ทำไมคนไข้HIVต้องไปวัดพระบาทน้ำพุครับ ตอนนี้ราคายาHIVตัวใหม่ๆไม่ได้แพงขนาดนั้น ยาHIVตัวดีๆระดับที่ให้กันในคนไข้ในอเมริกา ก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น



จากราคายาคลินิกนิรนามสภากาชาด เอาแค่ยากลุ่มใหม่(แบบที่มีINSTI ซึ่งถือเป็นยามาตรฐานแล้ว first-lineในอเมริกาด้วย)

อ้างอิงราคายาจากเวปสภากาชาด https://th.aidsid.or.th/wp-content/uploads/2024/11/25671101_ARV-price-list-update-01-Nov-2024-1.pdf

ยากลุ่มoriginal
- Biktarvy (ใช้บ่อยมากในเมกา ผมไม่มีตัวเลข แต่เข้าใจว่าน่าจะtop3แน่ๆ) เดือนละ2535
- Dovato เดือนละ7680
- Triumeq เดือนละ13740

ยากลุ่มgeneric
- Teldy เดือนละ750 (ซึ่งโอเคมากๆแล้ว เป็นfirst lineตามคำแนะนำWHO)
- Kocitaf เดือนละ750

ณ ตอนนี้ถ้าได้ยากลุ่มใหม่ ขอแค่เข้าปากทุกวัน กดเชื้อไวและแรง โอกาสดื้อยาแทบไม่มี แทบไม่ตีกับยาอื่น และจากประสบการณ์ส่วนตัวต่อให้คนไข้ลืมกินยาบ้างยังเอาอยู่สบายๆเลย ที่สำคัญทุกสิทธิการรักษาครอบคลุมแล้ว

คำถามคือ คนไข้HIVจำเป็นต้องไปวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่? วัดจำเป็นต้องใช้เงินบริจาคมากขนาดนี้เพื่อรักษาคนไข้HIVหรือไม่? ผมเข้าใจว่าคนไข้ในวัดพระบาทน้ำพุก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น เข้าใจว่าแค่หลักร้อย มันมีเหตุผลอะไร ทำไมคนไทยบางคนยังต้องพึ่งวัดนี้อยู่ ผู้รู้ช่วยแนะนำที

พวกที่ไม่มีใครเอารึป่าว เคยเห็นคนที่ป่วยหนักแบบช่วยตัวเองไม่ไหวแล้วแบบนั้น มารู้แบบก็ทรุดแล้วอะ

ชีวิตจริง เคสแบบนี้ ถ้าเริ่มยาตัวใหม่แล้วขอแค่เอาเข้าปาก ก็รอดครับ(โดยส่วนใหญ่ละกัน) ยามันโหดขึ้นเยอะมากๆ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ถ้าเป็นAIDSแบบเชื้อเต็มตัวแล้ว กว่าจะรักษาเชื้อแทรกซ้อน กว่าจะใช้ยาตัวเก่าเพื่อกดhivเพื่อเอาเม็ดเลือดขาวขึ้นมาได้ลำบากมาก สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว

จากที่ผมไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนครั้งเดียว
นอกจากเรื่องยา
คือเรื่องที่อยู่อาศัย/ที่พักพิงครับ

มีหลาย ๆ คน โดนครอบครัวเอามาทิ้งหน้าวัด
ไม่อยากให้อยู่ร่วม สังคมรังเกียจ ครับ
รวมถึงผู้ติดเชื้อที่ไม่มีรายได้ ไม่มีเงิน ไม่มีที่อาศัย
วัดก็ต้องรับไว้

ฉะนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่ยาเลยครับ

คนติดเชื้อ HIV สภาพจิตใจโคตรย่ำแย่นะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นหวัดเป็นไข้ไป ร.พ. กินยาแล้วก็หาย บางทีก็คงต้องการที่พึ่งทางใจด้วย

คนป่วยในวัดมีแต่ระยะสุดท้ายแล้ว จากทุกโรค
พิการ มะเร็ง วัณโรค เอดส์ ปล่อยจนรักษาไม่ได้แล้ว ไม่มีญาติดูแล ก็มานอนรอเวลาสุดท้ายที่วัดนี้

ไปเคส กรณีที่ ไม่มีคนเลี้ยงดูหรือทอดทิ้ง

ถ้าเป็นตามนี้ และได้รับการรักษาตามมาตรฐานคนไทย ก็อาจจะมีเหตุผล

ขอเติมคลิปนี้ ผมว่าอ.หมอTanyอธิบายดี โลกไม่สวยนะ พระก็พระยุคนี้แล้วนอกจาก112วิจารณ์ได้หมดทุกคนละ

เดานะ

คนที่ปล่อยให้ไวรัสลุกลามจนอยู่ในระดับที่เป็นโรคร้ายแทรกซ้อนมันก็สะท้อนวิธีคิดแล้วว่า ไม่ได้ใส่ใจดูแล แม้แต่สุขภาพของตัวเอง หรือก็อาจไม่มีความรู้ หรือความพยายามจะที่หาความรู้ในการดูแลตัวเอง และก็น่าจะมีรายได้ต่ำ เผลอๆ ยิ่งป่วย ยิ่งทำงานต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นที่รังเกียจ

ฉะนั้น ก็อาจไม่ได้เป็นที่รักของคนรอบตัวอยู่แล้ว

เมื่ออาการหนักขึ้น ๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าโดดเดี่ยว เลยคิดถึง วัด พบนพ. เพราะคงมีคนแบบตูอยู่เยอะ

ผมเข้าใจดีแน่นอนว่าคนติดHIVสภาพจิตใจเป็นอย่างไร

ถ้าสมัยก่อน น่าจะไม่มีใครเอา ญาติพี่น้องรังเกียจ คนรอบข้างไม่ต้อนรับ ไม่มีที่ไป แล้ววัดก็เปิดกว้างให้มาอาศัยในวาระสุดท้าย พอตายแล้วก็เผาเลย ซึ่งบางวัดก็ไม่เผาคนติดเชื้อ HIV นะครับ

ิอันนี้ผมเดานะ เพราะระบบการศึกษา และการเข้าถึงข้อมูลครับ

ข้อมูลที่ จขกท พิมพ์มา ส่วนตัวผมไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว คอมมอน Sense ของคนเป็นโรคนี้ถ้าดีหน่อย

ก็คงตามหาจัดการ และคงหาข้อมูลได้ แต่คนที่ไม่รู้ คงคิด วัดนนี้เป็นที่แรก

สาเหตุง่ายมาก GEN ผม พวกที่โดนเข้าค่าย พุทธบุตร อะไรนั่น สาปส่งคนเป็นเอดส์สุดๆ และให้ข้อมูลว่าบั้นปลาย

ก็ต้องไปอยู่วัดนนี้ โรงเรียน ไม่เคยสอนเรื่องยาต้านหรืออะไรเลย ชุดข้อมูลที่ถูกป้อนคือเป็นแล้วรอความตาย

และทีที่จะสามารถพึ่งพาได้ ที่เค้าป้อนมาคือ วัดนี้เนี่ยแหล่ะ ผมเลยไม่แปลกใจว่าทำไม คนถึงนึกถึงที่นี่ที่แรก

โดนเอาไปทิ้งวัดครับ


ญาติไม่อยากรับภาระเลี้ยงดูแล้ว


95% ไปแล้ว ไม่มีญาติมาเยี่ยท

รู้แต่ว่าเมื่อหลายสิบปีที่แล้วเป็นโรคระบาดหนัก คนหวาดระแวงและเป็นโรคเป็นที่รังเกียจของสังคม ยาก็ยังไม่ดีตอนนั้น ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันครับ