ฟีลคล้ายๆตอนแรมส์เดลมาแทนเลโน่เลย ราย่ามาเล่นถ้าดูแค่ 2 นัดแรกนี่คือเหมือนยกระดับไปอีก

เรื่อง Ball Distribution นี่ world class จริงๆ แต่เรื่องอื่นก็เนียน ที่โดดเด่นเลยคือการตัดลูกครอส

ผมรักแรมส์เดลมากๆนะ แต่ดูจากสถิติราย่ากับเบรนท์ฟอร์ดปีก่อน กับฟอร์ม 2 นัดแรกกับปืน

บอกเลยว่าเหนื่อย กับการแย่งตำแหน่ง

เวลา Build up ที่อาร์เตต้าต้องการให้ GK มายืนเล่นตรงพื้นที่ CB ฝั่งซ้าย ให้ตายยังไงแรมเดลก็สู้ราย่าไม่ได้จริงๆ

เราจะสังเกตได้ว่าตอนสร้างเกมระบบที่ใช้คือ 3-2-2-3 หรือ 3-2-4-1 แต่การที่ CB ฝั่งซ้าย(กาเบรียล) ต้องถ่างออกไปหน่อยเพื่อทดแทนพื้นที่ของแบ็คที่เล่น Inverted เข้ามา แปลว่าระยะระหว่างผู้เล่นในไลน์เกมรับมันจะมากขึ้น เวลาโดนเพลสซิ่งก็จะออกบอลลำบากยิ่งถ้า GK ยืนแค่ในกรอบ 6 หลาจะยิ่งโดนบีบง่าย

วิธีการแก้ที่อาร์เตต้าใช้ก็คือดัน GK มายืนเป็น CB ฝั่งซ้ายแทนเพื่อทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตัวเลือกในการจ่ายยังไงก็มากกว่าตัวรุกที่เข้ามาเพลสซิ่งกลายเป็นยืนแบบ 4-2-2-3 หรือ 4-2-4-1

กลายเป็นว่าทั้ง 11 ผู้เล่นจะมีบทบาทหมดในการ Build up เกม คิดง่ายๆมันก็จะเป็น 11 vs 10(ผู้รักษาประตูอีกฝั่งไม่มีบทบาทในเกมด้วย)

ทั้งสองคนคือ GK ที่เก่งและมีจุดเด่นจุดด้อยทั้งคู่ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือระบบที่อยากจะเล่นมันเอื้อกับสกิลเซ็ทของ ราย่า มากกว่าทางแรมเดลจริงๆ

ความคล่องตัว ความถนัดในการเล่นบอลกับเท้า การตัดสินใจ การยืนตำแหน่ง พวกนี้มันคือจุดที่ราย่าเหนือกว่าแรมเดลและมันจะถูกใช้งานตลอดตอนที่ต้องออกมา Cover พื้นที่ของ CB ตัวซ้าย

ต้องเก็บไว้ทั้งคุ่ ตอนแรนเดลมาแรกก็เก่งอยุ่แต่พอหลังๆไม่มีคุ่แข่งดรอปลง

การแข่งขันมันดีเสมอครับ เหมือนที่แมนซิทำ ซื้อตัวดี ๆ เข้ามาตลอด ไม่สนว่าตัวจริงเป็นไง

เป็นคนที่หนวดเคราเฟิ้มแต่ดูไม่ดุเลย

Ramdale ได้สกิล Handing
Raya ได้สกิล Postioning

รอแค่พิสูจน์จังหวะ Raya ดวลกับกองหน้าตัวๆ หรือช็อตปาฎิหาริย์ ว่าจะเซฟได้ไหม ซึ่งแรมเดลช่วยน่อลไว้หลายนัดอยู่นะ ก่อนหน้านี้ล่าสุดก็เซฟไม่ให้โดนฟูแล่มคาบ้าน หรือช็อคโดนแมนยูเป็น 2-0

เวลา Build up ที่อาร์เตต้าต้องการให้ GK มายืนเล่นตรงพื้นที่ CB ฝั่งซ้าย ให้ตายยังไงแรมเดลก็สู้ราย่าไม่ได้จริงๆ

เราจะสังเกตได้ว่าตอนสร้างเกมระบบที่ใช้คือ 3-2-2-3 หรือ 3-2-4-1 แต่การที่ CB ฝั่งซ้าย(กาเบรียล) ต้องถ่างออกไปหน่อยเพื่อทดแทนพื้นที่ของแบ็คที่เล่น Inverted เข้ามา แปลว่าระยะระหว่างผู้เล่นในไลน์เกมรับมันจะมากขึ้น เวลาโดนเพลสซิ่งก็จะออกบอลลำบากยิ่งถ้า GK ยืนแค่ในกรอบ 6 หลาจะยิ่งโดนบีบง่าย

วิธีการแก้ที่อาร์เตต้าใช้ก็คือดัน GK มายืนเป็น CB ฝั่งซ้ายแทนเพื่อทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตัวเลือกในการจ่ายยังไงก็มากกว่าตัวรุกที่เข้ามาเพลสซิ่งกลายเป็นยืนแบบ 4-2-2-3 หรือ 4-2-4-1

กลายเป็นว่าทั้ง 11 ผู้เล่นจะมีบทบาทหมดในการ Build up เกม คิดง่ายๆมันก็จะเป็น 11 vs 10(ผู้รักษาประตูอีกฝั่งไม่มีบทบาทในเกมด้วย)

ทั้งสองคนคือ GK ที่เก่งและมีจุดเด่นจุดด้อยทั้งคู่ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือระบบที่อยากจะเล่นมันเอื้อกับสกิลเซ็ทของ ราย่า มากกว่าทางแรมเดลจริงๆ

ความคล่องตัว ความถนัดในการเล่นบอลกับเท้า การตัดสินใจ การยืนตำแหน่ง พวกนี้มันคือจุดที่ราย่าเหนือกว่าแรมเดลและมันจะถูกใช้งานตลอดตอนที่ต้องออกมา Cover พื้นที่ของ CB ตัวซ้าย

ตัวไม่สูงแต่เวลาออกไปคว้าบอลตัดบอลโคตรมั่นใจเลย ลำบากแรมส์เดลจริงๅ

ผมแฟนผีโคตรอยากได้ตอนเห็นมีข่าวสเปอจะได้อย่างเซง แล้วก็เงียบๆไปจบที่น่อลซะงั้น
ไม่งั้นจะได้ประหยัดงบช่วงนึงไปลงตำแหน่งนึง
แต่อย่างว่าไม่เคยเล่นลีคดัช แกไม่มีสิทธิ์!!!

เวลาเล่นบอลกับเท้า ดูมั่นใจกว่าแรมเดลเยอะเลย

เนียนกริ๊บบบบ จริงงงง

นัดเอฟนี่ ไม่มีพลาดเลย

ผมชอบการตัดลูกครอสกับพวกลูกเตะมุมมาก ดูน่าไว้ใจกว่าแรมเดลเยอะ ตัวไม่สูงแต่กระโดดสูงมาก

แมนยูขอยืมแรมเดลได้ไหมครับ