บัญญัติ 5 ประการสำหรับการทำธุรกิจ
จากหนังสือ The Millionaire Fastlane ในกระทู้นี้นะครับ
http://www.soccersuck.in.th/boards/topic/1363649
ในหนังสือได้พูดถึงแนวคิดการทำธุรกิจสำหรับคนที่อยากอยู่ในเลนเร็ว (Fast Lane) ไว้ว่าควรให้อยู่ในบัญญัติ 5 ประการนี้ ซึ่งผมอ่านแล้วก็เห็นด้วยว่านี่เป็นเหตุผลที่หลายคนทำธุรกิจแล้วติดแหง่ก โตไม่ได้หรือตายเร็วก่อนกำหนด
ก่อนพูดถึง 5 ข้อดังกล่าวเราควรกล่าวถึงเรื่องนึงที่สำคัญก่อนครับ นั่นคือกฎที่เรียกว่า "กฎแห่งผลกระทบ" หรือ Law of Effection
กฎดังกล่าวเหมือนกฏทั่วไปที่ให้ผล 100% เช่นถ้าคนสองคนตกตึกไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือเลวพวกเขาก็จะตกถึงพื้นเหมือนกันตามกฎของแรงโน้มถ่วง (Law of Gravity)เป็นต้น
แนวคิดของกฎดังกล่าวมีอยู่ว่า To make millions you must impact millions หรือถ้าอยากได้เงินล้านสิ่งที่คุณต้องทำต้องช่วยแก้ปัญหา / ช่วยเหลือ / เข้าถึงคนเป็นล้าน ๆ คนครับ ถ้าลองไล่ดูเราจะเห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนเกี่ยวเนื่องกับกฎข้อนี้ทั้งหมด
- แก๊งสามช่าทำให้คนหัวเราะได้เป็นล้านคน ดูความนิยม ชื่อเสียงและรายได้ที่พวกเค้ามีครับ
- เซเว่นแก้ปัญหาให้คนอยู่ดึกนับล้านคนได้มีตัวเลือกในการซื้อของยามจำเป็นในตอนดึก
- Google ช่วยแก้ปัญหาคนนับพันล้านคนทั่วโลกเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ (และรายได้ก็ผันแปรตาม "ผลกระทบ" ที่พวกเค้ามีต่อผู้คนเช่นกัน)
ซึ่งบัญญัติ 5 ประการที่จะพูดถึงนี้เป็นส่วนประกอบของ Law of Effection ที่ว่านี้ ประกอบด้วย
1. The Commandment of Need (ความต้องการ)
2. The Commandment of Entry (การเข้าถึง)
3. The Commandment of Control (การควบคุม)
4. The Commandment of Scale (สเกล)
5. The Commandment of Time (เวลา)
เรียกย่อรวมกันว่า NECST และในวันนี้จะพูดถึงเฉพาะข้อแรกก่อนครับคือ The Commandment of Need (ความต้องการ)
ก่อนอื่นคุณต้องถามก่อนว่าคุณต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจเพราะอะไรครับ?
- เพราะอยากรวยล้วน ๆ
- เพราะคิดว่าจะมีเวลาและอิสระในชีวิตมากขึ้น
- อยากมีช่องทางรายได้เสริม
- หรือว่าได้ทำตามความฝันที่เคยฝันไว้ (อยากเปิดร้านดอกไม้ตั้งแต่เด็ก / อยากทำร้านขายอาหารตั้งแต่วัยรุ่น)
ประเด็นคือผู้บริโภคในตลาดเค้าไม่สนความฝันของคุณหรอกครับและไม่สนด้วยว่าคุณจะอยากรวยไปทำไมหรือเอาเงินไปทำอะไร สิ่งที่พวกเค้าสนคือ
- สิ่งที่คุณนำเสนอคือสินค้าหรือบริการนั้น คือทางแก้ปัญหาที่พวกเค้ามองหาอยู่หรือไม่
- สิ่งที่คุณนำเสนอแก้ปัญหาให้พวกเขาได้อย่างไร และ
- เค้าจะได้อะไรบ้างจากเงินที่จ่ายให้คุณ
ธุรกิจกว่า 90% ที่เริ่มต้นและล้มเหลวนั้นเกิดจากการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกิดจากความคิดว่าทำเพื่อตัวเองและตัวเองล้วน ๆ โดยไม่ได้สนว่าของที่คุณขายมีคนต้องการหรือไม่หรือมันแก้ปัญหาให้ลูกค้าคุณได้จริง ๆ หรือไม่ ดังนั้นอย่าเริ่มธุรกิจด้วยการวิ่งไล่เงินเป็นบ้าเป็นหลังครับ อย่าเริ่มเพราะว่าอยากรวยล้วน ๆ การหวังรวยนั้นไม่ผิดแต่หากสินค้าหรือบริการคุณไม่ได้มาเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนที่คุณนำเสนอ (และแก้ได้ดีเยี่ยม) แล้ว ธุรกิจก็จะอยู่ไม่ได้นานครับ คุณควรวิ่งตาม "ความต้องการ" ของลูกค้าแล้วนำเสนอ "คุณค่า" ที่คุ้มค่าแก่พวกเขาจะเป็นการเริ่มธุรกิจที่ดีกว่าครับ
แต่มีคนทำธุรกิจนี้อยู่แล้ว
เป็นอีกข้อหนึ่งที่มีการถกในหนังสือและผู้เขียนได้ชี้ประเด็นนี้ว่าทุกสิ่งที่เราคิดว่าไม่เคยมีใครทำและเป็นนวัตกรรมนั้น โดยมากมีคนทำอยู่แล้วและนวัตกรรมที่เป็นนวัตกรรมจริง ๆ (เช่น ไฟฟ้า) มีโอกาสเกิดน้อยครั้งมาก สิ่งที่ควรคิดมากกว่าทำยังไงสินค้าหรือบริการที่คุณจะนำเสนอ "จึงจะดีกว่า" เจ้าที่ทำอยู่แล้วในท้องตลาดครับ
มีกรณีศึกษาอันนึงเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ Crystal Head Vodka
เจ้าของมีไอเดียเพียงแค่ว่านำวอดก้าเดิม ๆ ที่มีขายมาเป็นร้อย ๆ ปีซึ่งเป็นของดาด ๆ น่าเบื่อในขวดทรงธรรมดา ๆ มาแปลงสารใส่ในขวดรูปกะโหลกและทำบรรจุภัณฑ์เสริมใหม่ จากนั้นก็บูม ยอดขายประสบความสำเร็จถล่มทลายทั่วโลก ถามว่าสิ่งนี้มันเป็นนวัตกรรมสุด ๆ หรือเปล่า มันคือวอดก้าสูตรใหม่ที่ไม่มีขายในโลกอื่นหรือไม่ ไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องของไอเดียและความสร้างสรรค์ในการสร้างคุณค่าที่แตกต่างออกมาครับ
ครั้งหน้าต่อจะมาต่อในหัวข้อ Entry นะครับ
เรื่องราวภาคต่อที่เกี่ยวข้อง
ความอยาก "ดูแพง" ทำลายความรวยที่แท้จริงของคุณ
ทางเลือกที่อาจเปลี่ยนคุณไปตลอดชีวิต
Slow Lane - ทางรวยแห่งฝันที่มักไปไม่ถึง
แผนธุรกิจที่ดีที่สุด
รางวัลแด่คนช่างฝัน...
บัญญัติ 5 ประการสำหรับการทำธุรกิจ (ตอน 2)"ผู้ชายทุกคนอยากได้ภรรยาที่ดีพร้อมแต่น้อยคนที่ทำตัวให้ดีพอที่จะได้จริง ๆ" - นิรนาม
"ความยิ่งใหญ่ของเราไม่ได้เกิดจากการไม่เคยล้มเลยหากแต่เกิดจากการลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้ม" ขงจื๊อ
"อยู่ห่างจากคนคิดลบไว้ เพราะสำหรับเค้าทุกทางแก้ล้วนมีแต่ปัญหา" อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์