ยูโรป้าคือศาสนา!! 'เซบีญ่า' ถึงฎีกาดับโทษ 'โรม่า' 4-1 แชมป์สมัย 7
เซบีญ่า สมกับเป็นเจ้าพ่อยูโรป้า ลีก ตามคำร่ำลือของแท้ โดนนำก่อนแต่เป็นฝ่ายตามตีเสมอ 1-1 ใน 90 นาที ไปลุ้นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น สุดท้ายต้องดวลจุดโทษแล้วก็เป็นฝ่ายเอาชนะ อาแอส โรม่า ไปได้ 4-1 คว้าแชมป์สมัยที่ 7 ไปครอง
เซบีญ่า
Starting Formation: 4-2-3-1
16.
เฆซุส นาบาส

95'
6.0
6.
เนมันย่า กูเดลจ์

120'
7.0
3.
อเล็กซ์ เตลเลส

94'
7.0
20.
แฟร์นานโด

120'
6.0
21.
โอลิเวอร์ ตอร์เรส

46'
6.0
25.
ไบรอัน กิล

46'
6.0
ตัวสำรอง
2.
กอนซาโล่ มอนเทียล

95'
6.0
4.
คาริม เรกิก

94'
6.0
23.
มาร์เกา

120'
5.0
8.
ฆออัน ฆอร์ดัน

120'
5.0
17.
เอริค ลาเมล่า

46'
6.0
7.
ซูโซ่

46'
7.5
ยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศ
สนาม ปุสกัส อารีน่า
พุธที่ 31 พฤษภาคม 2566
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ (อังกฤษ)
EX. เซบีญ่า
1
1
อาแอส โรม่า
เซบีญ่า เป็นฝ่ายเอาชนะการดวลจุดโทษด้วยสกอร์ 4-1
1-1 จานลูก้า มันชินี่ 55' (Og.)
เซบีญ่า อดใช้งาน มาร์กอส อคุนญ่า ที่ติดโทษแบน แต่ก็จะได้ เฆซุส นาบาส กัปตันทีม พ้นโทษแบนในลีกกลับมาเป็นตัวเลือกพอดี
สำหรับ อาแอส โรม่า ได้ข่าวดีเมื่อ เปาโล ดีบาล่า ดาวเตะคนสำคัญหายเจ็บพร้อมลงสนามอีกครั้ง แต่ในรายของ ริค คาร์สดอร์ป และ มาราช คุมบุลล่า ที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนแล้ว ยังไร้ชื่อเหมือนเดิม
ปะทะกันหนักตั้งแต่ต้นเกม
ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมตั้งแต่ต้นเกม จังหวะเตะมุมที่ อิบานเญซ โถมจะโหม่งแต่ชนกับ กูเดลจ์ ต้องปฐมพยาบาลสักครู่ แต่อาการไม่หนัก เล่นต่อได้ไม่มีปัญหา
สปินาซโซล่า ยิงติดเซฟ โบโน่ หวุดหวิด
โรม่า หาโอกาสยิงจะแจ้งเป็นครั้งแรก บอลเริ่มจาก ดีบาล่า คลายบอลให้ เชลิค จ่ายย้อนให้ สปินาซโซล่า ยิงไม่หนีมือ โบโน่ เซฟเอาไว้ได้
โอกาสยิงน้อยมากแต่ปะทะกันเยอะ
เล่นไปเล่นมาโอกาสยิงของทั้งสองทีมน้อยมาก ๆ จังหวะนี้ อับราฮัม พยายามใช้หัวเล่นบอลในเขตโทษ แต่ กูเดลจ์ เข้าถึงบอลก่อนนิดเดียวแล้วเตะทิ้งไว้ได้ ทำเอาหัวหอกโรม่านอนดิ้น แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
ดีบาล่า ยิงให้ โรม่า ออกนำ 1-0
โรม่า ครองบอลน้อยกว่า แต่ได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ จากจังหวะที่ เซบีญ่า ทำเสียบอลกลางสนาม มันชินี่ แทงบอลให้ ดีบาล่า ทันที ก่อนหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ยิงสวนตัว โบโน่ เข้าไป
แฟร์นานโด โหม่งข้ามคานน่าเสียดาย
เซบีญ่า เกือบได้ประตูตีเสมอ ราคิติช เปิดเตะมุมเข้าหัว แฟร์นานโด ยืนโล่งคนเดียว แต่บอลย้อนไปหน่อยเลยโหม่งข้ามคานแบบได้เสียวเลย
ราคิติช ซัดชนเสาสนั่น!
เซบีญ่า น่าได้ลูกตีเสมอแบบสุด ๆ ครั้งนี้ ปาทริซิโอ เซฟไม่ทัน แต่เสาช่วย โรม่า ไว้ เมื่อ นาบาส จ่ายให้ ราคิติช ยิงด้วยซ้ายชนเสาเต็ม ๆ
เตลเลส เติมมายิงข้ามคาน
เริ่มครึ่งหลังมา เซบีญ่า พยายามเปิดเกมบุกหวังเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ ลาเมล่า จ่ายให้ เตลเลส เติมมาซัดด้วยซ้ายข้างถนัดแต่ข้ามคาน
มันชินี่ สกัดเข้าประตูตัวเองให้ เซบีญ่า ตีเสมอ 1-1
เซบีญ่า ตามตีเสมอจนได้ ต้องชม นาบาส ที่หาจังหวะจนได้เปิด มันชินี่ พยายามสกัดแต่เข้าประตูตัวเอง
โรม่า ยิงสองสามจังหวะยังไม่เข้า
โรม่า เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จังหวะฟรีคิกที่ เปลเลกรินี่ เปิดเข้าเขตโทษ อับราฮัม ยิงจังหวะแรกติดเซฟ โบโน่ เหมือนจะรับเข้าซองได้ แต่ สมอลลิ่ง ไปแย่งจากมือ บอลเข้าทาง อิบานเญซ ยิงปลิ้นออกเอง
เซบีญ่า อดได้จุดโทษ VAR ไม่เห็นด้วย
เซบีญ่า อดได้จุดโทษลุ้นประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย อิบานเญซ ไปสะกิดขา โอคัมโปส ล้มลงในเขตโทษ ตอนแรก เทย์เลอร์ เป่าจุดโทษ ก่อน VAR ทักท้วง
โรม่า เล่นฟรีคิกเร็ว เบลอตติ ยิงหลุดนิดเดียว
จังหวะชิงเล่นฟรีคิกของ เปลเลกรินี่ ยกบอลให้กับ เบลอตติ ยิงหลุดเสาแรกน่าเสียดาย
เอ็น-เนซิรี่ โหม่งกดไม่ลง
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เซบีญ่า ได้ลุ้นประตูแซงนำ ซูโซ่ ครอสเข้าเขตโทษ เอ็น-เนซิรี่ กระโดดโหม่งแต่ข้ามคาน
ซาเลฟสกี้ ตัวสำรองยิงติดบล็อก
ซาเลฟสกี้ ตัวสำรองที่ลงมาในช่วงต่อเวลาพิเศษรับบอลจาก ไวจ์นัลดุม ก่อนยิงด้วยขวาติดบล็อกออกหลัง
กูเดลจ์ ยิงไกลหลุดกรอบเยอะ
เกมเริ่มเปิดแลก ครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ เซบีญ่า ได้ลุ้น กูเดลจ์ รับบอลจาก ซูโซ่ ก่อนยิงไกลแต่ออกไปเยอะ
สมอลลิ่ง โขกย้อย ๆ เช็ดคาน!
โรม่า เกือบได้เฮ จังหวะเตะมุมแล้ว สมอลลิ่ง โหม่งย้อย ๆ บอลเช็ดคาน ชนิดที่ โบโน่ หมดสิทธิ์แล้ว
จบช่วงต่อเวลาพิเศษยังคงไม่มีผู้ชนะจนต้องตัดสินที่การดวลจุดโทษ และเป็น เซบีญ่า ที่เอาชนะ อาแอส โรม่า ไปด้วยสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก สมัยที่ 7 ได้สำเร็จ
ลูกแรก
ลูคัส โอคัมโปส : O
ไบรอัน คริสตันเต้ : O
ลูกที่สอง
เอริค ลาเมล่า : O
จานลูก้า มันชินี่ : X
ลูกที่สาม
อิวาน ราคิติช : O
โรเจอร์ อิบานเญซ : X
ลูกที่สี่
กอนซาโล่ มอนเทียล : O
อาแอส โรม่า
Starting Formation: 3-4-2-1
19.
เซกี้ เชลิค

91'
6.0
8.
เนมันย่า มาติช

120'
6.0
37.
เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า

106'
6.5
7.
ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่

106'
6.5
21.
เปาโล ดีบาล่า

68'
7.0
9.
แทมมี่ อับราฮัม

75'
6.0
ตัวสำรอง
14.
ดิเอโก้ ญอเรนเต้

106'
5.5
25.
จอร์จินิโอ ไวนัลจ์ดุม

68'
5.5
52.
เอโดอาร์โด้ โบเว่

120'
5.0
11.
อันเดรีย เบลอตติ

75'
6.0
59.
นิโคล่า ซาเลฟสกี้

91'
6.0
92.
สเตฟาน เอล ชาราวี่

106'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย Asarinho10 เมื่อ Thu Jun 01, 2023 05:44, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ