ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 22:49
ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
เกริ่นนิดนึงครับ ว่ากระทู้นี้เป็นอะไรที่ผมกลั่นกรองมาสักพัก จะเรียกว่าเป็นข้อสังเกต สมมติฐาน หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มที่ภาพใหญ่ก่อน ว่าจริงๆแล้วการเมืองมีหลายมิติให้เรามาเลือกพิจารณากัน มากกว่าแค่คำว่าเสรีนิยม และ อนุรักษ์นิยม

ในอุดมคติของระบบประชาธิปไตยนั้น ประชากรในประเทศควรจะเข้าใจว่าจุดยืนทางการเมืองของตัวเองนั้นเป็นอย่างไร มันจะไม่ใช่แค่ในแกนการเมืองว่าเป็นเสรีนิยม หรือ อนุรักษ์นิยม แต่ยังคงมีแกนอื่นๆ อาทิเช่น เศรษฐกิจ ว่าจะเป็นทุนนิยม(ถ้าคุณชอบFree Market รัฐปล่อยให้ตลาดรันไป แทรกแซงน้อย ก็เป็นส่วนนี้) หรือ สังคมนิยม(ถ้าคุณมองหาแต่ความเท่าเทียมในตลาด ไม่เอาความผูกขาดเลย ก็จะเป็นฟากนี้) ยังมีในอีกหลายแกนมากที่เรานำมาวัดค่าได้ โดยรวมหลักการคือเราก็เลือกเฉพาะแกนที่มันเหมาะสมกับความต้องการเรา และ ยุคสมัย เมื่อเรามีแกนที่เราจะหาจุดยืนของเราแล้ว นำทุกอย่างมารวมกัน สิ่งนี้เรียกว่า Political Spectrum ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นไม่มีมาตรวัดสากลใดที่ใช้ได้กับทุกยุคสมัยหรือใช้เปรียบเทียบข้ามสมัย มันขึ้นอยู่กับว่า ท้ายที่สุดใครให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า แต่ที่วัดกันบ่อยๆ ก็จะพบการใช้สังคมและเศรษฐกิจเป็นหลัก(2แกน) เมื่อเรารู้ว่าเราอยู่จุดไหน เราจึงนำพรรคการเมืองทั้งหมดที่มี มาวางบนSpectrumเดียวกันนี้ แล้วพรรคไหนอยู่ใกล้กับคุณมากที่สุดจากนโยบายที่เขาสื่อสารออกมา คุณก็เลือกพรรคนั้น แล้วสุดท้ายนั่นจะเป็นผลลัพธ์ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

Spoil
แทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ซ้าย(Liberal)หรือขวา(Conservative) ที่ใช้ในการจำแนกแนวคิดของคนทางการเมือง เกิดขึ้นในฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่18 ฝั่งซ้ายมือของกษัตริย์ในโถงประชุม เป็นกลุ่มขุนนางที่เรียกร้องการปรับปรุง-เปลี่ยนแปลงและพัฒนา ในขณะที่ขุนนางฟากขวามือนั้นเรียกร้องการดำรงไว้ซึ่งแนวปฏิบัติเดิม จึงเป็นที่มาของการจำแนกกลุ่มคนโดยอิงถึงมุมมองต่อการเมืองในปัจจุบัน  


สิ่งที่เกิดขึ้นกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คิดว่าเราคงตระหนักกันดี ว่าสเปคตรัมที่สื่อและคนไทยใช้จะเล็กลงมากว่าภาพที่อธิบายไปเมื่อสักครู่ สื่อจะเน้นมองไปที่ภาพเล็กก่อน อย่างเช่นการไปเน้นที่ว่าจุดยืนของพรรคว่าเอาา112หรือไม่ เอาขั้วอำนาจเก่าหรือไม่ ว่ากันไป จากการที่สื่อช่วยพรรคการเมือง ในการนำเสนอในส่วนของภาพเล็ก เป็นเรื่องๆ จึงอาจยังไม่เสนอถึงจุดยืนที่แท้จริงของพรรคการเมือง แน่นอนว่าสะท้อนออกมาบ้าง แต่จะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในประเด็นพวกนี้นักการเมืองในช่วงหาเสียง ก็จะเลือกนำเสนอจุดยืนในเรื่องเล็กๆ ที่น่าจะคว้าชัยชนะได้ตามกระแสนิยม คือทำเป็นผ่อนปรนบางอย่าง เพื่อที่จะซื้อเสียงคนจากเทรนด์และกระแสสังคมนั้น ดังตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจน เช่น ก้าวไกล และ เพื่อไทย ที่ต่างบอกว่าจะปรับแก้112ทั้งคู่ แต่วิถีหรือเนื้อหาที่จะแก้ต่างกันพอสมควร ดังนั้นการที่คนๆหนึ่งจะเข้าใจพรรคการเมืองจริงๆ จึงจะไม่ได้มาจากการดีเบตเฉพาะหัวเรื่องใดหัวเรื่องหนึ่ง แต่ต้องดูเป็นองค์รวมไปเลย ว่าจากนโยบายทั้งหมด มันเป็นไปในทางไหนบ้าง

ก้าวไกล ถือเป็นพรรคที่เก่งในเรื่องการจับกระแสสังคม เมื่อเข้าใจดีว่า ไม่อาจชนะการเลือกตั้งได้ด้วยคนรุ่นใหม่ หรือฟากเสรีนิยมเพียงอย่างเดียว จุดยืนทางการเมืองที่แสดงออกมาในครั้งนี้จึงถอยเข้ามาทางขวามากขึ้น(แต่ก็ยังถือว่าซ้ายอยู่ และซ้ายที่สุดในกลุ่มพรรคการเมืองใหญ่) เพราะอย่างไรเสีย หลายๆนโยบายที่ก้าวไกลมี ทลายทุนผูกขาดเอย ทลายอำนาจนิยมในโรงเรียนเอย จริงๆแล้วถือเป็นขั้วตรงข้ามกับการมีอยู่ของสถาบัน เพราะสถาบันนั้นถือเป็นUniversal Setของอำนาจนิยมในประเทศนี้ [จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน ส่วน112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่]

Spoil
สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องของMBTI Personality จะสามารถเชื่อมโยงที่มาที่ไปของแนวทางพรรคก้าวไกลและอนาคตใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น จากลักษณะของผู้นำของพรรคการเมืองทั้งคู่ ส่วนใครที่ไม่รู้จะข้ามส่วนนี้ไปก็ได้ครับ ถือเป็นเนื้อหาแถม ที่ผมคิดว่าทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมก้าวไกล ดูไม่ดื้อขนาดอนาคตใหม่เลย 555
คุณธนาธรจากอนาคตใหม่ (ENFJ) – อนาคตใหม่ ถูกก่อตั้งและขับเคลื่อนจากผู้นำอย่างคุณเอก ที่มีบุคลิกภาพอย่างENFJ เป็นผู้นำในลักษณะที่สร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนไปที่อุดมการณ์ที่ฟอร์มขึ้นมาจากความรู้สึกร่วมและแพสชั่นที่เต็มเปี่ยม จุดเด่นนี้จากผู้นำ จึงส่งต่อให้พรรคมีแนวทางที่ชัดเจน ไปในฝั่งที่ดูจะซ้ายจัดสำหรับสังคมไทย เพราะทุกคนเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ว่าคนไทยควรได้รับสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ทาสอย่างที่เคยเป็นมา ทำให้การเลือกตั้งในสมัยนั้น จึงพูดได้เต็มปากว่า contextตอนนั้น ที่คนยังไม่รู้ได้แน่ชัดว่าเนื้อแท้คุณธนาธรและพรรคเป็นอย่างไรแล้วเลือกให้พรรคเข้ามาทำงาน จึงเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นฝ่ายซ้าย เพราะในเวลานั้นจุดยืนเรื่องของประชาธิปไตยเพื่อไทยเองก็เล่น คนที่ไม่ซ้ายเท่าคนกลุ่มแรกและคนที่ไม่ได้ขวาจัด จึงเลือกที่จะโหวตให้เพื่อไทยเสียมากกว่า จนเมื่อพรรคเข้ามาเป็นที่3ได้นั้น และถูกยุบลงไป จนเกิดเป็นพรรคภายใต้ผู้นำใหม่
(สำหรับคนที่ชอบสามก๊กด้วย ถ้าเคยเห็นกระทู้เก่าๆของผม ทำไมผมชอบพูดว่าอนาคตใหม่เหมือนจ๊กก๊ก ก็เพราะเล่าปี่ในเวอร์ชั่นนิยายก็มีบุคลิกภาพแบบENFJด้วยนี่เอง)

คุณพิธาจากก้าวไกล (ENTJ) - เมื่อถูกส่งไม้ต่อมาที่ผู้นำที่มีบุคลิกอย่าง ENTJ นั้นจึงทำให้เกิดการทำงานที่สร้างแรงกระเพื่อมได้แรงต่อเนื่องในฐานะฝ่ายค้าน ENTJถือเป็นผู้นำในลักษณะที่ ชี้ให้ผู้ตามเห็นภาพการทำงานตามกรอบเป้าหมายที่วางเอาไว้ เมื่อคุณพิธามีความเชื่อแล้วว่าการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นเรื่องจำเป็นต่อสังคมไทย ความมั่นใจที่ถือเป็นจุดเด่นของบุคลิกนี้ ก็ยิ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้คนในพรรคว่า ทางเดินที่กำลังเดินไปนั้นถูกต้อง แล้วต้องทำอย่างไร
เรายังเห็นในช่วงหาเสียงได้อีกว่า แนวทางที่คุณพิธาเน้นย้ำว่า ไม่แบ่งกระทรวงแบบเดิม แต่แบ่งตามเป้าหมาย ความมั่นใจขั้นสุดเวลาดีเบต หรือลักษณะการตอบคำถามที่จะไม่ตอบเพียงแค่สิ่งที่ถาม แต่จะสามารถสร้างสมมติฐานในหัวถึงที่มาของคำถาม และตอบในคำถามที่ซ่อนอยู่แถมให้ด้วย เหล่านี้คือลักษณะของผู้นำแบบENTJ อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และประเมินถึงความจำเป็นที่ต้องลดความซ้ายลงมา เพื่อให้พรรคมีพื้นที่มากขึ้นในสภาอันจะพูดต่อไป ก็เลยเป็นเรื่องที่เกิดข้อสงสัยถึงแนวทางของพรรคต่อคนใน และจุดแตกหักแรกจึงเกิดขึ้นกับอาจารย์ป๊อกในช่วงหาเสียงเมื่อกุมภาที่ผ่านมาถึงอุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ในเวลาถัดมา
 


การลดความซ้ายลง และโน้มน้าวประชาชนในช่วงหาเสียงจากประเด็นใหญ่ในสังคม จึงเกิดBig Surprise ที่ก้าวไกล สามารถจับคนทั้งฝ่ายซ้ายจัดไปจนขวาที่ไม่สุดโต่งได้มากขึ้น โดยท่าไม้ตายคือการแก้มาตรา112ที่ฝ่ายซ้ายมองหา โดยที่ไม่ยกเลิกเหมือนที่เคยแสดงเจตจำนงค์ไว้สมัยอนาคตใหม่ และยังยืนยันถึงการจะดำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ กอปรกับวิธีการสื่อสารอย่างมั่นใจ เรียบเรียงเนื้อหาพูด โดยกระตุ้นจิตใจคนจากPain pointในหลายๆแง่และเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่เจ็บปวด อีกทั้งยังมีภาพของการทำงาน4ปีที่ผ่านมาให้เป็นหลักฐานแสดงถึงวิธีการทำงาน เหล่าอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายขวาบางส่วน(สลิ่มเก่า) ที่ตระหนักถึงความไม่ได้เรื่องของรัฐบาลปัจจุบัน จึงลองให้โอกาสก้าวไกลพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย เกิดเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญของการเมืองไทย ที่ก้าวไกลพลิกล็อคเอาชนะทั้งอำนาจเก่าอย่างขาดลอย และ เพื่อไทยที่ครองตลาดมาอย่างยาวนานลงได้สำเร็จ

ขณะที่จุดแข็งของก้าวไกลคือ ถูกสนับสนุนโดยคนกลุ่มใหญ่ในประเทศ จึงสามารถเดินหน้าขุดคุ้ยเรื่องสีเทายันดำที่ซุกเอาไว้ใต้พรมได้ แต่ในขณะเดียวกันการคว้าฐานเสียงที่มากที่สุดภายใน2สมัยนั้น เมื่อเรามาดูที่ฐานเสียง ที่มีความแตกต่างกันอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มซ้ายจัดและขวา เราจะเห็นได้ดังตัวอย่างที่ชัดเจน คือการสนับสนุนน้องหยก ที่ต่อสู้กับโรงเรียน ถึงแม้ผมจะไม่ลงดีเทล ทุกท่านก็น่าจะเข้าใจได้ว่า เอาเฉพาะภายในฐานเสียงของก้าวไกลฝ่ายซ้ายจัดจะสนับสนุนหยก ขณะที่ฝ่ายขวาจะไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการต่อสู้นี้ของหยก ซึ่งจากการสิงสู่ในกลุ่มคณะก้าวไกลในFacebook เราคงพอเห็นได้ว่า ฐานเสียงก้าวไกล ดูจะเป็นขวามากกว่าซ้ายซะอีก ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญชิ้นนึง ว่าปัจจุบันคนไทย ยังมีความเป็นอนุรักษ์นิยมเป็นส่วนใหญ่

ความท้าทายครั้งสำคัญของพรรคก้าวไกลคือ ฐานเสียงที่แบ่งแยกกันอย่างชัดเจนนี้ ทางพรรคจะดำเนินการจัดการอย่างไร การทะเลาะกันครั้งนี้ระหว่างฐานเสียงก้าวไกลด้วยกันเอง เป็นเหมือนกับระฆังที่ดังขึ้นมาให้พรรครับรู้ถึงการมีอยู่ของขั้วความคิดทั้ง2แบบใหญ่ๆ(เสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม) ในขณะที่จุดยืนครั้งสมัยอนาคตใหม่นั้นเกิดขึ้นมาจากการเป็นพรรคเสรีนิยม คำถามที่น่าถามต่อคือ หากเกิดเหตุการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนใจซึ่งพรรคจำเป็นต้องเลือกสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่ง พรรคก้าวไกลจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขนาดไหน คือถ้าจะต้องหักกับฝ่ายหนึ่ง จะลดความเสียหายให้ได้มากเพียงพอที่จะสามารถรักษาฐานเสียงต่อไปได้หรือไม่ (ที่บอกว่าเรื่องของน้องหยกคือระฆังที่ดังขึ้นมา จริงๆเรายังได้เห็นสัญญาณเตือนกันมาก่อนแล้วจากช่วง มีกรณ์ไม่มีกู บางคนบอกเอาและบางคนบอกไม่เอา เพียงแต่ที่ไม่ยกขึ้นมา เพราะดูจะไม่ได้สอดคล้องมากนักกับนิยามซ้าย-ขวา)

โดยส่วนตัวในระยะยาวผมคิดว่าเด็กเจนหน้า จะมีความเป็นเสรีนิยมมากขึ้นอีก พรรคจึงจะสามารถค่อยๆแสดงความเป็นซ้ายมากขึ้นได้อีกครั้ง แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือการทำงานของพรรคทั้งสมัยนี้และสมัยหน้า จะประคองไว้ซึ่งฐานเสียงที่มีต่อไปได้หรือไม่ เพราะศัตรูของพรรคเป็นอย่างที่ผมพูดมาเสมอว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่พรรคขั้วรัฐบาลเก่า หรือ อำนาจเบื้องบน แต่ยังมีพรรคเพื่อไทย ที่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา เพราะแม้ในครั้งนี้ก้าวไกลตีชิงเสียงเพื่อไทยมาได้ จากการโจมตีเพื่อไทยโดยตรงบนเวที ในขณะที่เพื่อไทยยังโจมตีก้าวไกลได้ยาก เพราะผลงานในฐานะฝ่ายค้านดีและยังไม่มีผลงานในการเป็นรัฐบาลมาให้วิจารณ์กลับคืน ในครั้งหน้านั้นหากก้าวไกลและเพื่อไทยสิ้นสุดรัฐบาลร่วมกันเมื่อไหร่ นอกจากผลงานทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและสังคม การบริหารจัดการความเห็นต่างของฐานเสียงก้าวไกลที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดว่า ก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไปเหมือนปี66นี้หรือไม่

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
แก้ไขล่าสุดโดย st_barc เมื่อ Mon Jun 19, 2023 00:35, ทั้งหมด 2 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 May 2020
ตอบ: 836
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:00
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
อ่านจนจบ ผมเกือบจะเห็นด้วยหมดล่ะ
แต่กรณี หยก ใน SS
ผมกลับเห็นแย้งหมดเลย
ด้วยคำพูดของ วินสตัน เชอร์ชิล

Politics is the ability to foretell what is going to happen tomorrow, next week, next month and next year. And to have the ability afterwards to explain why it didn’t happen

ผมไม่เคยรู้สึกว่า พรรคก้าวไกลตอนนี้เป็นพรรคฝ่ายซ้ายเลยนะ
ใกล้สุดคือ รัฐสวัสดิการ
เผลอๆ ผมมานึกเอาจริงๆ บทบาท อดีต ส.ส.ฝ่ายซ้ายของพรรค
ก็ลดบทบาทไปเยอะ เยอะระดับที่ไม่ใช่บทบาทนำ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:07
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
Gamebass7 พิมพ์ว่า:
อ่านจนจบ ผมเกือบจะเห็นด้วยหมดล่ะ
แต่กรณี หยก ใน SS
ผมกลับเห็นแย้งหมดเลย
ด้วยคำพูดของ วินสตัน เชอร์ชิล

Politics is the ability to foretell what is going to happen tomorrow, next week, next month and next year. And to have the ability afterwards to explain why it didn’t happen

ผมไม่เคยรู้สึกว่า พรรคก้าวไกลตอนนี้เป็นพรรคฝ่ายซ้ายเลยนะ
ใกล้สุดคือ รัฐสวัสดิการ
เผลอๆ ผมมานึกเอาจริงๆ บทบาท อดีต ส.ส.ฝ่ายซ้ายของพรรค
ก็ลดบทบาทไปเยอะ เยอะระดับที่ไม่ใช่บทบาทนำ  

เรื่องหยกผมใช้การทะเลาะกันในกลุ่มตลาดหลวงและคณะก้าวหน้าในช่องทางFacebookเป็นหลักครับ จะสะท้อนพฤติกรรมของฐานเสียงได้มากกว่า คือในSSเนี่ย เป็นผู้ชายซะเยอะ แล้วมีความเฉพาะทาง ความเห็นที่ได้จะไม่ค่อยเหมาะนำไปสะท้อนฐานเสียงส่วนใหญ่ อีกประเด็นนึงคือผมไปสิงสู่ในตลาดหลวงและร่วมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมา จึงแทบไม่ทราบเลยว่าในSSทะเลาะกันอย่างไรบ้าง555

ส่วนที่ว่าก้าวไกลตอนนี้ไม่ใช่ซ้าย ผมคิดว่าถ้ามองแบบที่ท่านว่า ก็ถูกเหมือนกันครับ คือบางทีซ้ายขวามันก็วัดยากเนาะ ซ้ายเยอะ ขวาน้อย ซ้ายจนจะกลาง ใดๆก็แล้วแต่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อุดมการณ์ที่ซ่อนอยู่จนเป็นเนื้อแท้ของพรรค ผมคิดว่ามันถูกถ่ายทอดมาจากคุณเอก ซึ่งถือว่าเป็นฝ่ายซ้ายได้อย่างเต็มปาก แม้กลยุทธ์หาเสียงมันจะดูไม่ได้ซ้ายเท่าเดิมอีกแล้ว แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าเนื้อแท้ของพรรคเป็นซ้ายนะ อย่างที่บอกในบทความว่า วันนี้ซ้ายมากไม่ได้ เพราะคนไทยมันไม่ใช่ซ้ายครับ ซ้ายกว่านี้ก็ได้แหละ ฐานเสียงขวาที่ไม่สุดโต่งมันก็เสียไป เรื่องนี้ผมคิดว่าคุณทิมประเมินเอาไว้ประมาณนี้ แม้เป็นเพียงสมมติฐานมันก็ดูจะไปลงล็อคกับเหตุการณ์ที่ทะเลาะกับอจ.ป๊อกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลยคิดว่าสมมติฐานนี้ค่อนข้างเป็นจริงครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 May 2020
ตอบ: 836
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:27
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
เวลานิยามว่า พรรคการเมืองไหนเป็น ฝ่ายซ้าย
ในเชิงรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์การเมืองคือ
รัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ปัจจัยการผลิต
ที่ใกล้เคียงว่า ประเทศไทยจะมีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายก็คือ

ปรีดี พนมยงค์ คณะราษฎร สมุดปกเหลือง
แล้วก็พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเลย

ก้าวไกลยังไม่มีนโยบายไหน
ที่บอกว่า รัฐจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเลย
มากไปกว่านั้น ยังสนับสนุนให้ชาวนา
เป็นเจ้าของที่ดินเสียด้วยซ้ำ

ที่ยกตัวอย่างมาให้เห็น อยากจะชี้น่ะครับว่า
วัดไม่ยากเลยว่า พรรคการเมืองไหนเป็นซ้าย เสรีนิยมใหม่ รัฐสวัสดิการ เป็นขวา
วัดง่ายสุดคือ ใครคือ เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและปัจจัยการผลิต
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:45
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
Gamebass7 พิมพ์ว่า:
เวลานิยามว่า พรรคการเมืองไหนเป็น ฝ่ายซ้าย
ในเชิงรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์การเมืองคือ
รัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ปัจจัยการผลิต
ที่ใกล้เคียงว่า ประเทศไทยจะมีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายก็คือ

ปรีดี พนมยงค์ คณะราษฎร สมุดปกเหลือง
แล้วก็พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเลย

ก้าวไกลยังไม่มีนโยบายไหน
ที่บอกว่า รัฐจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเลย
มากไปกว่านั้น ยังสนับสนุนให้ชาวนา
เป็นเจ้าของที่ดินเสียด้วยซ้ำ

ที่ยกตัวอย่างมาให้เห็น อยากจะชี้น่ะครับว่า
วัดไม่ยากเลยว่า พรรคการเมืองไหนเป็นซ้าย เสรีนิยมใหม่ รัฐสวัสดิการ เป็นขวา
วัดง่ายสุดคือ ใครคือ เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและปัจจัยการผลิต
 
ที่เขียนขึ้นมา Definition ผมอิงประมาณนี้ครับ Left-wing politics describes the range of political ideologies that support and seek to achieve social equality and egalitarianism, often in opposition to social hierarchy. Left-wing politics typically involve a concern for those in society whom its adherents perceive as disadvantaged relative to others as well as a belief that there are unjustified inequalities that need to be reduced or abolished.
อันนี้เอามาจากwiki (ซึ่งอาจจะไม่ได้น่าciteมากนัก แต่ก็ใช้แก้ขัดได้เฉพาะเรื่อง) ผมมุ่งเน้นไปที่อุดมการณ์ตามความหมายตรงนี้เลย จึงสรุปว่าก้าวไกลเป็นฝ่ายซ้าย

แต่ถ้าในเชิงรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์การเมือง อย่างที่ท่านว่าคงไม่เถียงครับ คือส่วนตัวผมไม่ได้รู้ลึกซึ้งในแง่นี้ คงไม่อาจจะเถียงได้ แบคกราวด์ผมเองมาจากฟากBusiness

โดยส่วนตัวก็คงขอสรุปว่า ถ้าเทียบ Political Party เป็น Corporate
Vision ก็คือ Ideology - วิสัยทัศน์ผมจะขอยกมาจากของอนาคตใหม่ หรือที่ก้าวไกลวางไว้บนเว็บไซต์ ถ้าอิงจากนิยามในความหมายของ Left-wing/Right-wing Party ผมคิดว่าอย่างไรเสียก็ถือเป็น Left ในเชิงนี้ แม้จะจับต้องไม่ได้
ขณะที่ Strategy ก็คือ Policy - อันนี้ถ้าจะวิเคราะห์เป็นนโยบายคงต้องใช้องค์ความรู้ประเภทเศรษฐศาสตร์การเมืองที่ท่านว่าไว้ ว่ามันอาจจะดูไม่ซ้ายอย่างที่ท่านว่า ซึ่งPolicyมันเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าIdeology ดังนั้นที่ท่านแย้งมาว่าก้าวไกลไม่ใช่ซ้าย ผมก็ไม่โต้แย้งอะไรครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:47
ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
อย่างแรกผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ อนาคตใหม่ไม่ได้แหลมคมกว่าก้าวไกลนะครับ พรรคอนาคตใหม่ ไม่แก้ 112 นะครับ ในด้านนโยบายก้าวไกลแหลมคมกว่าอนาคตใหม่ครับ แต่ท่าทางน้ำเสียงดูอ่อนนุ่มกว่าอนาคตใหม่ โอบรับคนทุกกลุ่มที่เคยต้องการการปฏิรูปรัฐได้ดีกว่าอนาคตใหม่ อย่าลืมนะครับว่า กปปส. เองก็เคยพูดเรื่องการปฏิรูป

ในส่วนของฐานเสียงผมเห็นด้วยครับ เพราะก้าวไกลคือพรรคที่มี potential ที่สุดในการจะปฏิรูปรัฐ จึงได้เสียงจากคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์และเสรีนิยม

โดยแนวนโยบาย ก้าวไกลมีแนวโน้มจะไปทางเสรีนิยมมากขึ้นครับ จาก position ของการเป็นพรรคที่ชูเรื่องรัฐสวัสดิการและ minority rights แล้วก็จะมีพรรคแบบ progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Sun Jun 18, 2023 23:50
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
อย่างแรกผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ อนาคตใหม่ไม่ได้แหลมคมกว่าก้าวไกลนะครับ พรรคอนาคตใหม่ ไม่แก้ 112 นะครับ ในด้านนโยบายก้าวไกลแหลมคมกว่าอนาคตใหม่ครับ แต่ท่าทางน้ำเสียงดูอ่อนนุ่มกว่าอนาคตใหม่ โอบรับคนทุกกลุ่มที่เคยต้องการการปฏิรูปรัฐได้ดีกว่าอนาคตใหม่ อย่าลืมนะครับว่า กปปส. เองก็เคยพูดเรื่องการปฏิรูป

ในส่วนของฐานเสียงผมเห็นด้วยครับ เพราะก้าวไกลคือพรรคที่มี potential ที่สุดในการจะปฏิรูปรัฐ จึงได้เสียงจากคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์และเสรีนิยม

โดยแนวนโยบาย ก้าวไกลมีแนวโน้มจะไปทางเสรีนิยมมากขึ้นครับ จาก position ของการเป็นพรรคที่ชูเรื่องรัฐสวัสดิการและ minority rights แล้วก็จะมีพรรคแบบ progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น  
โอ้ เดี๋ยวรีบแก้ไขเนื้อหาเลย จริงๆเนื้อหาที่อยากจะสื่อสารคืออนาคตใหม่ค่อนข้างจะต่อต้านกับสถาบัน นึกย้อนไปแล้วก็จำไม่ได้จริงๆว่าเคยเรียกร้องแก้112 แต่สงสัยตอนเขียนจะหลงระเริง เขียนเพลินไปหน่อย ขอบคุณคุณครับ

Edited: "จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน 112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่" จากที่ย้อนอ่านเร็วๆ เหมือนผมจะเขียนเรื่องอนาคตใหม่กับ112แค่ท่อนนี้นะครับ ไม่ได้มีเจตนากล่าวว่าอนาคตใหม่มีนโยบายไม่เอา112 แต่ผมคาดเดาว่าต่อต้านสถาบันแล้วดังนั้น112ถ้าเอาออกได้ก็น่าจะเอาออกแน่ แต่เพื่อไม่ให้สับสนเลยปรับแก้้เป็นแบบนี้แทนครับเติมแค่คำว่าส่วน
"จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน ส่วน112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่"

อีกประเด็นของท่านตรง "progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น" ผมคิดว่าเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยมากจนแทบไม่มีผล แต่อนาคตเห็นด้วยครับ ว่าจะมีพรรคที่มาเติมเต็มจุดนี้ แล้วจะโยกฐานเสียงไปได้
แก้ไขล่าสุดโดย st_barc เมื่อ Sun Jun 18, 2023 23:56, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 00:07
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
st_barc พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
อย่างแรกผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ อนาคตใหม่ไม่ได้แหลมคมกว่าก้าวไกลนะครับ พรรคอนาคตใหม่ ไม่แก้ 112 นะครับ ในด้านนโยบายก้าวไกลแหลมคมกว่าอนาคตใหม่ครับ แต่ท่าทางน้ำเสียงดูอ่อนนุ่มกว่าอนาคตใหม่ โอบรับคนทุกกลุ่มที่เคยต้องการการปฏิรูปรัฐได้ดีกว่าอนาคตใหม่ อย่าลืมนะครับว่า กปปส. เองก็เคยพูดเรื่องการปฏิรูป

ในส่วนของฐานเสียงผมเห็นด้วยครับ เพราะก้าวไกลคือพรรคที่มี potential ที่สุดในการจะปฏิรูปรัฐ จึงได้เสียงจากคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์และเสรีนิยม

โดยแนวนโยบาย ก้าวไกลมีแนวโน้มจะไปทางเสรีนิยมมากขึ้นครับ จาก position ของการเป็นพรรคที่ชูเรื่องรัฐสวัสดิการและ minority rights แล้วก็จะมีพรรคแบบ progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น  
โอ้ เดี๋ยวรีบแก้ไขเนื้อหาเลย จริงๆเนื้อหาที่อยากจะสื่อสารคืออนาคตใหม่ค่อนข้างจะต่อต้านกับสถาบัน นึกย้อนไปแล้วก็จำไม่ได้จริงๆว่าเคยเรียกร้องแก้112 แต่สงสัยตอนเขียนจะหลงระเริง เขียนเพลินไปหน่อย ขอบคุณคุณครับ

Edited: "จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน 112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่" จากที่ย้อนอ่านเร็วๆ เหมือนผมจะเขียนเรื่องอนาคตใหม่กับ112แค่ท่อนนี้นะครับ ไม่ได้มีเจตนากล่าวว่าอนาคตใหม่มีนโยบายไม่เอา112 แต่ผมคาดเดาว่าต่อต้านสถาบันแล้วดังนั้น112ถ้าเอาออกได้ก็น่าจะเอาออกแน่ แต่เพื่อไม่ให้สับสนเลยปรับแก้้เป็นแบบนี้แทนครับเติมแค่คำว่าส่วน
"จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน ส่วน112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่"

อีกประเด็นของท่านตรง "progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น" ผมคิดว่าเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยมากจนแทบไม่มีผล แต่อนาคตเห็นด้วยครับ ว่าจะมีพรรคที่มาเติมเต็มจุดนี้ แล้วจะโยกฐานเสียงไปได้  


ตอนนั้นอาจารย์ปิยบุตรแสดงจุดยืนของพรรคชัดเจนครับว่าจะไม่แตะกฏหมาย 112 ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายคนครับ ตอนหลังแกยอมรับว่าทำไปเพื่อประนีประนอมกับฝ่ายจารีตนิยม เพื่อไม่ให้มองว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นอันตรายกับสถาบันหลัก ซึ่งเป็นบาดแผลทางการเมืองของแกมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าท่านลองไล่เรียงดูนโยบายของพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลเปรียบเทียบกันจะยิ่งเห็นชัดขึ้นครับ การที่ท่านคิดว่าอนาคตใหม่แหลมกว่าก้าวไกล เป็นเพราะน้ำเสียงและท่วงทำนองของพรรคที่ดูก้าวร้าวกว่าครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Wolvesgangster เมื่อ Mon Jun 19, 2023 00:17, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 00:21
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
st_barc พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
อย่างแรกผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ อนาคตใหม่ไม่ได้แหลมคมกว่าก้าวไกลนะครับ พรรคอนาคตใหม่ ไม่แก้ 112 นะครับ ในด้านนโยบายก้าวไกลแหลมคมกว่าอนาคตใหม่ครับ แต่ท่าทางน้ำเสียงดูอ่อนนุ่มกว่าอนาคตใหม่ โอบรับคนทุกกลุ่มที่เคยต้องการการปฏิรูปรัฐได้ดีกว่าอนาคตใหม่ อย่าลืมนะครับว่า กปปส. เองก็เคยพูดเรื่องการปฏิรูป

ในส่วนของฐานเสียงผมเห็นด้วยครับ เพราะก้าวไกลคือพรรคที่มี potential ที่สุดในการจะปฏิรูปรัฐ จึงได้เสียงจากคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์และเสรีนิยม

โดยแนวนโยบาย ก้าวไกลมีแนวโน้มจะไปทางเสรีนิยมมากขึ้นครับ จาก position ของการเป็นพรรคที่ชูเรื่องรัฐสวัสดิการและ minority rights แล้วก็จะมีพรรคแบบ progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น  
โอ้ เดี๋ยวรีบแก้ไขเนื้อหาเลย จริงๆเนื้อหาที่อยากจะสื่อสารคืออนาคตใหม่ค่อนข้างจะต่อต้านกับสถาบัน นึกย้อนไปแล้วก็จำไม่ได้จริงๆว่าเคยเรียกร้องแก้112 แต่สงสัยตอนเขียนจะหลงระเริง เขียนเพลินไปหน่อย ขอบคุณคุณครับ

Edited: "จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน 112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่" จากที่ย้อนอ่านเร็วๆ เหมือนผมจะเขียนเรื่องอนาคตใหม่กับ112แค่ท่อนนี้นะครับ ไม่ได้มีเจตนากล่าวว่าอนาคตใหม่มีนโยบายไม่เอา112 แต่ผมคาดเดาว่าต่อต้านสถาบันแล้วดังนั้น112ถ้าเอาออกได้ก็น่าจะเอาออกแน่ แต่เพื่อไม่ให้สับสนเลยปรับแก้้เป็นแบบนี้แทนครับเติมแค่คำว่าส่วน
"จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน ส่วน112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่"

อีกประเด็นของท่านตรง "progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น" ผมคิดว่าเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยมากจนแทบไม่มีผล แต่อนาคตเห็นด้วยครับ ว่าจะมีพรรคที่มาเติมเต็มจุดนี้ แล้วจะโยกฐานเสียงไปได้  


ตอนนั้นอาจารย์ปิยบุตรแสดงจุดยืนของพรรคชัดเจนครับว่าจะไม่แตะกฏหมาย 112 ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายคนครับ ตอนหลักแกยอมรับว่าทำไปเพื่อประนีประนอมกับฝ่ายจารีตนิยม เพื่อไม่ให้มองว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นอันตรายกับสถาบันหลัก ซึ่งเป็นบาดแผลทางการเมืองของแกมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าท่านลองไล่เรียงดูนโยบายของพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลเปรียบเทียบกันจะยิ่งเห็นชัดขึ้นครับ การที่ท่านคิดว่าอนาคตใหม่แหลมกว่าก้าวไกล เป็นเพราะน้ำเสียงและท่วงทำนองของพรรคที่ดูก้าวร้าวกว่าครับ  

ถ้าวัดตรงแง่Policyใช่ครับ แต่ผมประเมินจากปัจจัยโดยรอบ เทียบกับสิ่งที่สื่อสารครับ การจะเทียบระหว่างก้าวไกลกับอนาคตใหม่ผมคิดว่าเราเทียบโดยวัดโดยตรงอย่างนั้นไม่ได้ เพราะบริบทแตกต่างครับ สมัยเลือกตั้ง62 สลิ่มยังเต็มบ้านเต็มเมือง รอยัลลิสต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้นโยบายไม่แหลมคมเท่าก้าวไกล66 แต่ถือว่าแหลมคมกว่าอย่างมาก เพราะสังคมไทยปีนั้นยังไม่ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญซึ่งก็คือม็อบ63 ซึ่งแท้จริงก็เกิดจากการจุดชนวนและสร้างความตื่นรู้ของอนาคตใหม่ครับ ในขณะเดียวกันก้าวไกล66 ที่ท่านว่าแหลมคมกว่า ก็อย่างที่ว่าไว้ว่าถ้าวัดที่ตัวนโยบายตรงๆเลยก็ใช่ครับ แต่นอกจากวิธีการสื่อสารที่อ่อนน้อมแล้วเนี่ย บริบทคือแรงต้านที่น้อยลงจากสังคมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้นโยบายที่ดูรุนแรงกว่าและแหลมคมกว่า แท้จริงแล้วมันไม่ได้แหลมคมกว่าอย่างที่ท่านว่า หากมองที่บริบทโดยรวม โดยเฉพาะแนวคิดและทัศนคติของประชาชนต่อขั้วอำนาจต่างๆครับ

edited: เสริมนิดนึง เขียนเองเหมือนงงๆ คือผมจะสื่อว่า แหลมคมไม่แหลมคม ผมมองไปถึงแรงเสียดทานจากประชาชน ที่ผมถือเป็นปัจจัยที่ให้น้ำหนักมากที่สุดครับ กล่าวคือ
อนาคตใหม่ นโยบายคมน้อยกว่า แต่แรงต้านมากกว่าอย่างมหาศาล
ส่วนก้าวไกล นโยบายนั้นคมกว่าก็จริง แต่แรงสนับสนุนช่วยผลักดันอย่างมาก

มันจริงเป็นตัวอย่างข้อสรปอย่างนึงของผมต่อการเมือง ถึงเหตุผลที่ว่า สเปคตรัมทางการเมืองมันใช้วัดการเมืองที่ต่างยุคสมัยไม่ได้ เพราะเวลาเรามากางนโยบายเพื่อวานสเปคตรัมแล้วนั้น เรามองไม่เห็นพวกปัจจัยอย่างแรงต้านต่างๆครับ
แก้ไขล่าสุดโดย st_barc เมื่อ Mon Jun 19, 2023 00:34, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Would you rather die a hero?
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 8343
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 00:26
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
st_barc พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
st_barc พิมพ์ว่า:
Wolvesgangster พิมพ์ว่า:
อย่างแรกผมขออนุญาตแก้ไขข้อมูลก่อนนะครับ อนาคตใหม่ไม่ได้แหลมคมกว่าก้าวไกลนะครับ พรรคอนาคตใหม่ ไม่แก้ 112 นะครับ ในด้านนโยบายก้าวไกลแหลมคมกว่าอนาคตใหม่ครับ แต่ท่าทางน้ำเสียงดูอ่อนนุ่มกว่าอนาคตใหม่ โอบรับคนทุกกลุ่มที่เคยต้องการการปฏิรูปรัฐได้ดีกว่าอนาคตใหม่ อย่าลืมนะครับว่า กปปส. เองก็เคยพูดเรื่องการปฏิรูป

ในส่วนของฐานเสียงผมเห็นด้วยครับ เพราะก้าวไกลคือพรรคที่มี potential ที่สุดในการจะปฏิรูปรัฐ จึงได้เสียงจากคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั้งจากกลุ่มอนุรักษ์และเสรีนิยม

โดยแนวนโยบาย ก้าวไกลมีแนวโน้มจะไปทางเสรีนิยมมากขึ้นครับ จาก position ของการเป็นพรรคที่ชูเรื่องรัฐสวัสดิการและ minority rights แล้วก็จะมีพรรคแบบ progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น  
โอ้ เดี๋ยวรีบแก้ไขเนื้อหาเลย จริงๆเนื้อหาที่อยากจะสื่อสารคืออนาคตใหม่ค่อนข้างจะต่อต้านกับสถาบัน นึกย้อนไปแล้วก็จำไม่ได้จริงๆว่าเคยเรียกร้องแก้112 แต่สงสัยตอนเขียนจะหลงระเริง เขียนเพลินไปหน่อย ขอบคุณคุณครับ

Edited: "จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน 112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่" จากที่ย้อนอ่านเร็วๆ เหมือนผมจะเขียนเรื่องอนาคตใหม่กับ112แค่ท่อนนี้นะครับ ไม่ได้มีเจตนากล่าวว่าอนาคตใหม่มีนโยบายไม่เอา112 แต่ผมคาดเดาว่าต่อต้านสถาบันแล้วดังนั้น112ถ้าเอาออกได้ก็น่าจะเอาออกแน่ แต่เพื่อไม่ให้สับสนเลยปรับแก้้เป็นแบบนี้แทนครับเติมแค่คำว่าส่วน
"จุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เป็นอนาคตใหม่ แกนนำพรรคถึงขนาดแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนัก ว่าไม่เอาขั้วอำนาจและสถาบัน ส่วน112ไม่ต้องพูดถึง เอาออกได้ เอาออกแน่"

อีกประเด็นของท่านตรง "progressive conservatism เกิดขึ้นมา ซึ่งฐานเสียงที่เคยเลือกก้าวไกลบางส่วนจะหันไปเลือกพรรคนั้น" ผมคิดว่าเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยมากจนแทบไม่มีผล แต่อนาคตเห็นด้วยครับ ว่าจะมีพรรคที่มาเติมเต็มจุดนี้ แล้วจะโยกฐานเสียงไปได้  


ตอนนั้นอาจารย์ปิยบุตรแสดงจุดยืนของพรรคชัดเจนครับว่าจะไม่แตะกฏหมาย 112 ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายคนครับ ตอนหลักแกยอมรับว่าทำไปเพื่อประนีประนอมกับฝ่ายจารีตนิยม เพื่อไม่ให้มองว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นอันตรายกับสถาบันหลัก ซึ่งเป็นบาดแผลทางการเมืองของแกมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าท่านลองไล่เรียงดูนโยบายของพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลเปรียบเทียบกันจะยิ่งเห็นชัดขึ้นครับ การที่ท่านคิดว่าอนาคตใหม่แหลมกว่าก้าวไกล เป็นเพราะน้ำเสียงและท่วงทำนองของพรรคที่ดูก้าวร้าวกว่าครับ  

ถ้าวัดตรงแง่Policyใช่ครับ แต่ผมประเมินจากปัจจัยโดยรอบ เทียบกับสิ่งที่สื่อสารครับ การจะเทียบระหว่างก้าวไกลกับอนาคตใหม่ผมคิดว่าเราเทียบโดยวัดโดยตรงอย่างนั้นไม่ได้ เพราะบริบทแตกต่างครับ สมัยเลือกตั้ง62 สลิ่มยังเต็มบ้านเต็มเมือง รอยัลลิสต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้นโยบายไม่แหลมคมเท่าก้าวไกล64 แต่ถือว่าแหลมคมกว่าอย่างมาก เพราะสังคมไทยปีนั้นยังไม่ถึงจุดเปลี่ยนสำคัญซึ่งก็คือม็อบ63 ซึ่งแท้จริงก็เกิดจากการจุดชนวนและสร้างความตื่นรู้ของอนาคตใหม่ครับ ในขณะเดียวกันก้าวไกล64 ที่ท่านว่าแหลมคมกว่า ก็อย่างที่ว่าไว้ว่าถ้าวัดที่ตัวนโยบายตรงๆเลยก็ใช่ครับ แต่นอกจากวิธีการสื่อสารที่อ่อนน้อมแล้วเนี่ย บริบทคือแรงต้านที่น้อยลงจากสังคมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้นโยบายที่ดูรุนแรงกว่าและแหลมคมกว่า แท้จริงแล้วมันไม่ได้แหลมคมกว่าอย่างที่ท่านว่า หากมองที่บริบทโดยรวม โดยเฉพาะแนวคิดและทัศนคติของประชาชนต่อขั้วอำนาจต่างๆครับ  


ถ้าวัดแบบ relative ก็ใช่ตามที่ท่านว่าครับ ที่ผมแย้งคือเชิง apple to apple
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2319
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 00:40
ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
ผมเคยเห็นผ่านๆช่วงที่มีการอบรม สส.ใหม่ ว่ามีการหยิบยก ประวัติทางการเมืองญี่ปุ่น ของ พรรค DJP ที่ทั้งรุ่งโรจน์จนตกต่ำ มาเป็น Case Study ในการอบรม สส.

ซึ่งบริบท ความรุ่งโรจน์ คล้าย ก้าวไกล สมควร ที่ชนะมาจากการรวมเสียงจากฐานทั้งสองฝั่ง เป็นทั้งความหวังการเมืองแบบใหม่ และมีความหลากหลาย ความต้องการ

จนเป็น 1 ในสาเหตุหลัก ของความตกต่ำ เพราะ บาลานซ์​ความต้องการ ของทั้ง2ฝั่งไม่ได้ จนไม่เคยได้รับเลือกอีกเลย

ผมเชื่อว่าพรรคมี Case Study ให้เรียนรู้พอสมควรว่าจะบริหาร และ ตระหนักถึงปัญหานี้ แบบไหน

แต่อนาคตก็ไม่แน่นอน ก็ถือเป็นเรื่องน่าคิดและท้าทายเหมือนที่ท่านตั้งครับ

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย FreezE[v] เมื่อ Mon Jun 19, 2023 00:40, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 00:51
[RE]ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
FreezE[v] พิมพ์ว่า:
ผมเคยเห็นผ่านๆช่วงที่มีการอบรม สส.ใหม่ ว่ามีการหยิบยก ประวัติทางการเมืองญี่ปุ่น ของ พรรค DJP ที่ทั้งรุ่งโรจน์จนตกต่ำ มาเป็น Case Study ในการอบรม สส.

ซึ่งบริบท ความรุ่งโรจน์ คล้าย ก้าวไกล สมควร ที่ชนะมาจากการรวมเสียงจากฐานทั้งสองฝั่ง เป็นทั้งความหวังการเมืองแบบใหม่ และมีความหลากหลาย ความต้องการ

จนเป็น 1 ในสาเหตุหลัก ของความตกต่ำ เพราะ บาลานซ์​ความต้องการ ของทั้ง2ฝั่งไม่ได้ จนไม่เคยได้รับเลือกอีกเลย

ผมเชื่อว่าพรรคมี Case Study ให้เรียนรู้พอสมควรว่าจะบริหาร และ ตระหนักถึงปัญหานี้ แบบไหน

แต่อนาคตก็ไม่แน่นอน ก็ถือเป็นเรื่องน่าคิดและท้าทายเหมือนที่ท่านตั้งครับ

 
เห็นด้วยครับ จริงๆพรรครู้อยู่แล้วแหละ และคงมีการวางแผนเตรียมการว่าฐานเสียงจะเป็นสองฝั่ง เพราะเขาสื่อสารเพื่อจับคนสองฝั่งตั้งแต่ต้น ที่ผมเขียนว่าเรื่องน้องหยกเป็นระฆังที่ดังก็เหมือนเป็นแค่เครื่องย้ำเตือน ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆให้พรรครับรู้ อย่างที่เห็นกว่าพรรคจะแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ก็เล่นซะหลายวันทีเดียว คงลำบากใจและเลือกวิธีสื่อสารอยู่ไม่น้อย

สำหรับเรื่องว่ามีการยกcase studyนั้นผมไม่เคยรู้มาก่อน ถือว่าดีมากครับที่ได้ยินว่าพรรคดเตรียมการรับมือไว้ แต่นั่นแหละ สถานการณ์ใหม่ๆมันเกิดขึ้นเสมอ ปัจจัยเล็กๆก็ล้วนเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่ๆได้ ไม่ใช่เพียงแต่การเมือง ในฐานะฐานเสียงคนนึงก็คาดหวังให้พรรคสามารถจัดการรับมือกับปัญหาพวกนั้นได้อย่างราบรื่นครับ

Edited: ผมว่าคุณทิมแกประเมินญี่ปุ่นไว้สูงมากนะ นี่แกเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย ซึ่งผมว่าน่าสนใจเลย เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศนึงที่contextซับซ้อนมาก อย่างเคยได้ยินว่าแอร์ไทยที่บริการคนญี่ปุ่น ต่อหน้าสุภาพมาก เหมือนพอใจในบริการ ลับหลังนี่คือด่ายับจริงๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
แก้ไขล่าสุดโดย st_barc เมื่อ Mon Jun 19, 2023 00:54, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2020
ตอบ: 8216
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 02:04
[RE: ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง]
ถ้าจากที่เห็นคุณช่อพูดในรายการถกถามก็รู้แล้วว่าพรรคถูกสร้างมาเพื่อคนทั้งสองฝ่าย และแน่นอนว่านอกจากจะต้องบริหารความต้องการของทั้งสองฝ่ายให้ลงตัวแล้ว ยังโดนโจมตีจากพรรคฝ่ายซ้ายและขวาด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามันทำได้ยากกว่าการที่พรรคเป็นซ้ายหรือขวาจัดไปเลยมันบริหารจัดการได้ง่ายกว่า (รึปล่าว) แต่ถ้าทำได้ยังไงพรรคก็มีแต่จะโตขึ้นเรื่อยๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 02:16
[RE]ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
wolftoeynight พิมพ์ว่า:
ถ้าจากที่เห็นคุณช่อพูดในรายการถกถามก็รู้แล้วว่าพรรคถูกสร้างมาเพื่อคนทั้งสองฝ่าย และแน่นอนว่านอกจากจะต้องบริหารความต้องการของทั้งสองฝ่ายให้ลงตัวแล้ว ยังโดนโจมตีจากพรรคฝ่ายซ้ายและขวาด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามันทำได้ยากกว่าการที่พรรคเป็นซ้ายหรือขวาจัดไปเลยมันบริหารจัดการได้ง่ายกว่า (รึปล่าว) แต่ถ้าทำได้ยังไงพรรคก็มีแต่จะโตขึ้นเรื่อยๆ  
ถูกต้องครับ ประเด็นคือสเปคตรัมทางการเมืองบ้านเรามันขยับซ้ายมากขึ้น พรรคก้าวไกลที่ถ้าเทียบกับอนาคตใหม่ๆตรงๆเลยดูเหมือนขยับมาทางขวามากขึ้น ทั้งที่จริงๆถือว่าซ้ายมากขึ้นซะด้วยซ้ำ เลยทำให้จับคนฟากทางขวามาได้ อย่างไรก็ดี มันเหมือนจะเรียบง่ายนะconceptually แต่ทำจริงผมว่ายากมาก ถ้ามันมีconflictใหญ่ๆที่บริหารจัดการไม่ดีสักครั้งจนเป็นแผลใจนะ เลือกตั้งรอบหน้าเพื่อไทยขยี้คืนแน่ๆ รอบนี้ขยี้เขาไว้เยอะซะด้วย555
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
แก้ไขล่าสุดโดย st_barc เมื่อ Mon Jun 19, 2023 02:17, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2319
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 19, 2023 02:17
ความท้าทายของพรรคก้าวไกลในเส้นทางการเมือง
st_barc พิมพ์ว่า:
FreezE[v] พิมพ์ว่า:
ผมเคยเห็นผ่านๆช่วงที่มีการอบรม สส.ใหม่ ว่ามีการหยิบยก ประวัติทางการเมืองญี่ปุ่น ของ พรรค DJP ที่ทั้งรุ่งโรจน์จนตกต่ำ มาเป็น Case Study ในการอบรม สส.

ซึ่งบริบท ความรุ่งโรจน์ คล้าย ก้าวไกล สมควร ที่ชนะมาจากการรวมเสียงจากฐานทั้งสองฝั่ง เป็นทั้งความหวังการเมืองแบบใหม่ และมีความหลากหลาย ความต้องการ

จนเป็น 1 ในสาเหตุหลัก ของความตกต่ำ เพราะ บาลานซ์​ความต้องการ ของทั้ง2ฝั่งไม่ได้ จนไม่เคยได้รับเลือกอีกเลย

ผมเชื่อว่าพรรคมี Case Study ให้เรียนรู้พอสมควรว่าจะบริหาร และ ตระหนักถึงปัญหานี้ แบบไหน

แต่อนาคตก็ไม่แน่นอน ก็ถือเป็นเรื่องน่าคิดและท้าทายเหมือนที่ท่านตั้งครับ

 
เห็นด้วยครับ จริงๆพรรครู้อยู่แล้วแหละ และคงมีการวางแผนเตรียมการว่าฐานเสียงจะเป็นสองฝั่ง เพราะเขาสื่อสารเพื่อจับคนสองฝั่งตั้งแต่ต้น ที่ผมเขียนว่าเรื่องน้องหยกเป็นระฆังที่ดังก็เหมือนเป็นแค่เครื่องย้ำเตือน ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆให้พรรครับรู้ อย่างที่เห็นกว่าพรรคจะแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ก็เล่นซะหลายวันทีเดียว คงลำบากใจและเลือกวิธีสื่อสารอยู่ไม่น้อย

สำหรับเรื่องว่ามีการยกcase studyนั้นผมไม่เคยรู้มาก่อน ถือว่าดีมากครับที่ได้ยินว่าพรรคดเตรียมการรับมือไว้ แต่นั่นแหละ สถานการณ์ใหม่ๆมันเกิดขึ้นเสมอ ปัจจัยเล็กๆก็ล้วนเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่ๆได้ ไม่ใช่เพียงแต่การเมือง ในฐานะฐานเสียงคนนึงก็คาดหวังให้พรรคสามารถจัดการรับมือกับปัญหาพวกนั้นได้อย่างราบรื่นครับ

Edited: ผมว่าคุณทิมแกประเมินญี่ปุ่นไว้สูงมากนะ นี่แกเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วย ซึ่งผมว่าน่าสนใจเลย เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศนึงที่contextซับซ้อนมาก อย่างเคยได้ยินว่าแอร์ไทยที่บริการคนญี่ปุ่น ต่อหน้าสุภาพมาก เหมือนพอใจในบริการ ลับหลังนี่คือด่ายับจริงๆ  

กว่าจะได้ชัยชนะมาว่ายากแล้ว แต่การรักษามันไว้ให้นานยิ่งยากกว่า แหละครับ

ผมเคยเขียนกระทู้ในนี้ไปครั้งนึงเดือน2เดือนก่อน ว่า การบริหารความต้องการยากจริงๆ

และไม่ได้แค่บริหารเสียงที่ได้มาอย่างเดียว แต่มันคือการบริหาร เสียงทั้งหมด60-70ล้านเสียง,ความต้องการ

คุณอยู่นิ่งๆ1วันเดี๋ยวปัญหาก็วิ่งมาหาเอง ฝ่ายนึงได้ประโยชน์ ก็ต้องมี อีกฝ่ายเสียประโยชน์

และปัจจุบัน มันเปราะบางที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีการตื่นรู้ทางการเมือง สมัยใหม่อย่างเข้มข้น และ มาจากคนGenใหม่

ที่ ความต้องการค่อนข้างรุนแรง เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรุ่นสู่รุ่น และห่างกันมาก ระหว่าง กลุ่ม ผบห ประเทศ กับ ฝ่ายเรียกร้อง มันเลยมีเคสแบบน้องมา และมันสุดขั้ว

รบ.ก่อนมันเลือกทิ้งความต้องการ ของ ฝั่งหนึ่งชัดเจน มันเลยบอกว่า บริหารประเทศง่าย

แต่ รบ.ที่ดีมันทำแบบนั้นไม่ได้

ส่วนญี่ปุ่น ผมว่ายังว่าความซับซ้อนไม่เท่าประเทศเราครับ 55

ของเค้า รัฐบาล กับ ประชาชน โดยตรงชัดเจน

แต่ของเรา มันหลายเลเยอร์มากๆ รัฐบาล ประชาชน ทหาร สถาบัน ราชการ มันรวมอยู่ในการเมืองหมด

ซับซ้อนกว่ากันเยอะ และมันกระทบกันหมดด้วย

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย FreezE[v] เมื่อ Mon Jun 19, 2023 02:25, ทั้งหมด 3 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel