จากที่ตามการคุมทีมของพอช ไล่มาตั้งแต่ เอสปัญญอล นักบุญ ไก่ PSG และมาลงท้ายปัจจุบันที่เชลซี


ผมพอจะสรุปได้ว่า พอช เป็นคนมีฝีมือ ในระดับค่อนบน แต่ไม่สามารถรับมือกับความกดดันระดับสูงได้


ทำไมถึงสรุปยังงั้น???



จะเห็นได้ว่า พอช ขาดคาแรกเตอร์ของผู้ชนะ วิธีการเล่นของทีม มันสะท้อนถึงการวางแผนของผู้จัดการ ที่เห็นได้ชัดสุดคือ ฤดูกาลที่เลสเตอร์ได้แชมป์ ตอนนั้นไก่ของพอช ก็อยู่ในวงโคจรคั่วแชมป์ หลังจากที่ทีมใหญ่นัดกันฟอร์มตกพร้อมกัน การไล่ล่าแชมป์ก็ลากยาวมาถึงช่วงปลายฤดูกาล กระทั่งนัดที่เจอเชลซี ที่เจอเชลซีเล่นยั่ว ส่งผลให้นัดนั้นไก่เล่นแรง แบบที่ว่าน่าจะเรียกได้ว่าเล่นคนทั้งเกมส์หวิดมีมวยตลอด90นาที ถ่อยและเถื่อนที่สุดในฤดูกาลนั้นเลย ทั้งๆที่สไตล์การเล่นโดยปกติของไก่ไม่ใช่ยังงั้น มันส่งผลให้เห็นว่า นักเตะไก่หนุ่มกำลังห้าวและไม่สามารถควบคุมสมาธิให้อยู่ในเกมส์ได้ ซึ่งแบบที่ผมเกริ่นไปการที่นักเตะหลุดขนาดนั้นผมว่าผู้จัดการทีมก็คงหลุดไม่แพ้กัน พอชก็คงหัวร้อนไม่น้อยกว่านักเตะและไม่สามารถควบคุมทีมและ ความมุ่งมั่น หรือการวาง priority ของผู้เล่นตัวเองได้ว่ามาเล่นแค่ชนะเพื่อไปชนกับจิ้งจอก ไม่ใช่ไปหลงเหลี่ยมให้คู่แข่ง


พอมาดูถึงเกมส์เมื่อคืนที่โดนปืนถลุงโหด 5-0 จริงๆสัญญาณมันไม่ได้มีแค่นัดนี้ จริงๆมันควรจะโดนสเปอร์สทีมเก่าของพอชไล่อัดแบบนี้ด้วยซ้ำ ในเกมส์ที่แจ๊คสันกดแฮตทริคไป เกมส์นั้นเริ่มมาไม่นานก็โดนคลับไก่ซัดไป1-0 และมีแนวโน้มจะเละเป็นโจ๊ก แต่บังเอิญว่า ดันดวงดี ไก่โดนไป2แดง แถมฟาน เดอ เฟ่น ก็เจ็บขึ้นมากระทันหัน หรือนัดที่เจอหงส์ ที่นูนเยส ยิงแล้วยิงอีกไม่เสาก็คาน มันควรโดนยำเละตั้งแต่ตอนนั้นแล้วด้วยซ้ำ การจะอ้างว่าไม่มีพาล์มเมอร์ส่งผล มันก็เท่ากับว่า การลงทุนไปหลายร้อยล้านสรุปต้องพึ่งนักเตะคนเดียว และสะท้อนถึงการไม่สามารถจัดการทรัพยากรในมือให้ได้อย่างเหมาะสม


ดูจากการคุมทีม 2 ทีมล่าสุดทั้ง PSG และเชลซี ซึ่งเป็นทีมเงินถุงเงินถังที่พร้อมใช้เงินมหาศาล แต่ก็คาดหวังความสำเร็จเช่นกัน บอกได้เลยว่าพอช สอบตก แต่ในขณะที่ตอนคุมนักบุญ หรือไก่ พอช ได้รับเครดิต ซึ่งทั้ง2ทีมนั้นต่างไม่ใช่ทีมที่พร้อมทุ่มเงินมหาศาลบ้าเลือดทุบสถิติลีค และในด้านความคาดหวัง ทั้ง2ทีมก็ไม่ได้คาดหวังการเป็นแชมป์สักเท่าใดนัก การที่นักบุญจะแพ้หลุดลุ่ย 3-0 ขึ้นไป ซัก3-4 นัดต่อ1ฤดูกาลที่แข่งร่วม 50นัด คงไม่ได้เป็นข่าวใหญ่เท่าไรนัก มันทำให้พอชไม่เจอความกดดันสักเท่าไร กลับกันหากใน1ฤดูกาลที่แข่งร่วม50นัด ทีมไปเจอคู่แข่งระดับบิ๊ก4(ตอนนั้น) แล้วทำผลงานได้ดี ก็มักจะได้รับการสรรเสริญเยินยอ ซึ่งหลายครั้งมันมักจะเยินยอที่อวยแหลก ดังเช่นที่ พอตเตอร์ นูโน่ เคยได้ หรือ เด แซร์บี้ ได้รับอยู่ในขณะนี้



ผมว่าสำหรับพอชแล้ว ทีมที่เหมาะก็คงเป็นสโมสรระดับคลับไก่ หรือสโมสรที่คาดหวังไปเล่นบอลยุโรป อาจจะมียูโรป้าเป็นฐาน และหากได้ไป UCL ถือว่าเป็นโบนัส เพราะหากพิจารณาจากความกดดัน ความคาดหวัง และการลงทุนแล้ว พอชน่าจะเอาอยู่ ส่วนที่ระดับลุ้นแชมป์หรือจะต่อยอดความสำเร็จอาจจะไม่ใช่คำตอบของกุนซือคนนี้

มันไม่เหมาะกับทีมไหนเลย

ไม่ควรมีใครจะต้องซวยซ้ำแบบเชลซีอีก

ขอให้เชลซีเป็นทีมสุดท้ายของอาชีพมัน

คือตอนออกจากไก่นี้ยังพอมีโปร์ไฟล์อยู่บ้าง แต่ปัจจุบันกับ Mentality แบบนี้ คุม Sunday League เหอะเตะน้อยดีเห็นมันอ้างนักเตะล้าบ่อย

โค้ช Loser แบบพอช เหมาะสำหรับทีมที่แค่เล่นอยู่รอดไปวันๆ

ไม่หวังแช้มป์ เน้นสัมภาษณ์เอาดีเข้าตัว มีแต่ข้ออ้างไปวันๆ

ความจริงควรปลดตั้งแต่แพ้คาราบาว คัพ นัดชิงแล้ว

พนักงานคีบถ่าน ร้านย่างเนย

อบต หนองงูเห่า

ให้ไปปั้นทีมจากกลางตาราง พอชอาจทำได้
แต่งานเชลซีมันคืองานทีมใหญ่นี่แหละ

เหมาะกับทีมแบบกลัดบัค แฟรงค์เฟิร์ต ฮอฟเฟ่นไฮม์
แต่ไม่เหมาะกับดอร์ทมุนต์ ไลป์ซิก

เอาไว้คุมให้เปนสีสัน เปนตัวแปรแย่งแชมได้ แต่ไม่เหมาะกับการลุ้นแชม