[RE: ถ้ามูลนิธิกันล้ม ทรัพย์สินตกเป็นของมูลนิธิแป้ง]
rooney8 พิมพ์ว่า:
sitea พิมพ์ว่า:
rooney8 พิมพ์ว่า:
sitea พิมพ์ว่า:
rooney8 พิมพ์ว่า:
sitea พิมพ์ว่า:
rooney8 พิมพ์ว่า:
sitea พิมพ์ว่า:
rooney8 พิมพ์ว่า:
tlesmile1412 พิมพ์ว่า:
rooney8 พิมพ์ว่า:
ก็ปกตินะครับ เขามีความนับถือกันอยู่ แล้วต้องดูว่ามูลนิธิธรรมนัสตั้งมาทำเรื่องอะไร
ซึ่งถ้ามันอุดมการณ์เดียวกัน หากมูลนิธิท่านกันไปต่อไม่ได้ เขาจะโอนต่อไปให้มูลนิธิอื่นที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในแบบเดียวกันสานต่อ ก็ไม่ได้แปลกตรงไหน
สำหรับมูลนิธิธรรมนัส ตัวผมก็เคยมีโอกาสร่วมงานด้วยตอนช่วงน้ำท่วมเชียงใหม่ ซึ่งทางมูลนิธิเขาก็มีส่วนช่วยบำบัดทุกข์ชาวบ้านได้เยอะ ทั้งถุงยังชีพจำนวนมาก และเครื่องไม้เครื่องมือหลายอย่าง และผมบอกได้เลยว่าการประสานงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพกว่ารัฐบาลในเวลานั้นด้วยซ้ำ
เอาจริงนะ ท่านคิดว่าพี่แป้งแกคลีนใสๆ ขนาดนั้นเลยเหรอครับ คือไอ้ที่ท่านเห็น ผมไม่ได้บอกว่าโกหก แต่ท่านมั่นใจได้ยังไง ว่ามันคือทั้งหมดแล้ว คือถ้าท่านคิดว่าแกคลีนจริง ถือว่าผมไม่เคยพูดละกัน
เดี๋ยวครับท่าน ผมเคยพูดตอนไหนว่าพี่แป้งคลีนล่ะครับ
พี่แป้งนี่เทาเข้ม ๆ เลยด้วยซ้ำในมุมมองผม
แต่ผมเคยพูดมาหลายครั้งแล้วครับ ว่าผมเข้าใจสัจธรรมของโลกนี้ เข้มแข็งรอดอ่อนแอตาย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
และไม่เคยเชื่อว่าในโลกนี้จะมีใครที่คลีนขาวสะอาดแบบ100% ยดเว้นเด็กเล็ก ๆ
คนส่วนใหญ่แทบทุกคนต้องมีเรื่องเทา ๆ กันมาบ้างในชีวิตอยู่แล้วไม่มากก็น้อย และผมไม่สนใจเรื่องนั้น
ณ เวลานั้นผู้คนกำลังจะล้มตาย ชาวบ้านและสัตว์จำนวนมากกำลังต้องการความช่วยเหลือ ด้วยหน้าที่ผมในตอนนั้นที่ต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเหล่านั้น ผมไม่มีเวลาจะมาสนใจหรอกว่าทางคนที่เข้ามาร่วมช่วยนั้นมีใครที่คลีนใส ๆ 100% เพราะแค่เขามาช่วยผมก็ขอบคุณมากแล้ว
ผมมองแค่ว่าการกระทำของเขาในเวลานั้น มันมีประโยชน์มากขนนาดไหนเท่านั้นครับ เพราะถ้าจะหาคนที่คลีนใส ๆ แบบที่ท่านต้องการเท่านั้นจึงจะร่วมงานด้วย คงต้องไปร่วมงานกับเด็ก 2ขวบล่ะครับ
ผมตอบสมาชิกท่านนึงไปเมื่อวาน ผมเอามาแปะให้ใหม่ละกันครับ
นั่นหมายความว่าคุณรับได้กับการเอาเงินสกปรกมาทำบุญเหรอครับ?
บางทีเงินทำบุญเหล่านั้นอาจมาจากการหลอกลวงใครมา เจ้าทุกข์ต้องฆ่าตัวตาย
ถามย้ำอีกที รับได้เหรอครับ?
ถ้าเงินที่สนับสนุนมูลนิธินั้น มันเป็นเงินที่พิสูจน์มาชัดเจนว่าสกปรกผิดกฏหมาย เช่นค้ายา สแกมเมอร์ ผมก็คงไม่ชอบหรอกครับ
แต่ถ้ามันยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ผมก็คงไม่ไปกล่าวหาใครลอย ๆ ครับ
ยิ่งถ้าเป็นเงินที่มาจากการบริจาคของคนทั่วไป ผมถือว่ามันคือเงินสะอาดเลยครับ เพราะมันมาจากน้ำใจของผู้คน
แม้ว่าคนตั้งมูลนิธิอาจจะไม่ได้ใสสะอาด แต่ไม่เกี่ยวกันครับ
ธรรมนัส ก็คือคน ๆ หนึ่ง
มูลนิธิธรรมนัส ก็คือมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้คน และผมยินดีร่วมงานกับมูลนิธิธรรมนัสครับ
พิสูจน์ไม่ได้นี่ต้องอาศัยอะไรเป็นหลักฐานครับ?
หลักฐานที่พิสูจน์ได้ทางกฏหมายไงครับ มันคือสิ่งที่ใช้ในการตัดสินชีวิตคน ๆ หนึ่งอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เมืองไทย ทุกประเทศก็ยึดหลักการนี้ทั้งหมด
หรือท่านจะใช้หลักมโนไปเองในการตัดสินคน ๆ หนึ่งครับ
สมัยหนึ่ง มีนายกไทยบอกถ้าใครมีหลักฐานเป็นใบเสร็จการคอรัปชั่น ให้หามา
จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครหาได้ อันที่จริงการโกงไม่จำเป็นต้องหาใบเสร็จหรอก
แค่ดูเหตุการณ์แวดล้อมก็สามารถตั้งสมมุติฐานให้มาตอบได้แล้ว
แต่ผมว่าผมกำลังคุยกับคนแกล้งหลับตาข้างหนึ่ง เปลืองเวลาเปล่าครับ
ตามสบายครับ ท่านถามมาผมก็ตอบไป แต่ผมไม่ชอบกล่าวหาหรือตัดสินใครลอย ๆ หรือเอาเคสของคน ๆ หนึ่ง เอามาใช้กับอีกคนหนึ่งว่าเขาจะต้องทำแบบเดียวกัน
คน 2คน มันมีความแตกต่างกัน หรือต่อให้เป็น คน ๆ เดิม แต่ช่วงเวลาที่ต่างและประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้เขาเปลี่ยนไปก็ได้
อย่างผมตอนวัยรุ่นก็ทำเรื่องแย่ ๆ มาเยอะ แต่ไม่ได้แปลว่าตัวผมในปัจจุบันจะทำแบบนั้นอีก
ผมไม่ได้กำลังคุยถึงประวัติใครนี่ครับ ผมคุยถึงเรื่องปัจจุบันนี่แหละ
ถ้ามีอันได้สงสัย ก็ต้องเอะกันหน่อย ไม่ใช่เพราะเขาทำบุญ ก็ถือว่าเขาทำดีแล้ว
ถ้าเรื่องในปัจจุบัน ธรรมนัส หรือท่านกัน ถูกพิสูจน์ได้ว่าทำผิดกฏหมาย ณ ปัจจุบันจริง และหาเงินที่สกปรกเอามาฟอกในมูลนิธิจริง ผมจะเปลี่ยนมุมมองต่อเขาทันทีแน่นอนครับ ผมไม่เคยยึดติดตัวบุคคล แต่ก็ไม่กล่าวหาใครลอย ๆ เช่นกัน
ผมก็รอให้คุณไอซ์หรือคุณโรมเปิดหลักฐานอยู่นี่แหละ ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่กล่าวหานั้นเขาทำผิดจริง ๆ ไม่ใช่แค่กล่าวหาหรือตั้งคำถามลอย ๆ ผมจะร่วมด่าเขาอย่างแน่นอนครับ
แต่จากที่เห็น ณ ตอนนี้ก็มีแต่พูดเรื่องเก่า ๆ ทั้งนั้น แต่เรื่องในปัจจุบันผมยังไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักมากพอจะเอาผิดเขาได้เลยน่ะ
และด้วยนิสัยผม ไม่ชอบด่าใครตามน้ำล่วงหน้า หรือกล่าวหาใครลอย ๆ อยู่แล้ว
(ผมพูดบ่อยมาก ว่าไม่ชอบพวกเฟมX ที่ชอบด่าคนอื่นไปก่อนที่ความจริงปรากฏ ดังนั้นผมจะไม่ทำพฤติกรรมแบบเดียวกับพวกนั้นแน่นอนครับ)
ผมพยายามเลี่ยงการพูดถึงประวัติของคน และพยายามพูดถึงระบบ
ต่างประเทศการมีข้อครหา จะส่งผลให้คนๆนั้นแสดงความรับผิดชอบด้วยการหยุดทำอะไรไปก่อน
แต่ในไทย ไม่มีการทำแบบนั้นให้ได้เห็นมีจะมีการตั้งข้อสงสัย
การตั้งข้อสงสัยไม่ใช่การกล่าวหา หรือด่าตามน้ำใครตามกระแส
ตรงนี้แหละที่ผมมองว่าคุณตั้งหลักเกณฑ์ในการต่อต้านกระแสสังคมผิดทาง
เพราะทั้งสองฝ่ายควรตั้งข้อสงสัยเพื่อขจัดข้อสงสัยให้สิ้น ไม่ใช่ไล่ให้คนไปหาใบเสร็จมา
ซึ่งมันไม่เคยมีใครหาได้หรอก
จะไม่เสียเวลาทำอะไรที่ไม่ได้เงินอีก