ลูกสาวผม 3 ขวบ 6 เดือน

ไม่ได้เข้าเรียนเนิสนะครับ เข้าตอน k.1 เลยครับ

โชคดีมากที่ลูกผม ไม่ร้องไห้เลย แถทสนุกไปกับการเล่นซะด้วย

แต่เขาจะรู้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้จะปิดเทอมแรกแล้ว ก็มีอิดออดไม่อยากไปบ้าง เราเข้าใจครับ ขนาดเรายังมีขี้เกียจเลย

ส่วนเรื่องว่ายน้ำ ถ้าไม่สบาย ก็ไม่ต้องเรียนครับ

เราต้องคอยถามคอยสังเกตครับ

ส่วนท่านปรึกษานักจิตวิทยา ถูกต้องมากๆแล้วครับ

สมัยตัวเอง พ่อแม่ก็ทิ้งๆไว้เนิส อังกิจก็พูดไม่ได้ จนลากเข้าไปเรียนอินเตอ จนพูดได้ จำตอนเด็กไม่ได้หรอกว่าผ่านมาได้ไง แต่สมัยนี้เด็กโดนโอ๋ โดนสปอยมากเกินไปตามยุคตามสมัยเลยพาลไม่อยากมีลูกเลย ถ้ามีคนคิดหนักเหมือน จขม แน่ๆ

ปล. คงต้องเลิกเรียนว่ายน้ำ แล้ว รอเข้า อ.1 แล้วอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าไม่เจอครูคนนั้นแล้ว ที่นี่ รร ใหม่แล้ว
พาไปเพลกรุ๊ปน่าจะช่วยได้เยอะจริงๆ

ไม่ต้องกลัวครับ เด็กก่อนอายุ 3 ปี จะมี mission อยู่ 3 อย่าง ที่เราต้องช่วยให้เขา complete
1. Trust เรียนที่จะไว้ใจต่อโลก ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจ ที่เด็กก่อน 3 ขวบ จะขี้กลัว ดังนั้น เราจึงควรอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุดช่วงก่อน 3 ปี แต่ไม่ได้จำเป็น จะต้องตามติดตลอด อาจจะมีแว่บไปบ้างก็ได้ เขาจะเริ่มรู้ว่า พ่อแม่ อาจจะหายไปบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับมานั่นแหละ

2.การสร้างสายสัมพันธ์ และ สร้างตัวตน อันนี้ พ่อแม่ ก็จะเป็นหลักแล้วครับ
3. เตรียมความพร้อมของสมอง จะมีวิธีคิดแบบเด็กๆ จับแพะชนแกะ คิดแบบแฟนตาซี คุณตุ๊กตาช้างพูดได้ และ จะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ซึ่งช่วง 2-5 ขวบ ต้องค่อยๆ สอนให้เขารู้ว่า บ้าน และ สังคม มีกติกา อย่างใจเย็น

ดังนั้น ผมว่าเอาลูกเข้าเรียน 3 - 4 ปี กำลังดีนะครับ (ถ้ามีคนเลี้ยง) แล้วไม่ต้องกลัวว่าเขาจะกลัวไปในระยะยาว อย่างที่ว่าข้างบน มันเป็น ช่วงวัยเขา

เอาจริงๆ ใน idealistic world ควรให้เด็กเข้าเรียนตอน 6 ปี (มันมีงานวิจัยจากฝั่งยุโรป โดยเฉพาะ ประเทศ แถบ แสกนดิเนเวีย เยอะ ว่าเข้าเรียนช่วงนี้ ระยะยาวดีกว่า แต่ สังคมบ้านเรา ไม่เอื้อ)

ก่อน 6 ปี ไม่ต้องไปอัดวิชาการเลยครับ เน้น เรียนผ่านการเล่น เช่น อยากให้ลูกได้ภาษา ก็อาจจะ อ่านนิทานภาษาอังกฤษให้ฟัง

ส่วน ว่ายน้ำ ไปเรียนตอนโต ก็ได้ครับ ผมเห็นเด็กเล็ก ไปว่ายน้ำ แล้วป่วยมาหาผมเพียบเลย (ปีที่แล้ว เจอ เด็ก 9 เดือน พาไปเรียนว่ายน้ำ หลังจากนั้น มีไข้ ท้องเสีย เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เลย -*-)

เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ จะย้ายจะไปไหนก็เจอ
คุณพ่อแม่ต้องคุยกับลูก
หรืออยู่กับลูกให้มากขึ้น ทำให้เขาเข้าใจ
ลูกผมก็กลัวน้ำถึงขั้นสระผมไม่ได้ ค่อยๆปรับตัวไป จะ3ขวบละ อีกไม่กี่วัน ทีแรกกะจะให้เรียตอนประถมเลย แบบบังโต แต่แม่ก็กลัวลูกตะเข้าสังคมไม่ได้เพราะไม่มีเพื่อน เลยให้เข้า

วิชาว่ายน้ำปฏิเสธไม่ได้หรอครับ
สมัยอนุบาล ผมเลือกไม่เรียนได้นะ ไปนั่งริมสระกับเพื่อนที่ไม่ลงเหมือนกัน

ผมผ่านมาแล้วครับ ขอสรุปแบบนี้

1.แนะนำให้ย้ายไป รร. ที่ลูกชอบครับ ยิ่งฝืนยิ่งแย่ แย่ทั้งบ้านนะไม่ใช่แค่ลูก ตอนลูกผมเด็กเค้ากลัวครูพี่เลี้ยงคนนึง ผู้หญิงวัยกลางคนตัวใหญ่ ผิวเข้มกลิ่นตัวแรงหน้าตาดุดัน พูดจาห้วนๆ เค้าร้องไห้ทุกวัน อยู่โรงเรียนก็ร้อง พอเราย้ายไปที่ใหม่ ครูพี่เลี้ยงสะอาดๆ ใจดี สาวๆ พูดจาสุภาพ ยิ้มเก่ง ลูกชอบมากครับ ติดพี่เลี้ยงเลย ได้โรลโมเดลความอ่อนหวานมาด้วย

2.วงการนานาชาติ เข้าแล้วออกยากครับ ตอนแรกตั้งใจจะให้ลูกเรียนแค่จบอนุบาล แต่สังคมรอบตัวลูกและภรรยา จะกดดันให้อยู่นานาชาติต่อครับ บอกว่าเด็กปรับตัวยาก จากอินเตอร์ไปไทยไม่ได้

3.ถ้าปัญหาที่ว่ายน้ำ ตอนเด็กๆไม่ว่ายได้ครับ ไปขอครูเลย หาเหตุผลที่มีน้ำหนักมาสักอย่าง ตอนลูกผมงอแง แม่เค้าขอครูไปเป็นผู้ช่วยดูแลเด็กให้เลย ครูก็ชอบมีคนมาช่วยเป่าผม ดูแลเด็ก

4.วิชาการมาหลังจากเด็กมีวินัยและ attitude ครับ ต้องปลูกฝังให้ได้ ซึ่งเด็กนานาชาติ พ่อแม่มีตังก์ หลายคนขาดสิ่งนี้

1.6 ขวบ จำไม่ได้หรอกครับ ให้ออกมาก่อนนั่นแหละ