โทษยิ่งหนัก หมาไทยอมยิ้มเลย ได้ทางรีดไถได้มากขึ้น ประเทศเราปัญหามันไม่ใช่กฏหมายเท่าไรเลย ปัญหามันคือไอ้หมานี่แหละ ที่แม่งกาก

ถามว่าดีไหม ดีครับ

แต่ปัญหาทุกวันนี้มันไม่ได้อยู่ที่กฎหมายอะดิ ปัญหาอยู่ที่ไอคนใช้กฎหมายอะมันเที่ยงตรงแค่ไหน

ญี่ปุ่นก็ใช้กฎแบบนี้ เมาขับจักรยานก็ยังผิด

แต่ก็นะ ทุกอย่างมันอยู่ที่วินัยคนกับผู้บังคับใช้กฎหมายอ่ะแหละ

เมาแล้วขับ = พยายามฆ่า เพราะเท่ากับเล็งเห็นผลแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ก็แก้ที่ตัวเองดิ แค่ไม่ดื่มยากตรงไหน
พอดื่มถ้าโดนจับก็มาอ้างเสียอนาคต แล้วไอ้คนที่โดนชนตายนอกจากเค้าเสียอนาคตแมร่งเสียชีวิตด้วยนะ

ผมไม่ดื่มเหล้าครับ

แล้วแยกระดับความผิดด้วยครับ

เมาแล้วขับเฉยๆ
กับเมาแล้ว ขับชนคนตาย โทษมันต้องต่างกันอยู่แล้วครับ


แล้วอีกข้อ อย่างที่ผมบอก ยิ่ง ข้อหาร้ายแรงเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเกิดการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะหลายคนยอมแรก

ยกตัวอย่างปัจจุบัน โทษเมาแล้วขับ ถูกเพิ่มค่าปรับขึ่นไปถึงหลักหมื่น ซึ่ง จำนวนค่าปรับสูงสุดนี้ สามารถส่งฟ้องศาลได้เลย ซึ่งกลายเป็นให้ตำรวจไม่น้อย เรียกผลประโยชน์ได้แพงขึ้นเพราะคนกลัวถูกขึ้นศาล
และ บางครั่งเรียก ด้วยร่างกายของฝ่ายหญิงยังมี เพราะปัจจุบัน ข้อหาเมาแล้วขับถือว่าแรงมาก


การจะแก้ ไม่ใช่จะแก้ที่ตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแก้ ที่ระบบครับ ด้วยครับ

ทุกวันนี้คนไม่มีใบขับขี่ขับรถกันเยอะแยะไปครับ
ขนาดพวกไม่ใส่ป้ายทะเบียนด้านหลังยังไม่เห็นสนใจจะทำอะไรกันเลยครับ

จริงๆผมก็อยากพิมพ์ยังงี้นะครับ แต่เกรงจะมีดราม่า

ต่อจากความเห็นท่าน ในเมื่อเป็นพยายามฆ่า รถก็คือของกลางที่ควรยึดไปมันซะเลย จะได้กลัวจริงๆจังๆ โทษก็คือยึดมันไปอย่างถาวรนี่แหละจะได้ไม่กล้าทำกัน

จริงๆคือสามัญสำนึกมากกว่าครับประเทศเราแม่งมีน้อยมากพวก ตร หรือคนมีตังมันไม่กลัวครับเมาแล้วขับ

อย่างผมก็ได้ผมกินอ่ะรู้ว่าขับไหวหรือไม่ไหวน้อยมากที่จะไม่ไหวคือหลับคาที่

ผมไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยแต่ดีที่สุดคือคนคออ่อนดื่มอย่าขับดีสุดครับ

ตอบในฐานะตำรวจจราจรนะครับ

ในแต่ละปีเนี่ย ปีใหม่ กับ สงกรานต์ 7 วันอันตราย

2ปีที่แล้ว เบาสุดเลย เพราะ โควิด แล้วล๊อคดาวค์ตอนกลางคืน อุบัตเหตุน้อยมาก

เขตผมไม่มีตายซักคน คนเมากินอยู่บ้านก็จบ

แต่พอมาปีนี้ ตั้งแต่วันแรก ยันเมื่อคืน ตายวันละคนเพราะเมา แถมลากคนที่เค้าไม่รู้เรื่องตายไปด้วยอีก

อุบัติเหตุเมาแล้วขับเยอะมากๆตอนกลางคืน ต่อให้ไปตั้งด่านทิศเหนือ มันก็ไปชนกันตายทิศใต้

พอไปทางซ้าย มันก็ไปชนกันตายฝั่งขวา ฝนจะตก เด็กจะเกิด คนจะตาย ให้ทำยังไงก็ห้ามกันยาก

ถามว่ากฎหมายมันอ่อนไปไหม ตอบเลยว่าใช่ครับ โทษแม่งโคตรจะน้อย หากแก้ให้โทษมันแรงกว่านี้คงจะดี

แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมตั้งด่านทะเลาะกันทุกวันกับคนเมา ถ้าใครเคยเถียงกับคนเมาจะรู้มันปวดหัวขนาดไหน

พูดให้ตายยังไงมันก็ไม่ฟังหรอก แถม กม ก็ไม่ได้ให้อำนาจตำรวจขนาดที่เห็นว่า เมา พูดไม่ฟังแล้วหิ้วขึ้นรถได้เหมือน ตปท ซะด้วย ได้แต่หลอกล่อ กล่อมยังไงก็ได้จนกว่าจะเป่า บอก 3 ครั้งไม่เป่า ก็เชิญไป โรงพัก แจ้งข้อหา ปฎิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ ซึ่งต้องไปสู้กันต่อ

ลำบากครับ กม มันไม่เอื้อให้ตำรวจทำหน้าที่ซักเท่าไร แถมโทษก็เบา ไปปรับศาลบำเพ็ญประโยชน์ แปปเดียว ก็กลับมาขับรถเมาเหมือนเดิม นี่เรื่องจริง

มันก็ควรเป็นแบบนั้นแหละ

เอาแค่คนรอบตัวก็สองสามคนละ ดีลกันได้เพราะพ่อ จบ รร สุภาพบุรุษมา

สมัยก่อนผมกินเหล้าแล้วขับทุกครั้ง กินเฉลี่ยเดือนละครั้ง แต่จะรู้ลิมิตในการกินว่าต้องไม่เมา ซึ่งจริงๆก็ผิด แต่เวลาผมกินเหล้าจะยิ่งขับรถช้ากว่าปกติ

แต่เดี๋ยวนี้พอกฎหมายแรงขึ้น ปรับสูงขึ้น และถ้าโดนจับมีสิทธิ์โดนไล่ออกจากงาน ก็เปลี่ยนมานั่งแท็กซี่ตลอด เปลืองมากขึ้นแต่ก็สบายใจ

คหสต.ควรติดคุกทันที 7 วันว่าไป จ่ายค่าปรับต่อให้หมื่น 2 หมื่น คนก็ไม่กลัว แต่พอมีคำว่าคุก ส่วนใหญ่จะกลัวกัน

โทษจำคุกสถานเดียวมันจะทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับ/เรียกรับ สินบนมากขึ้นอะจิ

ไหนๆก็จะรับสินบนแล้ว

ทำให้มันถูกกฎหมายเป็นเรื่องเป็นราวเลยดีกว่า

เมาแล้วขับ ตรวจอัลกอฮอล์แล้วขึ้นตามกฎ ปรับ 1 แสนบาทเลยจ้า (เอาให้กลัว)

เจ้าหน้าที่ ที่จับได้รับไป 8 หมื่นบาทเลย
(2 หมื่นเข้ารัฐ รวมเป็นกองทุนเยียวยาผู้ประสบภัยชนจากคนเมา)

หากไม่มีเงินจ่ายค่าปรับก็ติดคุกแทน นับเป็นจำนวนวันตามกฎหมาย


ปรับหนักๆแบบนี้ ใครดื่มแล้วจะสตาร์ทรถขับต้องคิดเยอะก่อนแน่ๆ

ต้องสร้างคุกเพิ่มอีกเท่าไหร่ละนั่น

พอเห็นแบบนี้แล้วอยากรู้กฎหมายของประเทศอื่นเลยว่าจัดการยังไง