SpideRlndY พิมพ์ว่า:
ผมเข้าใจว่าเราควรอ่านตามเจ้าของภาษานั้นๆมั้งครับ(สำเนียงเจ้าของแบรนด์)
เพียงแต่กระทู้นี้อธิบายว่า หากคุยกับภาษากลางๆ(Eng-British,US) เค้าออกเสียงกันยังไง ในสำเนียง ENG (ไม่ใช่สำเนียงเจ้าของภาษา)
แบบว่า IKEA ถ้าในโฆษณาก็ออกเสียงตาม Swedish นั่นคือ อิ-เคีย แต่พอคุยกับฝรั่งที่พูกภาษากลาง(ENG) เค้าดันออกเสียง ไอ-เคีย ซะงั้น
จขกท.เค้าพยายามสื่อให้เราคุยรู้เรื่องกับฝรั่งทั่วไป มากกว่าออกเสียงให้ถูกจริงๆตามเจ้าของแบรนด์ประเทศนั้นๆมั้งครับ (เหมือนสอนให้คุยได้สื่อสารได้ มากกว่าสนใจแกรมม่าเป๊ะเว่อร์แต่พูดคุยไม่ได้)
ขอบคุณมากครับ
เห็นด้วยครับ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ฝรั่งอ่านจะถูกเสมอไปนะครับ เพราะฝรั่งมีหลายประเทศ หลายภาษา และแน่นอน หลายสำเนียง
เช่น ปราด้า (Prada) หากอ่านแบบอิตาลีจริงๆ แล้ว อ่านว่า ปราด้า ถูกแล้วนะครับ เพราะภาษาอิตาลีมีตัวอ่านเสียงตัว p คล้าย ป ปลาบ้านเราครับ
และ Samsung หากอ่านแบบเกาหลีตันฉบับจริงๆ จะอ่านคล้ายๆ คำว่า ซัมซุง นั่นแหละครับ
เช่นเดียวกับ Ikea ซึ่งมาจากสวีเดน การอ่านแบบสวีเดนที่ถูกต้องคือ อี เค อา หรืออ่านเร็วๆ จะคล้ายๆ กับคำว่า อีเคีย นั่นเองครับ
โดยทางเจ้าของแบรนด์นั้นๆ จะปรับเสียงของต้นฉบับของสินค้าของตน ให้ลูกค้าในประเทศนั้นๆ ออกเสียงได้ง่ายที่สุด เพื่อให้จำง่ายในทางการตลาด
ผมจึงมองว่า คนไทยอ่านออกเสียงได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากกว่าฝรั่งบางคนด้วยซ้ำ เพราะภาษาไทยมีช่วงเสียง สระ และพยัญชนะที่ครอบคลุมมากกว่าภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ อีกหลายภาษา แต่ด้วยที่ว่าคนไทยมักจะคุ้นชินกับการออกเสียงในแบบไทยๆ ทางเจ้าของแบรนด์เลยปรับการออกเสียงของแบรนด์ตนเองให้คนไทยออกเสียงง่ายขึ้นนั่นเองครับ
ส่วงตัวผมคิดว่าการอ่านออกเสียงถูก 100% หรือไม่นั้น ไม่สำคัญเท่ากับการสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจ เพราะหากเข้าใจแล้ว สมองจะเปิดรับเข้าสู่การจดจำ ซึ่งเป๊นหัวใจของการตลาดนั่นเองครับ