ผมว่าตั้งแต่ฮาคยันริมคุมทีม มาถึงก็เชือดนักเตะโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากรูใหญ่เอาห้องแต่งตัวอยู่ แล้วหาแพะนักเตะมาเป็นไวรัสทุกฤดูกาล รึจริงๆแล้วเป็นเพราะโค๊ชนี่แหล่ะที่เป็นไวรัสพังทีมทิ้งรึปล่าว

บางทีเลยอยากคิดมุมกลับบ้างว่า ทำงานบริษัท เจอหัวหน้าเอาแต่ใจ มาถึงก็จะเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ ไม่ถงไม่ถามลูกน้อง ทีมงานเลย สุดท้ายบริษัทก็เจ๊ง อันนี้ก็เพราะทีมงานเราเป็นไวรัส รึเป็นเพราะหัวหน้ากันแน่

โค้ชล้วนๆอีโก้สูง

ผมว่าเจ้าของทีมครับไวรัส No.1

ทั้งองค์กร
ตกต่ำขนาดนี้มันไม่ได้เป็นเพราะคนๆเดียว

มันไม่ได้พึ่งมาเป็น ตอน เทนฮาก กับ อโมริม

มันล้มเหลวมาตั้งแต่ มอย แล้ว

เปลี่ยนนักเตะมา 3 ชุด

เปลี่ยนโค้ชมาเกือบสิบคน

ลากยาวเป็นสิบปี ขนาดนี้ ก็ผลงานการบริหาร ของหลังบ้านนั่นแหละ

แยกให้ออกนะ ระหว่าง อีโก้สูง กับ พฤติกรรม toxic ไวรัสพาเพื่อนออกนอกลู่นอกทาง

ฟีลเหมือนมะเร็งเก่ารักษาหายแล้ว ก็มีมะเร็งก้อนใหม่ผุดขึ้นมา จุดใหม่

แล้วก็รักษาวนๆไป

ทีมเลยยังสร้างรากฐานไม่ได้สักที เพราะยังสาละวนกับการแก้ปัญหา เลยยังไปไม่ถึงจุดสร้างรากฐานจริงจังได้สักที

มูริญโญ เทนฮาก อโมริม ก่อนมาแมนยู พาทีมคว้าแชมป์ มาแล้วมากมาย


พอมาแมนยู กาก ทันที

ต้องลองโค้ชพีคๆท็อบโลกบ้าง ที่ผ่านมามโค้ชตกยุคแบบฟัลกัลกับน้ามูกับโค้ชดาวรุ่ง

จนถึงตอนนี้ผมก็ยังตั้งคำถาม

ทำไมนักเตะแมนยู วิ่งไม่ได้เหมือนทีมอื่น

ทั้งเพรส แกะเพรส วิ่งรับบอล ซ้อนกันอย่างเป็นกลุ่มก้อน

กล้าเล่นกล้าเติม จับบอล ครองบอล ส่งให้แม่นๆ

โดนทีมอื่นเพรสใส่ เตะทิ้งอย่างเดียว พอกล้าเล่นหน่อย ก็เล่นโง่ๆ เสียบอล

เลือกโค้ชไม่เป็น ไม่หนักแน่นกับการเลือกโค้ชว่าควรเอาโค้ชแบบไหน

ไปดูพวกทีมประสบความสำเร็จยาวๆ ได้ เขามีสเปคโค้ชในแบบที่ตัวเองอยากได้ แล้วเขาก็ทำซ้ำ มีนอกลู่ นอกทางลองของแปลกๆ บ้าง แต่ถ้าลองแล้วไม่เวิร์ค ก็กลับมาเน้นสเปคเดิม เพื่อไม่ให้โมเมนตัมทีมตกต่ำยาว

มีแมน ยู นี้แหละ ตั้งแต่ไอจิมเข้ามาเลย ถ้าทีมงานของเกลเซอร์ มันยังอยู่ คงไม่มีทางเอาไอริม แน่นอน คนมาแทนคงเป็นโค้ชโปรไฟล์ดีๆ ผลงานบอลยุโรปดีระดับนึง คนไหนไม่รู้แหละ

แมนยูเป็นแบบที่แรชซี่ให้สัมภาษณ์นั่นแหละคือบอร์ดบริหารเอาโค้ชมาเปลียนแปลงระบบแบบฉับพลันเกินไปจนนักเตะเปลียนตามไม่ทัน พอเปลียนตามไม่ทันก็ทะเลาะกันและก็เป็นที่มาของวัฒนธรรมองค์กรแมนยูคือโค้ชใหม่มาจะต้องทะเลาะกับนักเตะ

ปัญหาคือโค๊ชระดับโลกใครจะมา แล้วเหลือใครบ้าง โครงสร้างทีมเป็นแบบนี้ DOFทำงานได้6เดือนไล่ออกอะ มันดิ่งอยู่นะคนกำหนดทิศทางสโมสรแบบนี้

ปัญหาของแมนยูจริง ๆ คือรู้ตัวช้า ส่วนตัวผมมองแบบนี้ แมนยูสมควรไปได้ต่อจากยุคน้ามูแล้ว

แต่สโมสรกับแฟนบอลตอนนั้นรับไม่ได้กับสิ่งเกิดขึ้น ตอนนั้นทั้งหมดยังเชื่อว่าขุมกำลังกูไม่ได้กระจอกเป็นขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่อยู่เอาง่าย ๆ ตอนนั้นทุกฝั่งเข้าข้างนักเตะกันหมด จนมี วาทกรรม เด็ดตอนนั้น คือ การพา แมนฯ ยูไนเต็ด จบที่สองได้ถือว่าเป็นความสำเร็จ

แล้วตอนนั้นมูรู้ปัญหาหมดนั้นละ แต่จะเอาใครมาแก้่ก็ไม่ได้ สโมสร ไม่มีตัง มู อยากได้ ฟานได กับ แมคไกว แต่สโมสรไม่ให้ อันนี้มันกำกึ้ง เพราะ มูจะเอากองหลังทุกปี แล้ว ปีก่อนโดนปลด มันโดนยิงน้อย มันทำให้เกิดคำถามว่า มึงจะเอากองหลังอีกทำไม แต่ปัญหามันอยู่ใต้พรม ไอ้การเสียน้อยตอนนั้นเพราะ เด มัน เซฟเทพนั้นละ

แล้วพอหมดตอนนั้นไปกระแสมันเพิ่งจะเทมาทาง อ๋อ ในทีมมีไวรัสแล้วหลังบ้านกระจอก ขนาดโด้ กลับมา ยังบอกเลยอะไร ๆ ก็เหมือนเดิม

ไวรัสก็ส่วนนึง ถ้าคุณเป็นเจ้านายคงอยากเก็บพนักงานที่จ้องแต่จะเอาข้อมํลบริษัทไปเมาท์ข้างนอก หรือ ทำงานวันๆ ให้จบๆไป ไม่ก็ เรียกเงินเดือนสูงๆ แต่เข้างานบ้างไม่เข้างานบ้าง เวลาจริงจังก็บอกไม่สะดวกคุยอะไรแบบนี้รึเปล่า


ถ้าคุณเป็นเจ้านายแบบนั้นแล้วองค์กรยังรอดดีอยู่ผมก็ขอนับถือเลย แต่ส่วนมากพวกนี้ต้องโดนกำจัดในองค์กรที่ต้องการความก้าวหน้า

เว้นเสียแต่ว่ามีอิมแพคมากพอ มีกจะได้รับเป็นกรณีพิเศษ