ถ้าท่านมีเงินเก็บก้อนนึง สมมติว่าตั้งใจจะเก็บเงินให้ได้ 1M เพื่อซื้อบ้าน รถ อะไรก็แล้วแต่

แต่ยังไม่ซื้อตอนนี้นะ แพลนว่า ปีหน้าจะซื้อ และตอนนี้ท่านก็มีประมาณ 800k ละ

แต่ท่านมีของอยากได้มากๆ ราคาประมาณ 100k จะเลือกข้อไหนครับ

1.ซื้อของที่อยากได้ก่อน เงินค่อยเก็บตามทีหลัง

2.ยังไงก็ไม่ซื้อ จนกว่าจะเก็บได้ครบ 1M

ถ้ามันไม่แพงมากก็ซื้อของที่อยากได้ก่อนครับ แต่ถ้าตามโจทย์ไปข้อ 2 ครับสำคัญกกว่า

ให้เวลา 3 เดือนกับของชิ้นนั้นครับ
ถ้า 3 เดือนยังอยากได้อยุ่ ก็จัดเลยครับ
ถ้าความอยากหายไปก็ไม่เอาครับ

ถ้าแพ้ใจตัวเอง โดนของเล็กๆน้อยๆ ตกชิ้นแรกแล้ว ชิ้นต่อๆ ไปเด๋วก็ตามมา

เป็นผม เอาเป้าใหญ่ให้มันจบก่อน

แต่ จขกท ออกตัวแล้วว่า ยังไม่ได้ซื้อของใหญ่ตอนนี้ ใจท่านเอียงมาของของเล็กแล้วล่ะ ตามเรปบนว่าก็ได้ ถ้า 3 เดือนยังอยากได้อยุ่ก็จัด

ดูที่ประโยชน์ที่จะได้จากของสิ่งนั้นครับ ถ้าเป็นแค่ของฟุ่มเฟือย ซื้อเพื่อสนอง need ผมจะรอทำตามเป้าหมายให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง แต่ถ้าซื้อมาแล้วมีประโยชน์ต่อยอดได้ หรืออาจขายต่อแล้วราคาไม่ตกหรือไม่กระทบกับเป้าหมายที่วางไว้มากนักก็อาจจะซื้อมาก่อน

อยู่ที่สถานะทางการเงินของเรามากกว่า ว่าทำได้แบบไหน

ถ้ายังหาตังเพื่อสะสมแบบนี้ได้เรื่อยๆ ก็ซื้อก่อนได้ ให้หายอยากแล้วชื่นชมมันไปเรื่อยๆ
ระหว่างนั้นแล้วก็ค่อยสะสมตังเพิ่มกลับมาเหมือนเดิมได้

อยู่ที่เวลาที่ต้องยืดออกไปนะ ถ้าแสนนึงเก็บเดือนสองเดือนก็ซื้อเลย ถ้าเก็บกันทีเป็นปีๆคงอดทนรอซื้อของใหญ่ทีเดียวเลย ไปต่อคิว ไม่งั้นเลื่อนไปอีกปีตบะแตกระหว่างทางอีกแน่นอน

ถ้าใช้แล้วไม่ได้เดือดร้อนกับเป้าหมาย 1M มาก แล้วสิ่งที่ซื้ิอมาทำให้มีความสุขเล็กๆผมใช้ครับไม่สนว่ามีประโยชน์มั้ยขอมีความสุข
ผมเคยลองเก็บเงินประมาณนี้เหมือนกันปีนึงไม่ได้ซื้อไรเลย พอเฉียดมาใช้สักนิดระหว่างทางโครตมีความสุขเลย

ของอะไรอ่ะ เกี่ยวพันยังไงกับชีวิตประจำวันป่าว ซื้อมาแล้วใช้ประจำไม่ใช่ของมันต้องมีอ่ะ ผมว่าผมอาจจะซื้อนะ 1m ซื้อบ้านไม่ได้อ่ะ

ผมแยกเงินเก็บอ่ะดิ ผมจะมีเงินเก็บสำหรับโปรเจคใหญ่ซึ่งผมจะไม่แตะจนกว่าจะถึงเวลาโปรเจคใหญ่ของผม แต่ผมจะมีเงินเก็บอีกอันซึ่งอันนี้ผมฟุ่มเฟือยได้ เอาไปซื้อของเล่นได้ เอาไปเที่ยวได้โดยเงินเก็บหลักไม่สะเทือน

จะว่าเกี่ยวพันมั้ยก็ไม่เกี่ยวครับ มันคือ กล้อง ที่ผมอยากได้

แต่ว่า 1m นี่แค่ยอดสมมติ ครับท่าน

ถ้าเป็นของมันต้องมี ว้อนมากๆแต่มันไม่ได้ใช้อะไร ผมว่าแค่ง้างๆพอคับ อย่าไปปลุกอารมณ์แบบไปดู เสิร์จหา อะไรแบบนั้นมาก มันช่วยได้เยอะ อย่าไปสั่มสมความอยากได้ เกาะเป้าหมายใหญ่ไว้คับ

ผมไมขอแนะนำว่าต้องซื้อหรือไม่ซื้อ แต่ขอแนะนำให้ท่านตัดสินใจเอง จาก oppornity cost ครับ หรือค่าเสียโอกาส

เช่น

ถ้าเสียเงินแล้ว ต้องใช้ เวลาเท่าไหร่ถึงได้คืน หรือเอาไปทำอย่างอื่นได้ไหม

ถ้าเสียเงินแล้ว ได้ใช้ประโยชน์จากมันคุ้มค่าแล้วหรือไม่ เช่นใช้ถ่ายจากมือถือได้ไหมหรือซื้อตัวถูกลง หรือรออีกสักนิดมีโปรโมชั่นลด อาจลองค้นย้อนหลังดูว่ากล้องตัวไหนเคยลดไหม หรือมันมีอะไรใกล้จะออกรุ่นใหม่แล้วหรือป่าว

ถ้าไม่ซื่้อแล้ว เสียดายโอกาสไหม เช่นกล้องนี้อาจจะไปเอาถ่ายรูปที่เราไปเที่ยวกับครอบครัว ถ้าไม่มีกล้องตอนนี้อาจย้อนไปถ่ายไม่ได้แล้ว หรือซื้อแล้วโครตมีความสุข มีพลังที่จะไปหาเงินใหม่ๆ

ผมคิดว่าคนแต่ละคนมีสถานะการเงิน และความจำเป็นแต่ละคนไม่มีทางเหมือนกัน แต่อยากให้ลองพิจารณาค่าเสียโอกาสดีๆครับ

ของบางอย่างมีเวลาของมัน ถ้าไม่ซื้อวันนี้แล้วนั่งเสียใจย้อนหลังก็ไม่ดี

1 งานท่านมั่นคงมั้ยถ้าใช่จัดเลยไม่ต้องรอ

2 ถ้าไม่ได้จะมีเมียมีลูกบ้านเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่รถแพงๆจำเป็นอยู่

ตอนชนยังได้ลุ้นรอด ไม่เหมือนอิโคคาร์Bsegที่ชนละกลับจุดเซฟแน่นอน

3 ซื้อมารับงานทำเงินได้มั้ยถ้าได้ซื้อ ถ้าสนองนี๊ดแต่ดูมาเกิน6เดือนละก็ซื้อเพราะคงอยากได้จริงๆ

ปัญหาแบบนี้ แก้ด้วยซื้อไป จะได้จบๆๆ