[RE: คิดเงินเดือนเเบบนี้ถูกต้องไหม]
darklike พิมพ์ว่า:
Spoil
Noel Wong พิมพ์ว่า:
darklike พิมพ์ว่า:
Noel Wong พิมพ์ว่า:
proeng พิมพ์ว่า:
เงินเดือนคือต้องทำเต็มเดือน ถ้าเริ่มงานวันที่สอง จะโดนตัดจ่ายเป็นรายวันทันที
กรมคุ้มครองสวัสดิการแรงงานก็ตอบไม่ได้ในจุดนี้ครับ ว่าหารเป็นรายวันแล้วจ่ายยังไง เนื่องจากไม่มีข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจน จึงไม่ผิดทั้งสองแบบ
บางบริษัทก็หารแล้ว เอาแค่หักวันที่ยังไม่เริ่มงานออก แต่ส่วนฝ่ายบุคคล/Payrollแบบไทยๆส่วนใหญ่จะหักวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทั้งหมด"เพื่อประโยชน์ของบริษัท" ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ว่าฝ่ายบุคคลมีส่วนได้ส่วนเสียกับกำไรบริษัทขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงต้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัทโดยการเอาเปรียบระดับพนักงาน(เหมือนตัวฝ่ายบุคคล)ขนาดนั้นครับ
ผมทำ HR ขอเพิ่มเติมข้อนิดหน่อยครับ
เราสามารถปรึกษากรมแรงงานได้นะครับ เขาสามารถบอกข้อมูลได้ แต่ต้องมีสัญญาจ้าง และ ระเบียบให้เขาดู ไม่งั้นเขาจะฟันธงไม่ได้ถ้าถามเปล่าๆ เพราะมีกฎหมายระบุการคำนวณอยู่ครับ
แต่ผมเข้าใจมุม จขพ ตรงเจ้าหน้าที่แรงงานจะไม่สามารถฟันธงได้ว่าผิดไม่ผิด จนกว่าจะเห็นระเบียบสัญญาณจ้าง และ ข้อบังคับว่าเขียนมายังไง ขัดต่อกฎหมายรึเปล่า
จ้างเป็นรายวันหรือรายเดือน ถ้าเป็นรายเดือนกฎหมายเขียนชัดครับว่าจ่ายแบบเหมา คือให้นับ 30 วัน หักคนที่ไม่มาทำงานกี่วันครับ
Ref
https://legal.labour.go.th/attachments/article/82/00004-56.pdf
ใช่ครับท่าน ผมอ่านข้อหารือนี้มาหลายครั้งมากแล้ว
คือที่ผมขัดใจ กฎหมายมันบอก(ให้ตีความเอาเอง)ว่าหักไม่มาทำงานกี่วัน ซึ่งไอ้การหักนี่ล่ะที่เป็นปัญหา ที่ตอบข้อหารือ"กลางๆ" แต่ไม่ระบชัดลงในข้อกฎหมาย ว่าคำว่า"ไม่มาทำงาน"ขอบเขตแค่ไหน แล้วค่อยไปซุกที่การหารือ แบบดิ้นได้ว่านั่นแค่วิจารณญาณส่วนบุคคลครับ
และเอาจริงๆคือ ร้อยทั้งร้อยที่เข้าไปหารือ ทำอะไรนายจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยมั๊ย...ก็ไม่ครับ
ซึ่งตรงนี้ ผมถึงบอกถึงวิธีการคิดของ"ฝ่ายบุคคล/Payrollแบบไทยๆ"ครับ มีเยอะมากที่คิดและทำตัวเป็นนายจ้างเสียเองทั้งๆที่ฐานะก็ลูกจ้างเหมือนกัน ซึ่งบุคลากรประมาณนี้ร้อยทั้งร้อยตีความเจ้าเล่ห์ตามแบบที่เจ้าของกระทู้โดนครับ ว่าเสาร์-อาทิตย์ของเดือนแรกถือเป็นไม่มาทำงาน ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องใช้การหารืออะไรก็พอจะมองออกว่า คุณจ้างเป็นเดือนคือคุณก็ต้องจ่ายเป็นเดือนในส่วนที่อยู่ในระยะเวลาเริ่มจ้างครับ
เอาจริงๆในส่วนของระดับบริหาร(ต่างชาติ)เองที่ผมเจอ ออกจะอนาถกับคนพวกนี้ด้วยซ้ำ
- เป็นผลงานที่ดีของเขาในสายตาเจ้านายมั๊ย...ก็ไม่
- ทำให้ผลกำไรของบริษัทสูงโดดขึ้นมากับเรื่องแค่นี้ หรือรักษาผลประโยชน์อะไรมากมายขนาดนั้นมั๊ย...ก็ไม่อีกเช่นกัน
เป็นเรื่องที่เจ้านายผมหลายคน ให้คำนิยามว่า"Thai Style"ครับ
ผมเคยฝึกงานใน บ ที่หักเงิน ลักษณะนี้อยู่ บ ไทย-จีน ที่พนักงานหลักหมืนขึ้นไป 2 วัน Effect ค่อนข้างเยอะสำหรับ บริษัทที่ต้นทุนแรงงานคิดเป็น 30-50% ของ Gross margin ครับ เลยออกมาทรงนี้ HR ไม่ได้อยากทำแต่โดน Policy + บัญชีจี้มาอีกที
แต่ใน บ ต่างชาติ เช่น สิงโปร์ไม่ซีเลยครับมองว่าให้รางวัลลูกจ้าง Cost Effect นิดเดียวเอง มุมมองต่างกันครับ
ส่วนคำว่า "ไม่มาทำงาน" จริงๆกฎหมายระบุชัดเจนนะครับ ถ้าอ่านฎีกา หรือ ขึ้นศาลแรงงานบ่อยๆ 5555 ศาลตัดสินไปแล้วว่า "วันหยุดประจำสัปดาห์ ถือเป็น 1 ในผลประโยชน์ที่พนักงานควรได้รับครับ เป็นวันทำงาน" หมายความว่าถ้าพนักงานเริ่มงานวัน ศุกร์ที่ 1 ต้องจ่าย วันเสาร์ อาทิตย์ที่ 2-3 ด้วย
ถ้าพนักงานเริ่มงานวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันเสาร์ เริ่มงานจริงวันจันทร์ที่ 4 แสดงว่าต้องจ่ายวันที่ 2-3 ด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับ "วันที่มีผลการจ้างงาน/วันเริ่มงาน" ที่ระบุเลยครับ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเคสแบบนี้เขามักจะให้พนักงานเริ่มงานวันจันทร์ที่ 4 เพื่อประหยัดต้นทุน สำหรับ บ ที่เคี่ยวๆ แต่ บ ที่ไม่ซีก็จะให้เริ่มวันที่ 1 เลยครับ
ข้อมูลถูกต้องชัดเจน"ตามข้อกฎหมาย"ครับ
แต่เช่นเดียวกันตามที่ผมบอก เขียนไว้แล้ว ทำอะไรได้มากกว่านั้นมั๊ย? นั่นคือประเด็นครับ
บริษัทข้ามชาติ นโยบายตรงนี้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะที่ไม่ใช่เอเชีย ซึ่งก็ตามที่ท่านเห็น
ส่วนประเด็นที่ผมยกมา ท่านไม่พูดถึงแม้แต่นิดเดียว..."ฝ่ายบุคคล/Payroll แบบไทยๆ"
ผมชื่นชมนะ ข้อมูลท่านดีมาก แต่ขอเสริมแค่มุมเดียว..."แล้วทำอะไรได้ครับ?" ช่วยให้พนักงานได้เงินครบ แล้ว? พนักงานจะอยู่รอดและปรองดองกับบริษัทหรือ ผมว่าไม่นะ
กลับกันคือ,อย่างที่ผมว่า,มีเขียนในข้อกฎหมายชัดเจนมั๊ย ก็ไม่ ให้ไปฟ้องยันฎีกาเอา(สถานภาพพนักงานเหลือมั๊ย?) และสำคัญสุดคือ บริษัท"ไทย"นี่แทบจะจิ้มไปก็เจอ ทำอะไหรือสุ่มอะไรมั๊ย ก็ไม่อีกเช่นกัน
บอกเลยครับ เมื่อฝ่ายบุคคล/Payrollแบบไทยๆ ผสานกับราชการไทย ความยุติธรรมที่จะเกิดขึ้นได้ ก็เริ่มต้นด้วยการสูญเสียงานก่อนครับ...และเป็นเฉพาะบุคคลอีกต่างหาก เคสฎีกาที่ท่านยก ผมก็อยากหาข้อมูลว่า หลังจากนั้น ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวย้อนหลังไปกี่ปี และตรวจสอบไปกี่บริษัทครับ
ตราบเท่าที่ท่านยังไม่แตะ"ความเป็นจริงของบุคลกรฝ่ายบุคคลแบบไทยๆ" เราก็คุยไม่ตรงประเด็นกันอีกนานครับ
ปล. เคารพข้อมูลที่ท่านยกมานะ ถูกต้องและเป็นธรรมครับ แต่แค่เผอิญว่าเกินครึ่งของบริษัทในประเทศไทย ไม่ทำตามนั้น และหน่วยงานมีหน้าที่แค่เป็นแมวกระดาษครับ