จีนเริ่มกวาดล้างออนไลน์เซเลบริตี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถึงตอนนี้หลายพันคนไปแล้ว ... หลายรายมีพฤติกรรม "สร้างเรื่องขึ้นมาให้เป็นไวรัล"

.

เช่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีเซเล็บจีนคนนึงเป็นดีไซน์เนอร์ที่ไปเที่ยวปารีสแล้วมีคลิปที่เธอไปทานกาแฟที่คาเฟ่แห่งนึง พอรู้ว่าเป็นคนจีนเธอก็ได้รับสมุดการบ้านของเด็กป.1 ที่มาเที่ยวกับที่บ้านแล้วลืมไว้ที่คาเฟ่นี้ ในคลิปมีภาพที่ทางร้านมาถามว่าจะพอเอากลับไปให้เด็กเจ้าของสมุดนี้ได้มั้ย? เธอจึงถือเป็นภารกิจยิ่งใหญ่เอาสมุดการบ้านกลับมาคืนเด็กที่เมืองจีน ... เซเล็บคนนี้ใช้ Followers ของเธอที่มีอยู่ราว 30 ล้านคนให้เป็นประโยชน์ในการช่วยกันสร้าง Hashtags จนกลายเป็นแคมเปญในหลายแพล็ตฟอร์ม

.

หลายต่อหลายคลิปผ่านไปตั้งแต่ปารีสกลับมาเมืองจีนและไปยังเมืองของเด็กคนนี้ เธอนำส่งสมุดการบ้านสำเร็จจากการช่วยกันป่าวประกาศของ Followers ... แต่เมื่อภารกิจสำเร็จแล้วก็มีบางคนไปแจ้งตำรวจให้สืบสวน ... ตำรวจจีนพบว่าน่าสงสัยในการ Fabricated หรือปั้นแต่ง Content นี้ขึ้นมาเองเลยเรียกตัวไปสอบ ... ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ถูกปิดทุก Accounts ในทุกแพล็ตฟอร์มและทำโทษข้อหา Polluting หรือทำให้คนอื่นเข้าใจผิดจากข้อมูลเท็จที่สร้างขึ้นมาจากความต้องการให้คนจำนวนมากเข้าใจไปว่าเป็นเรื่องจริงและมี Reactions กับเธอเพื่อประโยชน์ของเธอเอง

.

เธอออกมาแถลงกับสื่อเพื่อขอโทษสังคมในการปั้นแต่งเรื่องนี้จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต และยอมรับผิดที่ทางการกล่าวโทษโดยระบุว่าเธอคิดแค่อยากได้ความสนใจจากโซเชียลโดยไม่ทันได้คิดถึงผลกระทบด้านลบจากการปั้นแต่งเรื่องขึ้นมาแบบนี้ที่จะสร้างความสับสนให้กับสังคมได้ในระยะยาว

.

BBC รายงานว่าตั้งแต่เริ่มกวาดล้างในเดือนธันวาคม ทางการจีนจับไปแล้ว 1,600 รายและตั้งคดีกับผู้มีส่วนร่วมไปเป็นหมื่น ... ทั้งหมดถูกลบ Accounts ในทุกแพล็ตฟอร์ม

.

บางสังคมมองว่าเรื่องที่กุขึ้น, หรือ Stories เป็นสิ่งที่ปล่อยให้สังคมตัดสินใจกันเองด้วยสติปัญญาว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อแต่ละเรื่องที่เห็น เพราะเขามองว่าเป็นเอ็นเตอร์เทนแบบใหม่ ... แต่สุดท้ายก็จะต้องมีเส้นแบ่งอยู่ดีว่า "แค่ไหนที่เรียกว่าพอดีและแค่ไหนที่เรียกว่าล้ำเส้นของความพอดีไปแล้ว" ซึ่งน่าจะไปถึงระดับนึงแล้วเกิดบางสิ่งขึ้นจนทำให้การตัดสินใจกลับไปอยู่กับการถกเถียงของสังคม ... แน่นอนว่าจะไม่จบตรงนั้นเพราะมนุษย์ไม่มีวันคิดเหมือนกันไปหมด เมื่อต่างคนต่างมี Opinions ของตัวเองกันทุกคนก็จะมีความวุ่น ๆ หน่อย ... จีนเลยใช้การจัดการอีกแบบ (เฉพาะในประเทศของตัวเอง)



Credit fb : Shakrit Chanrungsakul


---------------------------------------------





เห็นเรื่อง youtuber เห็นผีกำลังดัง นึกถึงข่าวนี้เลย คนเชื่อก็เยอะซะด้วยนะ

ประเทศเค้าทำถูกแล้ว ประเทศจีน (เอาจริงคือทุกประเทศ)ที่ตกต่ำมีอยู่ไม่กี่สาเหตุ 1ผู้นำโง่ ขุนนางโกงกิน 2พวกหากินกับความเชื่อ ผีสางเทพเจ้า ตั้งตัวเป็นศาสดา แล้วปลุกระดมคนโง่งมงาย ให้ก่อความวุ่นวาย ในประวัติศาสตร์จีนมีพวกแบบนี้ทุกยุค ดังๆก็ โจรโพกผ้าเหลืองสามก๊ก กบฎไท่ผิง

พวกหนังผี เรื่องผี ที่จีนไม่ค่อยมีหรอก เพราะรัฐบาลเค้าวางแผนพัฒนาประเทศให้เป็นมหาอำนาจมีเทคโนโลยีสูง สังคมจะเป็นแบบนี้ได้ต้องมีแนวคิดวิทยาศาสตร์เยอะ ไม่ใช่ใช้ความเชื่อนำมาก่อนความคิด แบบนี้พัฒนายาก ดูอย่างไทย อินเดีย เอา คนฉลาดๆไปขัดกับสังคมงมงายก็ทำอะไรลำบาก อยากเก่งก็ไปอยู่ประเทศโลกที่1เอา

ประเทศเค้าทำถูกแล้ว ประเทศจีน (เอาจริงคือทุกประเทศ)ที่ตกต่ำมีอยู่ไม่กี่สาเหตุ 1ผู้นำโง่ ขุนนางโกงกิน 2พวกหากินกับความเชื่อ ผีสางเทพเจ้า ตั้งตัวเป็นศาสดา แล้วปลุกระดมคนโง่งมงาย ให้ก่อความวุ่นวาย ในประวัติศาสตร์จีนมีพวกแบบนี้ทุกยุค ดังๆก็ โจรโพกผ้าเหลืองสามก๊ก กบฎไท่ผิง

พวกหนังผี เรื่องผี ที่จีนไม่ค่อยมีหรอก เพราะรัฐบาลเค้าวางแผนพัฒนาประเทศให้เป็นมหาอำนาจมีเทคโนโลยีสูง สังคมจะเป็นแบบนี้ได้ต้องมีแนวคิดวิทยาศาสตร์เยอะ ไม่ใช่ใช้ความเชื่อนำมาก่อนความคิด แบบนี้พัฒนายาก ดูอย่างไทย อินเดีย เอา คนฉลาดๆไปขัดกับสังคมงมงายก็ทำอะไรลำบาก อยากเก่งก็ไปอยู่ประเทศโลกที่1เอา

ของไทยเยอะ หิวคอนเท้น หิวเอนเกจเม้น

เพจบางเพจเขียนเรื่องโกหกขึ้นมาดื้อๆ ไม่มีเฉลยอะไรด้วย

อย่างพวกคลิปที่ช่วยหมาช่วยแมวที่โดนรถชน หรือจมน้ำ มันก็มีคนมาแฉเหมือนกันนะ ว่าจริงๆก็ไอ้คนถถ่ายคลิปน่ะแหละ โยนหมาลงน้ำก่อน ไม่ก็ทำร้ายหมาก่อน แล้วค่อยถ่ายคลิปว่าช่วย

บ้านเราก็เยอะแยะ เอากระทะตากแดดแล้วทอดไข่ได้ อุณหภูมิผิวกระทะตอนตากแดดเต็มที 80 องศา มันจะทอดไข่ได้ยังงับ

โคตรไม่ชอบเลยคลิปเฟคขึ้นมา ดูแล้วหลายอันก็ไม่เนียนด้วย รำคาญชิบ

นี่ถ้าเดอะโกสต์หรือเดอะช็อคอยู่เมืองจีนจะโดนไหม

เมืองไทยน่าทำแบบนี้มั่ง

เรื่องเฟคเยอะเลย

ฝากกวาดล้างพวกที่มาดิสเครดิตไทยด้วยนะ ถ้าไม่ทำแสดงว่ารัฐบาลจีนหนุนหลังแล้ว

ผมคนนึง ไม่ค่อยอินกับ คลิป หรือ คอนเทนท์ อะไรก็แล้วแต่

ที่มีการตั้งกล้องถ่ายรอไว้

ถ้าผมเดินไปเจอ หรือ ประสบพบเจอด้วยตัวเอง อันนั้นค่อยว่ากัน ค่อยอินกับเรื่องนั้นๆหน่อย

จัดคลิปแกล้งกันก่อนเลย รำคาญ

ข้อน่าคิดอีกอย่างหนึ่งของกรณีจีนคือ พอมีปัญหา มีหน่วยงานของทางราชการเข้ามาตัดสิน และมีมาตรการลงโทษแบบเป็นรูปธรรม กรณีนี้ก็คือปิด account ทุก platform

ไทยน่าศึกษาเป็นตัวอย่างเหมือนกัน หลายๆเคสปล่อยให้สังคมตัดสินกันเอง พอโดนจับโป๊ะได้ก็โดนด่าอยู่สักพัก พอกระแสเริ่มเงียบก็กลับมาทำแบบเดิม ติ่งแฟนคลับก็ยังสนับสนุนต่อแบบเดิม

ปลอมทั้งนั้นของพวกจีน คนยังขยันเอามาแชร์ ดูก็รู้

เรื่องเฟคนิวส์ ไม่ว่าเรื่องไหนมันก็ควรโดนหมดอยู่ละ แต่ไทยเพิกเฉย

เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า ทำไมกล้องพร้อมขนาดนั้น

มรึงวางกล้องก่อนมั้ย ค่อยช่วยดีๆ