สวัสดีชาว SS ทุกท่านครับผม ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ที่มาของกระทู้นี้ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการขึ้นรูปโลหะเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวเรือน...(นั่นกระทะ!) ที่จริงแล้วผมก็แค่อยากเขียนกระทู้เป็นซีรีย์แชร์เพลงแบบที่ผมเคยเขียนเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่เนื่องจากว่าผมขี้เกียจทำ Research เยอะ ก็เลยคิดว่าจะทำแบบ ครั้งละ 1 อัลบั้มแทน โดยมีเนื้อหาเกี่่ยวอัลบั้มเพลงที่น่าสนใจ มาแชร์ให้เพื่อนได้ลองฟังงานเพลงจากศิลปินในตอนนั้นๆดู ถ้าหากมีคนชอบเยอะผมจะพยายามแวะมาเขียนบ่อยๆนะ แต่ถ้าไม่ก็นานๆแวะมาเขียนทีละกัน(T^T)

และสำหรับงานเพลงที่ผมเลือกมาในครั้งนี้ เท่าที่ผมหาจากในอินเตอร์เน็ตศิลปินท่านนี้ยังไม่มีบล็อกเกอร์ชาวไทยรีวิวเลย ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แบ่งปันงานเพลงดีๆให้ทุกท่านได้ฟังกัน สำหรับคอเพลงนอกกระแส ผมคิดว่าอาจจะมีบางท่านที่เคยได้ยินได้ฟังผลงานของเขามาแล้ว แต่สำหรับใครยังไม่เคยฟังหรือเปิดกว้างสำหรับงานดนตรี Experimental ผมอยากจะบอกว่า "I would like to introduce this album for you"(ใช้ภาษาอังกฤษซะด้วย ตอแห*ชิ*หา*)





공중도둑 [Mid-Air Thief]
무너지기 (Crumbling)
Release date : 31 July 2018
Format : LP
Label : Topshelf Records
Genre : Folktronica/Neo-Psychedelia/Psychedelic Pop/Psychedelic Folk/Progressive Pop/Dream Pop

Crumbling คือผลงานมาสเตอร์พีซจากศิลปินชาวเกาหลีใต้นามว่า Mid-Air Thief ถึงแม้ว่าอัลบั้มนี้จะถูกปล่อยออกมาประมาณ5-6ปีแล้ว แต่นี่เป็นอัลบั้มที่ผมพึ่งได้ฟังเมื่อไม่นานนี้เอง แต่พอได้ฟังแล้วผมรู้สึกชอบทันทีเพราะซาวด์ทุกๆแทร็คในอัลบั้มนี้ มัน Unique มาก มันมีความเป็น Folk music แบบ Ichiko Aoba (แต่ไม่เทพขนาดนั้นนะ) ในขณะเดียวกันก็สอดแทรกซาวด์ Synthisizer แปลกๆเอาไว้ได้อย่างลงตัว ในเว็บที่ผม Research มานิยามอัลบั้มนี้ว่าเป็นดนตรีแนว Folktronica (Folk+Electronica) ซึ่งผมก็รู้สึกว่าดูเหมาะสมดี

สำหรับความ Unique ที่อยู่ในอัลบั้มนี้ ผมคิดว่ามี 3 เทคนิคที่โดดเด่นมากๆ

เริ่มกันที่เทคนิคแรกคือ Chord Inversions ในภาาษไทยเรียกว่าคอร์ดพลิกกลับ มันคือรูปแบบคอร์ดที่นำตัวโน้ตในคอร์ดนั้นๆมาเรียงลำดับใหม่ เป้าหมายก็เพื่อสร้างคอร์ดเดิมให้เกิดเสียงแบบใหม่ๆเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ อธิบายง่ายๆสำหรับคนทั่วไป(เช่นผม)ว่า ถ้าเราไล่เสียงตัวโน๊ตแบบที่เคยเรียนตอนเด็กๆ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด แล้วคอร์ด C Major ประกอบไปด้วยตัวโน๊ต 3 ตัว ได้แก่ โด มี ซอล เราสามารถพลิกกลับได้ด้วยการเปลี่ยนโน๊ตเป็น มี ซอล โด ซึ่งมันยังคงเป็นรูปแบบคอร์ดเดิมโดยเราเลือกที่จะไม่เล่น โด(ตัวแรก) แต่เปลี่ยนมาเล่นโด(ตัวที่2) ซึ่งเป็นอีก Octave นึงแทน และรูปแบบคอร์ดดังกล่าวเพื่อนๆทุกท่านจะได้ฟังผ่านเสียงกีต้าร์โปร่งที่มีในทุกเพลงของ Mid-Air Thief เลยครับ

เทคนิคต่อมาก็คือ Ear Candy มันคือการกว้านซื้อวัตถุดิบหลักนั่นคือลูกอมจากร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ นำมาผ่านกรรมวิธีบดผสมกันและโรยลงไปในอุปกรณ์บันทึกเสียงต่างๆ...(หยอกๆ) จริงๆแล้วมันคือเทคนิคการทำให้เพลงมีมิติมากขึ้นด้วยการใช้ DAW(โปรแกรมทำเพลง) สอดแทรกเอฟเฟคต์ลูกเล่นต่างๆ ซึ่งผมคิดว่าเขาทำมันได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรกเสียงเเครื่องดนตรีอื่นๆไว้เล็กๆน้อยๆ การใช้ Arpeggiator หรือแม้กระทั่งการใช้เอฟเฟคต์อื่นๆอีกมากมาย ซาวด์ที่นี้ของเขามันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนอะไรไม่รู้ยุ่บยั่บเต็มสองหูไปหมด(สงสัยผมจะ eargasm ไปซะแล้ว) อาจจะฟังดูเวอร์ไปหน่อย(ที่จริงก็เวอร์แหละ) แต่ถ้าทุกท่านได้ฟังแทร็ค Why ผมว่าทุกท่านจะเข้าใจความรู้สึกของผมได้ทันที

และอีก 1 เทคนิคที่เรียกว่า Call And Response สิ่งนี้คือเทคนิคการเขียนเพลงให้เหมือนมีการโต้ตอบกัน ซึ่งผมได้ยินเทคนิคนี้อยู่ 2 รูปแบบในอัลบั้มนี้ รูปแบบแรกคือการร้องนำและเสียงประสาน เป็นวิธีสุดคลาสสิกที่เพื่อนจะได้ยินไลน์เสียงร้องที่มีในทุกแทร็คของอัลบั้มนี้เลย อีกหนึ่งรูปแบบคือการใช้ไลน์เสียงที่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น เราดีดกีต้าร์ 3 ตัวโน๊ตในคอร์ด E Minor มือกลองและเบสก็จะเล่นตอบกลับมา 3 ตัวโน๊ตในคอร์ด E Minor ด้วย Octave ที่ต่ำกว่า(ประมาณนี้) ซึ่งรูปแบบนี้ที่ผมชอบที่สุดก็ต้องเป็นช่วง Outro สุดเท่ห์ของแทร็ค These Chains

หลังจากเกริ่นมาคร่าวๆแล้ว หลังจากนี้ผมจะแปะลิงค์ทุกแทร็คลิสต์ในอัลบั้มนี้ และลิงค์สำหรับติดตามผลงานของศิลปินท่านนี้ในช่องทางต่างๆไว้ให้นะครับ สุดท้ายนี้ขอทุกท่านให้แฮปปี้ๆ มีความสุขกับการฟังเพลงครับ
แทร็คที่ชอบในอัลบั้มนี้ : Why , These Chains , Gameun Deut , Curve And Light , Crumbling Together


Tracklist


Artist
https://midairthief.bandcamp.com/
https://www.youtube.com/@topshelfrecords
https://music.apple.com/us/album/crumbling/1468597994?uo=4&at=10l4PB&ct=albumAM
https://open.spotify.com/album/0c5K7NXuSSZNCpdMPMfeWZ



Source