ใครพอมีความรู้เรื่องนี้ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
ผมเข้าใจว่าตำแหน่งนี้เป็นคนนำวงถูกไหม หน้าที่หลักๆคือการเริ่มให้สัญญาณตอนเริ่มบรรเลง แต่พอสังเกตการเล่นของแต่ละเครื่องดนตรีในวงเค้าจะมีโน๊ตอยู่ข้างหน้าที่แบ่งวรรคชัดเจนไว้อยู่แล้วว่าเครื่องนี้ต้องเล่นตอนไหน ผมเลยสงสัยว่าตำแหน่ง Conductor ที่คอยโบกไม้ไปเรื่อยๆตอนกำลังเล่นนี่มีผลต่อวงแค่ไหน หากมีหรือไม่มีตำแหน่งนี้จะมีผลแค่ไหน ขอบคุณครับ

ได้ยินคำว่าคอนดักเตอร์ทีไร นึกถึงมุขน้าค่อมทุกที

เอาแบบเข้าใจง่ายที่สุด คนเป็นหลายสิบ หลายร้อยชีวิต เครื่องดนตรีทุกชิ้นก็จะได้ยินเสียงตัวเองดังที่สุด

มันก็ต้องมีจุดรวมสายตาในการให้จังหวะที่เกิดขึ้น
รวมถึงคนที่คอยฟังบานลานซ์เสียงดนตรีต่างๆ ให้ดังเบาอย่างถูกต้องและกลมกลืน

แต่หน้าที่นั้นมีตั้งแต่ซ้อม
คอนดักเตอร์ ก็คือผู้กำกับของนักแสดงในทางหนังละคร
คอยควบคุมดูแลทิศทางของตัวละครให้มีน้ำเสียงสีหน้าท่าทางยังไง

เช่นเดียวกับครับ อย่างที่บอกเครื่องดนตรีตั้งกี่ชิ้น ถ้าต่างคนต่างเล่น มันจะค่อนข้างลำบากมากๆ
ไม่เหมืองดนตรีที่มีแค่เบส กีต้าร์กลอง ที่มันมีน้อยชินจนได้ยินกันไม่ยาก

เหมือนจะไม่ยากไม่สำคัญ แต่นี่คือคนที่มีทักษะการฟังและให้จังหวะที่ขั้นสูง ฟังออกทุกโน๊ตและทุกชิ้น ถึงจะบอกนักดนตรีได้ว่า ควรเล่นอย่างไร

ให้มองเหมือนโค้ชฟุตบอลเลยครับ นักเตะทุกคนมีความถนัดของตัวเองรู้หน้าที่ตัวเอง
แต่ก็ต้องมีคนที่จัดการทีมให้การเล่นออกมาลงตัว ต้องวางแผนในแต่ละเกมจะเล่นแบบไหน

วาทยกกรก็แบบนี้เลย คุมทั้งอารมณ์เพลง ความเด่นความด้อยของแต่ละเครื่องดนตรี

เอาแบบเข้าใจง่ายที่สุด คนเป็นหลายสิบ หลายร้อยชีวิต เครื่องดนตรีทุกชิ้นก็จะได้ยินเสียงตัวเองดังที่สุด

มันก็ต้องมีจุดรวมสายตาในการให้จังหวะที่เกิดขึ้น
รวมถึงคนที่คอยฟังบานลานซ์เสียงดนตรีต่างๆ ให้ดังเบาอย่างถูกต้องและกลมกลืน

แต่หน้าที่นั้นมีตั้งแต่ซ้อม
คอนดักเตอร์ ก็คือผู้กำกับของนักแสดงในทางหนังละคร
คอยควบคุมดูแลทิศทางของตัวละครให้มีน้ำเสียงสีหน้าท่าทางยังไง

เช่นเดียวกับครับ อย่างที่บอกเครื่องดนตรีตั้งกี่ชิ้น ถ้าต่างคนต่างเล่น มันจะค่อนข้างลำบากมากๆ
ไม่เหมืองดนตรีที่มีแค่เบส กีต้าร์กลอง ที่มันมีน้อยชินจนได้ยินกันไม่ยาก

เหมือนจะไม่ยากไม่สำคัญ แต่นี่คือคนที่มีทักษะการฟังและให้จังหวะที่ขั้นสูง ฟังออกทุกโน๊ตและทุกชิ้น ถึงจะบอกนักดนตรีได้ว่า ควรเล่นอย่างไร

เอาแบบเห็นภาพชัดเลยก็ความดัง-เบา ของเครื่ิองดนตรีครับผม

ซึ่งคอนดักจะคอยควบคุมให้ภาพรวมมันมีความกลมกล่อม

ได้ยินคำว่าคอนดักเตอร์ทีไร นึกถึงมุขน้าค่อมทุกที

Conductor คือคนที่เข้าใจทุกเครื่องดนตรีของเพลงที่กำลังบรรเลง ใครจะเล่นตรงไหนยังไง มันคือสิ่งที่ conductor กำกับวงมาก่อนแล้วในการซ้อมเบื้องหลัง ซึ่งอันนี้โคตรยาก คุณต้องเข้าใจโน้ตของทุกเครื่องดนตรี

แต่พอมาถึงเบื้องหน้าการแสดงจริง พวกสัญญาณมือต่าง ๆ มันมีความหมายครับ เครื่องไหนหยุด เครื่องไหนเตรียมตัว นักดนตรีจะเหลือบมองอยู่เสมอ และมากกว่านั้นคือการสื่อสารอารมณ์ของ conductor ณ โมเม้นท์นั้น สามารถส่งผลต่ออารมณ์เพลงได้เลยครับ

Conductor จึงได้เครดิตจากการประพันธ์เพลงครับ

คนคุมคับ อาจเป็นโค้ชข้างสนามและกองกลางฟุตบอล

คอนบอกให้คนนั้นคนนี้ในกลุ่มเริ่มเล่น หรือหยุดเล่น

หรือ มองว่าคนนี้เล่นผิดไปนิดๆ เสียงเบาไปดังไป ก็ชี้นำ บอกได้ ด้วยท่า สัญญาณ ต่างๆ

( สมมุติเราเล่นกัน แค่ 3 4 คนนี่บางทีเราไม่ฟังกัน มันจะไม่เป็นเพลง เพราะเล่นคนเดียวมันง่าย อยากเริ่ม จบ จังหวะเร็วช้าแค่ไหน มือดีดกีตาร์ตัวเดียวเราเอาอยู่ แต่พอเรามากกว่า 3 คนนี่เอาละ เริ่มมั่ว ต้องมีคนคุม )

วงดนตรีไม่มี conductor ก็เหมือนทีมบอลไม่มีโค้ช ต่างคนต่างเล่น ไม่สอดประสาน ไม่กลมกล่อม

เสียงเครื่องดนตรี มันออกจากเครื่องดนตรีที่อยู่ตรงหน้าคนเล่น

คนเล่นไม่รู้ว่าดังเบา พอดี กับคนดูมั้ย

เอ็งยังขาดอยู่อย่างเดียว เอ็งยังขาดบุคลิกภาษาอังกฤษเรียกคอนดักเตอ

เพิ่มเติมละกันครับ ในช่วงการซ้อมคอนดั๊กบางคนปรับแก้โน้ตเพลงใหม่ก็มีครับ บางคนไม่ชอบให้เครื่องนั้นเล่นแบบนี้ แกก็ปรับเลยตามใจแก หรือสั่งให้คนนั้นคนนี้นั่งเฉยๆก็มี เพราะเล่นไม่ได้สักที การวางตัวบางคนก็อยู่ระดับเดียวกับนักดนตรีหรือคอนเสิร์ตมาสเตอร์ บางคนก็อยู่เหนือกว่า ประสบการณ์ตอนเรียนอยู่เล่นอยู่มรวงใหญ่มีคอนดั๊กแบบนี้เหมือนกันครับ มีวันนึงยังจัดเก้าอี้กันไม่เสร็จเลยจะถึงเวลาซ้อมแล้วอ.คอนดั๊กมาถึงก็บ่นแล้วก็บอกว่าวันนี้เลิก พวกเอ็งไม่รู้เวลากันเลย 55555
คอนดั๊กนี่มีแนวของตัวเองเหมือนกันนะครับ บางคนไม่เคาะเพลงของคนนี้เลยก็มีครับ บางคนเคาะแล้วนักดนตรีไม่ชอบก็มีเยอะครับ555555

Conductor คนส่วนใหญ่จะเห็นอีกทีก็ตอนที่ทำการแสดงแล้ว แต่เบื้องหลัง (ไม่ใช่ Conductor ทุกคนนะ) ก็ไล่มาตั้งแต่เวลาจะทำคอนเสิร์ต Orchestra สักครั้ง ก็เป็นคนกำหนด Theme ของคอนเสิร์ต นั่งเลือกเพลงที่จะให้วงใช้ทำการแสดง เรียงลิสต์เพลงเพื่อจัดกราฟโชว์ เวลาซ้อมวงใหญ่ก็ปรับทั้ง mood & tone และก็โน้ตที่เล่น (บางท่อนก็อาจจะปรับใหม่ ไม่ได้เล่นตาม Original เสมอไป)
การ Conduct ของแต่ละคนก็สื่อตามอารมณ์เพลงและก็เป็นการบ่งบอกสัญลักษณ์ไปในตัว ท่อนนี้เบา ท่อนนี้ดัง หน้า Conductor ก็มี Stand โน้ตอยู่ซึ่งเป็น Score เพลงที่รวมโน้ตของทุกเครื่องดนตรีในแต่ละเพลง เพื่อเช็กแต่ละท่อนไปด้วย ก็ประมาณนี้ครับ

เมื่อก่อนก็เคยสงสัยแบบนี้แหละ ข้ามีโน้ต มีคอร์ด มีแท็บ แล้วนี่หว่า ก็ก้มหน้าก้มตาเล่นไปสิ

มันไม่ใช่แค่ให้สัญญาณเริ่มเพลงครับ

1. ให้จังหวะ : ที่ให้แกว่งๆมือดูไม่รู้เรื่องเนี่ยคือจังหวะทั้งนั้นครับ เป็น Metromone บนเวที
2. คอนเฟิร์มคิวเข้าออกของแต่ละเครื่อง : เครื่องดนตรีแต่ละเครื่องจะมีจังหวะหยุด/เริ่มเล่นระหว่างเพลง คอนดัคเตอร์ก็เป็นคนให้คิวในจังหวะสุดท้ายเพื่อให้เล่นตรงกัน
3. Fine Tune : เครื่องไหนเล่นเบาไป/ดังไป หรือเล่นไม่ตรงจังหวะ ก็ส่งสัญญาณบอก

หน้าที่หลักๆบนเวทีของคอนดัคเตอร์จะประมาณนี้ครับ

แต่ตอนซ้อมก่อนขึ้นแสดงเนี่ย มีอีกเยอะครับ
ตั้งแต่เป็นคนจัดลิสท์เพลง ตีความเพลงแต่ละเพลง เอามาถ่ายทอดตอนซ้อม
ตอนซ้อมก็มีทั้งการเพิ่มลดความเร็วเพลง ปรับลดไดนามิคของเพลง เปลี่ยนเพิ่มลดท่อนก็ยังมีเลย ไปจนถึงเทรนแค่ละเครื่องแต่ละไลน์ให้เล่นได้อารมณ์ตามที่ตัวเองต้องการจะสื่อ

สรุปคือเยอะแยะครับ ถ้าไม่มีคอนดัคเตอร์ วงเล่นออกมาไม่ดีเท่ามีคอนดัคเตอร์แน่นอน
และต่อให้เป็นวงเดียวกัน เล่นเพลงเดียวกัน แต่คอนดัคเตอร์คนละคน ก็ทำให้เพลงออกมาแตกต่างกันแล้วครับ