กระสุนไม่กี่นัดที่มือปืนยิงใส่ อาร์ชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ และดัชเชสโซฟี คือแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิด มหาสงคราม ครั้งแรกของโลก

.


อาร์ชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ คือมกุฎราชกุมารของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ที่หากพระองค์ไม่ทรงเสด็จสวรรคตจากกาถูกลอบปลงพระชนม์เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 1914 พระองค์จะขึ้นเป็น จักรพรรดิแห่งออสเตรีย กษัตริย์แห่งฮังการี โครเอเชีย และ โบฮีเมีย คนถัดไป

.

การลอบสังหาร ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ แห่งออสเตรีย คือหนึ่งในการลอบสังหารที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งของโลก เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับมกุฎราชกุมารของราชวงศ์ชั้นนำในยุโรป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้น เนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองของยุโรปในยุคนั้น ทำให้การลอบสังหารผู้นำเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ

ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย รัชทายาทโดยพฤตินัยของ จักรพรรดิฟรานซ์ โยเซฟ ทรงทราบดีว่า ถูกเกลียดชังจากทั้งชาวฮังการี ชาวเซิร์บ และชาวสลาฟ จากทั้งเรื่องการต่อต้านชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ออสเตรีย และพฤติกรรมการชอบออกล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ว่ากันว่าตลอดอายุขัยพระองค์ยิงสัตว์ไปมากกว่า 2.5 แสนตัว

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง เจ้าหญิงโซฟี ดัชเชสแห่งโฮเอินแบร์ค พระชายาที่ถูกต่อต้านจากประชาชนในจักรวรรดิ เพราะพระนางไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ยุโรปโดยตรง หลายคนมองว่าพระนางไม่เหมาะสมกับตำแหน่งพระราชินีในอนาคต

.


ต้องบอกว่าแผนการของ กลุ่มแบล็กแอนด์ หน่วยทหารลับชาวเซิร์บ ไม่ได้รัดกุมมากนัก พวกเขาคิดวิธีห่ามๆอย่างการขว้างระเบิดใส่รถเปิดประทุนของ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ที่ตัดสินใจเดินทางมาชมการซ้อมรบที่ กรุงซาราเยโว นครหลวงของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

อย่างไรก็ตาม ด้วยความความชะล่าใจของ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ และพระชายา แม้จะได้รับคำเตือนจากคนใกล้ชิดว่าพระองค์กำลังถูกปองร้าย การเดินทางไปซาราเยโวช่วงนี้เสี่ยงถูกโจมตี ทว่า ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รวมถึงดัชเชสโซฟี กลับไม่ฟัง แถมทั้งสองพระองค์ยังมั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่ชื่นชอบพระองค์






.

การลอบสังหารครั้งแรกเกิดขึ้นจริงตามคำเตือน ในวันที่ 28 มิถุนายน 1914 โดยการลอบปลงพระชนม์เริ่มต้นจากการที่ กลุ่มแบล็กแอนด์ ขว้างระเบิดใส่ขบวนรถของ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ผิดพลาดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน

ซึ่งสมาชิกแบล็กแอนด์ ผู้มีนามว่า Nedeljko Čabrinović โดยมีอายุเพียงแค่ 19 ปีขณะนั้น หลังจากได้ขว้างระเบิด จึงกินยาไซยาไนด์ทันทีเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย แต่ยาที่กินเข้าไปไม่ได้ส่งผล เพราะด้วยตัวยาที่คาดว่าน่าจะหมดอายุไปนาน และทำให้เจ้าตัวอ้วกออกมา แต่ Čabrinović ก็ยังพยายามที่จะลงคลองที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะให้คลองพัดพาร่างตัวเองให้หายไป แต่น้ำดันลึกเพียงแค่ 4 นิ้วเท่านั้น (สูงแค่ 10cm) จึงถูกตำรวจและทหารจับตัวไปอย่างง่ายดาย (อย่างกับการ์ตูน)






.

เหตุการณ์นี้สร้างความแตกตื่นไปทั่วเมือง แต่ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ กลับเปิดโอกาสที่สองให้กลุ่มคนร้าย พระองค์ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

ซึ่งนี้จะเป็นจุดที่ผมกล่าวบนหัวกระทู้ที่ว่า เลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยน โดยคนขับรถของ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเปลี่ยนเส้นทาง จึงได้เลี้ยวซอยผิด และเมื่อรู้ตัวก็สายไปซะแล้ว





.

และจังหวะนั้นเอง กาฟริโล พรินซิป หนุ่มชาวบอสเนียเชื้อสายเซิร์บ สมาชิกกลุ่มยังบอสเนีย ขบวนการปฏิวัติของคนรุ่นใหม่ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บตามมาพบกับขบวนสเด็จที่หยุดอยู่กลางถนน ก่อนที่เขาจะตรงเข้าไปใช้อาวุธปืนยิง 2 นัด นัดแรกยิงโดนคอ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ และอีกนัดยิง โดนท้อง ดัชเชสโซฟี และ สวรรคตตามลำดับ

แผนของเขาสำเร็จอย่างง่ายดาย หลังจากนั้น กาฟริโล ก็ถูกจับกุมตัว โดยคำพูดสุดท้ายของ ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ที่พูดกับดัชเชสโซฟีคือ " คุณต้องรอดเพื่อลูกๆของเรานะ " เป็นการลอบสังหารที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล




.




CR.


ตกหล่นข้อมูลตรงไหน ขออภัยด้วยครับ

สงครามโลกครั้งที่ 1 จุดเริ่มจากคนออสเตรีย

อาคช์ดุคของออสเตรีย เป็นว่าที่กษัตริย์คนต่อไปของออสเตรีย พอโดนยิงตาย

จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ที่เป็นลุง(เป็นลุงนะ ลูกแกตายไวเลยให้หลานลุงเป็นรัชทายาท)

ประกาศสงครามกับเซอร์เบีย แล้วรัสเซียมาช่วยเซอร์เบีย เยอรมันเลยมาช่วยออสเตรีย แล้วเกิดเป็นสงครามใหญ่


สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มจากคนออสเตรีย

ฮิตเลอร์เป็นคนออสเตรียนะ ไม่ใช่เยอรมัน แต่มาเป็นทหารในกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1

หลังสงครามเลยเล่นการเมืองมาเรื่อยๆ จนรวบอำนาจ และทำสงคราม



กลับมาที่สงครามโลกครั้งที่ 1 จริงๆแล้วนะนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่า

หาไม่เกิดการลอบสังหารครั้งนี้ สงครามก็เกิดอยู่ดี

เพราะมหาอำนาจยุโรปกระทบกระทั่งผลประโยชน์กันมานานในเรื่องผลประโยชน์

โดยเฉพาะผลประโยชน์ในอาณานิคมที่แอฟริกา

มันฮึ่มๆกันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 แล้ว

แต่ที่ไม่เกิดเพราะมี Grand mother of Europe อยู่ คือควีนวิคตอเรียแห่งอังกฤษ

เป็นควีนตั้งแต่อายุน้อยๆ เกิดหลังยุคนโปเลียไม่กี่ปี ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 18 ปี

พบรักกับญาติห่างๆที่เป็นเจ้าชายเมืองเล็กๆในเยอรมัน ชื่อ อัลเบิร์ต


ทั้งคู่รักกันมาก มีลูกด้วยกันถึง 9 คน (ชาย 4 คน/หญิง 5 คน)

แล้วลูกๆก็ไปแต่งงานกับราชวงศ์ต่างๆในยุโรป รุ่นหลานๆก็เป็นเจ้าปกครองประเทศปกครองเมืองทั่วยุโรป

ตอนปลายๆรัชสมัยของวิคตอเรีย มหาอำนาจในยุโรปก็จ้องจะเล่นกันอยู่

พอวิคตอเรียตายในปี 1901 ยุโรปก็ไม่เกรงใจกันแล้ว ย่า/ยาย/ป้า ใหญ่แห่งยุโรปตายแล้ว

ลูกๆหลานๆตีกันตีกัน 55555+

ตอนนั้นลูกชายควีน ไปกษัตริย์อังกฤษ ส่วนหลานยายก็เป็นจักพรรดิ์เยอรมันมา 13 ปีแล้ว

ตอนนั้น กษัตริย์อังกฤษ เป็นน้า(น้องชายของแม่)ของ จักรพรรดิ์เยอรมัน

หลังปี 1901 นี่ มหาอำนาจยุโรปเริ่มสะสมอาวุธกำลังพล พัฒนาอาวุธกันอย่างยกใหญ่

เหมือนพร้อมจะมีสงครามกันได้ทุกเมื่อ ถือว่านานนะกว่าจะมีสงครามก็ปี 1914 เลย

โดยเยอรมันของไกเซอร์วิลเฮมที่ 2 (หลานยายควีนวิคตอเรีย) มีแสนยานุภาพมากที่สุด


รองลงมาเป็นอังกฤษของคิงจอร์จที่ 5 (หลานย่าของควีนวิคตอเรีย)


รองลงมาเป็นรัสเซียของซาร์นิโคลัสที่ 2 (หลานเขยของควีนวิคตอเรีย)

(เมียซาร์ เป็นหลานยายของควีนวิคตอเรีย) (ซาร์รัสเซียกับคิงอังกฤษสนิทกันมาก อายุไล่เลี่ยกัน)


อยากทำสงครามกันจนตัวสั่นแต่หาเหตุกันไม่ได้หลายปี

จนนี่ล่ะการลอบสังหารครั้งนี้ เป็นเหมือนชวนที่พอเหมาะพอเจาะ สมเหตุสมผล(มั้ง)

ลอบยิงที่ยุโรปใต้ คนยิงเป็นชาวเซิร์บยิงเจ้าชายออสเตรีย

ออสเตรียประกาศสงครามกับเซอร์เบีย

รัสเซียที่ไม่ชอบหน้าออสเตรียอยู่แล้ว ก็เข้ามาช่วยเซอร์เบียเพราะเป็นชาวสลาฟด้วยกัน(จริงๆแล้วไม่ชอบออสเตรียมากกว่า)

พอรัสเซียช่วยเซอร์เบีย เยอรมันที่ไม่ชอบหน้ารัสเซียอย่างแรง (ไกเซอร์วิลเฮมไม่ชอบขี้หน้าซาร์นิโคลัสอยู่แล้ว)

ก็เลยเข้าร่วมสงคราม(อ้างว่า) อยากช่วยคนด๊อชย์ด้วยกัน(พูดภาษาเดียวกันเชื้อชาติเดียวกัน)

พอเยอรมันลงสนาม ฝรั่งเศสที่เกลียดเยอรมันเพราะสงครามครั้งล่าสุดเยอรมันมาเอาชนะฝรั่งเศสร่างสนธิสัญญาถึงแวร์ซายน์ ก็เข้าร่วมสงคราม

และอังกฤษคิงจอร์จที่เกลียดและเหม็นหน้าลูกพี่ลูกน้องชาวเยอรมัน เกลียดความเป็นเยอรมันก็เข้าร่วมสงครามอย่างเต็มใจที่สุด 5555+

เกลียดขนาดไหน ขนาดราชวงศ์ตัวเองเดิมชื่อ Saxe-Coburg and Gotha ตามนามสกุลปู่และพ่อ ซึ่งมันเป็นราชวงศ์ชื่อเยอรมัน

จอร์จไม่ชอบใจเลยเปลี่ยนเป็นราชวงศ์ วินเซอร์ จนใช้กันมาถึงปัจจุบัน (จุดเริ่มราชวงศ์วินเซอร์ล่ะ)

พระญาติที่มาจากสายเยอรมันถ้ายังอยากอยู่อังกฤษต่อให้สละฐานันดรศักดิ์ทางเยอรมันให้หมด

มีญาติใกล้ชิดสกุล แบทเทิ้ลแบร์ก(battenberg) มันเป็นภาษาเยอรมันก็เปลี่ยนเป็นอังกฤษ mountbatten

เปลี่ยนจาก Berg ที่แปลว่าภูเขาในภาษาเยอรมันเป็น ภูเขาในภาษาอังกฤษ mount

ซึ่งนามสกุล mountbatten นี่เป็นนามสกุลของเจ้าชายฟิลิปป์พระสวามีควีนอลิซาเบธที่ 2

พ่อของคิงชาร์ลของอังกฤษคนปัจจุบัน จริงๆแล้วราชวงศ์ต้องเปลี่ยนเป็น mountbatten นะ เพราะแต่งงานแล้วต้องใช้นามสกุลสามี

แต่นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อังกฤษที่ไม่ต้องเปลี่ยนราชวงศ์ตามนามสกุลสามี และจะใช้วินเซอร์ตลอดไป

อย่าว่าแต่คนเลยครับยุคนั้น น้องหมาก็วุ่นวาย


ชื่อเดิมของน้องคือ เยอรมันเชพเพิร์ด ตอนนั่นอังกฤษก็เลยเปลี่ยนชื่อให้เป็น อัลเซเซี่ยน ซะงั้น หมายังเดือดร้อน 5555+


มันเป็นสงครามของเหล่าๆญาติๆกันในยุโรป ไม่ชอบหน้ากัน หาเรื่องตีกัน ตั้งแต่ปี 1901 ที่ควีนวิคคอเรียตาย

ยังหาเหตุดีๆไม่ได้ จนมาเจอการลอบสังหารนี่ล่ะครับ สงครามเลยเกิดในปี 1914

what if ถ้าไม่มีการลอบสังหารนี้ก็ยังจะมีเหตุอื่นให้ทำสงครามกันอยู่ดี


ธนูมันง้างแล้ว ง้างมานานแล้ว พร้อมจะยิงแล้ว รอแค่สัญญาน 55555+

ที่ชอบคือหลังจากนั้นไปบุกผิดประเทศจนเกิดสงครามโลก

ูอวตารรูปก่อนหน้านี้ รูปใครคนับ

คนไหนครับท่าน มีหลายคน

อ่าว ทำไมมันเปลี่ยนได้ละ 55555 คนที่ก้มแล้วเห็นร่องนม

hono tamura ครับ

สงครามโลกครั้งที่ 1 จุดเริ่มจากคนออสเตรีย

อาคช์ดุคของออสเตรีย เป็นว่าที่กษัตริย์คนต่อไปของออสเตรีย พอโดนยิงตาย

จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ที่เป็นลุง(เป็นลุงนะ ลูกแกตายไวเลยให้หลานลุงเป็นรัชทายาท)

ประกาศสงครามกับเซอร์เบีย แล้วรัสเซียมาช่วยเซอร์เบีย เยอรมันเลยมาช่วยออสเตรีย แล้วเกิดเป็นสงครามใหญ่


สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มจากคนออสเตรีย

ฮิตเลอร์เป็นคนออสเตรียนะ ไม่ใช่เยอรมัน แต่มาเป็นทหารในกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1

หลังสงครามเลยเล่นการเมืองมาเรื่อยๆ จนรวบอำนาจ และทำสงคราม



กลับมาที่สงครามโลกครั้งที่ 1 จริงๆแล้วนะนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่า

หาไม่เกิดการลอบสังหารครั้งนี้ สงครามก็เกิดอยู่ดี

เพราะมหาอำนาจยุโรปกระทบกระทั่งผลประโยชน์กันมานานในเรื่องผลประโยชน์

โดยเฉพาะผลประโยชน์ในอาณานิคมที่แอฟริกา

มันฮึ่มๆกันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 แล้ว

แต่ที่ไม่เกิดเพราะมี Grand mother of Europe อยู่ คือควีนวิคตอเรียแห่งอังกฤษ

เป็นควีนตั้งแต่อายุน้อยๆ เกิดหลังยุคนโปเลียไม่กี่ปี ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 18 ปี

พบรักกับญาติห่างๆที่เป็นเจ้าชายเมืองเล็กๆในเยอรมัน ชื่อ อัลเบิร์ต


ทั้งคู่รักกันมาก มีลูกด้วยกันถึง 9 คน (ชาย 4 คน/หญิง 5 คน)

แล้วลูกๆก็ไปแต่งงานกับราชวงศ์ต่างๆในยุโรป รุ่นหลานๆก็เป็นเจ้าปกครองประเทศปกครองเมืองทั่วยุโรป

ตอนปลายๆรัชสมัยของวิคตอเรีย มหาอำนาจในยุโรปก็จ้องจะเล่นกันอยู่

พอวิคตอเรียตายในปี 1901 ยุโรปก็ไม่เกรงใจกันแล้ว ย่า/ยาย/ป้า ใหญ่แห่งยุโรปตายแล้ว

ลูกๆหลานๆตีกันตีกัน 55555+

ตอนนั้นลูกชายควีน ไปกษัตริย์อังกฤษ ส่วนหลานยายก็เป็นจักพรรดิ์เยอรมันมา 13 ปีแล้ว

ตอนนั้น กษัตริย์อังกฤษ เป็นน้า(น้องชายของแม่)ของ จักรพรรดิ์เยอรมัน

หลังปี 1901 นี่ มหาอำนาจยุโรปเริ่มสะสมอาวุธกำลังพล พัฒนาอาวุธกันอย่างยกใหญ่

เหมือนพร้อมจะมีสงครามกันได้ทุกเมื่อ ถือว่านานนะกว่าจะมีสงครามก็ปี 1914 เลย

โดยเยอรมันของไกเซอร์วิลเฮมที่ 2 (หลานยายควีนวิคตอเรีย) มีแสนยานุภาพมากที่สุด


รองลงมาเป็นอังกฤษของคิงจอร์จที่ 5 (หลานย่าของควีนวิคตอเรีย)


รองลงมาเป็นรัสเซียของซาร์นิโคลัสที่ 2 (หลานเขยของควีนวิคตอเรีย)

(เมียซาร์ เป็นหลานยายของควีนวิคตอเรีย) (ซาร์รัสเซียกับคิงอังกฤษสนิทกันมาก อายุไล่เลี่ยกัน)


อยากทำสงครามกันจนตัวสั่นแต่หาเหตุกันไม่ได้หลายปี

จนนี่ล่ะการลอบสังหารครั้งนี้ เป็นเหมือนชวนที่พอเหมาะพอเจาะ สมเหตุสมผล(มั้ง)

ลอบยิงที่ยุโรปใต้ คนยิงเป็นชาวเซิร์บยิงเจ้าชายออสเตรีย

ออสเตรียประกาศสงครามกับเซอร์เบีย

รัสเซียที่ไม่ชอบหน้าออสเตรียอยู่แล้ว ก็เข้ามาช่วยเซอร์เบียเพราะเป็นชาวสลาฟด้วยกัน(จริงๆแล้วไม่ชอบออสเตรียมากกว่า)

พอรัสเซียช่วยเซอร์เบีย เยอรมันที่ไม่ชอบหน้ารัสเซียอย่างแรง (ไกเซอร์วิลเฮมไม่ชอบขี้หน้าซาร์นิโคลัสอยู่แล้ว)

ก็เลยเข้าร่วมสงคราม(อ้างว่า) อยากช่วยคนด๊อชย์ด้วยกัน(พูดภาษาเดียวกันเชื้อชาติเดียวกัน)

พอเยอรมันลงสนาม ฝรั่งเศสที่เกลียดเยอรมันเพราะสงครามครั้งล่าสุดเยอรมันมาเอาชนะฝรั่งเศสร่างสนธิสัญญาถึงแวร์ซายน์ ก็เข้าร่วมสงคราม

และอังกฤษคิงจอร์จที่เกลียดและเหม็นหน้าลูกพี่ลูกน้องชาวเยอรมัน เกลียดความเป็นเยอรมันก็เข้าร่วมสงครามอย่างเต็มใจที่สุด 5555+

เกลียดขนาดไหน ขนาดราชวงศ์ตัวเองเดิมชื่อ Saxe-Coburg and Gotha ตามนามสกุลปู่และพ่อ ซึ่งมันเป็นราชวงศ์ชื่อเยอรมัน

จอร์จไม่ชอบใจเลยเปลี่ยนเป็นราชวงศ์ วินเซอร์ จนใช้กันมาถึงปัจจุบัน (จุดเริ่มราชวงศ์วินเซอร์ล่ะ)

พระญาติที่มาจากสายเยอรมันถ้ายังอยากอยู่อังกฤษต่อให้สละฐานันดรศักดิ์ทางเยอรมันให้หมด

มีญาติใกล้ชิดสกุล แบทเทิ้ลแบร์ก(battenberg) มันเป็นภาษาเยอรมันก็เปลี่ยนเป็นอังกฤษ mountbatten

เปลี่ยนจาก Berg ที่แปลว่าภูเขาในภาษาเยอรมันเป็น ภูเขาในภาษาอังกฤษ mount

ซึ่งนามสกุล mountbatten นี่เป็นนามสกุลของเจ้าชายฟิลิปป์พระสวามีควีนอลิซาเบธที่ 2

พ่อของคิงชาร์ลของอังกฤษคนปัจจุบัน จริงๆแล้วราชวงศ์ต้องเปลี่ยนเป็น mountbatten นะ เพราะแต่งงานแล้วต้องใช้นามสกุลสามี

แต่นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อังกฤษที่ไม่ต้องเปลี่ยนราชวงศ์ตามนามสกุลสามี และจะใช้วินเซอร์ตลอดไป

อย่าว่าแต่คนเลยครับยุคนั้น น้องหมาก็วุ่นวาย


ชื่อเดิมของน้องคือ เยอรมันเชพเพิร์ด ตอนนั่นอังกฤษก็เลยเปลี่ยนชื่อให้เป็น อัลเซเซี่ยน ซะงั้น หมายังเดือดร้อน 5555+


มันเป็นสงครามของเหล่าๆญาติๆกันในยุโรป ไม่ชอบหน้ากัน หาเรื่องตีกัน ตั้งแต่ปี 1901 ที่ควีนวิคคอเรียตาย

ยังหาเหตุดีๆไม่ได้ จนมาเจอการลอบสังหารนี่ล่ะครับ สงครามเลยเกิดในปี 1914

what if ถ้าไม่มีการลอบสังหารนี้ก็ยังจะมีเหตุอื่นให้ทำสงครามกันอยู่ดี


ธนูมันง้างแล้ว ง้างมานานแล้ว พร้อมจะยิงแล้ว รอแค่สัญญาน 55555+

พอรู้ดีเทลแบบนี้แล้ว ย้อนกลับไปดู King’s man อีกสักที สนุกเหมือนกันแฮะ55555 เสียดสีได้สุดจัด