BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2022
ตอบ: 725
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 00:55
พระพุทธเจ้าบอกว่า....
ผมขออนุญาติถามเบบโง่ๆนะครับ ผมอาจจะศึกษามาไม่เยอะ
เค้าพูดจริงๆหรอครับ เเล้วพูดในหลายๆสถานการณ์ขนาดนี้จริงๆหรอครับ จำมานี่ไม่ผิดซักคำเลยหรอ ต่างคนต่างบอกว่าท่านพูดเเบบนี้เเบบนั้น เราพิสูจน์เรื่องนี้ยังไงครับ

ปล.ยังไม่รวมเรื่องรอยพระบาท ที่ผมสงสัยมากว่าเค้ามาตอนไหนครับ
2
1
หากโดน 39 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 42036
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:23
Top Comment [RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
สำหรับคนที่อ้างว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..." ผมว่ามันผิดตั้งแต่เริ่มละนะ..

ก็ในเมื่อ 1 ในคำสอนของศาสนาคือ "กาลามสูตร" (ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ )

ซึ่งก็มีบอกอยู่ว่า "อย่าเชื่อด้วยการฟังตามๆ กันมา", "อย่าเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา", "อย่าเชื่อเพราะคิดว่าผู้พูดควรเชื่อได้"

แต่บางคนกลับเอาคำว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..."เป็นตัวตั้ง นี่มันย้อนแย้งตั้งแต่เริ่มพูดเลยนะ

ดังนั้น สำหรับผมไม่เห็นต้องไปสนเลยว่า พระพุทธเจ้าพูดไว้จริงมั๊ย..ความจริงไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงๆมั๊ย

เอาแค่หลักธรรมคำสอน (สำหรับผมมันก็คือปรัชญาอย่างนึง) มาวิเคราะห์ และพิจารณาเอาเอง ว่าอะไรควรทำตาม แค่นั้นเองฮะ

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6252
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 03:39
Top Comment [RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]

คำสอนของแต่ละศาสดาน่ะดีครับ

ถ้าตัดเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่คนรุ่นต่อมาสร้างขึ้น

ให้คำสอนต่างๆไปอยู่ในโหมดจิตวิทยา ผมว่าคำสอนเหล่านั้นใช้ได้อยู่นะครับ

ในยุคพุทธกาลคำสอนต่างๆของพระพุทธเจ้าที่พูดสอนคน ไม่ได้มีการจดบันทึกทันที

ตามประวัติศาสตร์(เน้นว่าประวัติศาสตร์) พระอานนท์ เป็นคนที่จำได้มากที่สุด เพราะใกล้ชิดพระพุทธเจ้าตลอดเวลา


ส่วนในศาสนาศริสต์ก็เช่นกัน เยซูหนุ่มเป็นนักเทศน์สอนคน ตอนสอนก็ไม่มีการจดบันทึก

แต่มีอัครศานุศิษย์ 12 คน ที่คอยเผยแพร่คำสอน และมี พอล อีกคนที่ไม่ได้รวมใน 12 คนแรก ที่คอยแพร่คำสอน

ในพุทธมีการสักคายนาคำสอยพระพุทธหลายครั้งหลังยุคพุทธกาล

ส่วนในคริสต์มีการเขียนไบเบิ้ลหลายครั้งหลายแบบกว่าจะมาเป็นไบเบิ้ลแบบในปัจจุบัน
(หนังสือไบเบิ้ลเป็นหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในโลกตลอดกาล)



ส่วนในจีน คำสอนของขงจื่อ ก็เหล่าศิษย์ของขงจื่อได้จดรวบรวบไว้ คำสอนของขงจื่อนั้นทันสมัยที่สุดเพราะ

ไม่มีการใส่เรื่องปาฏิหาริย์ เรื่องเหนือธรรมชาติเข้าไป คนเอเชียตะวันออกเลยเอามาเป็ฯหลักในการใช้ชีวิตจนถึงปัจจุบัน


คำสอนของ พระเยซู พระพุทธ ขงจื่อ หรือแม้แต่โสคราตีส นั้น เป็น ปรัชญาครับ อยู่ที่ใครอ่านแล้วทำความเข้าใจได้ขนาดไหน

พระพุทธ ขงจื่อ และ โสคราตีส มีชีวิตอยู่ในไทม์ไลน์ใกล้เคียงกันคือราวๆ 2,500 ปีที่แล้ว

ส่วนพระเยซูนั้นหลังมาหน่อยราวๆ 500 กว่าปีหลังจากนั้น

ส่วนศาสดาโมฮัมหมัดหลังจากพระเยูซูราวๆ 600 ปี

ส่วนศาสนาซิกข์เป็นศาสนาใหม่เกิดหลังศาสนาคริสต์ราวๆ 1,500 ปี หรือพึ่งจะมี 500 กว่าปีที่แล้ว


ผมชอบศึกษาศาสนานะ ชอบอ่านทุกศาสนาที่มีโอกาสเลย แต่ผมชอบอ่านในเชิงปรัชญามากกว่าเรื่องปาฏิหาริย์


ผมไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ผมไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด(เชื่อว่าตายแล้วคือจบไม่มีโลกหน้า ไม่มีเกิดใหม่)

สิ่งที่ผมไม่เชื่อนั้นขัดหลักของแทบทุกศาสนาเลย 55555+

แต่ผมเชื่อในหลายๆคำสอนของหลายๆศาสดา คือเลือกที่จะเชื่อ

เช่น ผมเชื่อในหลักใหญ่ของพุทธและขงจื่อ คือ "ความกตัญญู" ไม่แค่กับพ่อแม่ แต่ใครช่วยเหลือผม มีโอกาสผมตอบแทนแน่นอน

ส่วนศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่ให้ความรักและการให้อภัย และหลักใหญ่ที่สุดของศริสต์คือ "การอ่อนน้อมถ่อมตน" เฮ้ยผมว่าดีนะ

พระเยซูบอกว่า

"จงรักศัตรูท่าน เพราะศัตรูท่านบอกความผิดของท่านได้" อันนี้จริง มิตรของเรานั้นไม่ค่อยมองเราว่ามีความผิดความชั่วตรงไหน

"ทำไมท่านมองเห็นฝุ่นผงในตาคนอื่น แต่ท่านมองไม่เห็นท่อนไม้ในตาท่าน" อืม ความผิดความชั่วคนอื่นเห็นชัด แต่ของตัวเองมองไม่เห็น

คำสอนพวกนี้เป็นปรัชญา จิตวิทยา เอามาอะแด๊บใช้ในชีวิตได้ดีเลยล่ะ


ของพุทธนั้น สั้นๆเลยนะ เป็นศาสนาแห่ง "ความสุข" การแสวงหาความสุขที่แท้จริง ตัดทุกข์ของจากจิตใจ

เช่นคำสอนที่ว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" อันนี้โคตรจริง เวลาเรารักใคร มันจะมีทั้ง ห่วง คิดถึง หึงหวง ซึ่งเป็นทุกข์ทั้งนั้น

พุทธเลยให้เราตัดกิเลสออกเพื่อจะได้ไม่เป็นทุกข์ (กิเลสตัวการสำคัญของความทุกข์ ไม่มีกิเลสไม่มีทุกข์)


ศาสนาอิสลามและซิกข์เป็นศาสนาแห่งสันติ ศาสดาสอนให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
(เพราะสองศาสนานี้เกิดมาในช่วงมีความขัดแย้งรุนแรง มีสงคราม)



ศาสนาพุทธในไทย ผมว่าค่อนข้างจะเพี้ยน ผิดหลักการของพระพุทธไปเยอะ

อย่างแรก พระพุทธไม่เห็นด้วยกับศาสนาฮินดู(เลยก่อตั้งศาสนาใหม่ไง เพราะศาสนาตามเกิดมันไม่นำพาสู่ความสุขที่แท้จริง)

แต่พุทธในบ้านเรามีการผสมพราหมณ์(ฮินดู)เข้าไปด้วย เช่นลายในวัดเป็นรามเกียรติ์ ที่เป็นเรื่องราวความเชื่อของเหล่าพระเจ้าต่างๆในฮินดูเป็นต้น

และที่สำคัญ วัดวาอารามในบ้านเราหรูหราสุดๆ ทั้งๆที่พระพุทธหรือสานุศิษย์สมัยนั้นไม่เคยสร้างวัดใหญ่ๆเลย

มีแต่เทวทัตที่สร้างวัดใหญ่โต แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ผมเลยมองว่าพระในบ้านเราเป็นสาวกพระพุทธหรือสาวกเทวทัตกันแน่



ผมชอบอิสลามในเรื่องไม่ให้สร้างสิ่งสมมุติมากราบไหว้บูชา ไม่มีรูปปั้นพระเจ้า รูปปั้นศาสดา ไม่มีรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น

ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันมาจากศาสนายูดาห์ของชาวยิวที่ไม่มีรูปเคารพ

แล้วทั้งพุทธและคริสต์แรกๆก็เป็นเช่นนี้ เช่นกัน

ตอนมีศาสนดาใหม่ๆทั้งพุทธและคริสต์ไม่มีหรอก พวกรูปบูชา มามีหลังจากศาสดาตายไปหลายร้อยปี



ยุคพุทธกาลไม่มีพระพุทธรูป ไม่มีการกราบไหว้รูปบูชา มามีหลังจากนั้น 300 กว่าปี ในยุคอโศกมหาราช

ที่อโศกเป็นกษัตริย์ของนับถือฮินดูมาก่อนพุทธ พอมานับถือพุทธเลยเอาการปั้นรูปบูชาของฮินดูมาใช้

ปั้นพระพุทธรูปเป็นรูปบูชาแบบที่ฮินดูทำ รูปปั้นพระพุทธแรกๆนั้นเป็นแนวทางของกรีกที่เผยแพร่มาตอนอเล็กซานเดอร์บุกมาถึงอินเดีย

พระพุทธรูปยุคแรกๆเลยหน้าเหมือนเทพอพอลโล่ของกรีก



ส่วนของคริสต์ยุคแรกๆก็ไม่มีรูปปั้นพระเยซูบนไม้กางเขน ไม่มีรูปปั้นพระแม่มารีย์ ไม่มีรูปปั้นพระกุมาร

แต่มีหลังจากยุคพระเยซูราวๆ 300 กว่า เพราะ คอนสแตนตินมหาราชที่เป็นจักรพรรดิของโรมัน หันมานับถือคริสต์

เลยเอาการปั้นรูปเคารพตามแบบของศาสนาเดิมของชาวโรมันที่นับถือเทพเจ้าต่างๆ

เห็นมั้ย ทั้งพุทธและคริสต์ที่มีรูปเคารพล้วนมาจากอิทธิพลจากศาสนาอืื่นที่เป็นศาสนาเดิม



ที่ร่ายยาวๆมาเนี่ยอยากแค่บอกว่า ระยะเวลามันยาวนานกว่าสองพันปี แต่ละศาสนาก็มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ผิดเพี้ยนไปจากเดิม

มีการแตกเป็นนิกายต่างๆ ที่แตกนิกายเพราะคนรุ่นหลังมีแนวทางใหม่ๆ เลยแตกเป็นนิกายต่างๆ
(ยกตัวอย่างพุทธในไทยเป็นพุทธเดียวที่พระโกนคิ้ว แต่เพื่อนบ้านบางประเทศก็ทำตาม)

แต่หลักของคำสอนแต่ละศาสนายังคงอยู่ คำสอนต่างๆของแต่ละศาสดาล้วนบันทึกมารุ่นสู่รุ่น มีการเพื่อมเติมเสริมแต่งในเรื่องปลีกย่อยบางและหลักการสำคัญยังคงอยู่



ปู่ย่าผมเป็น คริสต์(คาธอลิค) พ่อแม่ผมเป็นพุทธ ส่วนผม ก็ทั้งพุทธทั้งคริสต์ล่ะ แต่เน้นเรื่องคำสอนดีๆไม่เน้นพิธีกรรมอะไรทั้งนั้น

ผมไปวัดไม่ยกมือไหว้หรือก้มลงไปกราบรูปบูชาเพราะคำสอนพระพุทธอยู่ในใจ ไม่ใช่ให้ยึดติดกับวัตถุ


ทั้งพุทธและคริสต์เลยมีนิกายใหม่ไง นิกายที่ตัดเรืองพิธีกรรมออกให้หมด ไม่มีรูปบูชา เน้นแค่เรื่องคำสอนเป็นหลัก

ของคริสต์ก็เป็นนิกายโปรเตสแตนต่างๆในสหรัฐ ของพุทธในไทยก็เห็นกลุ่มพุทธวัจนะ ที่เน้นแค่คำสอนเท่านั้น


เรื่องศาสนาเป็นความเชื่อแต่แต่ละบุคคล จะมาบังคับให้เชื่อหรือบังคับให้ไม่เชื่อกันไม่ได้จริงๆ อยู่ที่มุมมองของแต่ละบุคคลจริงๆ



แก้ไขล่าสุดโดย PLATOON เมื่อ Wed Mar 22, 2023 03:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Dec 2021
ตอบ: 4666
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:02
[RE]พระพุทธเจ้าบอกว่า....
เอาที่รู้แบบลวกๆเรื่องรอยพระพุทธบาท คือไม่ได้มาจริงๆครับ เหมือนทำเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าพระพุทธศาสนาได้ผ่านมายังดินแดนนี้แล้วมากกว่า
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: ื❤️Niya❀janrybnk48❀❤️my january & Niya.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 14208
ที่อยู่: อยู่ในใจ Niya
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:03
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
พุทธวจนะจริงๆแล้วไม่มีใครรู้พิสูจน์ไม่ได้ สมัยพุทธกาลเราก็ไม่รู้อีกว่ามีการเขียนรึยังถ้ายังไม่มีการเขียนแล้วพุทธวจนะมายังไง? ถ้าบอกว่าก็ถ่ายทอดปาก-ต่อปากอย่าว่าแต่เวลาหลายร้อยปีเลยแค่5-10ปีก็เพี้ยนแล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เสาหลักเจ้าหญิง NIYA BNK48
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Jul 2006
ตอบ: 1321
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:05
[RE]พระพุทธเจ้าบอกว่า....
มาจากการจดบันทึก และการสังคายนาพระไตรปิฏก ที่ทำการรวบรวมคำพูด เหตุการณ์ คำสอน จากปากของศิษย์ต่างๆ ในสมัยนั้นบอกกันมา

และมันเชื่อได้ 100% มั้ย….อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล ส่วนตัวผมเองก็ ไม่เชื่อว่ามันถูกต้องทั้งหมดครับ มันมีเสริมเติมแต่งกันได้เสมอ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: แค่เธอยักคิ้ว…ต้นงิ้วก็แค่สไลเดอร์ !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 15482
ที่อยู่: Japan
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:06
[RE]พระพุทธเจ้าบอกว่า....
ผมล่ะอยากให้โคลนท่านขึ้นมาใหม่จริงๆ จะได้ปรับเปลี่ยนกฎอะไรหลายๆอย่างด้วย นี่ใช้มาตั้ง2000กว่าปีแล้วเนี่ย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Apr 2021
ตอบ: 3293
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:08
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
ส่วนตัวเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
2
2
หากโดน 38 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2022
ตอบ: 725
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:09
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
Operation Meetinghouse พิมพ์ว่า:
พุทธวจนะจริงๆแล้วไม่มีใครรู้พิสูจน์ไม่ได้ สมัยพุทธกาลเราก็ไม่รู้อีกว่ามีการเขียนรึยังถ้ายังไม่มีการเขียนแล้วพุทธวจนะมายังไง? ถ้าบอกว่าก็ถ่ายทอดปาก-ต่อปากอย่าว่าแต่เวลาหลายร้อยปีเลยแค่5-10ปีก็เพี้ยนแล้ว  


ทุกวันนี้ตัวผมเอง คนที่ผมชื่นชอบฟังยูทูปบ่อยๆ พอเค้าอ้างว่า พระพุทธเจ้าเคยบอกเเบบนี้เเบบนั้นผม นี่เเบบ คุณเชื่อได้ไง
มันมีจริงๆหรอ ที่เคยชอบๆนี่ลบเลย ผมอาจคิดมากไป5555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Jun 2010
ตอบ: 8638
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:11
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
ธรรมะที่เป็นหลักใหญ่ใจความ ผิดเพี้ยนยาก เพราะต้องมีความความเข้าใจ ปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง อริยสัจ 4 มรรค 8 องค์ฌานสมาธิ หลักธรรมสายปฏิบัติ ไม่เพี้ยน

ส่วนที่จะเพี้ยนอาจเป็นสายพระสูตร เรื่องราว อรรถาธิบาย อาจโดนแต่งเติมโดยฝ่ายการเมือง กษัตริย์ วัฒนธรรมประเทศนั้นๆ แต่ก็เพี้ยนน้อย ปรับแต่งเสริมเพื่อเอามาใช้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

จักรวาลกว้างใหญ่แค่ไหน หากเราอยู่เพียงลำพัง
มันก็เวิ้งว้างว่างเปล่า โดดเดี่ยวเดียวดาย
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Oct 2010
ตอบ: 8321
ที่อยู่: จำไม่ได้
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:23
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
มันต้องมีผิด มีเพี้ยนจากสมัยพุทธกาลอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องรอยพระพุทธบาท คิดว่าเป็นฝีมือมนุษย์ทำขึ้นเองมากกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ปูเป้ แก้ว ตาหวาน รตา แพนด้า มัยร่า เฟม แพมแพม ป๊อปเปอร์ เหมย แองเจิล คปิ๊ง
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 42036
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:23
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
สำหรับคนที่อ้างว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..." ผมว่ามันผิดตั้งแต่เริ่มละนะ..

ก็ในเมื่อ 1 ในคำสอนของศาสนาคือ "กาลามสูตร" (ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ )

ซึ่งก็มีบอกอยู่ว่า "อย่าเชื่อด้วยการฟังตามๆ กันมา", "อย่าเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา", "อย่าเชื่อเพราะคิดว่าผู้พูดควรเชื่อได้"

แต่บางคนกลับเอาคำว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..."เป็นตัวตั้ง นี่มันย้อนแย้งตั้งแต่เริ่มพูดเลยนะ

ดังนั้น สำหรับผมไม่เห็นต้องไปสนเลยว่า พระพุทธเจ้าพูดไว้จริงมั๊ย..ความจริงไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงๆมั๊ย

เอาแค่หลักธรรมคำสอน (สำหรับผมมันก็คือปรัชญาอย่างนึง) มาวิเคราะห์ และพิจารณาเอาเอง ว่าอะไรควรทำตาม แค่นั้นเองฮะ

ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2022
ตอบ: 725
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:45
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
สำหรับคนที่อ้างว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..." ผมว่ามันผิดตั้งแต่เริ่มละนะ..

ก็ในเมื่อ 1 ในคำสอนของศาสนาคือ "กาลามสูตร" (ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ )

ซึ่งก็มีบอกอยู่ว่า "อย่าเชื่อด้วยการฟังตามๆ กันมา", "อย่าเชื่อโดยอ้างคัมภีร์หรือตำรา", "อย่าเชื่อเพราะคิดว่าผู้พูดควรเชื่อได้"

แต่บางคนกลับเอาคำว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า..."เป็นตัวตั้ง นี่มันย้อนแย้งตั้งแต่เริ่มพูดเลยนะ

ดังนั้น สำหรับผมไม่เห็นต้องไปสนเลยว่า พระพุทธเจ้าพูดไว้จริงมั๊ย..ความจริงไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงๆมั๊ย

เอาแค่หลักธรรมคำสอน (สำหรับผมมันก็คือปรัชญาอย่างนึง) มาวิเคราะห์ และพิจารณาเอาเอง ว่าอะไรควรทำตาม แค่นั้นเองฮะ

 


ขอบคุณมากๆครับ ได้ประโยชน์มากๆครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชุดใหญ่
Status: たぶん
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 6365
ที่อยู่: soccercirclejerk
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:47
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
แนะนำให้ฟังช่องนี้ครับ เพลินๆ ดีเกี่ยวกับ พระพุทธเจ้า

แก้ไขล่าสุดโดย Schwarzenegger เมื่อ Wed Mar 22, 2023 10:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Nov 2010
ตอบ: 1319
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 01:48
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]
ผมไม่ได้สสนใจเรื่องนั้นเลยอ่ะ เพราะผมดันคิดว่า คำสอนที่ดีมีประโยชน์ถ้าศิษย์จะอุปโลกแล้วแอบอ้างขึ้นมาก็น่าเชื่่อถือ หรือพูดออกมาจากปากจริงๆแล้วไม่ดีหรือผ่านกาลเวลาไปแล้วใช้ไม่ได้แล้วก็ไม่ควรจะเชื่อเช่นกัน

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดี100%หรอก บางสิ่งก็ดีแค่สำหรับบางคน ผมเลยคิดว่า เรื่องนี้ดียังไง สำคัญมากกว่า เรื่องนี้มาจากใครอ่ะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
You'll never walk alone

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6252
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 03:39
[RE: พระพุทธเจ้าบอกว่า....]

คำสอนของแต่ละศาสดาน่ะดีครับ

ถ้าตัดเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่คนรุ่นต่อมาสร้างขึ้น

ให้คำสอนต่างๆไปอยู่ในโหมดจิตวิทยา ผมว่าคำสอนเหล่านั้นใช้ได้อยู่นะครับ

ในยุคพุทธกาลคำสอนต่างๆของพระพุทธเจ้าที่พูดสอนคน ไม่ได้มีการจดบันทึกทันที

ตามประวัติศาสตร์(เน้นว่าประวัติศาสตร์) พระอานนท์ เป็นคนที่จำได้มากที่สุด เพราะใกล้ชิดพระพุทธเจ้าตลอดเวลา


ส่วนในศาสนาศริสต์ก็เช่นกัน เยซูหนุ่มเป็นนักเทศน์สอนคน ตอนสอนก็ไม่มีการจดบันทึก

แต่มีอัครศานุศิษย์ 12 คน ที่คอยเผยแพร่คำสอน และมี พอล อีกคนที่ไม่ได้รวมใน 12 คนแรก ที่คอยแพร่คำสอน

ในพุทธมีการสักคายนาคำสอยพระพุทธหลายครั้งหลังยุคพุทธกาล

ส่วนในคริสต์มีการเขียนไบเบิ้ลหลายครั้งหลายแบบกว่าจะมาเป็นไบเบิ้ลแบบในปัจจุบัน
(หนังสือไบเบิ้ลเป็นหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในโลกตลอดกาล)



ส่วนในจีน คำสอนของขงจื่อ ก็เหล่าศิษย์ของขงจื่อได้จดรวบรวบไว้ คำสอนของขงจื่อนั้นทันสมัยที่สุดเพราะ

ไม่มีการใส่เรื่องปาฏิหาริย์ เรื่องเหนือธรรมชาติเข้าไป คนเอเชียตะวันออกเลยเอามาเป็ฯหลักในการใช้ชีวิตจนถึงปัจจุบัน


คำสอนของ พระเยซู พระพุทธ ขงจื่อ หรือแม้แต่โสคราตีส นั้น เป็น ปรัชญาครับ อยู่ที่ใครอ่านแล้วทำความเข้าใจได้ขนาดไหน

พระพุทธ ขงจื่อ และ โสคราตีส มีชีวิตอยู่ในไทม์ไลน์ใกล้เคียงกันคือราวๆ 2,500 ปีที่แล้ว

ส่วนพระเยซูนั้นหลังมาหน่อยราวๆ 500 กว่าปีหลังจากนั้น

ส่วนศาสดาโมฮัมหมัดหลังจากพระเยูซูราวๆ 600 ปี

ส่วนศาสนาซิกข์เป็นศาสนาใหม่เกิดหลังศาสนาคริสต์ราวๆ 1,500 ปี หรือพึ่งจะมี 500 กว่าปีที่แล้ว


ผมชอบศึกษาศาสนานะ ชอบอ่านทุกศาสนาที่มีโอกาสเลย แต่ผมชอบอ่านในเชิงปรัชญามากกว่าเรื่องปาฏิหาริย์


ผมไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ผมไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด(เชื่อว่าตายแล้วคือจบไม่มีโลกหน้า ไม่มีเกิดใหม่)

สิ่งที่ผมไม่เชื่อนั้นขัดหลักของแทบทุกศาสนาเลย 55555+

แต่ผมเชื่อในหลายๆคำสอนของหลายๆศาสดา คือเลือกที่จะเชื่อ

เช่น ผมเชื่อในหลักใหญ่ของพุทธและขงจื่อ คือ "ความกตัญญู" ไม่แค่กับพ่อแม่ แต่ใครช่วยเหลือผม มีโอกาสผมตอบแทนแน่นอน

ส่วนศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่ให้ความรักและการให้อภัย และหลักใหญ่ที่สุดของศริสต์คือ "การอ่อนน้อมถ่อมตน" เฮ้ยผมว่าดีนะ

พระเยซูบอกว่า

"จงรักศัตรูท่าน เพราะศัตรูท่านบอกความผิดของท่านได้" อันนี้จริง มิตรของเรานั้นไม่ค่อยมองเราว่ามีความผิดความชั่วตรงไหน

"ทำไมท่านมองเห็นฝุ่นผงในตาคนอื่น แต่ท่านมองไม่เห็นท่อนไม้ในตาท่าน" อืม ความผิดความชั่วคนอื่นเห็นชัด แต่ของตัวเองมองไม่เห็น

คำสอนพวกนี้เป็นปรัชญา จิตวิทยา เอามาอะแด๊บใช้ในชีวิตได้ดีเลยล่ะ


ของพุทธนั้น สั้นๆเลยนะ เป็นศาสนาแห่ง "ความสุข" การแสวงหาความสุขที่แท้จริง ตัดทุกข์ของจากจิตใจ

เช่นคำสอนที่ว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" อันนี้โคตรจริง เวลาเรารักใคร มันจะมีทั้ง ห่วง คิดถึง หึงหวง ซึ่งเป็นทุกข์ทั้งนั้น

พุทธเลยให้เราตัดกิเลสออกเพื่อจะได้ไม่เป็นทุกข์ (กิเลสตัวการสำคัญของความทุกข์ ไม่มีกิเลสไม่มีทุกข์)


ศาสนาอิสลามและซิกข์เป็นศาสนาแห่งสันติ ศาสดาสอนให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
(เพราะสองศาสนานี้เกิดมาในช่วงมีความขัดแย้งรุนแรง มีสงคราม)



ศาสนาพุทธในไทย ผมว่าค่อนข้างจะเพี้ยน ผิดหลักการของพระพุทธไปเยอะ

อย่างแรก พระพุทธไม่เห็นด้วยกับศาสนาฮินดู(เลยก่อตั้งศาสนาใหม่ไง เพราะศาสนาตามเกิดมันไม่นำพาสู่ความสุขที่แท้จริง)

แต่พุทธในบ้านเรามีการผสมพราหมณ์(ฮินดู)เข้าไปด้วย เช่นลายในวัดเป็นรามเกียรติ์ ที่เป็นเรื่องราวความเชื่อของเหล่าพระเจ้าต่างๆในฮินดูเป็นต้น

และที่สำคัญ วัดวาอารามในบ้านเราหรูหราสุดๆ ทั้งๆที่พระพุทธหรือสานุศิษย์สมัยนั้นไม่เคยสร้างวัดใหญ่ๆเลย

มีแต่เทวทัตที่สร้างวัดใหญ่โต แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ผมเลยมองว่าพระในบ้านเราเป็นสาวกพระพุทธหรือสาวกเทวทัตกันแน่



ผมชอบอิสลามในเรื่องไม่ให้สร้างสิ่งสมมุติมากราบไหว้บูชา ไม่มีรูปปั้นพระเจ้า รูปปั้นศาสดา ไม่มีรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น

ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันมาจากศาสนายูดาห์ของชาวยิวที่ไม่มีรูปเคารพ

แล้วทั้งพุทธและคริสต์แรกๆก็เป็นเช่นนี้ เช่นกัน

ตอนมีศาสนดาใหม่ๆทั้งพุทธและคริสต์ไม่มีหรอก พวกรูปบูชา มามีหลังจากศาสดาตายไปหลายร้อยปี



ยุคพุทธกาลไม่มีพระพุทธรูป ไม่มีการกราบไหว้รูปบูชา มามีหลังจากนั้น 300 กว่าปี ในยุคอโศกมหาราช

ที่อโศกเป็นกษัตริย์ของนับถือฮินดูมาก่อนพุทธ พอมานับถือพุทธเลยเอาการปั้นรูปบูชาของฮินดูมาใช้

ปั้นพระพุทธรูปเป็นรูปบูชาแบบที่ฮินดูทำ รูปปั้นพระพุทธแรกๆนั้นเป็นแนวทางของกรีกที่เผยแพร่มาตอนอเล็กซานเดอร์บุกมาถึงอินเดีย

พระพุทธรูปยุคแรกๆเลยหน้าเหมือนเทพอพอลโล่ของกรีก



ส่วนของคริสต์ยุคแรกๆก็ไม่มีรูปปั้นพระเยซูบนไม้กางเขน ไม่มีรูปปั้นพระแม่มารีย์ ไม่มีรูปปั้นพระกุมาร

แต่มีหลังจากยุคพระเยซูราวๆ 300 กว่า เพราะ คอนสแตนตินมหาราชที่เป็นจักรพรรดิของโรมัน หันมานับถือคริสต์

เลยเอาการปั้นรูปเคารพตามแบบของศาสนาเดิมของชาวโรมันที่นับถือเทพเจ้าต่างๆ

เห็นมั้ย ทั้งพุทธและคริสต์ที่มีรูปเคารพล้วนมาจากอิทธิพลจากศาสนาอืื่นที่เป็นศาสนาเดิม



ที่ร่ายยาวๆมาเนี่ยอยากแค่บอกว่า ระยะเวลามันยาวนานกว่าสองพันปี แต่ละศาสนาก็มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ผิดเพี้ยนไปจากเดิม

มีการแตกเป็นนิกายต่างๆ ที่แตกนิกายเพราะคนรุ่นหลังมีแนวทางใหม่ๆ เลยแตกเป็นนิกายต่างๆ
(ยกตัวอย่างพุทธในไทยเป็นพุทธเดียวที่พระโกนคิ้ว แต่เพื่อนบ้านบางประเทศก็ทำตาม)

แต่หลักของคำสอนแต่ละศาสนายังคงอยู่ คำสอนต่างๆของแต่ละศาสดาล้วนบันทึกมารุ่นสู่รุ่น มีการเพื่อมเติมเสริมแต่งในเรื่องปลีกย่อยบางและหลักการสำคัญยังคงอยู่



ปู่ย่าผมเป็น คริสต์(คาธอลิค) พ่อแม่ผมเป็นพุทธ ส่วนผม ก็ทั้งพุทธทั้งคริสต์ล่ะ แต่เน้นเรื่องคำสอนดีๆไม่เน้นพิธีกรรมอะไรทั้งนั้น

ผมไปวัดไม่ยกมือไหว้หรือก้มลงไปกราบรูปบูชาเพราะคำสอนพระพุทธอยู่ในใจ ไม่ใช่ให้ยึดติดกับวัตถุ


ทั้งพุทธและคริสต์เลยมีนิกายใหม่ไง นิกายที่ตัดเรืองพิธีกรรมออกให้หมด ไม่มีรูปบูชา เน้นแค่เรื่องคำสอนเป็นหลัก

ของคริสต์ก็เป็นนิกายโปรเตสแตนต่างๆในสหรัฐ ของพุทธในไทยก็เห็นกลุ่มพุทธวัจนะ ที่เน้นแค่คำสอนเท่านั้น


เรื่องศาสนาเป็นความเชื่อแต่แต่ละบุคคล จะมาบังคับให้เชื่อหรือบังคับให้ไม่เชื่อกันไม่ได้จริงๆ อยู่ที่มุมมองของแต่ละบุคคลจริงๆ



แก้ไขล่าสุดโดย PLATOON เมื่อ Wed Mar 22, 2023 03:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 11825
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 22, 2023 04:48
พระพุทธเจ้าบอกว่า....
รอยพระพุทธบาท เหมือนพระพุทธรูปเเหละครับ เเต่เป็นเวอชั่น 1.0
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel