ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 19 Nov 2006
ตอบ: 41
ที่อยู่: ดาวพลูโต
โพสเมื่อ: Thu Jun 25, 2015 4:13 pm
ที่มาของชื่อสถานที่ต่างๆในกทม.
เคยสงสัยมั้ยว่าชื่อสถานที่แต่ละที่ที่เราเรียกๆกันมาตลอดนี่มันมีที่มาที่ไปยังไง มันมีเหตุผลที่ต้องเรียกแบบนี้มั้ย ทำไมไปสะพานควายกูไม่เคยเห็นมีควายสักตัว #มาๆเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง

สุขุมวิท
มาจากชื่อของนาย สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย อ้าวหลอกๆ 5555 จริงๆแล้วมันมาจากชื่อของ พระพิศาลสุขุมวิท อธิบดีกรมทางหลวงคนแรกๆของประเทศเราต่างหาก 555555

สีลม
เมื่อก่อนแถวนี้เป็นทุ่งนา พอฝรั่งเข้ามาก็มีการตั้งกังหันลมวิดน้ำ เอาพลังงานลมที่ได้มาใช้สีข้าวช่วยเหลือชาวนา พอมีการตัดถนนทำที่พักตากอากาศในย่านนี้ช่วงสมัยร.๔ ก็เลยเรียกชื่อถนนนี้ว่าสีลม ปัจจุบันตรงแยกสีลม-นราธิวาสก็ยังมีกังหันลมตั้งอยู่เป็นอนุสรณ์เผื่อคนจะลืมว่าทำไมถึงชื่อนี้ (เดี๋ยวนี้ถนนนี้ไม่ค่อยสีลมแล้วแต่เป็นที่สีกันเองของบรรดาเก้งกวางโดยเฉพาะช่วงซอยต้นๆหัวถนน กะซอยพัฒนพงศ์แต่อันนั้นเป็นสีกับเสา ถถถถถถถถ)

ศาลาแดง
ก็ตามชื่อเลยไง มึงจะเอาอะไรอีก มันคงเป็นศาลาสีน้ำเงินมั้งน่ะ ห๊ะ คิดสิคิด

อ้ะๆ ล้อเล่น เล่าก็ได้ ก็คือเมื่อก่อนตรงถนนพระรามสี่ในปัจจุบันเนี่ย มันเคยเป็นทางรถไฟสายแรกของเอกชนมาก่อน (สาย หัวลำโพง-ปากน้ำ) โดยที่สถานีแรกมันมาตั้งอยู่ตรงหัวถนนสีลมพอดี เป็นศาลาเล็กๆกลางทุ่งนาทาสีหลังคาสีแดง ก็เลยเรียกต่อๆกันมาว่าศาลาแดงๆไง เข้าใจแล้วช้ะ?

สยาม
รัชกาลที่๕ ทรงเห็นว่าย่านนี้ในคลองทำไหมมีบัวเยอะจรุง เลยทรงให้ขุดสระบัวขึ้นมาแล้วสร้างวังชื่อวังสระปทุม และวัดปทุมวนาราม และเรียกชื่อตำบลแถบนี้ว่าปทุมวัน

ต่อมา จุฬาซึ่งเป็นเจ้าของที่ ปล่อยเช่าที่ให้ทำโครงการชื่อปทุมวันสแควร์ แต่นายกอบชัย เจ้าของโครงการขณะนั้นเห็นว่า ชื่อปทุมวันแม่งเป็นแค่ชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัดพระนคร ไม่ยิ่งใหญ่เบยยยยย เอาชื่อประเทศแม่งเลยดีก่า เลยเปลี่ยนกลายเป็นสยามสแควร์ ห้างย่านนี้ เลยเป็นชื่อ สยามนำหน้าทั้งหมด เช่น สยามพรากร สยามมาบุญครอง สยามเซ็นทรัลเวิลด์ ห๊ะ ไรนะ ไม่ใช่หรอ อ้าว ท่ดๆ ถถถถถถ

ศาลายา
หลายคนรวมทั้งเด็กมหิดลคงได้เคยฟังตำนานเล่าขานกันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่าที่แถวนี้เคยมีโรคห่าระบาด คนตายกันชิบหายวายป่วง หมอไม่กล้าเข้ามารักษา เลยเอายาไปแขวนไว้ที่ศาลา จนเรียกที่แถบนี้ว่าศาลายา แต่จะบอกว่าที่พวกมึงฟังแล้วเอามาเล่าต่อกันมานี่มันตอแหลสิ้นดี

จริงๆแล้วชื่อนี้มันเริ่มตั้งแต่สมัยร.๔ ตะหาก ท่านทรงโปรดเกล้าให้ขุดคลองมหาสวัสดิ์เชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำนครชัยศรี แล้วสร้างศาลาท่าน้ำไว้ทุกๆสี่กิโลเมตร ตรงศาลากึ่งกลางคลองพอดีมีการจารึกตำรายารักษาโรคไว้บนกระดานเพื่อเป็นกุศล ชาวบ้านแถวนั้นจึงเรียกพื้นที่รอบๆศาลานี้ว่าศาลายา

ศาลาธรรมสพน์
ตามตำนานของเด็กมหิดล(อีกแล้ว) ก็ได้บอกไว้ว่า เขตนี้มันมีที่มาพร้อมๆศาลายา คือพอคนป่วยตายห่าเพราะโรคระบาดกันเยอะๆก็เลยต้องยกเอามาเผามาทำศพกันที่นี่ ซึ่งจริงๆที่มาของชื่อนี้มันก็มาจากชื่อศาลาทำศพจริงๆนั่นแหละแต่แม่งไม่ใช่ศพคนตายจากโรคระบาดหรอก แต่เป็นศพของคนงานขุดคลองตะหากนะคะชะเอิงเอย

สะพานขาว
เป็นชื่อที่ได้มาจากวังแถวหลานหลวงของลูกชายรัชกาลที่๕ คนที่๔๒ !! ใช่แล้ว มึงไม่ได้อ่านผิดหรอก คนที่สี่สิบสองจริงๆ ร.๕ ท่านทรงพระขยันมากๆ มีลูกรวมกันทั้งหมดถึง ๙๗ คน พระมเหสีและนางสนมทุกคนรวมกันอีก ๑๕๒ ! แม่เจ้า...

สะพานเหลือง
คือสะพานขาวที่เก่าจนเหลือง ตึ่งโป๊ะ! ไม่ใช่แระ 55555 จริงๆแล้วสะพานเหลืองมันก็คือสะพานสีเหลืองแหละฮะ สมัยร.๕ ตรงนี้มีคลองอยู่คลองนึงชื่อคลองหลวง แล้วก็มีสะพานข้ามคลองสีเหลืองอ๋อยอยู่อันนึง คนก็เลยเรียกตามๆกันมาจนปัจจุบัน ทุกวันนี้คลองหลวงโดนถมไปเรียบร้อยแระ กลายเป็นถนนพระราม ๖ สะพานนี้แม่งก็ไม่มีอีกแระ เคนะ จบปะ

สะพานควาย
เมื่อก่อนแถวนี้ชื่อทุ่งศุภราช เป็นย่านซื้อขายควายที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทุ่งนา ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างคลองบางซื่อกะคลองสามเสน

ตามตำนานเล่าว่ามีพ่อค้าควายอยู่คนนึงชื่อนายฮ้อย แกก็พากองคาราวานควายมาจากอีสาน เดินกันมาแท่ดๆๆกะมาขายควายที่นี่ พอเดินมาถึง เอ้าอีเชี่ยมีคลอง ควายกูน่าจะว่ายน้ำไม่เป็น ไม่รู้ทำไงเลยเอาไม้มาพาด ก่อนที่ภายหลังจะพัฒนาเป็นสะพานไม้และสะพานคอนกรีตตามลำดับ ก็เลยเรียกกันว่าสะพานควาย เป็นไง ง่ายดีมั้ย 55555555

สะพานเหล็ก
ตามชื่อเลย เป็นสะพานที่ทำจากโครงเหล็ก เปิดปิดได้ ข้ามคลองรอบพระนคร สร้างสมัยร.๕ จริงๆชื่อเต็มชื่อว่าสะพานดำรงสถิตย์ ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เพราะตอนก่อสร้างสะพานได้สร้างความเดือดร้อนให้ท่านนิดหน่อยเพราะต้องย้ายประตูวังไปทิศอื่นแทน

ปัจจุบันพัฒนาเป็นแหล่งขายหนังโป๊และของเล่นผู้ใหญ่ 555555555555 แต่หมินไม่เคยไปนะ หมินฟังๆเค้ามา หมินไม่เสียตังค์ให้เรื่องไร้สาระพรรค์นี้หรอก...

...โหลดเอาก็ได้ ฮี่ย์ๆ

เหนื่อยละอะ พอแค่นี้ละกันนะ จริงๆมีอีกหลายอันเลยที่อยากพิมพ์แต่รอไว้ภาค 2 ละกัน ถ้ามีคนชอบอ่านแนวนี้นะ เพราะถ้าเดี๋ยวยาวเกินพวกมึงก็ไม่อ่านกันอีก ไปละ บุย



อันนี้ตัดมาจากเพจผมเองครับ เพิ่งเปิดมาได้ครึ่งปี ยังไงถ้าชอบอ่านอะไรเพลินๆ สาระบ้าง ไร้สาระบ้าง ตลกบ้าง ซีเรียสบ้าง ก็เชิญกดไลค์ได้นะฮะ

แต่ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ก็ถือซะว่าผมเอามาให้อ่านกันสนุกๆครับ ขอบคุณนะครับ ^^

อันนี้ลิ้งค์เพจครับ ชื่อเพจ "มาๆเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง"

https://www.facebook.com/iwilltellyouastory
เข้าร่วม: 10 Nov 2014
ตอบ: 487
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jun 25, 2015 4:37 pm
[RE: ที่มาของชื่อสถานที่ต่างๆในกทม.]
พูดตรงๆ ผมรำคาญการใช้ภาษาเขียนของบทความนี้ จริงๆ


เข้าร่วม: 20 Mar 2006
ตอบ: 2228
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jun 25, 2015 5:02 pm
[RE: ที่มาของชื่อสถานที่ต่างๆในกทม.]
เป็นข้อมูลที่ดีนะ ผมอ่านจนจบเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอดีต แต่ยอมรับว่าคนที่โพสต์ตั้งเเต่แรกใช้ภาษาได้ชวนให้เลิกอ่านมาก...
0
0
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 7110
ที่อยู่: Anfield Road
โพสเมื่อ: Thu Jun 25, 2015 5:03 pm
[RE: ที่มาของชื่อสถานที่ต่างๆในกทม.]
Thank you ....
0
0