[RE: รถกู้ภัยฝ่าไฟแดง ชนเก๋งทำ 2 นักเรียนเสียชีวิต !!]
แมวมอง พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
แมวมอง พิมพ์ว่า:
Indyvirus พิมพ์ว่า:
แมวมอง พิมพ์ว่า:
bossa26 พิมพ์ว่า:
แมวมอง พิมพ์ว่า:
ไม่ได้ยินเสียงจริงดิ
ถูกกฎหมายไฟจราจร แต่ก็มีกฎหมายให้หลบรถกู้ภัยด้วยไม่ใช่หลอ
เพิ่มเติม มีคนหรือไม่มี เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะหน้างานตอนขับรถเราก็ไม่รู้ว่ามีหรือไม่ ยังไงก็ต้องระวังไว้ก่อนเมื่อได้ยินเสียง
มาตรา 76 เมื่อคนเดินเท้า ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์เห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ คนเดินเท้า ผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อนโดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.สำหรับคนเดินเท้าต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทาง หรือขึ้นไปบนทางเขตปลอดภัย หรือไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด
2.สำหรับผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย หรือในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางด้านซ้ายสุดของทางเดินรถ ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดช่องเดินรถประจำทาง แต่ห้ามหยุดรถหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก
3.สำหรับผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์ต้องบังคับสัตว์ให้หยุดชิดทาง แต่ห้ามหยุดในทางร่วมทางแยก
คือไม้ให้หยุดกลางแยก แต่ได้ยินเสียงก่อนแยกหรือไม่ และทำไมไม่หยุดตามกฎหมาย
มาไวขนาดนั้น คนละทางด้วย คนขับจุดที่ยังไม่ถึงเค้าก็ต้องใล้เวลาเหมือนกัน ได้ยินก็ต้องหาต้องมองจากทางไหนยังไงแล้วหยุดเเล้วหลบ มันมีเหรอได้ยินเสียงหวอปุ๊บกระทืบเบรกปั้บหยุดเเม่งทันที
หามาได้ยาวขนาดนี้ น่าจะไปหาที่สรยุทธพูดด้วยนะ รถฉุกเฉินจะฝ่าไฟแดงต้องหยุดดูก่อน ไม่ใช่แค่ชะลอด้วยนะ
ทั้งตำาวจมั้งนักข่าว คอมเมนต์ทุกคนเค้าเห็นเหมือนกันหมดว่ามันยังไม่มีเวลาให้รถเก๋งหยุดเลย รถเก๋งขับถูกตามกฎหมาย ถ้ามันจะชะลอทันหยุดได้ รถเก๋งไม่รอดเเล้ว
ผมได้ตอบไปกับคนที่ตอบไปก่อนหน้าแล้วว่า กรณีไฟแดงให้ชะลอ ถ้ารถกู้ภัยไม่ชะลอ ก็ผิดไง ได้อ่านไหม
แต่ที่ตอบ คือพูดกรณีที่ว่า ได้ยินหรือไม่ ฝ่ายที่อ้างว่าขับตามกฎหมาย ได้ชะลอรึปล่าว เพราะอีกฝ่ายก็อ้างว่าขับตามกฎหมายเช่นกัน
คือกรณีนี้ มันได้ไม่คุ้มเสีย เห็นไฟเขียว แต่ไม่สนใจเสียงไซเรน มันเสี่ยง
การได้ยินเสียงไซเรนเบาๆไกลๆ เราต้องหยุดรถทันทีเลยหรือเปล่าครับ? เป็นท่านขับขี่อยู่ท่านหยุดเลยหรือเปล่าครับ? ท่านรู้ทิศทางของรถหรือเปล่าครับว่าเสียงไซเรนไกลๆเบาๆเนี่ย รถเขามาทางไหน อยู่ใกล้ไกลท่านแค่ไหน?
ส่วนตัวผม ได้ยินเสียงรถไซเรนเบาๆไกลๆ ผมไม่หยุดนะครับ แต่พยายามหาทิศทางของเสียงไซเรนว่ามาทางไหน ยิ่งถ้าเราขับรถเร็วๆอยู่ เสียงลมก็แรง เสียงเพลงที่เราเปิดก็ดัง แทบจะรู้ตัวอีกทีก็ใกล้ๆตัวแล้ว ถึงรู้ว่ามีรถฉุกเฉินมา ผมถึงหลบและจอดหยุดให้รถฉุกเฉินผ่าน ผมไม่เคยหยุดแค่ได้ยินเสียงเบาๆไกลๆเลยครับ เพราะไม่อย่างนั้น รถทุกคันทุกเส้นทางในบริเวณนั้นต้องหยุดกันหมดครับแค่ได้ยินเสียงไซเรนเบาๆไกลๆแล้วต้องหยุด
ผมว่าท่านลองนึกดูครับว่าท่านขับขี่แล้วเจอรถไซเรนมันเป็นยังไง เพราะประสบการณ์ผมที่เจอบ่อยๆมันเป็นแบบนี้ครับ และลองค้นหาข้อมูลดูนะครับ ผู้ขับขี่หลายรายก็แทบจะรู้ตัวหรือได้ยินเสียงไซเรนชัดๆก็ใกล้ตัวแล้วครับ
นั่นคือข้อเท็จจริง และทำตามสามัญสำนึกครับ
แต่ถ้าตามกฎหมาย บอกไว้ชัดเจนว่าให้หยุด(ชิดซ้าย) เมื่อได้ยิน แต่ห้ามหยุดตรงทางแยก
ทีนี้มันก็อ้างได้ว่า ถ้าได้ยินต้องหยุดไง (อาจเพราะไม่รุ้ว่าที่มาของเสียงมาจากตรงไหน ควรหยุดไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย)
ทีนี้ เมื่อเราไม่แน่ใจว่ามาจากทางไหน ถ้าไม่หยุดตามกฎหมาย ก็ควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง แล้วก็รับความเสี่ยงเอา
คือผมก็เจอแทบทุกเช้าเลยนะ ไม่รู้มันจะด่วนห่าไรทุกวันทุกเช้า แต่เพื่อความปลอดภัย ผมเองก็ระวังเต็มที่ โดยเฉพาะยิ่งถ้าผ่านทางแยก ถ้าขับปกติไม่ได้ผ่านแยก ได้ยินเสียง แต่ด้านหลังไม่เห็นรถฉุกเฉินใครจะไปหยุด เพราะมันไม่ได้มีความเสี่ยงอะไร
แล้วจากเหตุการณ์ที่ท่านเจอ ผมเจอ และเคสนี้ที่เกิดขึ้น มันมีบริบทอะไรที่แตกต่างครับ นั่นแหละครับที่ผมจะสื่อบอกท่าน เพราะในความเป็นจริงคนขับรถเก๋งเขาก็ไม่ได้ยินจริงๆก็ได้ถูกต้องไหมครับ ด้วยสถานการณ์ ไฟเขียวอยู่ ถนนโล่ง ขับมาด้วยความเร็วปกติอยู่แล้ว ลมข้างรถดัง รถฉุกเฉินมาแบบไม่ชะลอ และไม่รู้ว่าทิศทางรถมาทางไหน เพราะข้างหน้าก็ไม่มี ข้างหลังก็ไม่เห็น แถมไม่ได้ยินเสียงไซเรน มันก็เกิดเหตุแบบเคสนี้ได้ครับ
ผมเข้าใจนะครับที่ท่านก็ดูจะสรุปว่า ก็ผิดไปทั้งสองฝ่าย ฝ่ายผู้ขับขี่ถ้าได้ยินเสียงก็ควรหยุด ฝ่ายรถฉุกเฉินก็ควรระวังเวลาฝ่าแยก แต่อย่างที่ผมบอกอีกครั้ง ถ้าบอกว่าให้ระวังเวลาได้ยินเสียง แล้วบริบทรวมๆของเคสนี้เขามันทำให้ไม่ได้ยินเสียงจริงๆหรือได้ยินแล้วมันจวนตัวแล้ว คุณจะบอกว่าฝ่ายเก๋งผิดที่ไม่หยุดให้รถฉุกเฉินหรอครับ ทั้งๆที่จากดูคลิปแล้วบริบทก็เห็นอยู่ว่า เก๋งทำทุกหมดทุกกฎจราจร แค่เขาไม่ได้ยินเสียงไซเรน แต่เป็นรถฉุกเฉินที่ไม่ได้ทำถูกตามกฎจริงๆ ที่ระบุไว้ให้ต้องระมัดระวังในการฝ่าไฟแดงนี่ครับ
จะเอามุมไหนล่ะ
ส่วนของผู้ตาย
ถ้ามุมสามัญสำนึก
ได้ยิน แต่ไม่เห็น ก็เลยไม่หยุด ผมก็ตอบไปว่า ถ้าเป็นแยกควรระวังชะลอให้มากๆ
ถ้ามุมกฎหมาย
หากได้ยินก่อนแยก ก็ผิดที่ไม่หยุด
ส่วนของรถฉุกเฉิน
ถ้าไม่ชะลอ ก็ผิดกฎหมาย
แต่ข้อเท็จจริงคือ เราไม่รู้ว่าได้ยินหรือไม่ และไม่รู้ว่าชะลอหรือไม่ ชนแรงไม่ได้หมายความว่าไม่ชะลอ
ผมจึงถามว่าไม่ได้ยินเสียงหลอในตอนแรก และมันชนแรงขนาดนี้ถ้าไม่ได้ชะลอเลยก็ผิดแน่ ซึ่งก็ไม่รู้
คือไม่เอามาปนกันสิ พอผมตอบมุมกฎหมายก็คุณอ้างสามัญสำนึก ตอบสามัญสำนึกก็วนไปพูดเรื่องกฎหมาย
เหมือนว่า ถ้าสามัญสำนึก คนนี้ถูกให้คนนี้ กฎหมายให้คนนี้ผิดให้คนนี้
ก็พอผมตอบในมุมกฏหมายว่า รถฉุกเฉินก็ควรระวังเช่นกัน เพราะตามกฎหมายคือบริบทการขับขี่แล้วเก๋าถูกต้องกว่า ทางหลัก ไฟเขียว
ส่วนเรื่องได้ยินหรือไม่ก็ต้องไปพิสูจน์ แต่ผมก็เสนอในมุมสามัญสำนึกคนทั่วไปด้วยใช่ไหม ว่าปกติแบบนี้คนขับแบบเราๆมันได้ยินหรอ? กับสภาพแวดล้อมแบบเคสนี้ ที่เหลือคุณก็ไปคิดเอา ส่วนจะใครถูกใครผิดหรือผิดทั้งหมด ตามกฎหมายว่างั้นก็ถูกต้อง แต่ตามสัตย์จริง รถขับรถเก๋งเขาจะได้ยินจริงไหม? ผมก็เลยบอกให้ลองนึกดูตามความจริง ซึ่งถ้ารถฉุกเฉินคิดจะชะลอหรือหยุดตามกฎหมาย มันก็ไม่เกิดเหตุ แต่จะบอกว่าเก๋งได้ยินแล้วไม่หยุด มันพิสูจน์ได้ไหมในบริบทนี้ คือ ถ้าเห็นหรือได้ยินจริงก็ควรหยุด ถ้าไม่หยุดก็ผิดตามกฎหมายว่าไป
แต่ผมก็ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้ปน กฎหมายว่ากันตามกฎหมาย บริบทข้อเท็จจริงฝ่ายไหนมันทำตามกฎหมายได้มากกว่ากัน? ฝ่านไหนทำถูกกฎจราจาอยู่ก่อนแล้ว และการได้ยินแล้วไม่หยุดมันพิสูจน์ได้ไหม? เทียบการกฏที่สามารถทำได้เลยอย่างรถฉุกเฉินชะลอหรือหยุดก่อนฝ่าแยกไฟแดง? เรื่องกฎหมายข้อพวกนี้ทุกคนทราบกันหมดครับ
เพราะอะไรพวกผมถึงตอบโต้คุณ เพราะโพสแรกคุณตั้งแง่ถามว่า “ไม่ได้ยินจริงดิ” ตามด้วยข้อกฎหมายมาตรา 76 เท่านั้น โพสแรกผมเลตอบกระทู้กลับด้วยการตั้งมาตรา 75 ด้วยว่า รถฉุกเฉินก็ควรระวังก่อนฝ่าแดง คุณถึงมาพูดแง่กฎหมายแบบนี้กับพวกผม แต่จริงๆก็ตั้งเปิดจ้องเอาผิดเก๋งก่อนแท้ๆ ทั้งๆที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าเก๋งทำผิดจริง แต่คลิปหลักฐานพิสูนจ์แล้วว่ารถฉุกเฉินผิดจริงตามมาตรา 75