วันนี้ก็ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบTU-GETตามปกติ พอเย็นๆรถเยอะมาก และเพิ่งรู้ว่ามีบอลมาแข่งที่ธรรมศาสตร์ ก็เลยเดินไปดูคู่บุรีรัมย์-เมืองทองซะเลย เป็นเกมที่สนุกระดับ 5 ดาวจริงๆ แถมหลังเกมแอบมีความหวาดเสียวเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้สัมผัสคู่บิ๊กแมตช์ระดับชาติในวันนี้
ปกติช่วงกลางสัปดาห์ นอกจากจะมีการแข่งขันฟุตบอลสโมสรระดับทวีปแล้ว บางสัปดาห์จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วย ซึ่งหลายประเทศก็ใช้ช่วงนี้จัดให้มีเกมฟาดแข้ง หลายทีมเลือกที่จะใช้ผู้เล่นชุดสองผสมกับชุดหลักเพื่อกระจายงานให้ได้ทั่วถึงกัน และรายการเหล่านี้ยังถือเป็น "ทางลัด" ไปสู่การเข้าร่วมรายการระดับทวีป สัมผัสประสบการณ์ระดับโลกกับทีมชั้นนำจากเพื่อนร่วมทวีปอีกด้วย
Soccerศาสตร์ ขอนำเสนอ รายการฟุตบอลถ้วยที่น่าสนใจของหลายประเทศ และกติกาคร่าวๆมาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน สำหรับวันนี้เริ่มกันที่อังกฤษนะครับ ส่วนประเทศอื่นๆจะนำมาลงในโอกาสต่อไป
ลีกคัพ (League Cup)
ชื่อในปัจจุบันคือ "แคปปิตอล วัน คัพ" เป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยระหว่างสโมสรฟุตบอลลีกสี่ระดับสูงสุดของอังกฤษคือ พรีเมียร์ลีก, เดอะแชมเปียนชิพ, ลีกวันและลีกทู รวมทั้งสิ้น 92 ทีม โดยจะเริ่มแข่งกันตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม จนกระทั่งได้แชมป์ในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ซึ่งทีมชนะ(เท่านั้น)จะได้เข้าไปเล่นยูโรป้าลีกในรอบคัดเลือกรอบสาม
เริ่มแข่งขันตั้งแต่ปี 1960 โดยในยุคแรกหากเสมอกันในเวลาปกติก็จะเล่นนัดรีเพลย์จนกว่าจะได้ผู้ชนะ ถึงแม้นัดที่สองจะเสมอกันก็ยังมีนัดที่สามอีก 90 นาทีเลย กระทั่งถึงรอบรองและรอบชิง จะมีการแข่งขันเป็นสองเลก ทีมที่ยิงมากกว่าจะเป็นผู้ชนะและได้แชมป์ โดยทีมแรกที่ได้ถ้วยคือ แอสตัน วิลล่า ส่วนลิเวอร์พูล ครองแชมป์มากที่สุด 8 สมัย สำหรับแชมป์ครั้งล่าสุดคือ สวอนซี ซิตี้ ทีมจากแคว้นเวลส์
กติกา
รอบแรก ทีมจากลีกวัน ลีกทู และเดอะแชมเปียนชิพ (ยกเว้นสองทีมตกชั้นพรีเมียร์ลีกอันดับ 18 และ 19) รวม 70 ทีม ประกบคู่ เพื่อคัดผู้ชนะ
รอบสอง ผู้ชนะรอบแรก 35 ทีม บวกสองทีมในวงเล็บตามข้อ 1 บวกกับทีมในพรีเมียร์ลีกที่ไม่ได้เล่นบอลยุโรป 13 ทีม มาแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะ
รอบสาม ทีมที่เล่นบอลยุโรปทั้ง 7 ทีมจะเริ่มเล่นตั้งแต่รอบนี้ (32 ทีม) เตะน็อกเอาต์ไปเรื่อยๆ รอบ 16 ทีม รอบ 8 ทีม
รอบรองชนะเลิศ จะเล่นกันสองเลก ในกลางสัปดาห์ช่วงต้นปีถัดไป(หลังเกมเอฟเอคัพรอบสาม) ผู้ชนะจะเข้าไปชิงกันที่สนามนิวเวมบลีย์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม
เกร็ดน่ารู้
ในยุคแรกยังไม่มีสปอนเซอร์ จนกระทั่งในปี 1982 มิลค์ มาร์เก็ตติ้ง บอร์ด เป็นสปอนเซอร์ในชื่อว่า มิลค์ คัพ ส่วน แคปปิตอล วัน บรรษัทการเงินจากสหรัฐ สปอนเซอร์ปัจจุบันจะหมดสัญญาในปี 2016
ฤดูกาล 1996-1997 เป็นครั้งแรกสำหรับทีมที่เล่นฟุตบอลยุโรปจะได้ลงเล่นตั้งแต่รอบสาม
เคยมีรอบคัดเลือกก่อนรอบแรกมาแล้ว โดยการเอาสองทีมที่เลื่อนชั้นจากคอนเฟอเรนซ์ลีกมาเตะ เนื่องจากมีหนึ่งทีมจากลีกระดับสองไปเล่นบอลยุโรป คือในปี 2002 บอสตัน ยูไนเต็ด กับ บริสตอล โรเวอร์ส (อิปสวิช ทาวน์ ไปเล่นยูฟ่าคัพจากโควตาแฟร์เพลย์) กับปี 2011 คอร์ลี่ย์ ทาวน์ กับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน (เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไปเล่นยูโรป้าลีกในฐานะแชมป์ลีกคัพ)
แบรดฟอร์ด ซิตี้ รองแชมป์ครั้งที่แล้ว เป็นทีมจากระดับสี่ครั้งแรกในรอบ 51 ปี ที่เข้ารอบชิงลีกคัพ นับจากรอชเดลในปี 1962 (ส่วนครั้งนี้ พวกเขาโดนฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ สอยร่วงตั้งแต่รอบแรกเลย)
เอฟเอคัพ (FA CUP)
ชื่อเต็มคือ The Football Association Challenge Cup เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1871 โดยมี 15 ทีมร่วมชิงชัย และชิงกันที่สนามเคนนิงตัน โอวัล กรุงลอนดอน ผู้ชนะทีมแรกคือ วันเดอเรอร์ส โดยชนะ รอยัล เอนจิเนียร์ ด้วยสกอร์ 1-0 ปัจจุบันเป็นครั้งที่ 133 ทีมที่ได้แชมป์ที่สุดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 11 สมัย ส่วนแชมป์ครั้งล่าสุดคือ วีแกน แอธเลติก
ฤดูกาล 2013-2014 มีสโมสรทั้งระดับอาชีพ, กึ่งอาชีพ และสมัครเล่นที่ผ่านคุณสมบัติฯ เข้าร่วมทั้งหมด 707 ทีม จากสามดินแดนของสหราชอาณาจักร ได้แก่ อังกฤษ, เวลส์ และเกาะเกอร์นซี่ย์ (Guernsey) แบ่งเป็น
รอบคัดเลือกสำหรับลีกระดับ 9 และ 10 ซึ่งแข่งกันในกลางเดือนสิงหาคม
รอบคัดเลือกลีกระดับ 8 คือ ดิวิชั่นหนึ่งจากสามโซนคือ นอร์ทเทิร์น, เซาธ์เทิร์นและอิสทธ์เมียน ซึ่งแต่ละโซนก็จะแบ่งเป็นโซนเหนือและโซนใต้
จากนั้นจะเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบแรก ผู้ชนะในรอบนี้ จะไปพบกับทีมลีกระดับ 7 คือนอร์ทเทิร์นพรีเมียร์ลีก, เซาธ์เทิร์นพรีเมียร์ลีกและอิสทธ์เมียนพรีเมียร์ลีก
รอบคัดเลือกรอบสองและสามคือ ผู้ชนะ 116 ทีมจะพบกับทีมลีกระดับ 6 คอนเฟอเรนซ์นอร์ทและคอนเฟอเรนซ์เซาธ์ ซึ่งจะคัดให้เหลือ 80 ทีม
รอบคัดเลือกรอบสี่ไปพบกับทีมลีกระดับ 5 คือคอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ลีก 24 ทีม ซึ่งจะแข่งขันในราวๆเดือนตุลาคม
จากนั้นเข้าสู่รอบแรกในเดือนพฤศจิกายน ทีมระดับสมัครเล่นและกึ่งอาชีพ 32 ทีมที่ฝ่าด่านเข้ามาได้ จะพบกับทีมจากลีกวันและลีกทู 48 ทีม รวมเป็น 80 ทีม โดยจะเล่นกันสองรอบ จนเหลือเพียง 20 ทีมเท่านั้นที่อาจมีผู้โชคดีที่สุดเกิดขึ้นในบางปีก็เป็นไปได้
เข้าสู่รอบสาม ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เพราะทีมจากพรีเมียร์ลีกและเดอะ แชมเปียนชิพ ทั้งหมด 44 ทีมจะมาเล่นกันตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และแข่งขันยาวจนได้แชมป์ในเดือนพฤษภาคม
โดยปัจจุบันทีมที่ได้แชมป์ จะได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า ยูโรป้าลีกในรอบแบ่งกลุ่มทันที แต่กรณีที่ทีมแชมป์ได้เล่นยูฟ่า แชมเปียนลีก ทีมรองแชมป์จะได้เล่นในรอบคัดเลือกรอบสาม ซึ่งต้องเล่นถึงสี่นัด จึงสามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม
เกร็ดน่ารู้
เป็นรายการที่หากเสมอกันในนัดแรก ยังมีโอกาสแก้มือในนัดแข่งใหม่ที่สนามของอีกฝ่าย และยังคงสืบทอดธรรมเนียมนี้มาจนถึงปัจจุบัน (ตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบแปดทีมเลยทีเดียว)
ปี 1993 อาร์เซนอลกับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เป็นคู่ชิงสุดท้ายที่เสมอกันแล้วต้องเล่นรีเพลย์อีกหนึ่งนัดเพื่อหาแชมป์
สนามรอบชิงชนะเลิศในยุคแรกคือ เคนนิงตัน โอวัล (1871-1892) ยุคต่อมาใช้คริสตัล พาเลซ เนชั่นแนล สปอร์ต เซ็นเตอร์ (1894-1914) จนเริ่มใช้สนามเวมบลีย์ตั้งแต่ปี 1922 จนถึงปี 2000 จึงย้ายไปใช้สนามมิลเลเนียม สเตเดี้ยม ในเวลส์เป็นการชั่วคราว (2000-2006) จนเมื่อนิวเวมบลีย์สร้างเสร็จแล้ว จึงกลับมาใช้ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน
ควีนส์พาร์ค จากสกอตแลนด์ เคยเข้าชิงเอฟเอคัพถึงสองครั้งซ้อน ในปี 1884 และ 1885 ซึ่งแพ้แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ทั้งสองครั้ง
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เป็นทีมนอกอังกฤษทีมเดียวที่คว้าแชมป์ในปี 1927 จากการเข้าชิงทั้งหมดสามครั้งในประวัติศาสตร์
ทีมต่ำกว่าลีกสูงสุดที่เข้าชิงเป็นทีมล่าสุดคือคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในปี 2008 ในชื่อเอฟเอคัพ ฟ้าประทาน
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2012 ได้มีการแข่งขันเพื่อเฉลิมฉลอง 140 ปีเกมนัดชิงชนะเลิศปี 1872 โดยเล่นกันที่สนามเดอะ เกีย โอวัล (ซึ่งปัจจุบันใช้แข่งขันกีฬาคริกเก็ต) โดยครั้งนี้รอยัล เอนจิเนียร์ (เสื้อลายแดง-น้ำเงิน) เอาชนะวันเดอเรอร์ส ที่เพิ่งกลับมาสร้างทีมใหม่เมื่อสามปีก่อนไปอย่างขาดลอย 7-1
ภาพจาก
http://www.thefa.com/TheFACup/News/2012/Nov/royal-engineers-v-wanderers
จอห์นสโตนส์ เพนท์ โทรฟี่ (Johnstone's Paint Trophy)
หลายท่านคงไม่เคยรู้จักรายการนี้ แต่ถ้าใครที่เล่น FM โดยคุมทีมระดับลีกวันหรือลีกทู คงได้ผ่านตามาบ้าง อย่าเข้าใจว่าลีกคัพและเอฟเอคัพ เล่นเพียงรอบเดียวแล้วตก เป็นเรื่องปกติ แต่รายการนี้แหละที่พอจะมีลุ้นกับเขาได้บ้าง แถมยังได้เล่นนัดชิงที่นิวเวมบลีย์เฉกเช่นเดียวกับรายการสำคัญของประเทศอีกด้วย
ชื่อเรียกในปัจจุบันของรายการนี้คือ Johnstones Paint Trophy (ผู้สนับสนุนคือ โรงงานผลิตสี Johnstones Paint ในเมืองเบอร์สตอล เขตเวสต์ ยอร์คเชียร์) เป็นการแข่งขันฟุตบอลสำหรับทีมจากลีกวันและลีกทู รวม 48 ทีม โดยเริ่มแข่งตั้งแต่ปี 1983
กติกาในปัจจุบัน แบ่งการแข่งขันตามเขตภูมิศาสตร์ออกเป็นโซนเหนือกับโซนใต้ ซึ่งแต่ละโซนก็จะแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกกับฝั่งตะวันออก
รอบแรก แต่ละโซนจะมีทีมที่ได้บายรวม 16 ทีม ทำให้มีทีมที่เล่นทั้งสิ้น 32 ทีม เล่นเพียงนัดเดียวรู้ผล
รอบสอง ผู้ชนะบวกกับ 16 ทีมที่ได้บายในรอบแรก จะมาเล่นเพื่อหาผู้ชนะสู่รอบต่อไป
รอบแปดทีม ก็จะคละกันหมด ไปจนถึงรอบรอง จากนั้นรอบชิงก็จะเล่นกันสองเลก หาแชมป์ของแต่ละโซนเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศที่สนามนิวเวมบลีย์ในเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยแชมป์ครั้งล่าสุดคือ ครูว์ อเล็กซานดร้า แชมป์โซนภาคเหนือ โดยเอาชนะเซาธ์เอนด์ แชมป์โซนภาคใต้ไป 2-0