คนยุคใหม่ลืมตาอ้าปากได้ยาก เพราะถูกบีบให้สิ้นหวังตั้งแต่เริ่มทำงาน
เมื่อค่าใช้จ่ายประดังประเดเข้ามาจนแทบต้องใช้แบบเดือนชนเดือน เงินออมก็ไม่มี มีแต่หนี้สิน ในขณะที่ค่าแรงเองไม่ขยับขึ้นมาหลายปีแล้ว การสร้างเนื้อสร้างตัวหรือสร้างความหวังในยุคนี้จึงดูเป็นไปได้ยาก และด้วยเหตุผลนี้เองจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนยุคนี้ถึงเลือกเช่าบ้านหรือคอนโดฯ มากกว่าเก็บเงินซื้อขาดแบบรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา
ค่าแรงที่สวนทางกับค่าบ้าน ทำให้ความหวังยิ่งเลือนรางขึ้นไปอีก
อีกสิ่งที่ทำลายความหวังของคนรุ่นใหม่ก็คือ ‘ค่าแรง’
ที่ขยับขึ้นมาเพียงหลักสิบบาทเท่านั้นในรอบสิบปี ในขณะที่ราคาบ้าน
คอนโดมิเนียมหรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ สูงขึ้นทุกปี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยบ้านก็สูงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งดอกเบี้ยบ้านก็มาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก อัตราเงินเฟ้อ
และนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยนั่นเอง
แต่เมื่อเข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% แปลว่าเราต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 7,460 บาทต่องวดเป็นเวลาประมาณ 20 ปี หรือถ้าอยากผ่อนด้วยค่างวด 7,085 บาทเท่าเดิม
ก็ต้องขยายระยะเวลาผ่อนออกไป 22-23 ปี แม้ว่าจะมีเงินดาวน์วางไว้แล้ว
แต่สำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงานแล้ว การหาเงินก้อนเพื่อโปะดอกเบี้ยบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่นิดเดียว
ในทางกลับกันแล้วสำหรับคนกลุ่มนี้ บ้านยังถือว่าเป็นภาระทางการเงินก้อนใหญ่ในแต่ละเดือนอีกด้วย
บทความยาว