าเธอได้ ก็นึกว่าเป็นเรื่องตลกและไม่สนใจนัก แต่หลักจากชารอนติดต่อกับหลายๆ คนอย่างจริงจังนานๆ เข้า จนกระทั้งเธอพบกลาสในตอนท้าย ที่เขาบอกว่าเขาเต็มใจที่ทำให้บรรลุความประสงค์ของเธอ

ชารอนก็ตกลงกับกลาสว่า เธอยินดีให้เขาฆ่าตัวเธอ ให้เตรียมตัวนะ ว่าแล้วเธอก็บอกสามีว่าเธอไปเยี่ยมเพื่อนที่จอร์เจีย แมรี่ออกจากบ้านเดินทางจากสถานีไปแคโรไลน่าทางเหนือ ไปยังที่กลาสรออยู่ เมื่อมาถึงที่หมาย ชารอนก็พบกับกลาสและเขาใช้รถกะบะพาเธอมายังบ้านเล็กๆ ของเขาในป่า เขาจัดการข่มขืน ทรมาน และฆ่ารัดคอ ชารอน และฝังศพเธอใกล้ๆ บ้านในหลุมตื้นๆ แห่งหนึ่งเป็นอันบรรลุความปรารถนาของชารอน

เรื่องราวของชารอนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Downloading Nancy เป็นหนังแนว พิศวาสฆาตกรรม

ภาพ Robert Frederick Glass ฆาตกรผู้สังหาร ชารอน

จบเเล้วครับ
ปล.หวังว่าคงชอบ ชอบก็เเผล่บสิครับ มาทุกวันกันเป็นประจำเเน่นอนครับผม
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Jan 2010
ตอบ: 6667
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:42
ถูกแบนแล้ว
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
สะสมแผล่บกันเรื้อน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: sutatS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 13099
ที่อยู่: บนโลกจ้า
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:43
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1082371


ใช่เบคอนเดียวกันปะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: The sands of time were eroded by The river of con
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 38685
ที่อยู่: The Gates of Delirium
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:44
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
ชอบแต่ไม่แผล่บ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


facebook.com/ProgSurround
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: อีเย็นเปียก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 10185
ที่อยู่: ตามแหล่งอโคจร
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:46
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
จะเป็นนิวหนูจิตเสื่อม เอ้ย หนูจิตใสสินะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 15507
ที่อยู่: ไม่แน่นอน
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:50
ถูกแบนแล้ว
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
11. Meryem สาเหตุการตาย หล่อ

Spoil
หล่อตายล่ะ  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2008
ตอบ: 2922
ที่อยู่: พระราชวัง ณ รังสิต
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 00:54
ถูกแบนแล้ว
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
tammy9838 พิมพ์ว่า:
ชอบแต่ไม่แผล่บ  
หง่าาา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: "I'm GUNNER"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Aug 2008
ตอบ: 18953
ที่อยู่: ปาปัวนิวกีนี
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 01:18
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
ที่มาออโตอีโรติกตายที่บ้านเราผมก็ว่าแปลกมิใช่น้อย...
แก้ไขล่าสุดโดย Pink Buffalo เมื่อ Wed Jul 09, 2014 01:18, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: พอเลยพอ....กดพอสก่อนเลย
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 44854
ที่อยู่: Anfield ที่รัก ... :3
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 01:36
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
มาถูกทางแล้วพ่อหนุ่ม แต่ขอแบบเนื้อหาแปลกๆ เจ๋งๆ นะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เรื่องบางเรื่อง ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด เพียงแต่สิ่งที่เราคิดมันต่างกัน
My Liverpool, the Kop will always rule
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Oct 2005
ตอบ: 3460
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 01:42
ถูกแบนแล้ว
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
แวมพายน้อย พิมพ์ว่า:


อันดับ 2 คริสติน (Christine Chubbuck) 24 สิงหาคม 1944- 15 กรกฎาคม 1974

เป็นนักประกาศข่าวและคนรายงาน ข่าวทางทีวี เธอฆ่าตัวตายในขณะถ่ายทอดสดทางทีวี WXLT-TV ในเมือง Sarasota รัฐฟลอริด้า ในช่วงเช้าเมื่อ 15 กรกฎาคม 1974 ในขณะที่ทีวีกำลังถ่ายทอดสด ในขณะที่คริสตันอ่านข่าวเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อวัวและภัตตาคารอะไรสัก อย่างอยู่นั้น(ด้วยสีหน้าที่เป็นปกติ) เธอก็พูดต่อหน้ากล้องว่า “In keeping with Channel 40’s policy of bringing you the latest in blood and guts, and in living color, you are going to see another first: an attempted suicide.” (แปลได้บอกทีครับ) จากนั้นเธอก็ดึงปืนออกจากใต้โต๊ะ และเอาปืนจ่อหัวและลั่นไกปืน เธอล้มลงไปข้างหน้าคริสตินตายทันที ต่อหน้าผู้คนที่ตกตะลึงไม่หายทั้งคนชมและทีมงาน

She had written something like 'TV 40 news personality Christine Chubbuck shot herself in a live broadcast this morning on a Channel 40 talk program. She was rushed to Sarasota Memorial Hospital, where she remains in critical condition.'
คำสัมภาษณ์ ของ Mike Simmons เพื่อนของเธอ (แปลได้บอกด้วยครับ)
 


เนื้อหาข้างบนบอกว่า เพื่อเป็นการรักษานโยบายของช่องสี่สิบ ที่ต้องการจะนำเสนอข่าวฆาตกรรมล่าสุดแด่ผู้ชมในแบบสยดสยองที่สุด (แปลตรงตัวคือแบบเห็นเลือดและไส้ ในแบบสดๆเลือดสาดๆ) สิ่งที่คุณจะได้เห็นอย่างแรกเลยคือการฆ่าตัวตาย

ส่วนอันล่างเค้าบอกว่า เธอ(นักข่าวที่ฆ่าตัวตาย)ได้เขียนรายงานข่าวไว้ทำนองว่า นักข่าวช่องสี่สิบ คริสติน ชับบัค ยิงตัวตายในระหว่างรายการคุยข่าวสด เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดในภาวะโคม่า
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 448
ที่อยู่: San Quentin, California
โพสเมื่อ: Wed Jul 09, 2014 15:54
[RE: 10 คนดังในประวัติศาสตร์ที่ตายประหลาดที่สุด]
ขอบคุณที่ก็อปปี้ มาให้เพื่อนๆอ่าน
แต่น่าจะให้เครดิตบ้างสงสารคนพิมพ์
ส่วนตัวเคยอ่านในพันดริ๊ฟ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel