อาจต้องไปดูงานวิจัยนี้ว่ามันถูกต้องขนาดไหน

นึกภาพลูกเตะมุม โยนบอลเข้าเข้าไป แล้วไม่มีใครขึ้นโหม่งสักคนไม่ออกเลยผม ถ้ายกเลิกไม่ให้เล่นลูกโหม่ง

ปล.เท่าที่จำความได้ สัก 20-30 ปีก่อน บอลสมัยนั้น พวก Mikasa ขาวดำ อัดลมหนักๆนี่ โหม่งทีมีน็อคจริงๆนะ เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว บอลลมดึงๆ แต่ผิวนอกนิ่มๆนุ่มมือ เต็มไม้เต็มมือ

บอลยุคก่อนๆ ดูหนักจริงครับ

ไม่รุ้ว่าที่ใช้แข่ง มันจะเบาไหม

ถ้าสถิติทางการแพทย์มันชัด

มันก็ควรจะเปลี่ยนแปลงนะ

ไม่แฟร์ยังงัยครับ อยากได้คำอธิบายด้วย

คือผมก็เคยคิดนะว่าถ้าตามชื่อก็ควรใช้แต่เท้า+ขา
แล้วยังช่วยลดปัญหาการยกเท้าสูงด้วย เอาตามชื่อคนใช้เท้าเล่นบอลมันควรได้สิทธิ์ดีกว่าหัวด้วยนะ

แต่สิ่งที่กังวลคืออีกหน่อยมันจะกลายเป็นตะกร้อบนสนามหญ้าหรือสึบาสะ เปิดมุมมาทีโดดฟาด ซันแบคกันให้วุ่น

ส่วนเรื่องน้ำหนักลูกกับแรงดันลมมันไม่น่าจะเปลี่ยนนะ มีมาตรฐานสากลอยู่ซึ่งไม่น่าจะเปลี่ยนกันง่ายๆ (ไม่งั้นก็เอาลูกวอลเล่ย์มาเตะได้) แต่สิ่งนึงทีทำให้มันซอฟลงคือวัสดุที่ใช้ทำมันนุ่มขึ้น+ซับแรงได้ดีขึ้น อันนี้จริง ซึ่งดีมากเพราะ เราเตะบอล บอลมันก็เตะเรา มันมีแรงสะท้อนเท่ากับที่เราเตะมัน (ถ้าบอลไม่ดูดซับแรงเลย) แต่ก่อนเตะนานๆปวดข้อเท้า หนังแข็งอีก ถ้ามันถลอกโหม่งทีบาดผิวแดงหมด

บอกทีลูกบอลก็ไม่เกี่ยว

หัวชนหัวก็เห็นกันบ่อย โดนทีนึงกระดูกร้าวได้นะ

บอลสมัยก่อน Direct อย่างเดียว Frank Kopel เล่นแบ็ก ก็คงต้องโหม่งบอล โดยเฉพาะลูกโยนยาวจากประตูฝั่งตรงข้ามบ่อย กับลูกบอลสมัยนั้น คงหนักจริง

สมัยนี้ต่างไปแล้ว

เหมือนขับรถละคว่ำ ตายไป 10 คน รอดมา 1 คน แล้วยกตัวอย่าง คนที่รอดอะ

เขาเรียก Survivalship Bias

เช่น เรียนไม่จบ แล้วบอก สตีฟ จอบ, บิลเกตต ก็เรียนไม่จบ ยังรวยได้

แค่คนเรียนไม่จบ แล้วชีวิตแย่นัยพัน นับร้อย ไม่ยกตัวอย่าง

ปล. มันมีงานวิจัยบอกนะ ว่า ผลกระทบต่างกัยแบบไหนอะ ตัวเลขค่อนข้างชัดกรณีนี้

ผมว่ามันก็อาจมีส่วนนะ สมัยเด็กๆเราก็คงรู้ว่า mikasa pele แม่มทั้งหนักทั้งแข็ง โหม่งทีมีมึน แล้วผมเล่นกองหลังด้วยมาแรงแค่ไหนก็ต้องโหม่ง โดนเตะอัดหน้ามั่ง เล่นตั้งแต่ 9-28 ก็เลิกเล่นเพราะหัวเข่ามีปัญหา พออายุเริ่มมากขึ้นแค่ 30ปลายๆนี่ผมเริ่มมีอาการเบลอๆหลงลืมมากขึ้น ทุกวันนี้ค่อนข้างหนักเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวมั้ยนะ คุณหมอไขข้อข้องใจทีครับ

เวลากองหลังหรือผู้รักษาประตูเปิดบอลโด่งมา มันจะเล่นบอลกันยังไงวะ ถ้าห้ามโหม่ง

ผมว่ามันก็โอเคนะถ้าจะเลิก

อาจจะเสียความสนุกไปบางส่วน แต่ถ้าทุกคนโหม่งไม่ได้เหมือนกัน มันก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นการเตะ อาจจะต้องปรับกฎยกเท้าสูงสักหน่อย แต่โดยรวม ๆ อาจจะต้องรอให้บอลลงต่ำก่อนแล้วค่อยเตะ การโหม่งสกัดก็จะหายไป อาจจะทำให้จังหวะทำประตูเพิ่มขึ้นก็ได้

เวลาบอลมาโด่ง ไม่มีใครโหม่งได้ มันก็ต้องแย่งกันพักอกหรือใช้เท้าดูดบอลลง ได้โชว์ทักษะกันไป น่าสนุกดี

การใช้ไหล่เล่นบอลก็น่าจะกลายเป็นเทรนด์สำคัญไปด้วย อาจจะต้องมีการฝึกไหล่เพิ่มขึ้นอีก

กีฬาตะกร้อ...คงจะต้องห้ามใช้ลูกโหม่งด้วยไหมนะ
ใช้หัวรับลูกเตะตลอด นักเตะตะกร้อต้องเช็คสมองทุกคนแล้วล่ะครับ
ลูกตะกร้อแข็งกว่าลูกบอลเยอะนะ

ถ้าคนเตะบอลก็จะรู้แหละ เวลาเตะก็ไม่อยากโหม่งบอล
ไม่ว่าจะลูกบอลสมัยไหน ก็ไม่อยาก555

ยอลสมัยนี้นิ่มขึ้นเยอะ สมัยก่อนบอลขาวดำ อย่าว่าแต่โหม่ง แตะทียังเจ็บตีน