ผมมีเรื่องปรึกษาทุกท่านใน SS ครับ

พอดีว่ามีลูกน้องขอลาออกไปรักษาตัว เนื่องจากพบว่ามีโรคที่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น

เป็นเวลา 2 เดือน

ปัญหาเรื่องมาบอกกระทันหันมาก (บอกก่อนที่จะแจ้งออก ไม่ถึง 15 วัน)


ผมควรที่จะเซ็นให้ลาออก หรือว่าให้เป็น Laeve without Pay ดีครับ

ลูกน้องอยากได้แบบไหนก็ให้เค้าเลือกดีไหมครับ

บางทีเค้าอยากออกจริงๆ ไม่ได้อยาก Leave without pay ลองคุยดูก่อนครับ

เป็นผมก็ขอดูหลักฐานคร่าวๆ หรือสอบถามนิดหน่อย
ส่วนจะเซ็นไม่เซ็นนี่แล้วแต่ความประพฤติที่ผ่านมา

ผมว่าข้อมูลมันน้อยไปหน่อย
ถ้าเรียกมาคุยแล้ว
ข้อมูลครบๆ ผมว่าคุณน่าจะตัดสินใจได้

ลองถาม ถ้าจะออกเลย ก็ให้ออก

จะให้ ลีฟ จขกท ก็ใจดีนะ เค้าได้อายุงานด้วย

ลองคุย วินวินทั้งสองฝ่าย

ขอออก แล้วไม่ให้ออก ได้ด้วยหรอครับ

ถามเป็นความรู้

เซ็นไม่เซ็นนี่แล้วแต่ความประพฤติที่ผ่านมา คืออะไรครับ ไม่ให้ลาออกเหรอหรือยังไง

ตามกฏหมายไม่ได้ครับ

ก็ท่านอยากให้ลาออกไหมหละครับ

สำหรับผมก็ถ้า ทำงานดี เป็นคนดี ในระดับที่น่าพอใจ ก็คงขอคุยเพิ่มเติมครับ
ถ้าไม่สนใจ ทำงานงั้นๆหรือไม่ได้เรื่อง ดีไหมก็งั้นๆหรือtoxic ก็ปล่อยไป

อ้างว่า เป็นโรคที่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น อ้างเรื่องแบบนี้เป็นผมก็คงขอเชื่อไว้ก่อน
ก็คงโทรไปถามสารทุกข์สุกดิบ แล้วค่อยๆประเมินว่าจริงๆ อยากลาออกจริงๆไหม

ถ้าอยากออกจริงๆแบบสุดใจ คือ100% ตั้งใจมาแล้วจริงๆแบบฟันมาจากบ้านแล้ว แบบนี้ก็ต้องตามนั้น
แต่ถ้ารู้สึกได้ว่า แค่อยากพัก ไม่อยากเครียด เกรงใจ หรืออะไรก็ตามแต่แนวๆนั้น ผมคงออกปลายเปิดไว้ก่อน

ประมาณว่า ถ้าจะออกจริงๆก็โอเคนะ รักษาตัวดีดี ไว้ว่างๆมากินข้าวกันบลาๆ
แต่เดี๋ยวจะลองไปคุยกับหัวหน้า (อะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่มีอำนาจขนาดนั้น) ให้เอาไหม
เช่น พักผ่อนซักระยะ ไหวเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาทำ หรือค่อยตัดสินใจดีไหม หรืออยากได้ยังไง บลาๆๆ

ถ้าผลตอบรับยังดี ผมก็คงรับปากว่าจะคุยเรื่อง2เดือนให้ก่อน ได้ไม่ได้เดี๋ยวมาบอกอีกที แต่เป็นห่วงนะ นู้นนี่
ละก็คงบอกไปอีกว่า เข้าใจว่า 2 เดือน มันก็อาจจะเป็นแค่การประเมินเบื้องต้น ถ้ามันจำเป็นต้องเพิ่ม
้เช่น 3-4 เดือน เดี๋ยวจะพยายามลองดูให้

จากนั้นก็แค่ไปทำตามที่พูดไว้นั่นแหละครับ เดี๋ยวหัวหน้าทั้งหลาย เค้าก็อยากได้หลักฐานเอง
ซึ่งถ้าเค้าจะเอาหลักฐาน มันก็ควรจะแปลว่า เค้าตกลงกับสิ่งที่เสนอไปนั่นแหละ มากน้อยก็ต่อรองคุยกันอีกที
ถ้าเค้าจะไม่เอาจริงๆ จะยืนยันให้ออก แบบนี้ก็สุดวิสัยครับ

ส่วนถ้าเค้ารับข้อเสนอ กี่เดือนอะไรก็ว่าไป ค่อยไปขอหลักฐานอีกที น่าจะเหมาะสมกว่านะผมว่า

เพราะขอหลักฐานตั้งแต่แรก มันดูเหมือนไม่เชื่อมากไปหน่อย คนป่วย คนหมดไฟ คนอยากออก ยิ่งไปกันใหญ่
แต่ถ้าขอทีหลัง หลังจากได้คอนเฟิร์มมาแล้ว ผมว่าความรู้สึกมันต่างกันนะ

ส่วนภาระก็โยนให้คนมีอำนาจจริงๆไป (เพราะคอนดิชั่นที่ว่ามา คือท่านอยากให้เค้าอยู่ต่อแล้ว)
ก็จะยิ่งมีไพ่ต่อรองเพิ่มขึ้นอีกใบ คือ
- ถ้าผู้มีอำนาจปฏิเสธ มันก็จบแต่ต้น แผนนี้ล้ม
- ถ้ายึกๆยักๆ เดี๋ยวก็จะมาถามหาหลักฐานเอง
ซึ่งไพ่คือ "ครับ ถ้าเค้ามีหลักฐานชัดเจน คือเอาตามที่ว่าได้เลยนะครับ?" ถ้าเจอเขี้ยวๆค่อยต่อรองอีกที
- ถ้ารับข้อเสนอแต่แรกก็ชิลเลย

ผมพิมพ์สั้นไปหน่อย หมายถึงเรื่องจ่ายหรือไม่จ่ายครับ
ส่วนออกมันได้ออกอยู่แล้ว

แปลกนะครับ ปกติมีแค่คนอยากลาแบบได้เงินเดือนกัน นี่ลาไปรักษาตัวถึงกลับต้องการลาออกเลย นับถือ

2เดือนก็เยอะไปนะ ต่อให้ป่วยจริงๆ เป็นผมก็คงให้ออกแหละ
ต่อให้ลาแบบไม่รับเงินเลย ก็เหนื่อยคนทำแทน เผลอๆหมดใจแล้วไม่กลับมาอีก

ไม่ได้ครับ แค่เขียนอีเมลมาขอลาออกก้ต้องให้ออกแล้ว

ผมว่า เรื่องแบบนี้ต้องบริหารดี ๆ
เหตุผลที่คนลาออก มันมากมาย
ผมว่า อาจจะรู้สึกผิดถ้าต้องหายไปนาน กระทบงาน และอยากจะออกอยู่แล้วก็เป็นได้ ถ้าเป็นแค่เรื่องแรกเรื่องเดียวเราเสนอได้หลายทาง เช่น leave without pay หรือรักษาตัวเสร็จพร้อมเมื่อไร บอกนะ อยากให้กลับมาร่วมงานกัน

เรื่องนี้ ถ้าถามผม ผมว่า หลักฐานหรือไม่จ่ายเงินเดือนในส่วนที่ได้ ต้องคิดดี ๆ เพราะมันทำให้เค้ารู้สึกว่า ไม่เชื่อมั่นในองค์กร และถ้าไปพูดต่อไป ภาพลักษณ์อาจกระทบได้ เพราะมุมนึง คนไม่สบายจริง มันรอไม่ได้หรือคาดไม่ได้หรอก จะเกิดเมื่อไรและแจ้งล่วงหน้าได้ หรือต่อให้ไม่จริง (หรือจริง ๆ เป็นไม่เยอะ) แสดงว่า เค้าอยากลาออกอยู่แล้ว ก็ไม่ได้อยู่ไปวัน ๆ
และถ้าที่ผ่านมา เค้าทำงานให้องค์กร ก็ควรมีสิทธิได้รับเงิน ยิ่งเราเรื่องเยอะอาจจะมีคนตั้งแง่กลับครับ

ใครมาขอลาออก ผมให้ออกทุกคน
บอกล่วงหน้าวันเดียว ผมก็ให้ อยู่ไปก็เสียสปิริตทีม
ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมก็ให้ตามกฏหมาย