อเมริกา ดูไบ สิงคโปร์ และยุโรปไม่ได้มีกำหนดว่าผู้ประกอบการรายย่อยต้องเป็นคนสัญชาติไหน

ทั้งทั้งที่มีคนอเมริกาตกงานอยู่จำนวนมาก ยังรับผู้อพยพเข้ามาแย่งคนในประเทศด้วย

ทำไมต่างชาติถึงห้ามประกอบธุรกิจ ในเมื่อบางธุรกิจคนไทยไม่สามารถทำให้ดีกว่าได้
ยกตัวอย่างเช่น อาหารอินเดีย ให้คนไทยทำยังไงก็ไม่ใช่อาหารอินเดีย ในเมื่อเราไม่สามารถตอบสนองต่อลูกค้าได้ก็ให้คนเชี่ยวชาญกว่ามาทำ ประเทศรอเก็บภาษีไป

ขึ้นอยู่กับเป้าหมายอยากได้อะไรอะครับ

ถ้าบอกว่าอยากได้ความเสรี คือใครอยากทำอะไรทำ ซึ่งยิ่งเสรีเท่าไร คนที่มีอำนาจมาก(ในที่นี้หมายถึงอำนาจทางการเงิน) ก็จะมีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กินแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รายเล็กไม่มีโอกาสได้เกิด ปท พัฒนาหลายๆประเทศเลยมีกฏหมายผูกขาด ซึ่งใช้ได้จริงมากน้อยแค่ไหนคืออีกเรื่อง

ส่วนถ้าเป้าหมายคืออยากให้ ปท พัฒนา มันก็ต้องเอาเงินให้ถึงคนที่อยู่ด้านล่าง ให้เงินมันหมุนใน ศก เรื่อยๆ รายใหญ่ได้เงินไป เค้าก็แค่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แค่นั้น สุดท้ายถ้าให้รายใหญ่เรื่อยๆ พอเหลือไม่กี่เจ้า เขาก็จะกำหนดราคาได้อยู่ดี เพราะความต้องการของทุกคนและทุก บริษัท คือการ maximize profit

ส่วรตัวผมมองว่า ปัญหาเรื่องนี้ มันเกิดจากการที่ ไม่มีตลาดไหนที่มันแข่งขันสมบูรณ์ตามอุดมคติ เลยเกิดปัญหา และมองว่าป็นปัญหาเดียวกับความเหลื่อมล้ำด้วย

ถ้าคิดส่าจ่ายเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
แล้วคิดว่าคนมีปัญหาคือใครล่ะ คนจนหรือคนรวย?

ถ้าเงินตกไปถึงคนจนก็ได้หลายเด้ง
ถ้าแจกคนจน แล้วคนจนเอาไปจ่ายนายทุน นายทุนรวยอยู่แล้วมันก็ได้เด้งแรกเด้งเดียว แถมไม่เป็นลูกโซ่ด้วย ถ้ารัยเงินแจกแล้วไปซื้อคนจนด้วยกันต่อ แมค้าจนๆก็มีรายได้ไง แล้วก็ไปหมุนต่อในวงจรเค้า

Cp เอาไปแล้วไง จากรวยห้าแสนล้าน เป็นรวยล้านล้านอยู่แต่ใยกนะเป๋าเค้า ชาวบ้านจนเหมือนเดิม แล้วพอชาวบ้านจนแล้วไง ก็ต้องมาขูดภาษีไปช่วยอีกไง

เงิน 10000 ล้าน เข้าบริษัทใหญ่ 1 บริษัท กับเข้าชาวบ้าน 1 ล้านคน คิดว่าแบบไหนจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นละ?

เข้าใจเรื่องเงินหมุนเวียนในระบบไหม

ถ้าตามความคิดผมก็คือ คนที่คิดว่าอยากให้เงินตกไปถึงมือชาวบ้าน
ก็แค่อยากให้ชาวบ้านที่น่าจะมีความมั่งคั่งน้อยกว่าได้รับเงิน
มากกว่านายทุนที่มีความมั่งคั่งมากกว่า เช่น ถ้าชาวบ้านหาเงิน
ไม่ได้ 1,000 บาท เขาจะไม่มีข้าวกิน 1 สัปดาห์
ในขณะที่นายทุนถ้าไม่ได้ 1,000 บาท ในส่วนนี้ เขาก็ยัง
ไม่ได้ถึงขนาดไม่มีข้าวกินแบบชาวบ้าน อารมณ์เหมือนเรา
เชียร์ทีมบอลรองอะครับ

อ่านแล้วงง ประเด็นนี้เริ่มมาได้ยังไงอะ
มีใครไปปิดไม่ให้คนเข้าเซเว่นเหรอครับ
กระทู้ต้นเรื่อง ทั้งหัวข้อ เนื้อหา คอมเม้นท์ที่คุยกัน ก็ไม่เห็นมีใครพูดถึงเซเว่นนี่นา งง

ขี้อิจฉาไง ใครแหลมขึ้นมากว่าคนอื่นๆ ต้องด่าซะหน่อย

เจอคอมเม้นแนวนี้ก็ ปล่อยผ่าน คับ

เอาที่ผมจับใจความจากที่คุณจะได้คร่าวๆนะครับ

คือคุณคิดแต่เงินที่นักท่องเที่ยวจะจ่ายให้แต่ผู้ประกอบการรายย่อย(กลุ่มชาวบ้าน)"ทางตรง"อย่างเดียวไงครับ

คือต้องลองมองเป็นภาพรวมแบบสเตปนี้ครับ นักท่องเที่ยวเข้าประเทศมา สมมุติเขาใช้จ่ายคนละ10,000(หลังหักค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรมออกไปแล้ว) ไม่ว่าเขาจะไปซื้อสินค้าบริการที่ไหน ผลคือมันเกิดการกระจายรายได้ครับ เช่น
ไปบาร์เบียร์ ไปร้านอาหารที่เน้นขายเฉพาะต่างชาติ เข้าห้าง

บาร์เบียร์ร้านอาหารเยอะ ขายอาหารได้<<<เขาก็ต้องไปซื้อวัตถุดิบจากตลาด/ห้าง เพิ่มมากขึ้นใช่ไหมครับ <<<แม่ค้าในตลาด/ห้างขายของได้มากขึ้นก็ไปรับหมูเห็ดเป็ดไก่ จากชาวไร่ชาวสวนมากขึ้น <ชาวไร่ชาวสวนมีรายได้ก็เอาเงินไปซื้อสินค้า ใช้จ่ายจิปาถะบลาๆ มันก็เป็นรายได้"ทางอ้อม"ที่เกิดจากการที่นักท่องเที่ยวมาไงครับ

ห้าง ร้านเหล้า ร้านอาหารขายดี ก็ต้องจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น <<<พนักงานมีรายได้ มีเงินก็เอาไปจับจ่ายใช้สอย ส่วนหนึ่งก็ส่งไปให้พ่อให้แม่ ให้ลูกที่ต่างจังหวัดใช้่ <<<พ่อแม่/ลูกที่ได้รับเงินจากพนักงานก็เอาไปจับจ่ายใช้สอยในจังหวัด / อำเภอของตนเอง มันก็ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน

อันนี้ผมยังไม่พูดถึงการที่ การใช้จ่ายทำให้มีVAT ผู้กระกอบการมีเงินได้ต้องส่งภาษีรายได้มากขึ้น << แล้วเงินส่วนหนึ่งก็มาเป็นเบี้ยคนชรา ทำให้เกิดการใช้จ่าย เศรษฐกิจหมุนเวียนอีกครับ

ประเด็นทหารอเมริกา มาแล้วใช้จ่ายในสถานบันเทิง
แล้วประชาชนธรรมดาไม่ได้ขายของได้ดีขึ้น
แล้วสถานบันเทิงผิดตรงไหนถึงโดนว่า เงินเข้าแค่กลุ่มทุน

เข้าใจว่าที่เค้าว่ากันเรื่องสถานบันเทิงมันคือเรื่องทุนนอกรึเปล่า เช่นจีนเทา ผิดกฏหมาย 0เหรียญ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าในทางเศรษฐกิจไม่มีทัว 0 เหรียญค่ะ
ต่อมาพัทยาไม่ใช่พื้นที่ส่งเสริมการลงทุน ต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกิน 49%
ต้องมีคนไทยร่วมด้วยอยู่ในกระบวนการประกอบกิจการ
ยกเว้นซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย

ต่อมาคนที่มาเป็นเจ้าของกิจการมีชื่อต้องมี VISA ทำงาน
เพื่อให้ติดตามตัวได้ และจ่ายค่า VISA ในการทำงานทุกๆปี

คราวนี้การประกอบกิจการใดๆล้วนใช้ทรัพยากรในประเทศนั้นๆ
สุรายาสูบ แม้เอามาจากนอกก็เสียภาษีนำเข้า
ค่าใช้จ่ายสาธารูปโภค น้ำไฟฟ้า อินเตอร์เน็ตก็ต้องใช้ในไทย
ค่าแรงงาน ตรวจบัญชี กฎหมาย ผู้จัดการ ธุรการต้องเป้นคนไทย
วัตถุดิบ เครื่องปรุงล้วนใช้จากท้องถิ่นเนื้อสัตว์และอาหารนำเข้ามายาก ไม่คุุ้มทุนและไม่สด

ทุกค่าใช้จ่ายล้วนกลับคืนสู่ระบบลงไปเรื่อยๆ
-----
เสริม
ลองนึกว่าคุณไป LA แล้วเจอร้านอาหารไทย ที่ไม่ใช่คนไทยทำ จะฝรั่งหรือแขกทำ คุณก็อาจจะกินได้แค่ครั้งเดียวแล้วไม่ไปอีก
มันมีหลายบริการที่ต้องเป็นคนบ้านเดียวกันทำ แล้วให้รู้สึกไม่เหมือนจากบ้านมา

ถ้ามีการใช้จ่าย มันก็ต้องมีการจ้างงาน
ถ้าพื้นที่ตั้งมี Potential ค่าที่ก็แพงขึ้น อสังหาก็จะตื่นตัว
ถ้าค้าขายดีขึ้น วัตถุดิบก็มีการหมุนเวียน

ผมเข้าใจว่าแบบนี้นะ คือเงินมันมาแหละ แต่มันจะถึงชาวบ้านกี่ % และทางไหนเท่านั้นเอง

คู่แข่งมี แต่สู้ไม่ได้ คงไม่เรียกผูกขาดมั้ง สินค้าทุกตัว แม้กระทั่งแบรนด์ในประเทศก็มีคู่แข่งในตลาด

แต่สัดส่วนมัน 90-10

แต่ที่ต่างกันคือ บริการ ทำสู้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตัดแข้งตัดขาอะไรด้วยแต่ส่วนมากตายเพราะตัวเองครับ

ไม่มีไปบอกว่าส่งฉันเจ้าเดียว บางอย่างคือต้องแย่งด้วยซ้ำ ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีเจ้าไหนสู้ได้

แฟมมิลี่มาร์ทเองเมื่อก่อนก็เหมือนกัน ผมเลือกก่อนเซเว่นเพราะใกล้กว่า แต่บางอย่างมันไม่ครบ ก็ต้องไปเซเว่น

คู่แข่ง ถ้าพูดถึง fam cj อันนั้นมันก็ถือว่าผู้ขายอยู่ดี 7 ก็ถือว่า monypoly power สูงอยู่ดีอาจไม่ตรงกับคำว่าผูกขาดตามนิยาม

พอเทียบรายย่อยที่เป็น tradition trade พวก convinience store มันดีกว่าอยู่แล้วในแง่ของ product&service เพราะต้นทุนเฉลี่ยต่ำกว่าทั้งนั้น และมีทรัพยากรมากกว่า

คิดง่ายๆ แค่ข่าวควบรวม 2 บริษัทก่อนหน้า รวมกับ บ. เดิมที่มีอยู่ แค่นี้ purchasing power ที่มีอยู่กับทาง supplier ก็สูงมากๆละ ต่อรองต้นทุน promo ต่างๆได้หมด แค่นี้รายย่อยก็ไม่มีอะไรไปสู้ละ

ซึ่งถ้าตอบคำถามกระทู้ว่าทำไมควรเงินควรจะไปถึงรายย่อย ก็คือมันทำให้การหมุนเงินในระบบ ศก มากกว่า


ปล. ผมตอบเคส ร้านสะดวกซื้ออย่างเดียว ไม่เกี่ยวกะเคสพัทยา

มันก้เป้นประเด็นที่น่าคิดนะ ทุกวันนี้ที่เราใช้บริการ 7-11 กัน

เป็นเพราะมันดีกว่า สะดวกก่วา ของตอบโจทย์เรามากกว่า หรือ ทุกวันนี้ที่ได้ดีเพราะเค้าเน้นกีดกันเจ้าอื่นเป็นหลัก ?

เค้าดีกว่าเจ้าอื่นมานานแล้วมันถึงทำให้เค้ารวย หรือเค้ารวยมาก่อนเพราะงั้นจะจัดการร้านเละยังไงก้ขายได้ ?


7-11 นี่ปัญหาโลกแตกเลย เถียงกัน ด่ากันทุกยุค



ึ