ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 14:30
เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช
Aye Captain! ยินดีต้อนรับสู่

"Pirate Week" of The Wild Chronicles!

กระทู้นี้จะพาท่านไปรู้จักเกร็ดประวัติศาสตร์จากยุคทองของโจรสลัด!

มีทั้งเรื่องราวชวนสยอง!



ความจริงที่ไม่น่าเชื่อ!และที่มาของการ์ตูนชื่อดัง!



เนื้อหาของกระทู้นี้นำมาจาก Facebook Page ของผม www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat หากชื่นชอบ สามารถกด Like เป็นแฟนเพจ เพื่อติดตามเรื่องราวประวัติศาสตร์ โหด มันส์ ฮา ในชุด "The Wild Chronicles" ได้ที่นี่เลยนะครับ


ทุกวันนี้มักมีคนเอาเรื่องโจรสลัดมาเสริมแต่งให้เป็นยอดฝีมือสุดเท่ห์ ออกเรือผจญภัยหาสมบัติ สู้กับทหารเรือหรือคนของรัฐบาลชั่ว เพื่อปกป้องชาวบ้านตาดำๆ

...ต่อไปนี้คือความเป็นจริง...

1. ยุคทองของโจรสลัดในคริสตศตวรรษที่ 17 - 18 เกิดจากการแย่งชิงอำนาจทางทะเลของชาติยุโรป โดยแต่ละชาติต่างสนับสนุนโจรสลัดในสังกัดตนให้ปล้นเรือสินค้าชาติศัตรู และหลังจากอังกฤษสามารถชนะสเปนกลายเป็นเจ้าทะเลอย่างเบ็ดเสร็จ โจรพวกนี้ก็ตกงานจึงออกมาปล้นผู้คนต่อไป

2. โจรสลัดจะพยายามไม่สู้กับทหารเรือ สู้ไปก็แพ้ เพราะทหารเรือมีระเบียบวินัย และอาวุธดีกว่า พวกเขาจะโจมตีเฉพาะเรือสินค้าที่อ่อนแอ และสู้กับทหารเรือเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น

3. โจรสลัดเป็นอาชีพที่ทำกันไม่กี่ปี พอพวกเขาปล้นได้สมบัติจำนวนหนึ่งแล้วก็มักเลิกไปทำอาชีพอื่น เพราะมันเสี่ยงมาก ใครเป็นโจรไปนานๆมักไม่ตายดี

4. สาเหตุที่คร่าชีวิตโจรสลัดมากที่สุด อาจจะเป็นโรคลักปิดลักเปิด เนื่องจากพวกเขาออกเดินเรือนาน กินแต่ขนมปังแข็งๆ (ดูเพิ่มเติม http://fbl.me/hardtack หรือ คคห. 7) จึงขาดวิตามินซี นานเข้าเหงือกก็ยุ่ย เลือดออกตามไรฟัน แผลกลัดหนอง สูญเสียฟัน ดีซ่าน เป็นโรคประสาท จนถึงเสียชีวิต โรคนี้แก้ได้โดยกินผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะเช่นส้ม แต่ไม่มีใครรู้ทางแก้ดังกล่าวจนถึงศตวรรษที่ 20

5. โจรสลัดไม่ได้หาขุมทรัพย์ในตำนาน และน้อยนักที่จะฝังสมบัติ เมื่อพวกเขาปล้นอะไรได้ก็มักจะใช้หมดอย่างรวดเร็ว เพราะชีวิตข้างหน้าเอาแน่เอานอนไม่ได้ โจรที่ฝังสมบัติคือพวกที่ต้องหนีทหารเรือ และถ้าหนีพ้นก็จะย้อนกลับมาเอาทีหลัง

6. โจรสลัดเป็นเกย์กันเยอะ (ดูเพิ่มเติม http://fbl.me/Matelotage หรือ คคห. 10)

7. นางเงือกไม่มีจริง ที่มีคือปลาพะยูน

8. ยุคทองของโจรสลัดจบลง เมื่อชาติต่างๆในแคริบเบียนเจริญขึ้น คนถูกบีบให้เป็นอาชญากรเพราะความยากจนน้อยลง เรือสินค้ามีการป้องกันมากขึ้น โจรปล้นไม่ได้ทำงานสุจริตสบายกว่าก็เลิกเป็นโจร




เคราดำ" ***

โจรสลัดที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งเป็นชาวอังกฤษชื่อเอ็ดเวิร์ด ทีช มีฉายาว่า "เคราดำ"

ยามออกปล้นเคราดำจะผูกสายชนวนเข้ากับผมและหนวดของตัวเอง แล้วจุดไฟให้เกิดควัน เพื่อให้เหยื่อตกใจนึกว่าเขาเป็นปีศาจ เขามีชื่อเสียงจากความดุร้ายทารุณ มีเมียมากมาย เคยพยายามล้างมือจากอาชีพโจร แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องกลับไปปล้นอีก

เคราดำตายในการต่อสู้กับทหารเรือ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 1718 หลังจากถูกยิงไปห้านัด และถูกฟันถึงยี่สิบครั้ง

ความทรหดนี้ทำให้มีผู้แต่งตำนานเสริมในภายหลังว่า หลังจากทหารเรือตัดหัวเคราดำ แล้วโยนร่างทิ้งน้ำแล้ว ร่างไร้ศีรษะนั้นยังว่ายวนรอบเรืออยู่ได้อีกถึงสามรอบ ก่อนจะจมหายไป




เคราดำยังเป็นที่มาของตัวละครในเรื่องวันพีช ชื่อมาร์แชล ดี ทีช ผู้ชั่วร้ายอีกด้วย!




ปี 1730 ขณะโจรสลัดชื่อโอลิวิเยร์ ลูวาเซอร์กำลังจะถูกประหารชีวิต เขาได้ขว้างสร้อยคอที่มีรหัสลับให้แก่ฝูงชนที่มามุงดู และพูดว่า "แน่จริงถอดรหัสแล้วหาสมบัติฉันให้เจอสิ!"

หลายร้อยปีมานี้มีหลายคนใช้ความพยายามอย่างมากในการถอดรหัสดังกล่าว แต่ไม่เคยมีใครพบขุมสมบัติจริงๆ เลย ก็ไม่รู้ว่ามันมีจริง หรือลูวาเซอร์แกล้งอำเรื่องนี้ให้คนปวดหัวเล่น

...ภาพที่แนบมาคือรหัสลับดังกล่าว...




Black Bart" ***

บาโธโลมิว โรเบิร์ต เป็นชาวเวลช์ ตอนแรกเขาทำงานเป็นกะลาสีในเรือค้าทาส ต่อมาเรือนั้นถูกปล้นโดยโจรสลัดเดวิส โรเบิร์ตจึงถูกจับเป็นทาสเสียเอง

ไม่นานเดวิสได้เห็นถึงความสามารถของโรเบิร์ต จึงยกระดับให้ขึ้นมาเป็นผู้ช่วย ตอนแรกโรเบิร์ตลังเล แต่ในที่สุดก็ตกลง

ตามบันทึกโรเบิร์ตกล่าวว่า "ฉันเคยทำงานสุจริตอย่างหนักโดยได้รับค้าจ้างเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่เขาเสนอให้ฉันนี้มันคือชีวิตที่มีอิสระเสรี มีอำนาจ และความร่ำรวย ถึงมันจะอันตรายบ้าง แต่อย่างร้ายที่สุดก็แค่ต้องติดคอเพียงเล็กน้อย (ตอนถูกแขวนคอ) ฉันชอบที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเต็มที่แม้เพียงสั้นๆ"

ต่อมาเดวิสถูกลอบสังหาร พวกลูกเรือนับถือสติปัญญาของโรเบิร์ตก็ยกให้เขาเป็นกัปตันคนใหม่ มีฉายาว่าแบล็ค บาร์ต

แบล็ค บาร์ตกลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่ง เขานำกองโจรออกปล้นเมืองหลายแห่ง จับเรือใหญ่น้อยได้ถึง 470 ลำ

กัปตันผู้นี้เคยเผาเรือทาสที่ไม่ยอมฟังคำสั่ง สังหารทาสทั้ง 80 คนบนเรืออย่างทารุณ แต่นอกจากนั้นแล้วเขาจะไม่โหดเหี้ยมถ้าไม่จำเป็น

แบล็ค บาร์ตชอบแต่งตัวดี ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่ไม่ชอบการพนัน และไม่ดื่มเหล้า เพราะเขาต้องการมีสติที่สมบูรณ์อยู่เสมอในการวางแผนต่างๆ

นอกจากนั้นเขายังเคร่งศาสนา โดยจะมาเทศนาให้ลูกเรือฟังทุกวันอาทิตย์ สำหรับเขาแล้ววันอาทิตย์คือวันของพระเจ้า ซึ่งเขาจะไม่ทำการปล้นชิงใดๆ



แบล็ค บาร์ต ตายในวันที่ 10 ก.พ. 1722 ถูกกระสุน Grapeshot ของทหารเรือยิงเฉือนคอ หอยไปแถบหนึ่ง ตายโดย "ติดคอเล็กน้อย" จริงๆ (Grapeshot คือกระสุนปืนขนาดเล็กจำนวนมากอัดรวมกันเหมือนผลองุ่น พอยิงออกจากปืนใหญ่แล้วกระสุนนี้จะกระจายไปทั่ว มีอานุภาพสังหารคนจำนวนมากในที่แออัด)



กระสุน Grapeshot

ธงโจรสลัดแบบแรกของแบล็ค บาร์ต เป็นรูปเขากับตัวความตาย (Death) ยืนถือนาฬิกาทรายร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของมหาโจรผู้นี้



นอกจากนั้น แบล็ค บาร์ต ยังเป็นต้นแบบของ บาโซโลมิว คุมะ ผู้ถือไบเบิล ในเรื่องวันพีซอีกด้วย




ขายวิญญาณ" ***

วิลเลียม ลูอิส เป็นขุนโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคของตน เขานำเรือรบใหญ่ชื่อ "Morning Star" พร้อมสมัครพรรคพวกกว่า 50 คนออกปล้นสร้างความสะพรึ่งกลัวทั่วแคริบเบียน และมีชื่อเสียงจากที่เคยใช้เรือเล็กเอาชนะเรือรบฝรั่งเศสที่มีปืนใหญ่ถึง 24 กระบอก

ครั้งหนึ่งลูอิสขับ Morning Star แล่นไล่เรือสินค้า ถูกเรือสินค้านั้นยิงสกัดจนเสากระโดงหักไปต้นหนึ่ง ทำท่าจะตามไม่ทัน

ลูอิสเกิดความกระวนกระวายเสียดาย ถึงกับทึ้งผมตัวเองชูขึ้นฟ้า ร้องประกาศว่า "พวกปีศาจทั้งหลาย! จงเอาเก็บเส้นผมของข้าไว้เถิด จนวันตายข้าจะไปพบกับพวกเจ้า"

ทันใดนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ เรือโจรที่เสากระโดงหักกลับแล่นทันเรือสินค้า จนทำการปล้นสำเร็จ!


อิสดีใจกับชัยชนะไม่นาน คืนนั้นลูกเรือของเขาต่างตีความสิ่งที่ตนเห็นว่า "กัปตันขายวิญญาณให้ปีศาจ แลกกับการแล่นตามเรือสินค้าทัน" และ "ถึงเราเป็นโจร แต่เราก็นับถือคริสต์เราจะไม่ยอมให้มันพาปีศาจมาเอาวิญญาณเราด้วย!"

พวกลูกสมุนจึงพากันจับลูอิสฆ่าขณะนอนหลับ แล้วแบ่งรางวัลกันหลบหนีไป

ในลักษณะนี้ปีศาจจึงได้วิญญาณเขาเร็วกว่ากำหนดมาก



ผู้พิฆาตสเปน" ***

ฟรองซัว โลลงเน เป็นโจรสลัดชาวฝรั่งเศส ครั้งหนึ่งเขาและเพื่อนรบแพ้ทหารสเปน ถูกฆ่าตายทั้งหมด เหลือเขารอดเพียงคนเดียวโดยซ่อนในกองศพของเพื่อน

นับแต่นั้นโลลงเนก็กลายเป็นคนโหดเหี้ยมวิปริต ชื่นชอบการสังหาร และทรมานเหยื่อ และเกลียดชังสเปนเป็นพิเศษ

เขานำพาโจรสลัดหกร้อยคนในเรือแปดลำ ออกปล้น ฆ่า ข่มขืน เผาทำลายเมืองต่างๆของสเปนในแคริบเบียน โดยมักจัดการกับเหยื่ออย่างอำมหิต เช่นตัดแขนตัดขา เผาทั้งเป็น แต่วิธีที่โหดที่สุดนั้นเรียกว่า "Woolding" หรือการเอาเชือกรัดศีรษะเหยื่อจนดวงตาทะลัก กะโหลกแหลกตาย ความโหดร้ายดังกล่าวทำให้เขาได้รับฉายาว่า "ผู้พิฆาตสเปน"

ในที่สุดกองทัพสเปนก็รวมกำลังกันปราบกลุ่มของโลลงเนสำเร็จ โลลงเนพาพวกที่เหลือรอดจับทหารสเปนได้สองคน เขาควักหัวใจคนหนึ่งออกมาทั้งเป็น แล้วเคี้ยวกินให้ทหารคนที่สองดู

"ฉันจะกินหัวใจแกด้วย ถ้าแกไม่บอกทางหนีแก่เรา!" โลลงเนกล่าว ทหารคนที่สองหวาดกลัวก็ยอมบอก

โลลงเนหนีไปได้ไม่นาน เรือของเขากลับเกยตื้นอยู่ที่ชายหาดเมืองดาเรียน เขาออกไปหาอาหารบนชายฝั่ง ถูกชาวป่าพื้นเมืองจับได้

มีบันทึกว่าชาวป่าตัดแขนขาของโลลงเนออกมาย่างกินที่ละชิ้น ให้ตายอย่างทรมาน... สาสมกับความโหดเหี้ยมที่เขาเคยมอบแก่ผู้อื่น...




ป.ล. ท่านใดอ่านวันพีช มีคนวิเคราะห์ว่าชื่อของโลลงเน ถูกเอาไปเป็นต้นแบบของโรโรโนอา โซโร ครับ



โจรสลัดสาว" ***

ชาร์ล็อต เดอ เบอรี เป็นโจรสลัดหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคศตวรรษที่ 17
เมื่อยังเป็นวัยรุ่นนั้น เธอตกหลุมรักกะลาสีหนุ่มคนหนึ่ง ชาร์ล็อตจึงปลอมตัวเป็นผู้ชาย สมัครเป็นกะลาสีร่วมไปในเรือของสามีเธอด้วยเพราะไม่อยากพรากจากกัน (สมัยนั้นมีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงขึ้นเรือจะโชคร้าย)

ทั้งสองช่วยกันปกปิดความลับมาได้จนกระทั่งเรือถูกโจรสลัดปล้น กัปตันโจรค้นพบว่าชาร์ล็อตเป็นผู้หญิงและจะลวนลามเธอ ในภาวะคับขันนั้นชาร์ล็อตได้แสดงความสามารถสังหารกัปตันโจรเสีย ทำให้พวกโจรแตกตื่นและนับถือเธอเป็นหัวหน้าแทน

ในลักษณะนี้ชาร์ล็อตกับคนรักจึงกลายเป็นโจรสลัดออกปล้นทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ชาร์ล็อตมีชื่อเสียงในเรื่องความสวย ฝีมือ และความโหด กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งเธอเคยจับคนที่พูดจาไม่ถูกหูเย็บปากเสีย

วาระสุดท้ายของชาร์ล็อตเกิดขึ้นเมื่อเรือเธอถูกพายุพัดทำลาย ไม่สามารถแล่นต่อได้ ครั้นผ่านไปหลายวันอาหารก็หมด ขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง สามีของชาร์ล็อตได้ฆ่าตัวตาย บอกให้ทุกคนกินเนื้อเขา ดีกว่าอดตายหมด

ชาร์ล็อตเสียใจมาก แต่เพื่อความอยู่รอดก็ต้องกิน การเสียสละนี้ทำให้ทุกคนรอดจนมีเรือสินค้ามาช่วย

เรือสินค้าช่วยชาร์ล็อตได้ไม่นานก็เกิดเหตุมีโจรสลัดอีกกลุ่มอื่นมาปล้น ชาร์ล็อตแสดงฝีมือขับไล่โจรเหล่านั้น ปกป้องผู้ช่วยเหลือเธอสำเร็จ

...หลังจากตอบแทนบุญคุณได้แล้ว ชาร์ล็อตก็หมดความอาลัยแก่ชีวิต จึงโดดน้ำตายตามสามีที่รักของเธอไป...

เรื่องของชาร์ล็อตนี้ขาดหลักฐานประวัติศาสตร์สนับสนุน จึงน่าจะเป็นการเสริมแต่งของคนรุ่นหลัง อย่างไรก็ตามตำนานของเธอก็เป็นที่นิยมมากเคียงคู่กับตำนานของยอดโจรคนอื่นๆ



*** รู้หรือไม่? ***

ยุคทองของโจรสลัดเป็นยุคที่ศาสนายังมีอิทธิพลต่อคนมาก "เกย์" ในสังคมฝรั่งยุคนั้นจึงผิดผีพอๆกับเกย์ในสังคมอิสลามยุคนี้ อย่างไรก็ตามโจรสลัดนับเป็นผู้แสวงหาอิสระจากระบบเก่า จึงมีการท้าทายกฎเดิมๆมากมาย รวมทั้งเรื่องเกย์ด้วย!

พวกโจรสลัดมีศัพท์พิเศษเรียกว่า "Matelotage" คือการที่ชายสองคนร่วมผูกพันแบ่งสมบัติ แบ่งอาวุธ แบ่งแม้กระทั่งเตียงนอน จนถึงมีสัมพันธ์ทางเพศกันท่ามกลางความเปลี่ยวเหงาของท้องทะเล

เคยมีการพยายามต่อต้านประเพณี Matelotage โดยเพิ่มจำนวนโสเภณีในเมืองที่พวกโจรสลัดมักแวะจอดไปมากๆ ผลลัพธ์นั้นเหนือความคาดหมาย คือทางหนึ่งกลุ่ม Matelotage ไม่ยอมเลิกความสัมพันธ์กันเอง แต่อีกทางพวกเขาก็ยังนิยมใช้บริการโสเภณีมาก ในแบบ threesomes!

"กฎโจร" ***

ไม่ใช่โจรสลัดทุกกลุ่มจะเป็นพวกป่าเถื่อนไร้ระเบียบวินัย จริงๆแล้ว โจรกลุ่มใหญ่ๆ ก็เหมือนกับกองทัพเรือย่อมๆ ซึ่งย่อมต้องใช้อะไรมากกว่ากำลัง หรือความหวาดกลัวในการบริหาร

กองโจรที่ดีนั้นมีฝ่ายบัญชี, ฝ่ายบุคคล, ฝ่ายปกครอง, ฝ่ายวางแผน, ฝ่ายพยาบาล และฝ่ายจัดซื้ออยู่ในตัว

โจรสลัดทุกกลุ่มมีกฎของตัวเองแตกต่างกันตามสังกัดกัปตัน เรามาดูกฎของกัปตันแบล็ค บาร์ต (ดูเพิ่มเติม http://fbl.me/blackbart หรือ คคห. 4) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงว่า "การจัดการดี" กันนะครับ

1. ลูกเรือทุกคนมีสิทธิในการลงคะแนนเสียง ตัดสินใจในเรื่องต่างๆโดยเท่าเทียมกันแบบประชาธิบไตย

2. เมื่อปล้นชิงครั้งใดให้แบ่งสมบัติให้ทุกคนเท่ากัน มีเพียงกัปตันแบล็ค บาร์ตได้มากกว่าคนอื่นเพราะเป็นผู้นำ แต่ก็เพียงสองเท่าของลูกเรือธรรมดาไม่มากกว่านั้น ห้ามยักยอกเงินเกินกว่าส่วนแบ่งที่ตนควรได้

3. ห้ามเล่นพนัน

4. ห้ามจุดไฟบนเรือหลังสองทุ่ม เพราะจะเป็นที่สังเกต

5. ทุกคนต้องรักษาปืนและดาบของตนให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ

6. ห้ามพาผู้หญิงขึ้นเรือ

7. ขณะต่อสู้ กัปตันสั่งบุกต้องบุก สั่งถอยต้องถอย ห้ามกลัวตาย

8. ห้ามสู้กันเองบนเรือ ถ้ามีปัญหาอยากเคลียร์กันจริงๆให้ทำการดวลกันดีๆเมื่อขึ้นฝั่งแล้ว และให้ใช้ดาบสู้ตัดสิน

9. ห้ามพูดเรื่องเลิกเป็นโจรสลัด จนกว่าสมาชิกทุกคนจะได้ส่วนแบ่งจากการปล้นชิงไม่ต่ำกว่าคนละหนึ่งพันปอนด์

10. วงดนตรีบนเรือต้องพักผ่อนในวันอาทิตย์ ห้ามปล้นวันอาทิตย์

ใครละเมิดกฎเหล่านี้ หากไม่ถูกเอาไปปล่อยเกาะ ส่วนใหญ่ก็คือต้องตายครับ



ธงโจรสลัด" ***

ธงโจรสลัดนั้นมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า "Jolly Roger" สันนิษฐานว่ามาจากภาษาฝรั่งเศสคือ "Jolie Rouge" แปลว่า "แดงดีชะมัด"

คำถาม: ธงโจรสลัดที่เรารู้จักมักเป็นสีดำขาว ทำไมถึงเรียกว่า "แดง" ?

คำตอบ: โจรสลัดไม่ได้ใช้ธงผืนเดียว เวลาพวกเขาเห็นเรือสินค้ามาแต่ไกลเขาจะชักธงชาติหรือธงธรรมดา เพื่อล่อให้เรือสินค้าเข้ามาใกล้โดยไม่ระแวง

ต่อเมื่อเรือสินค้าเข้ามาใกล้พอ พวกเขาจะชักธงสีดำขึ้น มีความหมายว่า "พวกข้าเป็นโจร จงยอมแพ้เสียดีๆ"

ถ้าหากเรือสินค้าพยายามแล่นหนี ตอนนั้นพวกโจรสลัดจึงจะชักธงสีแดง แปลว่า "พวกเอ็งตาย!" ซึ่งถ้าแล่นหนีไม่ทันก็ต้องตายกันหมดแน่นอน ธงสีแดงเป็นการขู่ให้กลัวหนักขึ้น

ธงโจรสลัดนั้นมีหลายรูปแบบขึ้นกับกัปตัน ส่วนใหญ่เป็นรูปมือถือดาบ นาฬิกาทราย หัวกะโหลกหรืออะไรที่เกี่ยวกับความตาย

ธงในภาพแนบนี้เป็นของกัปตันโจรชื่อเอ็ดเวิร์ด อิงแลนด์ เป็นรูปกะโหลกมีกระดูกไขว้ ลักษณะใกล้เคียงกับธงมาตรฐานที่เรารู้จักมากที่สุด



เน็ด โลว์" ***

เอ็ดเวิร์ด "เน็ด" โลว์ เป็นโจรสลัดชาวอเมริกัน แต่เด็กเป็นโจรลักเล็กขโมยน้อย โตขึ้นเป็นโจรจี้ปล้น มีนิสัยเป็นคนโมโหร้าย ชอบความรุนแรง

หลังจากภรรยาของเขาเสียชีวิตจากการคลอดลูก โลว์ก็เริ่มมีจิตใจบิดเบี้ยว เขาออกเรือเป็นโจรสลัด ปล้นคนไม่เลือก และไม่ยอมรับลูกเรือที่แต่งงานแล้ว เพราะไม่ชอบเห็นคนอื่นมีความสุขกับครอบครัว

เน็ด โลว์ แตกต่างจาก แบล็ค บาร์ต เสมือนคนละด้านของเหรียญ ขณะที่แบล็ค บาร์ต ทำอะไรมีหลักการ โหดเหี้ยมเฉพาะยามจำเป็น แต่ เน็ด โลว์ จี้ปล้นตามสัญชาตญาน โหดเหี้ยมเพราะความสนุก

...ใช่แล้วครับ โลว์ชอบทรมานเหยื่อของเขาอย่างโรคจิต เช่นตัดแขน ตัดขา ตัดหัว เผาทั้งเป็น เขาเคยเลาะริมฝีปากเหยื่อออก เอาไปปิ้ง แล้วบังคับให้เหยื่อคนนั้นกินริมฝีปากตัวเอง นอกจากนั้นยังเคยควักหัวใจเหยื่อออกมา แล้วบังคับให้เหยื่ออื่นๆกินหัวใจเพื่อน

โลว์ยังชอบทารุณลูกเรือตนเองต่างๆนานา ครั้งหนึ่งมีลูกเรือฮึดสู้ ถูกเขาฆ่าตาย ก่อนตายสามารถฟันแก้มโลว์เป็นแผลได้

หมอประจำเรือมาเย็บแผลให้โลว์ โลว์ตำหนิว่าหมอเย็บไม่สวย จึงฆ่าหมอทิ้ง แล้วเย็บเอง ผลคือเขาเย็บได้แย่กว่าหมอหลายเท่า ทำให้หน้าของเขาเหวอะหวะน่ากลัว (ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่ออาชีพก็ได้)

โลว์ล่องเรือทำการอยู่สามปี ปล้นเรือสินค้าได้นับร้อยลำ เข่นฆ่าทรมานคนนับไม่ถ้วน ในที่สุดเขาสู้แพ้ทหารเรือ ต้องหนีไปกับลูกเรือเพียงไม่กี่คน

ลูกเรือเหล่านั้นเห็นเขาหมดวาสนาแล้วก็ก่อกบฏ จับโลว์ใส่เรือเล็กลอยไปกลางทะเล

มีเรือฝรั่งเศสลำหนึ่งช่วยโลว์ไว้ได้ แต่พอทราบว่าคนที่ช่วยเป็นโจรสลัดชั่ว จึงจับโลว์แขวนคอเสีย



จอห์น คิง" ***

โจรสลัดส่วนใหญ่มีอายุราว 20-30 ปี เป็นวัยที่มีพลัง สามารถผจญภัยหนักๆได้ ส่วนสาเหตุที่ไม่แก่กว่านั้นอีกหน่อยเป็นเพราะถ้าพวกเขาไม่เลิกเป็นโจรก็มักตายก่อนแก่

...แน่นอนสิ่งนี้มีข้อยกเว้น...

โจรสลัดที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่มีบันทึกนั้นชื่อ จอห์น คิง อายุเพียง 9 ขวบ

ปี 1716 ขณะคิงโดยสารเรือไปจาไมกากับแม่ เรือของเขาได้ถูกโจรสลัดเบลลามีปล้น

คิงเห็นพวกโจรสลัดสุดแสนจะเท่ห์ ก็ยืนยันให้เบลลามีรับตนเข้าเป็นโจรด้วย พอถูกเบลลามีปฏิเสธ และถูกแม่ของตัวเองห้าม เขาก็ร้องไห้ขู่จะฆ่าตัวตาย

เบลลามีสุดจะทนความงอแงไร้เหตุผลของคิง จึงตกลงรับเขาเข้าเป็นเด็กขนกระสุน (เรียกว่า Powder Monkey) มีหน้าที่ขนกระสุนดินดำจากที่เก็บกระสุนไปยังฐานปืน ขณะทำการรบ

คิงติดตามเบลลามีไปปล้นเรือหลายลำ มีความสุขกับชีวิตโจรสลัดได้ไม่นานนัก อีกเพียงหนึ่งปีต่อมาเรือของเบลลามีก็โชคร้ายถูกพายุกระหน่ำจนอัปปาง

...คิงเสียชีวิตโดยการจมน้ำตายเช่นเดียวกับลูกเรืออื่นๆ...



รู้หรือไม่? ***

หลายประเทศมีการลงโทษโจรสลัดอย่างโหดเหี้ยมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าหากโจรสลัดโชคดี เขาอาจจะถูกแขวนคอให้เสียชีวิตทันที แต่ถ้าโชคร้าย เขาจะถูก "แขวนโซ่" หรือการจับใส่กรงเหล็กที่รัดทั้งตัว ขยับไม่ได้ ทิ้งตากแดดให้แห้งตายอย่างทรมาน (บางกรณีก็แขวนคอก่อน แล้วค่อยศพเอามาแขวนโซ่ประจาน)

และเพื่อให้ประจานได้นานๆ จะมีการเอาน้ำมันดินมาทาศพนั้นเพื่อชะลอการเน่า รูปแนบคือศพของกัปตันคิดด์ซึ่งถูกเอาน้ำมันดินทา แล้วแขวนโซ่ประจานไว้ริมแม่น้ำเทมส์



นอกจากนั้นการฝังศพโจรสลัดก็ต้องดูให้ดี เพราะถ้าฝังผิดโจรจะสามารถขึ้นสวรรค์ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าอาชญากรเหล่านี้ต้องตกนรก จะมีการนำโจรสลัดฝังไว้นอกเขตโบสถ์ และให้คว่ำหน้าลง วิญญาณโจรจะได้หาทางขึ้นสวรรค์ไม่เจอ

รู้หรือไม่? ***

ตามตำนาน หากโจรสลัดอยากฆ่าใคร จะส่งกระดาษเขียน "จุดดำ" ให้หนึ่งจุด และแม้ผู้ที่ได้รับจุดดำจะขอชีวิตอย่างไรก็จะต้องถูกฆ่าอยู่ดี การได้รับ "จุดดำ" จึงเป็นเพียงการทำให้เหยื่อหวาดกลัวยิ่งขึ้น (ถ้าคุณเป็นโจรสลัด แล้วเผลอทำหมึกเปื้อนกระดาษ อย่าเผลอส่งให้เพื่อนดูนะครับ อาจเป็นสาเหตุให้ฆ่ากันได้)

มีการวิเคราะห์ว่าตำนานนี้น่าจะถูกสร้างโดย โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน ผู้แต่งนิยายเรื่อง Treasure Island โดยนำมาจากประเพณีจริงที่พวกโจรสลัดจะแสดงไพ่หนึ่งโพดำ ให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อกลุ่มดู (ถ้าคุณเป็นโจรสลัด แล้วกำลังเล่นไพ่กับเพื่อน อย่าเผลอชูหนึ่งโพดำให้เพื่อนดูนะครับ อาจเป็นสาเหตุให้ฆ่ากันได้)



โจรสลัดในปัจจุบัน ***

ช่วงนี้ผมเขียนโพสต์เกี่ยวกับยุคทองของโจรสลัด แต่มีคำถามถึงเรื่องโจรสลัดโซมาเลียเข้ามา ผมจะอธิบายโดยย่นย่อนะครับ

ปัจจุบันโซมาเลียมีสงครามกลางเมืองดำเนินติดต่อมายี่สิบปีเศษแล้ว ประเทศแตกออกเป็นหลายฝักฝ่าย กฎหมายไม่มีประโยชน์ ใครมีกำลังก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ เกิดกลุ่มก๊กต่างๆมากมาย

เมื่อขาดอำนาจรัฐมาคุ้มครอง ประเทศอื่นๆก็ไม่เคารพอธิปไตยของโซมาเลีย มีเรือประมงชาติต่างๆรุกล้ำเข้าไปจับปลาอย่างผิดกฎหมายในปริมาณที่ไม่กลัวปลาสูญพันธุ์

กรณีที่แย่กว่านั้นคือพวกบริษัทใหญ่ๆของประเทศแอฟริกาและตะวันออกกลางนำขยะมหาศาลของตนไปทิ้งน่านน้ำโซมาเลียโดยไม่รับผิดชอบ ทำลายล้างทรัพยากรทางทะเลของโซมาเลียอย่างมาก

ชาวประมงโซมาเลียได้รับความลำบากจากสงครามอยู่แล้ว ต้องมาเจอชาวต่างชาติทำลายที่ทำกินของตน ร้องทุกข์กับใครก็ไม่ได้ ในที่สุดจึงรวมกันเป็นโจรสลัด ปล้นเรือหาปลา และเรือสินค้าต่างชาติ นำรายได้มาเลี้ยงหมู่บ้าน

ทัพเรือนานาชาติรวมกำลังกันปราบโจรสลัดเหล่านี้ แต่ปราบแล้วก็มีมาอีก เพราะต้นเหตุมันยังไม่หมด

ปัจจุบันมีหลายชาติเช่นอเมริกาและเอธิโอเปีย เข้าไปแทรกแซงสงครามโซมาเลีย สนับสนุนจนฝ่ายที่โปรอเมริกานั้นเริ่มได้เปรียบฝ่ายอิสลามหัวรุนแรงขึ้นมาบ้างแล้ว

ก็ไม่รู้ว่าหากฝ่ายโปรอเมริกาชนะสงคราม จะเป็นรัฐบาลที่ดีหรือเปล่า แต่ก็ยังดีกว่าภาวะสงครามกลางเมืองแน่นอน

เรื่องโจรสลัดโซมาเลียนี้มีผลกระทบต่อโลกอย่างใหญ่หลวง คือโซมาเลียตั้งอยู่บริเวณทะเลแดง เชื่อมกับมหาสมุทรอินเดีย สินค้าที่ขนส่งระหว่างยุโรปกับเอเชียต้องผ่านจุดนี้ มิฉะนั้นต้องอ้อมแอฟริกาทั้งทวีป ทำให้เสียเวลาเดินทางมาก

สมัยผมเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ ผมนำของกลับทางเครื่องบินไม่หมด ก็แพ็คของส่วนใหญ่ลงเรือส่งกลับบ้าน ตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาไม่กี่เดือน แต่พอเกิดเหตุโจรสลัดโซมาเลียอาละวาด พวกบริษัทเดินเรือก็หลีกเลี่ยงการเดินทางทางทะเลแดง พัสดุผมต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะมาถึงเมืองไทย




เครดิต
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat
http://pantip.com/topic/31881910
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: ขายวิญญาณให้ยูไนเต็ด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2007
ตอบ: 11812
ที่อยู่: soccersuck.com
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 14:31
[RE: เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช]
เคยอ่านเรื่องของ แบลคเบียร์ด หรือเคราดำ น่ากลัวเลยล่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4017
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 14:49
[RE: เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช]
โจรสลัดสมัยนี้มัน เรือหาปลาติดอาวุธชัดๆ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Keep The Blue Flag Flying High !!
ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: อย่าโลกสวยขอร้อง !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 12063
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 15:01
[RE: เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช]
ยาวไป แต่อ่าน จบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Chelsea FC เข้าใจตรงกันนะ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: โตเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5029
ที่อยู่: BBS PLAYPARK
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 15:06
[RE: เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช]
อัลไซเมอร์ พิมพ์ว่า:
ยาวไป แต่อ่าน จบ  
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Sep 2013
ตอบ: 963
ที่อยู่: ไทยแลนด์
โพสเมื่อ: Fri Apr 11, 2014 16:13
[RE: เรื่องของโจรสลัด เรื่องของวันพีช]
ได้รู้ความจริงยิ่งกว่าฟุตบอล
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel