BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
24 December 2013 07:42 by น้า
อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)


บทที่ 9 : Keane (ตอนที่ 2)

สำหรับตอนที่ 1 สามารถอ่านได้จากที่นี่
สำหรับตอนที่ 2 สามารถอ่านได้จากที่นี่

ลึกๆแล้ว การจากไปของเขาเป็นสิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้น เพราะนักเตะมากมายหลายคนในห้องแต่งตัวหวาดกลัวเขา และพวกเขาเหล่านั้นก็เฉิดฉายขึ้นมาจากการจากไปของรอย นักเตะอย่างจอห์น โอเชียและดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ไปเต็มๆ ในตอนที่เราเดินทางไปที่ฝรั่งเศสเพื่อลงแข่งขันกับลีลล์ ในปารีส เดือนพฤศจิกายน 2005 นักเตะถูกโห่ในสนามขณะอบอุ่นร่างกาย ส่วนหนึ่งนั้นมาจากผลกระทบของสิ่งที่รอยได้พูดออกไปในการให้สัมภาษณ์กับ MUTV เฟล็ทเชอร์และโอเชียโดนเล่นงานมากที่สุด

ผมคิดว่าห้องแต่งตัวของพวกเราผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อรอยย้ายออกจากทีม ความโล่งใจพัดพาเข้ามา พวกเขาไม่จำเป็นต้องรับฟังคำวิจารณ์ต่างๆนาๆ และด้วยเหตุผลที่รอยกำลังอยู่ในช่วงขาลง การจากไปของเขาก็ไม่ได้เป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่เราจะต้องเติมเต็ม ไม่เหมือนกับ 3 ปีก่อนหน้านี้ ผมได้ดูเกมการเล่นของเขาในแมทช์ที่เซลติกแข่งขันกับเรนเจอร์ส และบอกกับคาร์ลอสก่อนเกมเริ่มต้นว่าวันนี้รอยจะเป็นดาวเด่น

รอยแทบจะไม่มีส่วนร่วมในเกมนั้นเลย เขาลงเล่นในตำแหน่งปกติทั่วไป รอย คีนผู้ทรงพลังและคอยขับเคลื่อนทีมไม่อยู่ที่นั่น เขารักเซลติก ปาร์ค ผมเคยพูดกับเขาถึงเรื่องนี้และเขาก็ได้กล่าวชื่นชมสิ่งอำนวยความสะดวก, สนามซ้อม และโปรโซน เรื่องราวระหว่างเราสองคนเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ประมาณ 2 เดือนหลังจากนั้นตอนที่ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศพูดคุยเรื่องธุระของทีมกับคาร์ลอส มีทีมงานคนหนึ่งเข้ามาบอกกับผมว่ารอยมาที่นี่เพื่อพบกับผม ผมผวาเลยล่ะ

"ผมเพียงแค่อยากจะขอโทษคุณกับพฤติกรรมของผม" เขาว่างั้น นั่นคือตอนที่เขาเริ่มพรรณนาถึงภาพฉากต่างๆที่เซลติก และเล่าให้ผมฟังว่าชีวิตของเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่หลังจากที่ผมได้เห็นเขาในเกมระหว่างเซลติกและเรนเจอร์ส ผมรู้ว่าเขาคงจะไม่ฝืนไปต่อแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงกำลังคืบคลานเข้ามาก่อนที่รอยจะออกจากทีมไป แต่มันยังไม่ถึงจุดนั้น มีความจริงเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือพวกเราสามารถผลิตนักเตะขึ้นมาใหม่ และมันก็เป็นแบบนั้น เฟล็ทเชอร์เติบโตขึ้นและมีประสบการณ์มากขึ้น ผมซื้อตัวปารืค จี-ซองเข้ามาสู่ทีม และจอห์นนี่ อีแวนส์ก็ทำผลงานทะลุมาถึงทีมชุดใหญ่

บ่อยครั้งที่นักเตะทีมชุดใหญ่จะไม่ตระหนักว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบๆตัวพวกเขา เพราะพวกเขาจะไม่มองลงต่ำไปกว่าตัวของพวกเขาเอง พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทีมชุดอื่นๆของสโมสร กิ๊กส์, สโคลส์และเนวิลล์คือข้อยกเว้น บางทีริโอ และเวส บราวน์ก็เช่นกัน นักเตะคนอื่นๆจะไม่รู้อะไรทั้งนั้น พวกเขามองว่างานของพวกเขาคือการลงเล่น แต่ผมมองออกว่ารากฐานของเรากำลังพัฒนาขึ้น นั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขาในแง่มุมของการคว้าถ้วยรางวัล แต่กระนั้นคุณก็กำลังจัดการกับความเปลี่ยนแปลง คุณจำเป็นที่จะต้องยอมรับช่วงเวลาที่เงียบสงบ และความเปลี่ยนแปลง โดยเรื่องเหล่านี้กินเวลาเป็นปี

ผมไม่เคยร้องขอเวลา 3-4 ปีในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จ เพราะกับสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณไม่มีวันได้รับเวลามากมายขนาดนั้น คุณต้องพยายามเร่งกระตุ้นให้มันเกิดขึ้นเร็วขึ้น และบางครั้งก็ต้องกล้าด้วย ส่งนักเตะดาวรุ่งลงเล่น, ทดสอบพวกเขา ผมไม่เคยเกรงกลัวในการทำเรื่องอะไรแบบนี้ มันไม่ได้เป็นหนึ่งในหน้าที่ แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานที่ผมรัก นี่คือตัวตนของผม ผมเคยทำแบบนี้ยามคุมทีมเซนต์ มิร์เรนและอเบอร์ดีน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉะนั้นเมื่อเราพบเจอกับช่วงเวลาเหล่านี้ เราจะมอบความเชื่อมั่นของพวกเราให้กับนักเตะดาวรุ่งเสมอ

ในส่วนเรื่องการซื้อนักเตะเสริมทีม คาร์ลอสชื่นชมอันแดร์สันเป็นอย่างมาก ในวันหนึ่ง เดวิด กิลล์เดินทางไปที่สปอร์ติ้ง ลิสบอนเพื่อเซ็นสัญญากับหลุยส์ นานี่จากนั้นขับรถขึ้นทางด่วนเพื่อไปขอซื้ออันแดร์สันจากปอร์โต้ นักเตะสองคนนี้ทำให้เราเสียเงินไปเยอะ แต่มันแสดงให้เห็นว่าพวกเรา สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คิดอย่างไรกับดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ พวกเรามีนักเตะเกมรับที่ยอดเยี่ยมทั้งเฟอร์ดินานด์, วิดิชและเอฟร่า พวกเราเป็นทีมที่มีกองหลังแข็งแกร่ง รูนี่ย์กำลังพัฒนาขึ้น พวกเรายอมปล่อยตัวหลุยส์ ซาฮาออกไปเพราะว่าเขาพบเจอกับอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ เรายืมตัวเฮนริค ลาร์สันเข้ามาและเขาคือการค้นพบอย่างแท้จริง

หลังการกระชับไมตรี ความสัมพันธ์ของผมและรอยก็มีปัญหาอีกครั้ง ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเขาเกี่ยวกับผลกระทบจากการล้างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกไปจากชีวิตของเขา คำกล่าวอ้างของเขาบอกว่าพวกเราคงจะลืมเขาไปแล้วในตอนนั้น จะมีใครหลงลืมสิ่งที่เขาได้ทำไว้ให้กับสโมสรได้ล่ะ? สื่อมวลชนเคยมองว่าเขาดูคล้ายคลึงกับผู้จัดการทีม เพราะความกระหายในการคว้าชัยชนะและแนวทางการกระตุ้นทีมของเขา พวกเขาตั้งคำถามกับผมตลอดว่า "รอย คีนจะเป็นผู้จัดการทีมได้ไหม?" ในอาชีพการทำงานโค้ชของเขา มันชัดเจนเลยว่าเขาต้องใช้จ่ายเงินเพื่อผลการแข่งขัน เขามองหานักเตะคนใหม่ๆเสมอ ผมไม่รู้สึกว่ารอยมีความอดทนมากพอในการสร้างทีม

ในฤดูกาล 2011-12 พวกเราไม่ลงรอยกันอีกครั้งเมื่อรอยวิจารณ์นักเตะดาวรุ่งของพวกเราหลังเกมพ่ายบาเซิ่ลอย่างหนัก เกมการแข่งขันดังกล่าวทำให้พวกเราตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก และผมก็ได้ตอกคืนเขาโดยบอกว่าเขาเป็น "กูรูหลังจอแก้ว" หากคุณศึกษาช่วงเวลาของเขาตอนท้ายๆที่เขาคุมทีมซันเดอร์แลนด์และอิปสวิช หนวดเคราของเขาขาวขึ้นและดวงตาก็ดำเข้มมากขึ้น คนบางคนอาจจะประทับใจกับความคิดเห็นของเขาผ่านทีวี และคิดว่า "อย่างน้อยเขาก็กล้าพอที่จะวิจารณ์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ตั้งแต่นาทีที่เขารับงานเป็นกูรูหลังจอแก้ว ผมก็รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมุ่งเน้นมาที่ยูไนเต็ด

เรื่องการด่านักเตะดาวรุ่งน่ะเหรอ? เขาไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับเวย์น รูนี่ย์ ซึ่งเวย์นจะไม่ทนกับเรื่องแบบนั้น นักเตะในทีมชุดใหญ่จะช่วยจัดการให้กับเขา เฟล็ทเชอร์และโอเชียเป็นสองคนที่โดนเล่นงาน และพวกเขาก็ต้องถูกแฟนบอลรุมโห่เป็นผลลัพธ์ตอนที่เราแข่งขันกับลีลล์ในปารีส การคุมทีมของรอยสองครั้งพิสูจน์ให้เราเห็นเรื่องหนึ่ง...เขาต้องการเงิน เขาใช้จ่ายซื้อนักเตะมากมายกับซันเดอร์แลนด์และก็ล้มเหลว เขาใช้จ่ายมากมายกับอิปสวิชและก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เขาได้ให้สัมภาษณ์กับเดวิด วอลช์ใน Sunday Times บอกว่าผมคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง และยกตัวอย่างสถานการณ์กับจอห์น แม็คไนเออร์เรื่องม้าร็อค ออฟ ยิบราลต้าร์ขึ้นมา ไม่น่าเชื่อเลย วันนั้นในออฟฟิศของผมที่เราประชันฝีปากกันและดวงตาของเขาดำมืดมิด เขาก็เอ่ยเรื่องจอห์น แม็คไนเออร์ขึ้นมา ผมไม่เคยเข้าใจความครอบงำที่เขามีต่อเรื่องนี้ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องม้าร็อค ออฟ ยิบราลต้าร์เลย

ในการนัดพบกันที่เรามีในวันศุกร์ พวกเราตกลงกันว่าแต่ละฝ่ายจะไม่พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย ผมคงจะปฏิบัติตามและให้เกียรติข้อตกลงนั้น แต่ความจริงก็คือรอยเป็นคนที่ละเมิดสิ่งนั้นเป็นคนแรก ยามที่รอยคุมทีมซันเดอร์แลนด์ เขาจวกยูไนเต็ดว่าดูถูกเขาและโกหกเขาทำให้เขาต้องลาจากสโมสร สโมสรของเราพิจารณาจะเล่นงานเขาทางกฎหมาย รอยบอกว่าเขาจะไม่ยอมถอนคำพูดดังกล่าว ความรู้สึกของผมก็คือเขาพยายามหาทางเอาเรื่องขึ้นศาลเพื่อทำให้แฟนบอลประทับใจ จริงๆแล้วเขายังคงเป็นฮีโร่สำหรับแฟนๆ คำแนะนำของผมที่มีให้กับเดวิด กิลล์ก็คือถอนคำฟ้องออกมา ผมรู้สึกว่าพวกเราได้รักษาศักดิ์ศรีของทีมเอาไว้

แก้ไขล่าสุดโดย น้าลูกอม เมื่อ Tue Dec 24, 2013 07:59, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

=================================
ติดตาม SoccerSuck ใน Facebook ที่: https://www.facebook.com/soccersuck01
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 997
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:02
Top Comment [RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
เรื่องบาดหมางของทั้งคู่นั้น ก็คือ เรื่องของคนสองคน

*** แต่ในความเป็นจริง

"รอย คีน" ยังเป็น "กัปตันแห่งกัปตัน" ของยูไนเต็ด และเหล่าสาวกอยู่เสมอ

"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ก็ยังเป็น "โคตรกุนซือที่รักของยูไนเต็ด" และสาวกอยู่เสมอเช่นกัน !
_________________
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 997
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:02
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
เรื่องบาดหมางของทั้งคู่นั้น ก็คือ เรื่องของคนสองคน

*** แต่ในความเป็นจริง

"รอย คีน" ยังเป็น "กัปตันแห่งกัปตัน" ของยูไนเต็ด และเหล่าสาวกอยู่เสมอ

"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ก็ยังเป็น "โคตรกุนซือที่รักของยูไนเต็ด" และสาวกอยู่เสมอเช่นกัน !
_________________
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 2341
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:11
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ยิ่งอ่านเหมือนรอยคีนยิ่งดูแย่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: ผู้พิทักษ์แห่งหมอก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5412
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:13
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
รอยส์คีนเป็นคนมีทิฐิมากไป แต่นี่ก็เป็นแค่มุมมองของป๋า

ปล.ขอบคุณที่แปลบทความดีๆให้ครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2009
ตอบ: 205
ที่อยู่: เจียงฮาย
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:15
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ขอบคุณค้าบบบ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: We'll be coming back for you one day.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Dec 2005
ตอบ: 704
ที่อยู่: ชมรมคนรักหนังแห่ง SS
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 08:43
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ผมว่า ถ้าคีโน่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ อาจจะมีสักวันได้กลับมาคุมแมนยูก็เป็นได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Oct 2008
ตอบ: 4444
ที่อยู่: ท่ามะกา
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 09:04
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
"ผมไม่เคยร้องขอเวลา 3-4 ปีในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สำเร็จ เพราะกับสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณไม่มีวันได้รับเวลามากมายขนาดนั้น"
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
หนุ่มเมืองกาญจน์
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: อากาศดีสบายกายบรรยากาศดีสบายใจ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 May 2009
ตอบ: 5302
ที่อยู่: Bangkok,Thailand
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 09:23
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
จากกันไม่ดีนะคู่นี้

ต้นตอเลยจริงๆ ถ้าผมเป็นรอย คีน ผมจะหมั่นไส้เครอซมาก

เพราะหลายๆเหตุการณ์ เครอซ มีส่วนในการตัดสินใจเรื่องคีน

ความสัมพันธ์คู่นี้เหมือนจะแย่ลงต้ังแต่ป๋าเอา เครอซ เข้ามา

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10134
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 10:21
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ใครเคยด่าป๋าเรื่องหนังสือ ตอนนี้หันไปด่าคีนกกันเป็นแถว ฮ่าๆๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jul 2007
ตอบ: 276
ที่อยู่: 526-528 ถ.ศรีอุทัย ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี 61000
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 10:24
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
เรื่องบาดหมางของทั้งคู่นั้น ก็คือ เรื่องของคนสองคน

*** แต่ในความเป็นจริง

"รอย คีน" ยังเป็น "กัปตันแห่งกัปตัน" ของยูไนเต็ด และเหล่าสาวกอยู่เสมอ

"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ก็ยังเป็น "โคตรกุนซือที่รักของยูไนเต็ด" และสาวกอยู่เสมอเช่นกัน !


คหสต นะ

ผมว่าโครตกัปตันต้องอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน หรือ เอริค คันโตน่า หรือ ชไมเคิล ที่หลังจากแขวนสตั๊ด ยังมีอิทธิพลต่อดาวรุ่งที่ยกให้เป็นแบบอย่าง และไม่เคยประสงค์ร้ายกับทีม ไอ้การไปกินหัวนักเตะในทีมเวลาแข่งขันแบบรอยคีน ร็อบสันคือต้นฉบับ ผมว่ารอยคีนเป็นเหมือนหัวหน้ากำลังพล ยังไม่ใช่แม่ทัพ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 706
ที่อยู่: _lll_
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 11:08
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
เขาไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับเวย์น รูนี่ย์ ซึ่งเวย์นจะไม่ทนกับเรื่องแบบนั้น
คีน ยังไม่ค่อยอยากยุ่งกับ รูนเลยหรอเนี่ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2006
ตอบ: 2970
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 11:18
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
Fletcher O'Shea ช่วงนั้นมันห่วยจริงๆ เป็นจุดอ่อนของทีมและเป็นเหตุผลของ 3 ปีที่ว่างเปล่า

อย่างว่าป๋าอยากปั้นเด็กพวกนี้ ส่วนรอยคีนอยากจะได้เพื่อนร่วมทีมหรือรุ่นน้องที่ฝีเท้าดีกว่านี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Nov 2006
ตอบ: 2003
ที่อยู่: **Theatre Of Dream**
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 11:20
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านครับ หัวหน้าแก๊งเด็กนรกมีคนเดียวคืออีริค คันโตนา
รอย คีน เป็นแค่คนมาสานงานต่อแต่ทำได้ดีแค่ระดับหนึ่งยังไม่ถึงคันโตน่า
แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะเป็นฮีโร่ในใจผมแล้ว

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Jan 2009
ตอบ: 3695
ที่อยู่: กาฬสินธุ์ดินดำน่ำซุ่ม
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 11:30
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
ไม่ว่าเรื่องราวตื้นลึก หนาบางเป็นยังไง ผมไม่ต้องการรู้ว่าใครผิด ใครถูก

รู้แค่ว่าสองคนนี้คือตำนานของยูไนเต็ด ผมต้องการเพียงเท่านั้น

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


EMO ONLY
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Sep 2010
ตอบ: 1772
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 24, 2013 11:31
[RE: อัตชีวประวัติเฟอร์กูสัน บทที่ 9 : คีน (ตอนสุดท้าย)]
iceptw พิมพ์ว่า:
เขาไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับเวย์น รูนี่ย์ ซึ่งเวย์นจะไม่ทนกับเรื่องแบบนั้น
คีน ยังไม่ค่อยอยากยุ่งกับ รูนเลยหรอเนี่ย  


ในอัตชีวะประวัติรูน รูนบอกว่ากลัวคีนนะ

ผมว่าอย่างคีนกล้ายุ่งกับทุกคนแหละ แต่รูนมันเก่ง เลยวิจารณ์อะไรไม่ได้มากกว่าครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel