(request ) เรื่องเฮี้ยนๆ ของ คุณนวลฉวี
จากกะทู้นี้นะครับ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/936271
ผมก็ขอเล่ารวมๆเลยละกันนะครับ
ก่อนอื่นเลย ต้องขอบอกก่อนว่าผมเคยเล่าลงใน ชมรมขนหัวลุก ของบอร์ดเก่าไปแล้วเมื่อราวๆ 2-3 ปีก่อนนะครับ จำต้องนึกเนื้อเรื่องบางส่วนพอสมควร เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานพอสมควรแล้ว คือเกิดประมาณ ต้นเดือนมกราคม ปี 2552 ขณะนั้นผมยังเรียน ปี2 นิติศาสตร์ ม.ขอนแก่นอยู่...
เรื่องมันเริ่มตรงที่ พี่ๆสโมคณะผมมีความประสงค์อยากจะทำละครเวที ของคณะเป็นครั้งแรก (คณะเพิ่งเกิด ขณะนั้นผมปี2 เป็นเพียง รุ่นที่5 และน้องปี1รุ่นที่6ของคณะ) จึงเริ่มจากการประกาศหาการเขียนบท
ทีนี้ เพื่อนสนิทผม คนนึง ซึ่งเรียน มัธยมปลายมาด้วยกัน และทำละครเวทีวันภาษาไทยด้วยกันตลอด ม.4-5-6 ซ้ำผมยังเป็นรุ่นแรกในโรงเรียนที่ทำละครเวทีประจำโรงเรียน ตอน ม.6 (โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน) เพื่อนคนนี้ ก็เขียนบทตลอด สมมติชื่อว่า บิ๋ว ละกันนะครับ บิ๋วก็คิดจะเขียนบทละคร แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี...
วันนึงขณะที่บิ๋วกำลังนั่งคิดๆอยู่ว่าจะเขียนบทเรื่องอะไรดีอยู่หน้าห้องเรียนนั้น อาจารย์ก็เข้าสอนพอดี บิ๋วก็เลยเดินเข้าเรียน พอเปิดประตูเข้าไป ก็พบเพื่อนคนนึงยืนจ้องหน้าอยู่...
เพื่อนคนนั้นทักว่า “บิ๋ว เราไม่ได้เห็นหน้าบิ๋วเป็นบิ๋วนะ เราเห็นเป็นนวลฉวี”
เท่านั้นแหละ บิ๋วก็เลยตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ เพื่อประกวดบทละคร และก็ได้รับเลือก และก็คัดทีมงานกัน...แคสติ้งนักแสดง ไปต่างๆนาๆ แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังหา พระเอกในเรื่องไม่ได้เลย...
เนื่องจากกำหนดการแสดง อยุ่ในช่วงต้นๆ เดือนมกรา แต่นี่เวลาก็ล่วงเลยมา ตุลาคม อยู่แล้ว ยังไม่ได้ตัวพระเอกเลย พวกทีมงานก็หมดหนทาง บิ๋วจึงพนมมือขึ้น ไหว้ขอ คุณนวลฉวี.. ว่าขอให้จัดพระเอกมาให้หน่อยเถอะ...
เพียงแค่วันรุ่งขึ้น ที่เดิม กลุ่มทีมงานเดิม นั่งคุยๆกันอยุ่ ก็เหลือบไปเห็นน้องปี1 คนนึง เดินโต๋เต๋ๆ ผ่านมาทางนี้ อยู่ๆทุกคนก็ปิ๊งตรงกันอยากได้น้องคนนี้มาเล่นมาก เลย ติดต่อน้องคนนี้มาเล่น ปรากฏว่าน้องเป็นคนที่แทบไม่เข้าเรียน ไม่เข้าเชียร์ ไม่ร่วมกิจกรรม เรียนเหมือนรอซิ่ว แต่น้องก็ตอบตกลงมาง่ายๆ...
และก็เป็นน้องคนนี้แหละที่ขับรถจากขอนแก่น พาไปไหว้ คุณนวลฉวีถึงสะพานนนทบุรี ที่คุณนวลถูกโยนลงในแม่น้ำ
หลังจากได้นักแสดงทีมงานครบแล้ว พวกเราก็เริ่มซ้อมกัน...
ทีนี้ ด้วยความที่พวกเราซ้อมกันอยุ่ บริเวณหอศิลปะ ภายใน มข. ซึ่งไม่ไกลกับคณะเท่าไหร่นัก แต่ตกดึกก็มืดน่าดูแหละ
แล้วพอซ้อมไปซ้อมมา น้องๆในกองก็เริ่มฝันถึง สาวชุดไทย งามสง่า คนนึง แสดงตัวมาเป็นเจ้าที่เพื่อขอของเซ่นในการมาใช้สถานที่ตรงนั้นซ้อมกัน บิ๋วก็โอเค ไปซื้อผ้าแพร สีสวยๆพร้อมกำไรข้อมือมา เอาไปไว้ด้านหลังแล้วจุดธูปหอมปักไว้
ปรากฏว่าการซ้อมคืนนั้น จะได้ยินเสียงกำไร สั่นกรุ๋งกริ๋งๆ ตลอดระยะเวลาเลย..พร้อมกลิ่นธูปหอมที่ลอยตลอด
เอ้ออ ผมลืมบอกไป ในกองมีน้องคนนึง สมมติชื่อมะปรางซึ่งมี เซนส์ คุยกับวิญญาณได้หรือติดต่อได้อะไรทำนองนี้น่ะครับ เค้าบอกว่าเจ้าที่ ชอบของที่ซื้อมาให้มาก ดังนั้น พวกผมเลยให้น้องไปถามว่า จะให้คุณนวลเข้ามาดูในมอเนี่ย ขอท่านได้ไหม ท่านก็ตอบมาว่า ไปขอเจ้าพ่อมอเถอะ เขาใหญ่กว่าเรา
ดังนั้น ภาระผมล่ะทีนี้ ไปศาลเจ้าพ่อมอ..ใครเรียน มข. คงรู้จักดีนะครับ
ก็ไปไหว้ ขอท่าน..เสร็จแล้วก็ออกมายืนที่รถมอไซค์ผม กำลังคุยกับเพื่อนอีกคนว่าจะหาอะไรกินดี เพราะต้องหาอาหารเข้าหองไปให้ทีมงาน กับนักแสดงแล้ว เวลานั้นประมาณ 00.00ได้ เพราะดึกมาก ไม่มีรถเลย อยู่ๆ ลมก็พัดโชยมา และดอกไม้หล่อนโปรยลงมาจากยอดต้นไม่ที่ผมยืนอยุ่ กลิ่นหอมตรลบอบอวลไปหมด ก็เลยเข้าใจกันว่า เจ้าพ่อมอท่านอณุญาตให้คุณ นวลฉวีเข้ามาดูได้แล้ว ประมาณนี้...
ก็ซ้อมกันต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้น้อง มะปรางก็จะเล่าให้ฟังอยุ่บ้างว่าคุณนวลมานั่งดูซ้อม มาอยุ่กับพวกเราโดยตลอดอะไรทำนองนี้
วันนึง ซึ่งน่าจะเป็น2-3วันก่อนแสดงจริง ระหว่างที่เรากำลังซ้อมอยุ่ บนฉากต้อวมีน้องพระเอกอยุ่คนเดียว แต่ผมเห็นเหมือนผู้หญิงชุดไทยโบราณอยุ่บนเวที เลยคุยกับเพื่อน น้องมะปรางก็มาบอกว่าเขามานานแล้ว เดี๋ยวจะไปคุยให้
น้องแก เล่นยืนคุยงึมงำๆอะไรก็ไม่รู้อยุ่ใกล้ๆผมเลย ปรากฏว่านั่นคือน้องแก คุยกับ ผู้หญิงคนนั้น น้องมะปรางเล่าว่า เธอแต่งชุดสไบสีเขียว ไม่ใช่ท่านเจ้าที่ตรงนั้นด้วย แวะมาดูเฉยๆ แล้วก็ทักกองว่า เอาแต่ทะเลาะกันอยู่ได้ เมื่อไหร่จะซ้อมสักที..
ผมขนลุกเลย เพราะวันนั้นเป็นวันที่ทั้งกองทะเลาะกันตลอด แทบทุกคน
เอาหละครับ มาถึงวันแสดงจริง วันแรก รอบแรก แน่นอนครับ ก็ต้องมีการไหว้สิ่งศักดิ์ศิทธิ์ต่างๆ รวมไปถึงคุณนวลด้วย แต่ระหว่างที่ไหว้คุณนวล ผู้กำกับไม่ได้มาไหว้ด้วย ปรากฏว่ายังไม่ทันเริ่มแสดงเลย ลมพัดอย่างแรง...แรงมาก แรงจน นั่งร้านที่เอามาตั้งไว้ ห่างๆกันเผื่อกั้นผ้าใบทำผนังนั้น ล้มไปหมดเลย แต่..เป็นการล้มที่แปลกนะครับ มันล้มจากด้านในออกไปข้างหลังเหมือนกันหมด ไม่ได้ล้มไปทางเดียวกัน (นึกภาพ ครึ่งวงกลมนะครับ ล้มไปทางด้านหลังหมดเลย) เค้าก็ว่ากันว่าคุณนวลคงจะโกรธ ที่ผู้กำกับ ไม่ได้มาไหว้ด้วย....
วันต่อๆมาก็ไม่มีปัญหาอีกหลังจากไหว้กันพร้อมหน้าพร้อมตา...
ลืมบอกไปว่า ที่นั่งที่ผมจัดไว้น่ะครับ จะมีเก้าอ้โซฟาตัวหน้าสุดจัดไว้พิเศษสำหรับคุณนวลฉวีโดยเฉพาะ มีของเซ่นธูปไหว้ผมเป็นคนที่ต้องจุดธูปตลอดไม่ให้ธูปดับ
จนกระทั่งมาถึงรอบสุดท้าย...
ฉากข่มขืน ฉากนั้น นางเอกจะต้องร้องเพลงไปด้วย เล่นไปด้วย ไมค์ตัวอื่นก็ต้องปิดอยุ่แล้วนะครับ เบนฉากจะมีแต่ผู้ชายนอกจากน้องนางเอก...แต่ระหว่างที่เล่นนั่นแหละ มีเสียงคนร้องไห้ คลอมาตลอดๆ.. ย้ำว่าน้องผู้หญิงต้องร้องเพลง แล้ว ใรคร้องไห้ ? ที่สำคัญเสียงร้องห้นั่นไม่ใช่เสียงน้องนักแสดงเลย....แถมร้องได้ครวญคราง น่ากลัว โหยหวนมาก
และฉากมีดแทงต่อมาเนี่ยแหละครับ เล่นเอาคนดูขนลุกเลย.. เหมือนมากกก....
แต่ทีมงานรู้ดี นั่นไม่ใช่เสียงน้องนางเอก!!!!
และ รอบสุดท้ายนี่เอง ที่มีน้องคนดู คนนึงช๊อคเป็นลม.. พี่ๆผมพาไปส่งโรงพยาบาล น้องเค้าบอกว่า
เห็น นางพยาบาลสุชุดเปื้อนเลือดนั่งเก้าอี้พิเศษ ตัวนั้น ตัวหน้าสุดติดขอบเวที เลยตกใจจนชอคไป....
อ้อ แถม วันเกิด ของน้องพระเอกที่ว่าหาตัวยากนักหนาและขอคุณนวลฉวีมานั้นน่ะ...น้องเค้าเกิด วันที่ วันเดียวกับ วันที่หมอ อธิป (สามีคุณนวลฉวี) จดทะเบียนสมรสซ้อน อันเป็นเหตุให้คุณนวลฉวีหึงหวงนั่นเอง....จำไมได้ว่า 17 มีนารึเปล่า
เฮ้อออออ หมดละครับ..
นี่เท่าที่ผมนึกออกนะครับ...จริงๆมีอีกมาย เลยล่ะ แต่นึกไม่ออกแล้ว อันที่เราได้ฟังมาแต่ไม่เจอเองก็ลืมไปหมดแล้วขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
เอ้อ จะบอกว่า อีก 2ปีต่อมา ละครเวทีครั้งที่ 2 คณะผมทำเรื่อง อำแดงอยู่..
เฮี้ยนหนักกว่าเดิมอีก...มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังนะครับ