ประจันหน้า! 'VvD vs เสี่ยหมู' พี่ก็พูดเกินไป..เรื่องผู้นำ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ เวย์น รูนี่ย์ เผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัวในรายการสัมภาษณ์สด หลังจากมีประเด็นโต้เถียงกันไม่กี่วันก่อน เกี่ยวกับคำวิจารณ์ของอดีตตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่พูดถึงลิเวอร์พูล

ก่อนหน้านี้ รูนี่ย์ เคยวิจารณ์ ฟาน ไดจ์ค และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ว่ามีปัญหาเรื่องภาวะผู้นำในช่วงที่ลิเวอร์พูลฟอร์มตก โดยบอกว่าสไตล์การนำทีมของพวกเขาเป็น “สิ่งที่น่ากังวลมาก”
กัปตันทีมลิเวอร์พูลตอบโต้หลังพาทีมชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเรียกคำวิจารณ์ของรูนี่ย์ว่าเป็น คำวิจารณ์ที่ตื้นเขิน มีมุมมองที่แคบเกินไป
คืนวันอังคาร หลังลิเวอร์พูลเปิดบ้านเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 1-0 ฟาน ไดจ์ค ได้ให้สัมภาษณ์สดทางช่อง Amazon Prime ซึ่งมีรูนี่ย์ร่วมเป็นนักวิเคราะห์ในสตูดิโอด้วย
ฟาน ไดจ์คกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ที่ทีมต้องเจอว่า
“ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คุณต้องพยายามนิ่งไว้และมองภาพรวมให้ได้ ฟุตบอลยังมีอีกเยอะ เรื่องราวต่างๆ ยังพลิกผันได้อีกมาก ตอนนั้นเสียงวิจารณ์มันดังมาก...”
พิธีกร แกบบี้ โลแกน ถามแทรกขึ้นว่า
“คุณกำลังมองใครอยู่หรือเปล่า?”
ในขณะที่รูนี่ย์ยิ้มอยู่ ฟาน ไดจ์คตอบทันทีว่า
“ไม่ครับ ผมไม่ได้มองใคร! ผมแค่คิดว่ามันสำคัญที่จะมองภาพรวม ก้มหน้าทำงานหนัก และพาทีมออกจากสถานการณ์นั้น เพราะคุณภาพของทีมเราไม่ใช่ปัญหาเลย”
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานลิเวอร์พูลอีกคนที่เป็นนักวิเคราะห์ในรายการ ถามต่อว่าเสียงวิจารณ์จากภายนอกส่งผลต่อทีมไหม
ฟาน ไดจ์ค ตอบว่า
“ทุกคนรู้ว่าเรามีผู้เล่น 25 คน ทั้งเด็กและรุ่นใหญ่ แต่ละคนใช้ชีวิตต่างกัน สำหรับผมเอง ผมไม่โดนผลกระทบมาก แต่บางคนอาจจะโดนก็ได้”
“แน่นอนว่าถ้าแพ้ติดๆ กัน 4–5 นัดในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล การโดนวิจารณ์ก็สมเหตุสมผล แต่บางทีมันก็เกินไปหน่อย เพราะในยุคนี้ใครก็พูดได้หมด มันถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเสมอ”
“ผมว่ามันดีนะที่อดีตนักเตะที่เคยผ่านช่วงลำบากมาก่อนจะช่วยให้มองทุกอย่างในมุมที่มีเหตุผลมากขึ้น...”
ฝั่ง รูนี่ย์ พยายามทำให้บรรยากาศเบาลง โดยพูดติดตลกว่า
“ผมจะไม่พูดอะไรแล้วล่ะ ผมคิดว่าผมคงช่วยกระตุ้นพวกเขาให้ชนะต่อเนื่องได้ซะมากกว่า”
แต่จากนั้นเขาก็ปกป้องคำพูดของตัวเองว่า
“สิ่งที่ผมพูดมันแฟร์นะ พอคุณเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วกลับมาแพ้ติดๆ กัน มันแปลกจากลิเวอร์พูลที่เรารู้จักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในฐานะกัปตัน มันคือโอกาสของ ฟาน ไดจ์ค ที่จะลุกขึ้นนำทีม นั่นแหละคือสิ่งที่ผมหมายถึง ผมว่าทีมตอบสนองได้ดีมากเลย รวมถึงตัวฟาน ไดจ์คเองด้วย”
แต่ ฟาน ไดจ์ค ไม่ปล่อยให้เรื่องผ่านง่ายๆ เขาตอบกลับว่า
“ผมคิดว่าถ้าคุณดูเกมจริงๆ คุณจะเห็นว่าผมรับผิดชอบแน่นอน คำพูดที่ว่าผมต่อสัญญาใหม่แล้วก็ปล่อยปละละเลย ผมว่ามัน... เอ่อ...เกินไปหน่อย แต่ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะ”
“ผมอยากทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อทีมและสโมสร และเวลาเราผ่านช่วงยากลำบาก มันเจ็บมากสำหรับผม เพราะผมเห็นความทุ่มเทในทุกวัน เห็นคุณภาพที่เรามีจริงๆ”