ลูกสาวอายุ 2 ขวบ 7 เดือนครับ ตอนนี้เข้าเรียนเนิส ที่ โรงเรียนนานาชาติ แห่งหนึง โดยแพลนตอนแรกคือกะจะให้เรียน ถึง K3 แล้วไป ต่อ โรงเรียนไทย

ตอนนี้เรียนมาได้ผ่านไป 5 สัปดาห์ 3 สัปดาห์แรก คือร้องไห้ปกติ แต่ค่อยๆ น้อยลง

จนสัปดาห์ที่ 4 เหมือนจะโอเคขึ้น พอมาปลายสัปดาห์ที่ 4 คือเริ่มบอกว่าไม่ชอบเรียนว่ายน้ำ

จนมาเข้าใจกันในสัปดาห์ที่ 5 ว่า เค้ากลัวครูสอนว่ายน้ำ

ทุกวันนี้ตื่นเช้ามา คำถามแรกเลยคือ วันนี้แม่แต่งตัวพาหนูไปไหน ถ้าไป โรงเรียนก็จะเริ่มร้องไห้ต่อ ยิ่งวันไหนมีเรียนว่ายน้ำจะยิ่งร้องไห้หนักมากๆ กลายเป็นเด็กงอแงกว่าปกติ ก่อนไปเรียนมากๆ

ปัญหานี้น่าจะเป็น trauma ตอนขวบกว่าๆ เค้าเจอ ผู้ชายคนนึงในหมู่บ้านมาเล่น หลอกแฮร่ๆ กับน้องอีกคนนึง (น้องคนนี้คือเพื่อนเล่นของลูกสาว อายุมากกว่าประมาณ 1 ปี) จากนั้นมาเจอ ผู้ชายคนนี้ก็จะบอกว่า กลัวๆ ตลอด เค้าจะกลัวๆ แบบนี้ประมาณ 3 คน ในหมู่บ้าน โดยยังหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้ว่าเพราะอะไรครับ

จนมาเจอเคสกลัวครูคนนี้ (ตอน 1.6 ขวบ ลูกเคยไปเรียนว่ายน้ำแล้วไม่ชอบด้วย เรียนไป 3 ครั้งก็หยุด ไม่แน่ใจว่าตรงนี้จะมีส่วนทำให้ กลัวครูสอนว่ายน้ำเพิ่มขึ้นไปอีกไหมครับ)

นอกจากปัญหาเรือ่งครูว่ายน้ำ อาจจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษที่ลูกสื่อสารไม่ได้ ทำให้ยังปรับตัวไม่ได้เข้าไปอีกครับ

ผมปรึกษากับนักจิตวิทยา เค้าบอกว่าถ้าที่บ้านเริ่มไม่มีความสุข จริงๆ ให้ออกมาก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไปเรียนตอนอนุบาล 1 ก็ได้ เพราะตอนนี้ลูกก็ยังเด็กมากๆ

ทางแฟนผม กับที่บ้านก็เอนเอียงไปทางนี้ ค่อยไปเริ่มอนุบาล 1 ที่โรงเรียนไทย โดยระหว่างที่ว่างนี้จะไปหา นักจิตยาเพื่อลองแก้ปัญหากลัวคน + พาไปเรียนเพลย์กรุ๊ป บ่อยๆ จะได้พร้อมกับการไป รร

ส่วนผมก็กังวลว่าออกตอนนี้ พอไปเข้าอนุบาล 1 จริงๆ จะมีปัญหากลัว รร ฝังใจไหม หรือเรื่องนี้เค้าควรจะต้องผ่านไปให้ได้ด้วยหรือป่าว

เพื่อนๆ มีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ รบกวนฝากแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

ได้ให้เค้าเล่าไหมครับ ว่าไปโรงเรียน ทำอะไรบ้าง ครูสอนอะไร เพื่อนเป็นยังไง

ไอเดีย ออกมาก่อนแล้ว ไปเข้า อนุบาล 1 เลยก็โอเคนะครับ
ส่วนเรื่องจะกลับมากลัวโรงเรียนอีกไหม อันนี้ไม่แน่ใจ

ส่วนตัว ลูกอยู่อนุบาล 1
จะเหมือนกลัวๆ ครูฝรั่ง คนนึง ถ้าครูคนนั้นมารับก่อนเข้าโรงเรียน ก็จะงอแงนิดๆ
แต่ไม่ถึงกับร้องไห้ไม่อยากไป

ท่านปรึกษานักจิตวิทยามาแล้วก็ตรงสายที่สุดแล้ว จริงๆเนิสไม่ต้องเรียนก็ได้นะยกเว้นผู้ปกครองไม่มีเวลาเรียนเร็วไปก็ไม่ดี เป็นผมผมไม่ให้ไปแล้วถ้าลูกมีอาการกลัวอะไรซักอย่างเขายังเล็กเกินไปที่จะอธิบายรายละเอียด

ปกติเค้าเป็นเด็กชอบพูดครับ แต่พอถามเรื่องโรงเรียนจะไม่ค่อยตอบเท่าไหร่

โรงเรียนเค้าจะมีส่งวิดีโอมาให้ดู จะเห็นว่าเค้าชอบยืนดูเฉยๆ ไม่ค่อยทำตาม อาจจะเพราะไม่เข้าใจภาษาด้วยครับ

แต่ถ้าถามชื่อเพื่อน ชื่อครู จะจำได้หมด

ถามลูกก่อนอันดับแรกถ้าไม่ค่อยกล้าบอกก็หาไรทำกันเพลินๆกันลูกแล้วค่อยหลอกถามให้เค้าลดการ์ดลงหน่อย แล้วลองไปคุยกับครูดูอีกทีคับ อันนี้บ้านผมนะเริ่มจากถามลูกก่อนตลอดแผนก็ประมาณนี้ตลอด ห้ามไม่เซ้าซี้เค้ามานะคับเค้าก็มีความกังวลความเครียดของเค้า พ่อแม่กังวลผมก็เข้าใจ อยากรู้ชิบหาย

background ของผม

คนโตเข้าเนิสก่อน อ1 แต่เป็นเล่นล้วนๆ และเป็นภาษาไทย
คนที่ 2 ไม่เข้าเนิสรอเข้า อ1 เลย

คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องภาษาที่อาจจะฟังแล้วตอบโต้ช้า รวมถึงการเรียนว่ายน้ำ ถ้าไม่เคยเรียนมาก่อนแล้วมาเจอครูที่ฟังไม่ค่อยยาก คิดว่าน่าจะมีส่วนทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัยนะครับ

เสนอทางแก้
1. พาไปเรียนว่ายน้ำข้างนอก
2. หยุดเรียนแล้วให้เค้ามั่นใจการสื่อสารภาษาอังกฤษ แล้วค่อยกลับไปเรียน

สู้ๆ ครับ

ขอตอบจากประสบการณ์ตรงนะครับ ลูกสาวผมอายุมากกว่าลูกท่านนิดหน่อย(3 ปี 5 เดือน)

อะไรที่เขากลัวผมหยุดหมดครับ(ถ้าเลือกได้) ชอบเล่นน้ำแต่ไม่ชอบน้ำเข้าตา กลัวผู้ชาย กลัวคนแปลกหน้า ที่เสียงดัง สิ่งเหล่านี้เขาแค่เป็นเด็ก โตมาอีกนิดก็ดีขึ้นถึงหายไปเอง อย่าไปบังคับเขา อย่าเปรียบเทียบ หรืออย่าทำให้ฝังใจก็พอ

เรื่องว่ายน้ำอาจจะมีประสบการณ์ไม่ดีมาก่อนทำให้กระตุ้นได้

เรื่องภาษาลูกผมก็ไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเขาสนิทกับครูเมื่อไรปัญหาก็จะน้อยลง ทุกวันนี้ก็พูดไม่ได้แต่เข้าใจกันมากขึ้น

เพลย์กรุ๊ปบ่อย แคมป์ภาษาก็ดีครับ หลักสำคัญคือเขาได้เล่น+เรียนรู้ ของผมที่พาไปก่อนเข้าเรียนจะทำกิจกรรมโดยครูต่างชาติ 2 ชั่วโมงแบ่งครู 2 คน คนละ 1 ชั่วโมง ข้อดีคืออยู่ในห้อง 30-40 นาที แล้วออกมาทำกิจกรรม ค่อยๆฝึกวินัยว่าการเรียนเขาจะทำอย่างไร ที่สำคัญคือเราอยู่ข้างๆในห้องเรียนได้ แล้วค่อยๆห่างออกมา

แต่ถึงจะไปเพลย์กรุ๊ปแล้วเราเห็นว่าเขาพร้อมไปเรียนละ เอาจริงๆเด็ก 90% ร้องไห้เวลาไปโรงเรียนครับ ขอให้ทำใจและอดทนดูก่อน 1 เดือน ลูกสาวผมสัปดาห์แรกไม่ร้องแต่งงๆ เขาจะคิดว่าเหมือนไปเพลย์กรุ๊ปที่เราอยู่ด้วย ส่วนสัปดาห์ที่สองร้องทั้งสัปดาห์เลย(เคยมีความคิดว่าจะให้ไป home school กับที่เรียนแคมป์ภาษาเพราะสงสาร)

สุดท้ายก็ปรับตัวได้ ขอให้ท่านคุยกับลูกบ่อยๆคอยถามในแต่ละวัน ให้กำลังใจ เดี๋ยวก็จะผ่านไปได้ครับ

*ทุกวันนี้ยังมีบางคนร้องไห้บ้างในตอนเช้า(จะจบเทอม1แล้ว ^_^) บางคนที่สดใสมากจากที่เคยร้องไห้ทุกเช้า
*ที่ผมรู้เพราะผมคอยแอบมองสภาพแวดล้อมของลูกทุกวันจนถึง 9 โมง(เวลาเขาเข้าห้อง)

*จากเรื่องเข้าเรียน ต่อไปจะเป็นเรื่องป่วยแทนครับอาจจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์ หรือเว้นสองสัปดาห์แทน

เป็นกำลังใจให้ครับ วัยใกล้ๆกันมีอะไรก็เล่าสู่กันฟังครับ

ผมว่าเหมือนสร้างแรงกดดันให้เค้าอ่ะครับ แล้วดูเจ้าตัวจะไม่พร้อมด้วยเลยไปกันใหญ่ ทำตามหมอแนะนำผมว่าดีแล้วครับ เด็กแต่ละคนก็ปรับตัวเค้ากับสิ่งแวดล้อมได้ต่างกัน ส่วนเรื่องเรียนว่ายน้ำหลานผมน้องสาวมันประกบเลยแบบอยู่ใกล้ๆเค้า แต่อาจเพราะหลานผมค่อนข้างชอบไปเจอนู้นนี่เลยไม่ค่อยมีปัญหามั้งครับ

ลูกผมตอนสี่ขวบก็ไม่ชอบเรียนว่ายน้ำเหมือนกัน เค้าบอกว่าน้ำที่สระเย็นเลยไม่ชอบ ( ลูกผมอาบน้ำอุ่นทุกวันนะ ) ก่อนหน้าที่ลูกจะยอมบอกว่าไม่ชอบน้ำเย็น ผมก็พาลูกไปหาหมอจิตเวชเด็กหลายครั้ง

เด็กวัยนี้น่าจะสนุกสนานนะครับ ถ้าไม่โดนขู่บังคับ ที่บ้านก็มีส่วนนะครับ เช่นบังคับลูกไปโรงเรียน อยู่โรงเรียนครูบังคับ ทำให้เด็กกลัวการไปโรงเรียน ตอนลูกผมประมาณนี้ เคยเอาไปฝากครูกะลองฝึกให้ไปโรงเรียน พอไปวันแรกน้องเอาตุ๊กตาปลาโลมาของครูไปแช่น้ำในถังที่ครูตักมา ครูเห็นเลยตะโกนชื่อน้องเสียงดัง จนน้องตกใจ ร้องไห้ ตั้งแต่นั้นมาไม่อยากไปหาครูคนนั้นอีกเลย แต่ไปฝากกับครูคนอื่นไม่กลัว

แต่อาการนี้หายได้ครับ เมื่อเด้กพร้อม แต่ต้องสร้างความเข้าใจให้กับเด็กด้วยครับ

เรื่องที่เด็กกลัวคนในหมู่บ้าน อันนี้น่าจะมาจากการที่ผู้ใหญ่เล่นกับเด็กด้วยการขู่ เช่นขู่จะกินตับ ขู่จะจับไปขาย บลาๆ อันนี้เกิดกับผมโดยตรงเพราะที่บ้านมีลูกของญาติคนนึง ยายพามาเล่นที่บ้านผมเป็นประจำ พอหลานทำอะไรก็จะขู่ว่าเดี๋ยว(เอ่ยชื่อผม)จะตีนะอย่าง พูดตลอด ทั้งที่ผมก็อยู่เฉยๆ พูดจนเด็กคนนั้นกลัวผมไปเลย เวลาเจอก็ไม่กล้าพูดด้วย เดินห่างๆ พูดจนผมทนไม่ไหว เลย พูดออกไปเลยว่าไม่มาเอาชื่อผมไปขู่ แกเลยเลิกพูด แต่เด็กยังกลัวผมอยู่

เรื่องเรียนควรถามลูกด้วยครับว่าอยากไปไหม แต่ถ้าจำเป็นต้องไปควรจะหาวิธีจูงใจครับ ไม่ควรขู่บังคับ

ของผมลูกเรียน เตรียมอนุบาลอยู่เหมือนกัน
แต่ผมเลือกโรงเรียนทางเลือก เน้น EQ เป็นหลัก ไม่ใช่ inter
ลูกชอบไปโรงเรียนมาก งอแงแค่อาทิตย์แรก นอกนั้นชอบมาก ลงจากรถครูจูงมือเข้า รร เองได้เลย

ความคิดผม ถ้าลูกไม่ OK กับ รร ลองออกมาก่อนก็ได้ครับ เพราะลูกยังเด็กมากๆ เตรียมอนุบาลมันไม่ได้สอนอะไรมากมาย แค่ให้ไปฝึกทักษะบางอย่าง เช่น อารมณ์ หรือการเข้าสังคมกับเพื่อนๆครับ

ส่วนเรืองว่ายน้ำ ผมเคยไปสอบถาม รร สอนว่ายน้ำเด็ก เห็นว่าตอนไม่ถึง3ขวบนี่ เหมือนเค้าจะสอนแค่กลั้นหายใจ ไม่ได้สามารถสอนว่ายน้ำจริงจังได้ครับ ถ้าลุกไม่ชอบจิงๆ ให้ลองสัก 4-5 ขวบดีกว่า

ขออนุญาติ dm สอบถามเรื่องที่เรียนก่อนเข้าไปโรงเรียนเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

ขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ

เราเคยไปนั่งฟัง แพทย์เด็กเล่าว่า จริงๆแล้วไม่ควรมีเนิร์ดเซอรี่ เกิดขึ้นในประเทศใดๆ

เด็กๆควรมีแค่ อนุบาล 1 ไปเลยจนถึง อ.2 เพราะวัย 1-4 ขวบ ควรอยู่กับผู้ปกครองเท่านั้น

เด็กเป็นจิตที่อ่อนไหวง่ายมาก ควรให้ ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดจนกว่า 5 ขวบค่อยไปเรียน

กรณีพ่อแม่ทำงาน ไม่มีคนอยู่ ญาติไม่พร้อมช่วยเลี้ยง ให้เป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กที่มีมาตรฐานเท่านั้น

ให้เขาเหมือนไปเล่นเท่านั้น ไม่ใช่ไปเรียน จึงอย่าใช้คำว่าไปเรียนกับเด็กวัยนี้ มันอ่ะเกินไป เพราะเด็กมันไม่เข้าใจ

การเรียนหรอกว่าคืออะไร พอไปซ้ำๆได้เข้าใจแล้ว มันหนักอึ้งเกินไปสำหรับวัย 1-3 ขวบ

ในห้องรับเลี้ยงเด็กก็ต้องสอนการช่วยตัวเองต่างๆที่วัยพอจะทำได้เช่น แปรงฟัน ใส่รองเท้า ใส่เสื้อผ้า

หยิบช้อนกินข้าว ตักข้าวเข้าปากแนวๆนี้ เด็กก็ถือว่าหนักแล้วสำหรับวัยนี้ ยังต้องมาฝึกเขียน ท่องอะไรอีก มันเกินไป

เราแนะนำว่าให้อยู่กับผู้ปกครองก่อนดีสุด จากกรณีเราว่า ทางญาติๆน่าจะพอมีเวลาว่างช่วยเลี้ยงน้องก่อน พ่อ แม่ ไปทำงานนะคะ

แนะนำให้พบแพทย์เด็กไปเลยดีกว่า ส่วนจิตแพทย์เด็กก็พบไว้ดีแล้ว