ปกติจะกินอะไรจะระวังน้ำตาล แต่โซเดียมนี้ปล่อยจอยเลย

อยากรู้ว่าสองอย่างนี้อันไหนน่ากลัวกว่าครับ

น้ำตา

น้ำตาลแน่นอน เหตุผลเพราะมันบริโภคในปริม่ณมากได้ง่ายกว่า โซเดียมมันเกลือ ชูรส มันแฝงอยู่ในอาหารทั่วไปน้อยกว่าน้ำตาล

ไปถาม ChatGPT มาให้แล้วครับ เพราะก็ห่วงเหมือนกัน เป็นเหมือนกันเลย กินกาแฟก็สั่งอเมไม่หวาน พวกชามุกต่างๆ นี่ไม่ค่อยแตะเลย ไม่ได้เป็นสายนี้ด้วยซ้ำ ส่วนโซเดียมนี่ไม่มีความรู้เท่าไหร่ จำได้แค่ว่ากินหมูจุ่มวันนี้ อีกวันมาหน้าบวมขึ้น เพื่อนบอกคงบวมเพราะโซเดียม5555555555555

น้ำตาล
ผลกระทบต่อสุขภาพ: การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น โรคอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ และฟันผุ นอกจากนี้ น้ำตาลส่วนเกินอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ (NAFLD)

แหล่งที่พบ: น้ำตาลสามารถพบได้ในเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนมหวาน ขนมปัง น้ำผลไม้ และอาหารแปรรูปต่างๆ

โซเดียม
ผลกระทบต่อสุขภาพ: การบริโภคโซเดียมมากเกินไปสามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับโรคไตเรื้อรังและภาวะหัวใจล้มเหลว

แหล่งที่พบ: โซเดียมส่วนใหญ่มักพบในเกลือที่ใช้ในการปรุงอาหาร อาหารแปรรูป ซอสปรุงรส และอาหารสำเร็จรูป

สรุป
น้ำตาล: ถ้าคุณมีปัญหากับน้ำหนักตัวหรือระดับน้ำตาลในเลือด น้ำตาลอาจเป็นสิ่งที่ควรระวังมากกว่า

โซเดียม: ถ้าคุณมีปัญหากับความดันโลหิตหรือโรคหัวใจ โซเดียมอาจเป็นสิ่งที่ควรระวังมากกว่า

ทั้งนี้ การลดการบริโภคทั้งน้ำตาลและโซเดียมในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว การรับประทานอาหารที่สมดุล และการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองสิ่งนี้ได้

เป็นเบาหวานยังกินยา ฉีดอินซูลินคุมได้ แต่เป็นโรคไตรอเปลี่ยนไตใหม่อย่างเดียว

โซเดียม ครับ

มีเหตุผลทางวิชาการอ้างอิงครับ

น้ำตาล บริโภคเข้าไปเยอะจะเสี่ยงเป็นโรค เบาหวาน ซึ่งมีผลกระทบกับร่างกายในระยะยาว รวมถึงการที่เป็นโรคอื่นๆแล้วจะทำให้หายช้าหรืออาจต้องตัดอวัยวะ

แต่โซเดียม บริโภคเข้าไปเยอะ อาจเสี่ยงต่อโรคไตวาย แล้วพอเราผวนจะกลายเป็น ตายไว ครับ

วิชาการโดยสำนักพุชครับ

ผมว่าโซเดียม อันตรายกว่า
น้ำตาลยังออกกำลังกายขับออกได้

แต่โซเดียมไตพังอย่างเดียว

โซเดียม

แล้วมักมาแบบเราไม่รู้ตัว

น้ำตาลมันชัดว่าพวกจองหวาน น้ำหวาน

แต่โซเดียมมันมาในรูปความอร่อย ความนัว ความเข้มข้น

กินเค็มเยอะ ไม่ได้ทำให้เป็นโรคไตเรื้อรังโดยตรง

แต่เบาหวานนี่ สาเหตุโรคไตแท้ๆเลย

น้ำตาลดิ

เกลือ คนเมืองร้อนโคตรจำเป็น ทะลึ่งไปตามฝรั่งจำกัดเกลือ บ้าบอจัด

ไตพังเพราะน้ำตาลเถอะ

เวลาตรวจแล้วเห็นเกลือมันคาอยู่เยอะ เพราะเกลืออันตรายน้อยกว่า

ร่างกายต้องแบ่งถนนเกลือไประบายน้ำตาล

น้ำตาล

โซเดียม

น้ำตาลซิครับ นอกจากเป็นจุดเริ่มต้นของความเสื่อมต่างๆในร่างกายแล้ว เรายังบริโภคในปริมาณสูงได้ง่ายอีกด้วย เช่น บางคนกินน้ำอัดลมวันนึงได้เป็นขวด ขวดนึงน้ำตาลกี่กรัม แต่เราไม่สามารถกินโซเดียมในปริมาณเยอะแบบนั้นได้

ถ้าไม่มีตัวเทียบกัน ผมว่าเถียงกันตาย จะบอกว่าน้ำตาลทานง่ายกว่าเกลือ หรือเกลือทานง่ายกว่าน้ำตาล ก็ไม่จำเป็นเสมอไป ผมจัดทั้งหวานเค็ม เพื่อนผมคนนึงเป็นคนกินเค็มก็ดันไม่กินหวานเลย แล้วใส่น้ำปลาพริก แม็กกี้ ยังกะราดน้ำแกง หรือหลายคนกินหวานก็จะกินเค็มน้อยไปเลย

ลิ้นแต่ละคนก็ sense ไม่เท่ากันอีก

แล้วพอป็นคนกินหวาน ผงชูรสมันเสริมทั้งหวานและเค็ม ดังนั้นบางคนกินกับข้าวแนวหวาน ก็กินชูรสเข้าไปโดยไม่รู้ตัวก้คือโซเดียม แต่ดันคิดว่าตัวเองหนักน้ำตาล

ของหวานหลายอย่างใส่แป้งดัดแปรซะเยอะ หรือแม้แต่สารเติมแต่งต่างๆ สีแต่ง พวกนี้หลายๆตัวมันต้องทำให้อยู่ในรูปที่ละลายน้ำได้ ก็ไม่พ้นเกลือโซเดียมเป็นหลัก ดังนั้นต้องถามด้วยว่ารู้ตัวป่าวว่ากินของหวานก็มีโอกาสได้โซเดียมด้วย

นี่ไม่รวมพวกยาด้วยที่มักจะอยู่ในรูปเกลือ

ส่วนน้ำตาล บอกไม่กิน แต่ข้าวแป้ง ย่อยก็ได้น้ำตาล แต่อาจจะน้อยกว่าที่คิดหรือย่อยไม่หมด

ถ้าเอาปริมาณเท่ากัน by weight ผมว่าโซเดียมไปก่อน เพราะโซเดียมละลายน้ำได้ดีกว่าน้ำตาล น่าจะแพร่เข้าเลือดได้มากกว่า ส่งผลต่อระบบประสาทไวกว่า