ก่อนเข้าไปเทค นีซเป็นทีมกลางตารางค่อนๆบน หลังจากเทคเมื่อปี 2019 จนตอนนี้ก็ยังเป็นทีมกลางค่อนบนอยู่ เทคมา 4-5 ปีจบไม่เคยเกินที่ 5 คะแนนห่างแชมป์ประมาณ 20-30 แต้มทุกปี ไม่เคยได้ถ้วยอะไรเลย

พอมาซื้อหุ้นแมนยู แรกๆก็เหมือนมีเรื่องให้ตื่นเต้น เปลี่ยนผู้บริหาร แพลนสนามแข่งและสนามซ้อมใหม่ แต่ดูละเอียดจริงๆก็แปลกๆ ดึงผู้บริหารมาก็ติดทำสวน ผมไม่เห็นทีมอื่นเวลาเปลี่ยนผู้บริหารเค้าจะติดทำสวนเลย

ตอนแมนซิตี้จ้างซิกิก็ทำงานได้เลย นิวจ้างแอชเวิร์ดก็ทำงานได้เลย หงส์ดึงเอ็ดเวิร์ดกลับไปก็ทำงานได้เลย เหมือน INEOS เครือข่ายฟุตบอลแคบๆ รู้จักอยู่ไม่กี่คนหรือเปล่าเลยต้องยอมไปซื้อตัวเค้ามาหมด ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยตกลงตาแดนจะได้เริ่มงานเมื่อไหร่

คิดว่าหวังอะไรซักเท่าไหร่ครับกับทีมบริหารของ INEOS

ให้เกลเซอร์ทำต่อไป ดีไหมครับ

ให้เค้าทำก่อน มันต้องเริ่มก่อน ไม่อยากอยู่แบบเดิมแล้ว

เปลี่ยนซะขนาดนี้ จะพูดว่าไม่หวังก็คงไม่ได้มั้ง
เราแค่รอดูเขาทำงานไปก่อนดีกว่าครับ

ถ้าปีหน้ายังจบต่ำกว่าโควต้า UCL เล่นไม่มีทรง ตัวนักเตะผลัดกันเจ็บทั้งฤดูกาล
แบบนั้นโห่ไล่ไปทั้ง ETH ทั้งทีม ผบห ก็ยังได้เลย

แค่ไม่ต่อสัญญาหมาก วาราน ก็นับว่าทำงานฉลาดแล้ว

ใจร้อนอ่ะ

เขาไม่ได้ลงทุน เวลา และเอาใจใส่ให้กับนีซเท่าแมนยูแน่นอนครับ

ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่ากับการบริหารงานของพวกเกลเซอร์หรอก โชคดีแค่ไหนมีคนมาแบ่งหุ้นในสโมสรไป แถมได้อำนาจจัดการบริหารทีมไปจากพวกเกลเซอร์ด้วยนี่ อย่างน้อยถือว่าได้คนมาช่วยฉุดจากหลุมลึกแล้วนะ ส่วนจะทำได้ดีขนาดไหนก็คงต้องรอดู โดยเฉพาะการทำงานของทีมบริหารหลังบ้านชุดใหม่ที่เค้ากำลังเซ็ต มันดีกว่าจมปลักไปวันๆ อยู่ในมือพวกเกลเซอร์อ่ะ

ทีมมันคนละระดับกันอะครับ ineos ไม่ใช่พวกชีคหรือเจ้าสัว ที่สามารถอัดเงินก้อนใหญ่ได้ งบประมาณของนีซ ก็ไม่ได้เยอะมาก

แต่กับแมนยู แมนยูเป็นทีมที่มีรายได้มหาศาล สเกลมันต่างกัน
แช้วดูจากการตั้ง ceo dof tec.director แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าเซอร์จิมต้องการปรับเปลี่ยนระบบ บริหารเดิมๆแน่ๆ รอดูไปก่อนดีกว่าครับ

แล้วก็ gardening leaving มันก็มีกันหมดแหละครับ แต่ทีมอื่นมันไม่เป็นข่าว ที่ไม่มีข่าวเพราะเค้าตกลงค่าสัญญากันได้ แต่ก็นรู้กันอยู่ว่าแมนยู ชื่อมันขายข่าวได้ ข่าวเล็กข่าวน้อยมันขายได้หมด

ดึงบุคคลากรเขามา โดยที่สัญญาไม่หมด

ก็ติดทำสวนกหมดแหละครับ ไม่งั้นก็ต้องจ่ายตัง เราแค่ไม่รู้ แค่นัันเอง ข่าวมันไม่นำเสนอ

มันอยุ่ที่ว่า ยอมกันได้มั้ย

เคสเดียวกัน อย่าง เบราด้า ดึงมาจากซิตี้ ก็คุยกันลงตัวไง ไม่ติดทำสวนนานเปนปีแบบแอชเวิท

ของแอชเวิท ไปดึงหัวใจบริหารเขามาขนาดนั้น นิวมันเลยเรียกค่าตัวเยอะดัดหลังแมนยู

มันเลยเกิดเกมการเมือง โยนขี้ ต่อราคากันเกิดขึ้น เพราะแมนยูไม่อยากจ่ายตามที่นิวเรียก

หรือ คนเดียวกันเลยนิวกับแอชเวิทเนี่ย ไม่ได้เริ่มงานทันทีแบบที่ จขกทบอก นะครับ

ไบรตั้นให้ทำสวนเหมือนกัน ปีนึงหรือ 6 เดือนนี่แหละ

แต่ทำไมเริ่มงานได้ทันที ก็เพราะนิวยอมจ่ายให้ไบรตั้นไง

ทีมไหนมันก็มีเรื่องพวกนี้หมดแหละ เราแค่ไม่รู้


https://www.soccersuck.com/boards/topic/2156147

เหมือนกันเป๊ะ อ่านข่าวย้อนหลังได้ แอชเวิท ก็โดนไบรตั้นให้ทำสวน

ของทีมอื่นก็ติดทำสวนเหมือนกันนะครับแค่มันไม่นานเท่ากับที่นิวสั่งพักแดน ของเชลซีที่ไปไล่ดึงพวกผู้บริหารหรือแมงมองจากทีมอื่นๆมาก็จะติดทำสวนกันหมดแต่จะอยู่หลักไม่เกิน 1ปี อย่างบางคนแม้อีกทีมจะจ่ายค่าชดเชยเพื่อดึงตัวมาแล้วแต่ก็ยังติดทำสวนอยู่ดีก็มีเหมือนกันแต่มันจะลดระยะเวลาลงไม่รู้มันเป็นกฎบังคับของเขารึเปล่าแต่ส่วนมากที่เจอมันจะเป็นหลักแบบ 4-10 เดือน อะไรประมาณนี้เอง

ปรับโครงสร้างมันต้องใช้เวลา ให้เวลาเค้าหน่อย ไม่เหมือนเกม fm ที่จะซื้อๆขายๆได้ในอาทิตย์เดียว

ถ้าแดนแอชเวิร์ธเริ่มทำงานได้เมื่อไร
แฟนๆรอชมการเปลี่ยนแปลงได้เลยครับ

ขอแค่แอชเวิร์ธอยู่กับแมนยูยาวๆ
ยังไงก็ติดท็อป6ทุกปี
แต่จะขึ้นไปลุ้นจ่าฝูง มันต้องรอฟูลทีมแบบปืนใหญ่

ถ้าจะให้ใคร มาทำเเย่กว่า เกลเซอร์ ผมว่า ยากสุดละ 555

ชั่ยครับ

กำลังจะบอกว่าเอาเงินมาลงเล่นๆ เจรจาเล่นๆตั้งหลายเดือนงี้หรอ