Daily Mail สื่อจอมแฉ รายงาน เมสัน กรีนวู้ด แนวรุกจอมฉาว ได้รับแจ้งจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเขาจะยังไม่ได้กลับมาซ้อมกับทีมในฤดูกาลนี้ และจะทำแบบนั้นได้เร็วสุดคือซีซั่นหน้า

ถึงแม้ กรีนวู้ด จะพ้นคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายแฟนสาวไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนก่อน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด แถลงขอสอบสวนภายในเพิ่มเติม พร้อมยืนยันคำสั่งพักงานแข้งวัย 21 ปีต่อไป

ตลอดหลายสัปดาห์หลัง กรีนวู้ด เข้าพูดคุยกับทีมงานของ ยูไนเต็ด อย่างเข้มข้นเป็นจำนวนหลายครั้ง โดยทางนักเตะ แสดงความต้องการที่จะหวนคืนวงการฟุตบอลให้เร็วที่สุด พร้อมยืนยันความจงรักภักดีต่อสโมสร

ล่าสุดสำนักข่าวอังกฤษ อัพเดทความคืบหน้า คาดว่าเป็นไปได้ยากที่การสอบสวนภายในจะเสร็จสิ้นก่อนช่วงซัมเมอร์ และทาง "ปีศาจแดง" ได้แจ้งข่าวร้ายกับตัว กรีนวู้ด เรียบร้อยแล้ว

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญเรื่องยุ่งยากซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งจริยธรรม, ความเป็นมนุษย์, การเงินและธุรกิจเกี่ยวกับกรณี กรีนวู้ด

ภายในสโมสร มีการยอมรับว่าการตัดสินใจเรื่องฉาวนี้ อาจกระทบต่อผลงานในสนามช่วงที่เหลือของซีซั่น ซึ่งทีมของ เอริค เทน ฮาก กำลังอยู่ในตำแหน่งไป แชมป์เปี้ยนส์ ลีก และคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ ยูโรป้า ลีก

ขณะเดียวกัน มีสตาฟฟ์โค้ชที่ทำงานด้านฟุตบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่า กรีนวู้ด ควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง แต่ผู้บริหารซึ่งรับผิดชอบด้านการค้า เห็นต่างด้วยความกังวลเรื่องภาพลักษณ์สโมสร

เทน ฮาก หลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงเรื่องนี้ออกสื่อ โดนยืนยันว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับสโมสร ถึงแม้ว่ากุนซือชาวดัทช์จะได้เข้าพูดคุยกับ กรีนวู้ด เป็นการส่วนตัวแล้วก็ตาม

ดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงรับค่าเหนื่อยจำนวน 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง ตามสัญญาที่เหลือถึงปี 2025

ยอมใจทีมนี้จริงๆ ขนาดทีมขาดแคลนปีกขวาอย่างหนักนะเนี่ย แต่ก็เข้าใจแหละภาพลักษณ์ของสโมสรสำคัญกว่า

อดทนครับ เมื่อถึงเวลาน้องจะได้กลับมาเอง

The United Stand ทำโพลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน คนโหวตเกินครึ่งแสน ออกมาราว 50/50

ส่วนตัวคิดว่าอยู่ๆจะให้กลับเข้าสู่ทีมทันทีคงยากมากๆ ถึงแม้ว่าการสอบสวนภายในจะเสร็จสิ้น แล้วสุดท้ายสโมสรให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง แต่การต่อต้านจะเกิดขึ้น ไม่นับคู่แข่ง แฟนบอลยูไนเต็ดเองโดยเฉพาะพวกโลคอลคงมีมาตรการต่อต้านอย่างหนัก พวกสื่อยิ่งไม่ต้องพูดถึง นักข่าวสายยูไนเต็ดหลายคนประกาศต่อต้านมาตั้งแต่มีข่าวพ้นผิด ไหนจะองค์กรต่างๆอีก แล้วถ้าเกิดสปอนเซอร์ถอนตัวนี่ก็เรื่องใหญ่บานปลาย

update



ตอนนี้จะแสนครึ่งละ YES/NO 50.5/49.5

นักเตะคนเดียวกับกระแสที่ตามมา ยังไงก็ไม่คุ้มหรอก

ทำไมไอ้ 7 ยังไม่มา ข่าวเเมนยูนะเว้ย

ง่ายๆ โอกาสที่ 2

และจบที่ตรงนี้ ไม่มี 3

แต่มันยากตรงที่เมียไม่ออกมาพูดไรเลย การให้อภัย มันไม่เคลียร์

คุณจะไปแทงตามช่องที่กองหลังปิดหมดแล้วได้ไง

ัมันต้องหาช่องอื่น ประตูมันเกิดได้หมดแหละ

กรณีนี้ยังไงๆก็เสียงแตก

เพราะมันเป็นเรื่องที่”มากกว่าฟุตบอล”ไปแล้ว ถ้ามองในมุมฟุตบอล ยังไงกรีนวู้ดก็ควรจะกลับมาได้ แต่ถ้ามองในเชิงองค์กร กรีนวู้ดไม่โดนเชิญออกก็ดีแค่ไหนแล้ว เพราะทำความเสื่อมเสียให้กับตัวเองและองค์กรแบบนี้

ผมเคยเขียนแล้วว่าแฟนบอลแดนไกลแบบเราๆ อาจจะไม่ได้เห็นอิมแพคมากเท่ากับโลค่อลที่นู่น เพราะมันเป็นเรื่องภาพลักษณ์องค์กร นโยบาย รวมถึง value ขององค์กรหรือจะเรียกว่าสถาบันนึงเลยก็ได้ ที่คนที่นู่นเค้าใกล้ชิดกว่าและสัมผัสได้มากกว่าเราๆ

ส่วนตัวแล้ว ผมแสดงจุดยืนค่อนข้างชัดกับเรื่องนี้ไปนานแล้ว และก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ต่อให้น้องมันพ้นผิดมา ผมก็ไม่คิดว่าเค้าควรจะกลับเข้ามาสู่ทีมด้วยเหตผลที่มันใหญ่กว่าแค่เรื่องฟุตบอล… ความน่าเชื่อถือขององค์กร จุดยืนขององค์กร ฯลฯ ซึ่งภาพพวกนี้มันปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์แบบ แมนยู คือ global brand ไปแล้ว และเคสแบบนี้มันก็ทำร้ายและทำลาย core values ขององค์กรๆนึงเช่นกัน

แมนยูไม่ผิดที่ถ้าจะเอาเค้ากลับมา แต่มุมมองที่ผมมีต่อแบรนด์แบบแมนยู จะไม่เหมือนเดิมแน่นอน

อ่านๆแล้วเหมือนกลับมายากยังไงไม่รู้ เหมือนโดนคานด้วยคนที่ไม่เอา

ภาพลักษณ์องค์กรไม่ใช้สร้างกันง่ายๆๆนะครับ ถ้าสโมสรไม่ทำให้โปร่งใส แล้ว คิดดีๆๆผลที่ตามมา จะมีผลกระทบมากกว่าผลงานในสนาม

ได้ยินว่านักเตะทีมหญิงก็ไม่โอเคมากๆ ด้วยครับ กระแสต่อต้านค่อนข้างแรง

ถ้าให้โอกาสตอนนี้ รับรองว่าหุ้นตกฮวบแน่นอน ผมโคตรชอบฝีเท้าน้องมันเลย เสียดายมากด้วย แต่สิ่งที่ตามมาไม่คุ้มแน่ๆ กับนักเตะดาวรุ่งคนนึง

ก็ขนาดสังคมเรา คนที่ทำร้ายผู้หญิง คนแก่ ยังไม่ยอมรับเลย ไม่แปลกที่ต่างประเทศเขาจะกระแสแรงกว่า

อีกอย่างทัศนะคติการกระทำที่ผ่านมาทำให้คนยี้กัน เป็นดาวรุ่งแต่ทัศนะคติไม่ผ่านจุดจบเส้นผ่านนักเตะมีให้เห็นเยอะมาก
นักเตะประสบการณ์ถึงบอก คุณต้องมีความถ่อมตน เคารพผู้อื่นและเป็นมืออาชีพในสิ่งที่ตนทำ

คือเราต้องไม่ลืมว่าแมนยูอะมันเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ๆ เพราะงั้นมันต้องคิดให้เยอะ ๆ

คืออย่าลืมว่าถ้าแมนยูไปเยือนทีมไหนแล้วเจอขึ้นป้าย ไอ้ตัวทำร้ายผู้หญิง ภาพลักษณ์ก็จบแล้ว

เอาง่าย ๆ Nike ยังโดดหหนีก่อนเลยเพราะเขาไม่อยากให้ภาพลักษณ์ที่เขาทำมันเสียหายมันไม่คุ้ม

มันไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า มันน่าจะมีการข่มขืนจริง ทำร้ายจริง แต่ภายหลังเขาตกลงกันได้ เคลียร์ใจกันได้ เลยถอนฟ้อง

แต่สิ่งที่ทำไป มันเป็นสิ่งที่สังคมฝรั่งเขารับไม่ได้

ไม่แปลกใจที่นักเตะหญิงเขาไม่ยอม

รอลูกคลอดก่อนก็ได้นะ ไปทำหน้าที่พ่อให้ดีก่อน
เผื่อตอนนั้นสังคมอาจจะเห็นใจและอยากให้โอกาสมากขึ้น