มหาเทพโดกู! 'เผาเครื่องหงส์' เรือถล่มยับ 3-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สกัดดาวรุ่งเบรค หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่เริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับได้ด้วยผลงานทำประตูของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (น.29), นิโก้ กอนซาเลซ (น.45+5) และ เจเรมี่ โดกู ที่วันนี้ครบเครื่อง บุกกระชากลากเลื้อยเผาเครื่องฝั่งขวาหงส์แดง ก่อนจะยิงประตูปิดท้ายนาที 63 ให้่เจ้าถิ่นถล่มขาด 3-0 ขยับกลับไปเป็นอันดับ 2 สวนทางหงส์แดงที่ตกลงไปอยู่ที่ 8
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
11.
เจเรมี่ โดกู

74'
9.5
10.
รายาน แชร์กี

53'
6.5
ตัวสำรอง
29.
ซาวินโญ่

53'
7
7.
โอมาร์ มาร์มุช

74'
6.5
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568
กรรมการ คริส คาวานาจ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
3
0
ลิเวอร์พูล
1-0 ฮาลันด์ 29'
2-0 นิโก้ กอนซาเลซ 45+3'
3-0 โดกู 63'
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีมนัดที่ 1,000 ยึด 11 ตัวจริงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากเกมชนะบอร์นมัธ 3-1 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จอห์น สโตนส์, ทิยานี่ ไรจ์นเดอร์ส และ ซาวินโญ่ ที่เป็นตัวจริงเมื่อกลางสัปดาห์ ต้องหลีกทางให้ รูเบน ดิอาส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และรายาน แชร์กี
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ก็ไม่เปลี่ยนแปลงทีมจากนัดชนะเรอัล มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้เล่นฝั่งซ้ายแทน โคดี้ กัคโป ในตำแหน่งปีกซ้าย ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค เป็นแค่ตัวสำรอง
มาม่าฟาวล์โดกูเสียจุดโทษ
ซิตี้ มาได้จุดโทษ จาก โดกู ที่ได้บอลสุดเส้นหลัง พยายามกระชากหนีมามาร์ดาชวิลี่ ไม่พ้นถูกมือกาวลิเวอร์พูลสะกิดนิดนึงจนเสียจังหวะไม่ได้ง้างไกยิง
ตอนนี้ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร ก่อน VAR จะให้ไปเช็คมอนิเตอร์ด้วยตัวเองและกลับมาให้จุดโทษกับเจ้าถิ่น
มามาแก้ตัวเซฟจุดโทษฮาลันด์
ฮาลันด์ สังหารจุดโทษ เลือกมุมขวามือตัวเอง แต่มามาร์ดาชวิลี่ ยอดเยี่ยมกว่า พุ่งถูกทางตามไปเซฟไว้ได้
แชร์กีได้ง้างไกยิงแฉลบบล็อคซะก่อน
เกมซิตี้ดีกว่า จังหวะนี้ แชร์กี ได้ง้างไกในกรอบ แต่บอลมันไปแฉลบกองหลังเปลี่ยนทางเกือบได้เฮ
โดกูทางซ้ายอันตรายสุดๆ
โดกู ฝั่งซ้ายอันตรายสุดๆ จังหวะนี้ก็ลากลุยจนได้ซัดที่เสาแรกให้ มามาร์ดาชวิลี่ ต้องออกแรงปัดปลายมือช่วยทีมอีกครั้ง
ฮาลันด์แก้ตัวโหน่งให้ทีมออกนำ 1-0
อย่างไรก็ตาม ฮาลันด์ มาแก้ตัวยิงประตูออกนำได้สำเร็จ จาก ฮาลันด์ โหม่งลูกครอสจากฝั่งขวา ย้อยสวนทางมาเข้าที่เสาแรก ชนิดมามาร์ดาชวิลลี่ ไม่มีสิทธิ์ป้องกัน
VvD โหม่งเข้าแต่ถูกจับล้ำหน้า ยัง 0-1
ลิเวอร์พูล มาแก้ประตูคืนจากฟาน ไดจ์ค โหม่งลูกเตะมุมเข้าไป แต่สุดท้ายถูก VAR ตัดสินให้เป็นล้ำหน้า เนื่องจาก โรเบิร์ตสัน ไปยืนอยู่ทิศทางเดียวกับลูกบอล ถือว่ามีส่วนร่วมในการได้ประตูนี้
พอไม่ได้โดนเลย นิโก้ยิงไกล 2-0
ซิตี้มาได้ประตู 2-0 จาก นิโก้ กอนซาเลซ ยิงไกลนอกกรอบไปแฉลบฟาน ไดจ์ค เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย
ดิอาสเซฟเรือหวุดหวิด
ลิเวอร์พูล ออกมาลุยมากขึ้นและมีลุ้นจากโซบอสซ์ไลที่กำลังจะหลุดเดี่ยวแต่จังหวะสุดท้ายเป็นดิอาสที่เซฟเจ้าถิ่นไว้ได้
เป๊ปส่งซาวินโญ่เล่นแทนแชร์กี
เป๊ปเปลี่ยนตัวแก้เกมอย่างไว ส่ง ซาวินโญ่ ลงมาแทน แชร์กี
หงส์ส่งเคอร์เคช, กัคโปลงสนาม
ลิเวอร์พูลก็เปลี่ยนเหมือนกันส่ง เคอร์เคซ กับ กัคโป ลงเล่นแทนโรเบิร์ตสัน และเอกิติเก้
กัคโปยิงจ่อๆ ทิ้งโอกาสทอง
ลิเวอร์พูลใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อยๆ จังหวะนี้ทีมเยือนประสานงานกันสวย ซาล่าห์ ไหลให้แบรดลีย์ วิ่งสอดเข้ามาจ่ายให้ กัคโป ยิงมุมแคบที่เสาไกลหลุดกรอบ
โดกูปั่นสวยๆ 3-0
ลิเวอร์พูลบุกเยอะยิงไม่ได้ ซิตี้มาได้ประตู 3-0 จาก โดกู ได้บอลหน้าเขตโทษ แตะเข้าขวาแล้วปั่นโค้งเบียดเสาไกลเข้าประตูไป
เรือแพคเกมรับรอโต้แล้ว
20 นาทีสุดท้าย ซิตี้เลือกตั้งโซนรับรอโต้กลับ ปล่อยให้ลิเวอร์พูลครองบอลเยอะขึ้นมาก
ดอนน่าเซฟลูกยิงไกลโซโบ
ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของโซบอสซ์ไล บอลพุ่งแรงแต่ดอนนารุมม่าไม่พลาดตามไปปัดทิ้งได้ทัน
ไม่มีโชค ซาล่าห์หลุดเดี่ยวยิงหลุดเสาไกลอีก
ลิเวอร์พูลกดดันได้มากขึ้นเรื่อยๆ และน่าได้ประตูอย่างที่สุดจาก ซาล่าห์ หลุดเดี่ยวจิ้มบอลสวนดอนนารุมม่าได้แล้ว แต่ลูกมันดันวิ่งหลุดเสาไกลออกหลังนิดเดียวจริงๆ
เวลาที่เหลือไม่มีอะไรพลิก แมนฯซิตี้เปิดบ้านไล่ถล่มลิเวอร์พูล 3-0
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
25.
จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่
6.5
26.
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

56'
6
12.
คอเนอร์ แบรดลี่ย์

83'
6.5
10.
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

74'
6
22.
อูโก้ เอกิติเก้

56'
6
7.
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์

83'
6
ตัวสำรอง
2.
โจ โกเมซ

83'
6
17.
เคอร์ติส โจนส์

74'
6
6.
มิลอส เคอร์เคซ

56'
6.5
14.
เฟเดริโก้ เคียซ่า

83'
6
18.
โคดี้ กัคโป

56'
6
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Mon Nov 10, 2025 01:56, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ