เนื่องจาก วันที่ 6 มิถุนายน 1944 (เมื่อวาน) ครบรอบ 79 ปี ซึ่งเป็นวันที่ทหารกองกำลังสัมพันธมิตร 156,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารอเมริกัน อังกฤษ และแคนาดา ยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีเพื่อเริ่มปฏิบัติการปลดปล่อยประเทศที่ถูกนาซียึดครอง จึงเรียกว่าวันดีเดย์ (D-Day) ย่อมาจาก Deliverance Day ถือเป็นปฏิบัติการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เฉพาะวันแรกวันเดียวมีทหารล้มตายถึง 4,400 นาย

ยุทธการนี้ใช้เรือถึง 7,000 ลำ ลำเลียงกำลังพล 156,000 นาย และยานพาหนะ 10,000 คัน ไปยังหาดทั้ง 5 แห่งตามแนวชายฝั่งนอร์มังดี รวมถึงมีการสนับสนุนกองกำลังทางอากาศและทางเรือซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเอาชัยชนะมาได้

เนื่องด้วยโอกาสนี้ เลยอยากนำภาพในช่วงยกพลขึ้นบก วัน D-Day ที่ถูกนำเอามาทำเป็นภาพสีมาแชร์กันครับ

.



ซ้าย : เต๊นท์ที่อยู่ของทหาร ที่รอเตรียมพร้อมจะบุกในวัน D-day
ขวา : ทหารยศสิบโท ที่กำลังรวบรวมถังน้ำมัน สำหรับการบุกโจมตี ที่กำลังจะเกิดขึ้น
.




เหล่าทหารช่าง ที่กำลังกินข้าว บนกล่องที่บรรจุกระสุน
.




ทหารอเมริกันของกองพันที่ 7 กำลังฝึกฝน ณ ชายหาดของประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะใช้ในการบุก หาดโอมาฮา
.




ซ้าย : เหล่านักบินจากประเทศออสเตรเลีย กำลังศึกษาข้อมูลการโจมตีจากหัวหน้าบัญชา ณ RAF Base ทางใต้ของอังกฤษ
ขวา : ทหารอเมริกันกำลังบรรทุก รถ Jeep เข้าไปใน ยานพาหนะสำหรับการยกพลขึ้นบก
.




ภาพกองทหารอเมริกัน ขณะกำลังขึ้นยานพาหนะ ใน Weymouth , ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะบุกฝรั่งเศส
.




เหล่าทหารที่กำลังรอสัญญาน ในการยกพลขึ้นบกในปฎิบัติการ Overlord
.




เครื่องบินทิ้งระเบิด ที่กำลังจัดขบวนบนท้องฟ้า ในวัน D-Day
.




หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐ ( E Company ) อยู่บนยานพาหนะ เตรียมตัวที่จะยกพลขึ้นบก ที่หาดโอมาฮา
.




ภาพการยกพลขึ้นบก ณ หาดโอมาฮา ถ่ายโดย Robert F. Sargent ภาพถ่ายรูปนี้ถูกเรียกว่า "Into the Jaws of Death,” (เข้าไปสู่ปากแห่งความตาย)
.




ภาพเหล่าทหารที่บาดเจ็บหรือไม่ก็เสียชีวิต ณ หาดโอมาฮา
.




เครื่องบินของฝั่งสัมพันธมิตร ที่ถูกยิงตกบนกลางสนามรบ ในนอร์มังดี
.




ซ้าย : ทหารจากประเทศแคนาดา ที่กำลังเตรียมปืนครก ณ หาดจูโน่
ขวา : ทหารร้อยเอก Dale E. Elkins ที่กำลังใช้กล้องถ่าย เพื่อที่จะบันทึกการต่อสู้บนภาคพื้นดิน
.




ทหารสหรัฐฯ นำ ยานสะเทินน้ำสะเทินบกขึ้นฝั่ง (มีชื่อเรียกว่า "DUCK") หลังการบุกวัน D-Day
.




เหล่าทหารอเมริกัน ท่ามกลางเมื่องที่เสียหายอย่างหนัก จากการบุกในวัน D-Day
.




ปืนกลของเยอรมัน ที่ถูกทิ้งไว้บนด่านฟ้าของตึก
.




เหล่าทหารและยานพาหนะ กำลังเคลื่อนที่ผ่าน ซากของเมือง Saint-Lô ซึ่งเมืองนี้ถูกโจมตีอย่างหนัก โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด 2000 ลำ ที่พยายามจะโจมตีฐานที่มั่นของเยอรมัน
.




กลุ่มของทหารอเมริกันที่กำลังตรวจสอบ ซากของรถถัง
.




ประชาชนชาวฝรั่งเศสที่กำลังโบกมือต้อนรับ กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นอร์มังดี, ฝรั่งเศส
.



เหล่ารถทหารของอเมริกัน กำลังเคลื่อนพลผ่าน ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Elysees) ณ กรุงปารีส หนึ่งวันหลังจากที่ได้รับการปลดปล่อย จากกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรและฝรั่งเศส
.



ชาวฝรั่งเศส ลำเลียงงานศิลปะที่เป็นลายธงชาติของอังกฤษและอเมริกา เพื่อใช้สำหรับการเดินพาเหรด
.




ผู้คนชาวฝรั่งเศสและทหาร ท่ามกลางความปิติ หลังได้รับการปลดปล่อย ณ กรุงปารีส
.




ภาพประชาชนชาวฝรั่งเศส เดินบนถนน พร้อมชูป้าย " de gaulle au pouvoir "

.

ขอบคุณที่รับชมครับ ถ้าแปลติดขัดตรงไหนขออภัยครับ

CR.
https://www.buzzfeednews.com/article/gabrielsanchez/22-remarkable-color-pictures-from-the-battlefields-of-d-day
https://www.life.com/history/before-and-after-d-day-color-photos-from-england-and-france/

หนัง เซฟวิ่งไพรเวทไรอัน ทำเหมือนมาก

นึกว่าภาพไม่ออกเลยว่าต้องเสียเพื่อน เสียพ่อ เสียลูกไปกี่คน

สงครามคือปีศาจ

ทหารในเรือยกพลขึ้นบกแนวหน้านี่เดินทางสู่ความตายอย่างแท้จริง


ถ้าเป็นตัวผมเองตอนนั้นคงสติแตกระหว่างทางแหงๆ

ตัดภาพมาที่บางประเทศ

ในภาพ omaha beach ดูสงบกว่าในเซฟวิ่งที่ประตูเรือระบายพลเปิดก็ใส่ยับเลยย เอาจริงๆผมว่าภาพจะใช่ omaha beach จริงหรือเปล่าเพราะดูหาดไม่มี tank barricade ทั้งๆที่ตรงนั้นน่าจะมีเพราะเชอแมนขึ้นหาดไม่ได้ เลยสูญเสียหนักสุด

เพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เมื่อกี๊เลย

คือผมเนี่ยตอนนี้มาประชุมที่เนเธอแลนด์ แล้ววันเกิดผมพอดีคือ 06 มิ.ย. 1986 ผมก็เล่นมุข Number of the breast 666 Yhe Omen. แล้วก็วันเกิดซูกาโน ประธานาธบดีคนแรกของอินโดนีเซีย

เพื่อนร่วมงานผมอีกคนนึง เค้าเกิด 06 มิ.ย. เหมือนกัน พูดเสริมมาว่า วันที่ 06 June สำหรับคนยุโรป เป็นวันสำคัญอีกนัยนึงคือ เป็นวันยกพลขึ้นบกที่ นอมังดี

ซึ่งผมตามประวัติศาสตร์อยู่แล้ว แต่เพิ่งรู้ ว่าตรงกับ 06 June

หนังสปีลเบิกแกทำเหมือนจริงๆๆนะเนี่ย

ภาพอย่างขลัง

ผมขอแนะนำ ใครที่ยังไม่เคยดู Band of Brothers รีบไปหาดูนะครับ ซีรี่ย์คุณภาพ เก็บแทบทุกรายละเอียด ดูแล้วเหมือนโดนเกณฑ์ไปเป็นพลร่มกองร้อยอีซี่ด้วยเลยแบบไม่รู้ตัว

ได้ข้อคิดเรื่องผู้นำที่ดีจากผู้พันวินเทอร์เยอะมาก หลายอย่างเอามาปรับใช้ในชีวิตจริงก็ได้ครับ